คุณสมบัติของผู้สามารถมีศิลปะ
๑.ต้องมีศรัทธา
มีความเชื่อมั่นในสิ่งที่จะทำว่าเป็นสิ่งดีจริง มีประโยชน์จริง มีใจรักที่จะทำ
และมีความตั้งใจมั่นว่าเป็นสิ่งดีจริง มีประโยชน์จริง มีใจรักที่จะทำ
และมีความตั้งใจมั่นว่าจะต้องทำให้เสร็จ
๒.ต้องไม่เป็นคนขี้โรค รู้จักระวังรักษาสุขภาพของตัวเอง
๓.ต้องไม่เป็นคนขี้โม้ขี้คุย คนโอ้อวดไม่มีใครอยากสอน ไม่มีใครอยากแนะนำ
คนพวกนี้มัวแต่อวด มัวแต่คุย จนไม่มีเวลาฝึกฝีมือตัวเอง
๔.ต้องไม่เป็นคนขี้เกียจ
มีความมานะพากเพียร อดทน
๕.ต้องเป็นคนมีปัญญา
รู้จักพินิจพิจารณาช่างสังเกต
วิธีฝึกตนให้มีศิลปะ
๑.ฝึกตนเองให้เป็นคนช่างสังเกต
รู้จักหาจุดเด่นของสิ่งรอบตัว
๒.ตั้งใจทำงานทุกอย่างที่มาถึงตนให้ดีที่สุด
อย่าดูถูกงาน อย่าเกี่ยวงาน
๓.ตั้งใจทำงานทุกอย่างด้วยความประณีต
ละเอียดลออ
๔.ตั้งใจปรับปรุงงานให้ดีขึ้นเสมอ
ไม่ทำอะไรอย่างชุ่ย ๆ ขอไปที
๕.หมั่นใกล้ชิดกับผู้มีศิลปะอย่างแท้จริงในสายงานนั้น
ๆ
๖.ฝึกสมาธิอยู่เสมอ
เพื่อให้ใจสงบผ่องใส เกิดปัญญาที่จะฝึกและปรับปรุงตนเอง ให้มีคุณสมบัติของผู้มีศิลปะได้
ข้อควรระวัง
อย่าเอาแต่จับผิดผู้อื่น ไม่เช่นนั้นตัวเราจะกลายเป็น "ศิลปินนักติ"
คือ ดีแต่ติผลงานของผู้อื่นเรื่อยไป ติคนอื่นไว้มาก เลยไม่กล้าแสดงฝีมือ
เพราะกลัวคนอื่นจะติเอาบ้าง สุดท้าย เลยกลายเป็นคนไม่มีผลงาน ทำอะไรไม่เป็น
อานิสงส์การมีศิลปะ
๑.ทำคนให้เป็นคน
๒.ทำคนให้ดีกว่าคน
๓.ทำคนให้เด่นกว่าคน
๔.ทำคนให้เลิศกว่าคน
๕.ทำคนให้ประเสริฐกว่าคน
๖.ทำคนให้สูงกว่าคน
๗.ทำคนให้เลี้ยงตัวได้
๘.ทำคนให้ฉลาด
๙.ทำคนให้มั่งคั่งสมบูรณ์
๑๐.ทำคนให้ประเสริฐ
๑๑.ทำคนให้ได้รับความสุขทั้งโลกนี้โลกหน้า
๑๒.ทำโลกให้เจริญทั้งด้านวัตถุและจิตใจ
"ผุ้มีศิลปะแม้เพียงอย่างเดียว
ก็สามารถเลี้ยงชีพได้โดยง่าย"
จบมงคลที่
๘ มีศิลปะ
(พุทธพจน์)
|