มงคลที่
๗ เป็นพหูสูต
มงคลข้อที่
๗ พระองค์ตรัสว่า พหูสัจจะ นั้นเป็นมงคล คือได้แก่ การคงแก่เรียน การคงแก่
เรียนนี้ ก็คือ ความเป็นผู้ฉลาดในกิจนั้นๆ อันเกิดขึ้น จากการเรียนก็ดี
จากการฟังก็ดี จากการจดจำก็ดี ซึ่งมีได้ทั้ง ๒ประเภท คือ ในทางโลก
ก็ได้แก่ ผู้ที่ฉลาด ในทางศิลปะ วิทยาการ หรือเทคนิคต่างๆนั้น นี่เป็นไปในทางโลก
พหูสัจจะในทางโลก
ทีนี้
พหูสัจจะ ในทางธรรมนั้น ก็ได้แก่การฟัง การจดจำ และความเข้าใจ ในคำสอน
ขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สั่งสอนเรานั้น ถ้าเราฟังหูซ้าย
ออกหูขวา อย่างนี้ ก็ไม่เรียกว่า พหูสัจจะ
"แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทางไกลฉันใด
ความเป็นพหูสูตก็เป็นสิ่งจำเป็นในการบุกเบิกสร้างความเจริญให้แก่ชีวิตฉันนั้น"
พหูสูต หมายถึง "ความเป็นผู้ฉลาดรู้"
คือผู้ที่รู้จักเลือกในสิ่งที่ควรรู้ เป็นผู้ที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมามาก
ได้ยินได้ฟังมามาก และเป็นคนช่างสังเกต ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นต้นทางแห่งปัญญา
ทำให้เกิดความรู้สำหรับบริหารงานชีวิตและเป็นกุญแจไขไปสู่ ลาภ ยศ สรรเสริญ
สุข และทุกสิ่งที่ เราปรารถนา
ความแตกต่างระหว่างบัณฑิตและพหูสูต
บัณฑิต
คือ ผู้มีคุณธรรมประจำใจ มีความประพฤติดีงาม ไม่ว่าจะมีความรู้มากหรือน้อยก็ตาม
บัณฑิตจะใช้ความรู้นั้น ๆ สร้างประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่นอย่างเต็มที่
เป็นผู้ที่สามารถเอาตัวรอดได้แน่นอน ไม่ตกไปสู่อบายภูมิเป็นอันขาด
พหูสูต
คือ ผู้มีความรู้มาก แต่คุณธรรมความประพฤติยังไม่แน่ว่าจะดียังไม่แน่ว่าจะดี
ยังไม่แน่ว่าจะเอาตัวรอดได้ ถ้าใช้ความรู้ที่มีอยู่ไปทำชั่ว เช่น เอาความรู้เคมีไปผลิตเฮโรอีน
ก็อาจตกนรกได้
ลักษณะของพหูสูต
คือ
๑. รู้ลึก
หมายถึง รู้เรื่องราวไปหาเหตุในอดีต ลึกซึ้งถึงความเป็นมา เช่น แพทย์เมื่อเห็นอาการก็สามารถรู้ว่าเป็นโรคอะไรรู้ไปถึว่าที่เป็นโรคนี้เพราะเหตุใด
หรือช่างเมื่องเห็นอาการเครื่องยนต์ที่เสียก็สามารถบอกได้ทันทีว่าเครื่องนั้นเสียที่ไหน
เป็นเพราะอะไร เป็นต้น
๒. รู้รอบ
หมายถึง ช่างสังเกต รู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว สภาพภูมิประเทศดินฟ้าอากาศ
ผู้คนในชุมชน ความเป็นไปของเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัว สภาพภูมิประเทศ
ดินฟ้าอากาศ ผู้คนในชุมชน ความเป็นไปของเหตุการณ์ต่าง ๆ รอบตัว สิ่งที่ควรรู้ต้องรู้
๓. รู้กว้าง
หมายถึง สิ่งรอบตัว แต่ละอย่างที่รู้ก็รู้อย่างละเอียดรู้ถึงความเกี่ยวพันของสิ่งนั้นกบสิ่งอื่น
ๆ ด้วย คล้ายรู้รอบแต่เก็บรายละเอียดมากขึ้น
๔. รู้ไกล
หมายถึง มองการณ์ไกล รู้ถึงผลที่จะตามมาในอนาคต เช่น เห็นสภาพดินฟ้าอากาศก็รู้ทันทีว่าปีนี้พืชผลชนิดใดจะขาดแคลน
เห็นพฤติการณ์ ของผู้ร่วมงานไม่น่าไว้วางใจก็รู้ทันทีว่า เขากำลังจะคิดไม่ซื่อ
เห็นตนเองเริ่มย่อหย่อนต่อการปฏิบัติธรรมก็รู้ทันทีว่าถ้าทิ้งไว้เช่นนี้ต่อไปตนก็จะเสื่อมจากกุศลธรรม
ฯลฯ
ผู้ที่ประกอบด้วยความรู้
๔ ประการนี้ ทั้งทางโลกและทางธรรมจึงจะเป็นพหูสูตที่แท้จริง
|