อาคารสำคัญในช่วงนี้เป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาพการณ์ต่างๆที่เปลี่ยนแปลงไปได้เป็นอย่างดี
ตึกอัสสัมชัญ 100 ปีใช้เวลาก่อสร้างเพียงปีเดียวในช่วง พ.ศ.2526-2527 ซึ่งอยู่ในช่วงต้นยุดทองของธุรกิจการก่อสร้างของ
ไทย รูปลักษณะอาคารจะเห็นได้ว่าแตกต่างจากยุคก่อนด้วยสาเหตุจากประโยชน์ใช้สอยเป็นสำคัญกล่าวคืออาคารมีลักษณะปิดทึบ เพื่อการติด
ตั้งเครื่องปรับอากาศ เนื่องจากเป็นอาคารที่มีส่วนภายในทันสมัย อันประกอบด้วยห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด ห้องพิพิธภัณฑ์ ห้องฝึกจิต
นอกเหนือจากห้องเรียนและโรงพลศึกษา และโรงโภชนาคาร
ความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยเมื่อร้อยกว่าปีผ่านไปสำหรับพัฒนาการด้านอาคารสถานที่ภายในอัสสัมชัญ บางรัก สิ่งหนึ่งที่
เห็นได้โดยง่ายคือรูปลักษณ์อาคารที่แตกต่างกัน แต่อีกสิ่งหนึ่งที่แฝงอยู่ คือความสะดวกง่ายดายในการระดมทุนเพื่อปลูกสร้าง ซึ่งสิ่งนี้เป็น
ผลมาจากเมล็ดพืชที่เจษฎาจารย์ทุกท่านในอดีตได้หว่านลงผืนดินแห่งนั้น เมล็ดพืชที่ดีเมื่ออยู่ในดินดี ได้รับปุ๋ยที่เหมาะสมจึงเติบกล้าเป็น
ต้นไม้ที่แข็งแรง และได้กลับมายังประโยชน์แก่ผืนดินที่ก่อร่างสร้างตนขึ้น
อย่างไรก็ตาม ความเจริญของกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะกับเขตเมืองชั้นในอย่างเขตและแขวงบางรักอันเป็นที่ตั้งของ
โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรักถูกจัดให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญและมีความหนาแน่นจนมิอาจขยับขยายในพื้นที่ทางราบได้อีกต่อไป ซึ่งมีผลต่อ
กิจกรรมและความเป็นอยู่ของนักเรียน ดังนั้นโรงเรียนจึงได้เลือกที่จะขยับขยายให้"เด็กใน"หรือเด็กประจำไปอยู่ที่ศรีราชาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2487
หรือการย้ายแผนกประถมศึกษาไปยังบริเวณเซนต์หลุยส์ซอย 3 ใน ปีพ.ศ. 2507 ซึ่งแต่ละแห่งก็ได้เจริญก้าวหน้าไปอย่างน่าชื่นชมยินดี
"ให้ที่นี่มั่นคงถาวรสืบไป..."พระราชดำรัสที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมารพระราช-
ทานในวันที่เสด็จฯแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นองค์ประธานวางศิลาฤกษ์ตึกหลังแรกของโรงเรียนนับว่า
ล้ำค่ายิ่งกว่าสิ่งใดและกาลเวลาได้พิสูจน์แล้วว่า "ที่นี้" ได้เติบโตถาวรเพียงใด
|