เมื่อผมย้ายมาอยู่เชียงใหม่ปี 2543 มีคนให้แผนที่ร้านอาหารมังสวิรัติในเชียงใหม่ ทำโดย David Freyer ลงวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) ในแผนที่มีร้านมังสวิรัติถึง 39 ร้าน และร้านที่เป็นมิตรกับมังสวิรัติ (veggie-friendly) คือร้านอาหารทั่วไปที่สั่งมังสวิรัติได้อีก 8 ร้าน รวมเป็น 47 ร้าน
แผนที่ร้านมังสวิรัติในเชียงใหม่
จัดทำโดย David Freyer
ด้านหน้า
คลิกดูรูปขยาย
ด้านหลัง
คลิกดูรูปขยาย
พื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงใหม่มี 40.216 ตารางกิโลเมตร ดังนั้นในปี 2543 จึงมีร้านมังสวิรัติโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ร้าน ทุก 1 ตารางกิโลเมตร
ผมเกิดและโตในกรุงเทพฯ แม้จะเป็นเมืองหลวงแต่หากคิดค่าเฉลี่ยต่อพื้นที่ก็คงไม่มีร้านมังสวิรัติมากขนาดนี้ จังหวัดอื่น ๆ ที่เคยไปก็เช่นกัน ทำให้คิดว่าเชียงใหม่น่าจะเป็นเมืองที่มีร้านมังสวิรัติมากที่สุดในประเทศไทย
จากการสำรวจด้วยตัวเองเมื่อเดือนกันยายน 2550 พบว่าปัจจุบันมีร้านมังสวิรัติในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ไม่ต่ำกว่า 28 ร้าน ที่ตัวเลขลดลงจากปี 2543 เนื่องจากบางร้านปิดกิจการ บางร้านเปลี่ยนจากร้านมังสวิรัติเป็นร้านที่ขายอาหารที่มีเนื้อสัตว์ด้วย ถึงอย่างไรก็ตามหากดูแนวโน้มแล้ว จำนวนร้านที่เปิดใหม่ช่วงปี 2544 2550 มีไม่ต่ำกว่า 18 ร้าน หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนร้านที่เปิดในปัจจุบัน และเมื่อคิดค่าเฉลี่ยแล้วมีร้านมังสวิรัติ 1 ร้าน ทุก 1.43 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลขที่สูงอยู่
อีกทั้งมีความหลากหลายมาก ทั้งอาหารไทยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ อาหารจีน อาหารเกาหลี อาหารเวียดนาม อาหารอินเดีย อาหารอิสลาม และอาหารฝรั่ง และมักเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ใช้ข้าวกล้อง ผักปลอดสารพิษ ไม่ใส่ผงชูรส รสชาติก็อร่อยไม่แพ้อาหารที่มีเนื้อสัตว์เลย
ร้านคุณเชิญเปิดจำหน่ายตั้งแต่ปี 2540
และขยายสาขาจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ
เป็นเรื่องน่าสนใจว่าทำไมเชียงใหม่จึงมีร้านมังสวิรัติจำนวนมาก ทั้งที่อาหารพื้นเมืองเดิมก็ไม่ใช่มังสวิรัติทั้งหมด
ย้อนกลับไปประมาณปี 2447 ครุบาศรีวิชัย พระที่มีชื่อเสียงที่สุดของล้านนาได้เริ่มฉันมังสวิรัติ (เนื่องจากฉันเนื้อสัตว์แล้วอาพาธหนัก) แต่ประชาชนก็ไม่ได้หันมากินมังสวิรัติตาม
ผมได้สัมภาษณ์ร้านมังสวิรัติ 40 ร้าน (รวมร้านที่ปิดแล้ว และร้านที่เดิมเป็นมังสวิรัติแต่ภายหลังเพิ่มอาหารที่มีเนื้อสัตว์) ร้านมังสวิรัติเก่าแก่ที่สุดเปิดเมื่อปี 2522 คือร้าน Whole Earth (เดิมมีแต่อาหารมังสวิรัติ แต่ปัจจุบันมีทั้งอาหารมังสวิรัติและอาหารที่มีเนื้อสัตว์)
คลิกดูรูปขยาย
จากการสอบถาม เหตุผลหลักในการเปิดร้านมังสวิรัติคือ
1. ศีลธรรมและศาสนา แบ่งย่อยตามความเชื่อเป็น 3 สายสำคัญคือ
1.1 ศาสนาพุทธ แบ่งเป็น
1.1.1 นิกายเถรวาท มีสายสันติอโศกเป็นผู้นำ
1.1.2 นิกายมหายาน
1.2.1.1 จากประเทศจีน ซึ่งเป็นที่มาของเทศกาลกินเจ
1.2.1.2 จากประเทศไต้หวัน สายอนุตรธรรม (อี๋ก้วนเต้า I-Kuan Tao หรือ เทียนเต้า Tian Tao) เข้ามาเผยแพร่เปิดสถานธรรมและร้านอาหารเจในเชียงใหม่หลายแห่ง
1.2 ศาสนาอื่น ๆ
1.2.1 ศาสนาสิข (ร้านอาหารอินเดีย ปัจจุบันปิดแล้ว)
1.2.2 ศาสนาคริสต์ (ร้านอาหารเกาหลี ขายทั้งอาหารมังสวิรัติ และอาหารที่มีเนื้อสัตว์)
นอกจากนี้ยังมีวัดเทพมณเฑียรของศาสนาฮินดูที่ไม่ใช่ร้านอาหาร แต่เปิดเป็นโรงทานอาหารมังสวิรัติ (อาหารอินเดียและอาหารไทย) ทุกวันอังคาร 20.30 21.30 น.
2. สุขภาพ
ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากกระแสชีวจิต (ประมาณปี 2541 2545)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเชียงใหม่จะมีร้านมังสวิรัติมากกว่าเมืองอื่น แต่เปรียบเทียบกับร้านอาหารมังสวิรัติ 28 ร้าน กับจำนวนประชากรในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ 149,959 คน (มีนาคม 2549) คิดเป็นประมาณ 1 ร้าน ต่อ 5,356 คน นับว่าน้อยมาก
นอกจากนี้หน่วยงานราชการก็ยังไม่ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เทศบาลนครเชียงใหม่ หรือหน่วยงานอื่น ๆ
มีความพยายามของประชาชนที่จะเผยแพร่มังสวิรัติโดย ศ. ดร. ไมตรี สุทธจิตต์ และเพื่อน ๆ ได้ก่อตั้งสโมสรมังสวิรัติเชียงใหม่ เมื่อปี 2539 มีการออกวารสาร การจัดงานมหกรรมอาหารเพื่อสุขภาพ งานสัมมนาวิชาการ จัดประชุมมังสวิรัติโลก ครั้งที่ 33 (4 10 มกราคม 2542) ปัจจุบัน รศ. ดร. กัญญา กำศิริพิมาน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นนายกสโมสร
ในเดือนเมษายน 2549 ผม ร่วมกับภรรยาคือนางจันทรา กิจเวช และเพื่อนชาวอังกฤษคือ Steve (Stephen Anthony Edward Potter) ช่วยกันก่อตั้งโครงการมังสวิรัติเชียงใหม่ จัดทำแผนที่ร้านอาหารมังสวิรัติในเชียงใหม่โดยปรับปรุงจากฉบับของ David Freyer ถ่ายเอกสารแจก ทำเว็บไซต์ให้ดาวน์โหลดแผนที่และข้อมูลร้านอาหารในรูปแบบไฟล์ KMZ สำหรับโปรแกรม Google Earth (มี 2 เว็บไซต์คือ www.geocities.com/chiangmaivegetarian และ www.chiangmaivegetarian.com) และจัดงานสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับมังสวิรัติ
ทั้งนี้ด้วยเหตุผลคือความรัก อยากให้คนมีสุขภาพดีทั้งกายและใจ มีความเมตตาให้เพื่อนร่วมโลก รักษาสิ่งแวดล้อม ลดมลภาวะ ลดปัญหาโลกร้อน ที่มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากอุตสาหกรรมอาหารที่มาจากสัตว์
แผนที่ร้านอาหารมังสวิรัติในเชียงใหม่ จัดทำโดยผู้เขียน
สำหรับผู้สนใจ มีข้อแนะนำในการกินมังสวิรัติเพื่อสุขภาพคือ กินข้าวกล้อง (มีคุณค่าทางอาหารมากกว่าข้าวขาว) ถั่ว (แหล่งโปรตีนสำคัญ) งา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งงาดำ) พืชผักผลไม้ควรกินสด ไม่ผ่านการปรุง หรือปรุงน้อยที่สุดเท่าที่ทำได้ กินให้หลากหลายชนิด และควรกินพืชผักผลไม้ที่เกิดในฤดูกาลตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพืชผักพื้นบ้าน (เพราะไม่ได้ใช้สารเคมี)
เชียงใหม่มีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะเป็นเมืองมังสวิรัติ เมืองที่ผู้คนใส่ใจในเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มีความรักความเมตตา มีสติในการดำเนินชีวิต และนี่คือพื้นฐานสำคัญสำหรับสังคมที่น่าอยู่
|