โลโก้นะเนี่ย
Special Column
 Home
 X-Files Series
 Photo Gallely
 Lyric
 Joke
 MultiLinks
 Jkong Guest Book
บทความพิเศษ
 มาทำเว็บกันเถอะ
 ชวนกันอ่านหนังสือ
 คุยเฟื่องเรื่องหนัง
 เรื่องราวของประเทศไทย
 ธรรมะเพื่อชีวิต
About Me
JK's Story
JK's Guan
JK's Society
JK's Diary
JK 's Chatroom
ขอบคุณครับ











The X-Files ชุด ความบังเอิญ ตอนที่ 5 การเชื่อมโยงของสองชีวิต








 ความบังเอิญอันน่าพิศวงในจักรวาลนี้ คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึงเรื่องของชีวิตคนสองคนที่มีอะไร ๆ ตรงกันเหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ แม้เป็นคนละคนกัน วันนี้เราจะมาศึกษาดูชีวิตของคู่แฝดบางคู่ในโลก ที่เหมือนมีอะไรเชื่อมโยงระหว่างเขาหรือเธอทั้งคู่ ให้มีวิถีชีวิตไปในทิศทางเดียวกัน The X-flies ตอนนี้จะเรียกว่าเป็นความบังเอิญก็ออกจะไม่เต็มที่นัก ชาวตะวันตกที่ศึกษาความเหมือนกันของชีวิตคู่แฝดว่าเป็น การเชื่อมโยง(Connection) มากกว่าเป็นความบังเอิญ(Coincidence) แต่จะเป็นอะไรก็ตามเรายังไม่ทราบสาเหตุของความเหมือนกันของสองชีวิตได้ หรือว่ามันแค่บังเอิญเหมือนกันเท่านั้น

  ตำนาน The X-Files ของ Kong 's Memories

The X-Files ชุด ความบังเอิญ ตอนที่ 5 ฝาแฝด

 ในโลกนี้มีคนบางคู่ในโลกที่มีอะไร ๆ เหมือนกันจนแทบแยกไม่ออก เราเรียกคนจำพวกนั้นว่าฝาแฝด แต่ในบรรดาฝาแฝดนับล้านคู่ในโลกนั้น หนึ่งในสาม เป็นพวกที่มียีนเหมือนกันทุกอย่าง มีลักษณะทางกายภาพเหมือนกันทุกอย่าง แม้กระทั่งลายมือ เราเรียกฝาแฝดเหล่านี้ว่า ฝาแฝดโมโนไซโกติก(Monozygotic) แต่ความเหมือนเหล่านั้นมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถให้คำอธิบายออกมาได้ด้วยหลักชีววิทยาและคุณสมบัติทางเคมี แต่มีสิ่งหนึ่งที่วิทยาศาสตร์ยังหาคำอธิบายไม่ได้ ก็คือความบังเอิญเหมือนกันของวิถีชีวิตคนสองคน ที่ตรงกันอย่างหาเหตุผลไม่ได้ เข้ามาหาคำตอบด้วยกันสิครับ



คู่แฝด จิมส์

  เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2482(ค.ศ. 1939) ณ เมือง พิก้า มลรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา คู่แฝดเขย่าโลก จิมส์ อายุได้ 5 สัปดาห์ ทั้งคู่ ถูกแยกนำไปเลี้ยงโดย ครอบครัวของ เจสซี่และลูซิล เลวิส ที่เมืองลีม่า และครอบครัวของ เออร์เนสต์กับซาราห์ สปริงเกอร์ ที่เมืองเดย์ต้น ซึ่งห่างจากกัน 130 กิโลเมตร โดยได้รับคำบอกกล่าวว่าแฝดอีกคนไม่มีชีวิตอยู่แล้ว แต่นางเลวิส ทราบถึงความจริงข้อนี้ เมื่อเธอไปติดต่อศาลเพื่อขอรับบุตรบุญธรรม เธอมีความประสงค์จะตั้งชื่อลูกของเธอว่า จิมส์ เอ็ดเวอร์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ของศาลไม่อนุญาติ เพราะคู่แฝดอีกคนใช้ชื่อนี้แล้ว แต่เธอก็ตั้งชื่อนี้ให้กับคู่แฝดคนที่อยู่กับเธอจนได้
จิมส์ สปริงเกอร์ เข้าใจว่าคู่แฝดของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนจิมส์ เลวิส พยายามอย่างเต็มที่ในการสืบหาคู่แฝดของเขาตลอดระยะเวลา 39 ปี จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) ทั้งคู่ได้มีโอกาสมาพบกัน และนี่คือความพิศวงของความเหมือนกันของทั้งคู่

ทั้งคู่ต่างมีน้องชายบุญธรรมชื่อว่า ลาร์รี่
ทั้งคู่ชอบวิฃาคำนวน เกลียดการสะกดคำ
ทั้งคู่มีสุนัขชื่อ ทรอย

ภรรยาคนแรกของทั้งคู่ ชื่อว่า ลินดา เหมือนกัน
ทั้งคู่หย่า และแต่งงานใหม่กับผู้หญิงชื่อ เบ็ตตี้

ลูกชายคนแรกของทั้งคู่ ชื่อ เจมส์ เอเลน และ เจมส์ แอลเลน
ทั้งคู่ไปเที่ยวหาดเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบอร์ก รัฐฟลอริดา ในปีเดียวกัน

ทั้งคู่ขับรถยี่ห้อเดียวกัน ทำงานในบริษัทแฮมเบอร์เกอร์ บริษัทเดียวกัน
ทั้งคู่เป็นผู้ช่วยนายอำเภอ

งานอดิเรกของทั้งคู่คือช่างไม้และเขียนแบบ
ทั้งคู่สูง 180 ซม. หนัก 80 กิโลกรัม มีนิสัยการกินการดื่มการนอนเหมือนกัน ชอบกัดเล็บเหมือนกัน

เมื่อตอนอายุ 18 ทั้งคุ่เป็นไมเกรนอย่างหนักเหมือนกัน



หลังจากข่าวดังของทั้งคู่ ทอมัส บูชาร์ด แห่งมหาวิทยาลัยมินเนโซต้า ก็มุ่งไปศึกษาเฉพาะแฝดที่แยกกันอยู่กว่า 30 คู่ เขาก็พบความพิศวงของเรื่องนี้อย่างเหลือเชื่อ ซึ่งสรุปผลการศึกษาออกมาได้ดังนี้
ไม่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะถูกแยกจากกันไปห่างใกลขนาดใหน ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ต่างกันเพียงใด คู่แฝดเหล่านั้นจะมีสิ่งเหล่านี้

ความกลัวในสิ่งเดียวกัน แม้ว่าจะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน
ความต่างกันของการเป็นโรคภูมิแพ้ ซึ่งความจริงคนทั้งคุ่มีรหัสพันธุกรรมเหมือนกัน แต่ภูมิแพ้กลับเกิดขึ้นกับเพียงคนเดียว ไม่ใช่ทั้งคู่
ผลของสารเสพติด แม้ว่าจะมีคนติดสารเสพติดเพียงคนเดียว แต่ลักษณะของตับหรือปอด ของทั้งคุ่จะเหมือนกัน
อะไรคือสาเหตุของความเหมือนเหล่านี้ บังเอิญหรือเปล่า ?








คู่แฝดนาซี-ยิว

ในปีเดียวกัน เมื่อ แจ็ค ยูฟร์ ได้อ่านเรื่องราวของแฝดจิมส์ เขาเขียนจดหมายไปถึงบูชาร์ด เขาปราถนาจะตามหาคู่แฝดของเขา ออสการ์ สตอห์ ที่แยกกันตั้งแต่ยังเล็กเพราะพ่อแม่แยกทางกัน เพื่อนำมาศึกษาเปรียบเทียบ

ทั้งคู่เกิดใน ทรินิแดด เมื่อปี พ.ศ. 2476(ค.ศ. ) โดยออสการ์ถูกแม่พาไปอยู่เยอรมัน และกลายเป็นยุวชนนาซี ส่วนแจ็ค อยู่กับพ่อซึ่งเป็นพ่อค้าชาวยิว และได้เข้ารับการศึกษาในวัดชาวยิว และบวชเป็น แร็บไบ (นักบวชในศาสนายูดาย) เมื่อทั้งคู่เดินลงมาจากเครื่อง ทั้งสองคนสวมแว่นตากรอบโลหะสี่เหลี่ยมเหมือนกัน สวมเสื้อสีฟ้ามีอินทรธนู และไว้หนวดขลิบสั้น

การศึกษาของบูชาร์ดยังพบอีกว่า ทั้งคู่มีนิสัยเหมือนกัน ชอบกดน้ำชักโครกทั้งก่อนและหลังการใช้เหมือนกัน เก็บยางรัดของไว้ที่ข้อมือเหมือนกัน ชอบกินอาหารตามลำพังในภัตตาคาร ชอบอ่านหนังสือขณะกินอาหาร ชอบจุ่มขนมปังทาเนยในถ้วยกาแฟ เลือกอ่านบทความในวารสารโดยเปิดเลือกจากหลังมาหน้า ชอบแกล้งจามเสียงดังในลิฟต์ มีท่าเดิน ท่านั่งเหมือนกัน พูดด้วยจังหวะการเว้นคำเหมือนกัน แม้ว่าแจ็คจะพูดภาษาอังกฤษ และออสการ์ จะพูดภาษาเยอรมัน






ความบังเอิญ หรือการเชื่อมโยง

เรื่องราวระหว่างคู่แฝด เหมือนกับมีสายใยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินกันมาบ้าง เรื่องการเชื่อมโยงระหว่างคู่แฝดเช่นเมื่อคนหนึ่งป่วยอีกคนจะป่วยตาม เมื่อคนหนึ่งเจ็บอีกคนจะเจ็บตาม เรื่องราวดังกล่าวหาได้เป็นเพียงเรื่องกล่าวขานเล่าลือ แต่เกิดขึ้นจริง ๆ กับคู่แฝดหลายหมื่นหลายพันคู่ และเรื่องราวต่อไปนี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของหลาย ๆ เหตุการณ์

16.35 น. ของวันหนึ่งในเดือนกรกฏาคม ปี พ.ศ. 2491(ค.ศ. ) อลิซ แลมบ์ พนักงานพิมพ์ดีดอายุ 20 ปี นั่งอ่านหนังสือบนระเบียงบ้าน ในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ เธอเกิดรู้สึกเหมือนมีของแข็งกระแทกที่ชายโครงด้านขวา ความเจ็บปวดแปลบเกิดขึ้นกับเธอทันที และแผ่ขยายไปทั่วร่างกาย ก่อนที่เธอจะหมดสติเธอร้องบอกพ่อว่าต้องมีอันตรายเกิดขึ้นกับไดแอนน์
ในขณะเดียวกัน(16.35 น.)ไดแอนน์ แลมบ์ คู่แฝดของอลิซ ไปเที่ยวเมืองเซนต์หลุยส์ ซึ่งอยู่ห่างออกไป 110 กิโลเมตร และรถไฟขบวนที่เธอโดยสารเกิดตกราง เธอกระเด็นไปชนผนังตู้อีกด้าน กระดูกซี่โครงซ้ายหักสองซี่ และสลบไป เธอต้องลางานถึงสามสัปดาห์ ในขณะที่ อลิซต้องเจ็บปวดอยู่ถึง 3 สัปดาห์ และเมื่อเธอไปเอกซเรย์ก็พบว่า ซี่โครงข้างขวาหัก 2 ซี่ ซึ่งเป็นซี่เดียวกันแต่คนละข้างกับไดแอนน์เท่านั้น

ปี พ.ศ. 2516(ค.ศ. 1973) เวนดี สไตลย์ หกล้มในโรงยิมขาซ้ายหัก เธอออกมาคอยรถพยาบาลได้ไม่นาน เดนิส สไตลย์ คู่แฝดของเธอก็ถูกหามออกมาโดยที่ขาขวาหัก

นิต้า ฮัลต์ ทำงานในโรงพยาบาล รู้สึกเจ็บที่ขา เมื่อดึงขากางเกงขึ้นเธอพบว่ามีรอยช้ำที่กำลังขยายตัวเป็นวงกว้างบนท่อนขาของเธอ ห่างออกไป 640 กิโลเมตร ที่เมืองโรสวิลล์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เน็ตตี้ พอร์ตเตอร์ คู่แฝดของเธอเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ อาการและลักษณะแผลเหมือนกันกับ นิต้าไม่มีผิด

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2523 (ค.ศ. ) จอร์จ และสตีเฟ่น ยังบลัด ทั้งคู่ขี่มอเตอร์ไซต์ไปคนละทิศละทางแต่ไปชนกันเองที่ถนนนอกเมืองมิสซิสซิปปี้ จอร์จอาการสาหัส ส่วนสตีเฟ่นเสียชีวิต

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง นอร์ริสและรอส แมคเวอร์ตเตอร์ ผู้รวบรวมหนังสือสถิติโลก "กินเนสส์ บุค" ครั้งนั้นทั่งคู่มียศเป็นเรือตรี ประจำการบนเรือกวาดทุ่นระเบิด นอร์ริสปฏิบัติการในน่านน้ำสิงคโปร์รอสอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรือกวาดระเบิดของทั้งคู่ออกปฏิบัติการตามปกติ และได้เกิดชนกันเองนอกฝั่งมอลต้า



แฝดร่วมราศี(Astro-twins)

เรื่องราวก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องของคู่แฝด ซึงความจริงแล้วคู่แฝดจะมีอะไร ๆ ที่เหมือน ๆ กันอยู่แล้ว แต่ความบังเอิญสอดคล้องตรงกันของเหตุการณ์ในชีวิตของทั้งคู่สร้างความฉงนให้กับหลายชีวิตมากพอแล้ว แต่ถ้าคนสองคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือดล่ะ ความเหมือนเหล่านั้นมันเกิดจากอะไร บังเอิญอีกหรือ ?
โกแรน ลันเบิร์ก เกิดพร้อมกับ โกแรน ลันเบิร์กอีกคนในสวีเดน ทั้งคู่สอบได้ทุนเรียนเข้าศึกษาในสหรัฐอเมริกา ต่างเลือกเรียนที่มหาวิทยาลัยเบธทานี ในเมืองลิงซ์บอร์ก มลรัฐแคนซัส ทั้งคู่พบรักกับแจคเคอลีน ลัสเซอร์ และเอลิซเบธ บอกซ์ฮาร์ด ซึ่งทั้งสองสาวเกิดพร้อมกันในวันเดียวกัน และที่เมืองเดียวกัน ในสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งสองคู่แต่งงานในวันเดียวกัน แล้วก็ย้ายครอบครัวไปอยู่ที่ลอสแองเจลิส เหมือนกัน ทั้งคู่คลอดลูกสาวในวันเดียวกันที่โรงพยาบาลเดียวกัน และสูตินารีแพทย์คนเดียวกัน คำที่เหมาะสมกับเหตุการณ์นี้ที่สุดก็คือ ช่างบังเอิญจริง ๆ

ถ้าเรื่องของคู่แฝดไม่มีการกล่าวถึงคู่แฝดสไนแมนจะทำให้ขาดความสมบูรณ์ของเรื่องความบังเอิญสอดคล้องตรงกันของเหตุการณ์ในชีวิตคู่แฝดไป มาส่งท้ายด้วยคู่แฝดคู่นี้กันดีกว่าครับ

แดนและพีต สไนแมน เกิดในปี พ.ศ. 2488 (ค.ศ. ) ที่เมือง ปรีตอเรียในแอฟริกาไต้ ทั้งคู่เป็นนักดนตรี ในตำแหน่งมือกีตาร์ ตั้งแต่เล็กจนโตทั้งคู่จะต้องมีอันต้องเจ็บตัวในลักษณะเดียวกันตลอด เมื่อคนหนึ่งเจ็บใส้ติ่ง อีกคนก็จะต้องเข้าผ่าใส้ติ่งในไม่กี่วันต่อมา ทั้งคู่ล้มป่วนด้วยโรคเยื่อหุ่มสมองอักเสบในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่ออายุได้เจ็ดขวบทั้งคู่ถูกสุนัข(คนละตัว)กัดจนสะบักสะบอมเหมือนกัน
ธันวาคม ปี พ.ศ. 2507 (ค.ศ. 1964) พีตเสียนิ้วมือข้างซ้ายสองนิ้วจากการซ่อมใบพัดหม้อน้ำรถยนต์ สองสัปดาห์ต่อมา แดนเสียนิ้วมือขวาสองนิ้วจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลต่ออาชีพนักดนตรีของทั้งคู่

หลังจากแต่งงานไปแล้วดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทำนองนี้จะไม่เกิดขึ้นกับเขาทั้งคู่อีก จนกระทั่ง กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 พีตเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์สูญเสียตาข้างขวา ต่อมาในเดือนตุลาคมปีเดียวกันแดนเสียตาข้างซ้าย ต่อมาพีตออกไปตกปลา สายเบ็ดขาด ตุ้มน้ำหนักดีดมาโดนตาข้างซ้ายของเขา ทำให้ตาบอดสนิททั้งสองข้าง ภรรยาของพีตยื่นฟ้องหย่าด้วยเหตุผลว่าไม่สามารถทนอยู่กับชายตาบอดได้ จากประสบการณ์ชั่วชีวิตของเขา ทำให้แดนพยายามดูแลตาข้างที่เหลือของเขาเอาไว้ และประคับประคองชีวิตสมรสของเขาให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย

น่าเสียดายที่เราไม่มีข้อมูลหลังจากนั้นของชีวิตแดน เราจึงไม่ทราบได้เลยว่าความบังเอิญ หรือความเชื่อมโยงดังกล่าวได้เกิดขึ้นกับเขาอีกหรือไม่
ว่าแต่ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น มันเป็นแค่ความบังเอิญจริง ๆ หรือ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเพราะอะไร เมื่อพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วยังหาคำตอบไม่ได้ คำตอบที่ดูเหมือนจะหาง่ายที่สุดก็คือ มันเป็นเพียงแค่ความบังเอิญ

ทำไมมันบังเอิญได้ขนาดนี้หรือมีเหตุผลอะไรซ่อนอยู่ภายในความเหมือนกันที่ซ่อนอยู่ หรือมีสายใยหรือพลังอะไรซักอย่างที่เชื่อมโยงระหว่างชีวิตสองชีวิต นี่ยังคงเป็นปริศนาให้ขบคิดและค้นคว้าหาคำตอบกัน มนุษย์เราอาจจะพบคำตอบของมันได้ในอนาคต แต่ทุกวันนี้มันยังเป็นสิ่งลึกลับอันท้าทายการค้นคว้าหาคำตอบกันต่อไป


คุณเชื่อหรือว่ามันแค่เหตุบังเอิญ ?

The X-Files ชุดความบังเอิญตอน 6
ขอพลังจงอยู่กับท่าน
Midi File Here
เปิดปิดเสียงดนตรี เพิ่มลดโวลลุ่มที่นี่ครับ



X-Files Webboard |


:+: ขอพลังจงอยู่กับท่านตลอดไป :+:
1