โลโก้นะเนี่ย
Special Column
 Home
 X-Files Series
 Photo Gallely
 Lyric
 Joke
 MultiLinks
 Jkong Guest Book
บทความพิเศษ
 มาทำเว็บกันเถอะ
 ชวนกันอ่านหนังสือ
 คุยเฟื่องเรื่องหนัง
 เรื่องราวของประเทศไทย
 ธรรมะเพื่อชีวิต
About Me
JK's Story
JKong's Family
JKong's memories
JK's Guan
JK's Society
JK's Diary
JK 's Chatroom
ขอบคุณครับ











น้องหนึ่ง หนึ่งฤทัย จุรุเทียบ
หลานสาวที่แสนรัก แสนคิดถึง และจะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต



หลานสาวที่ผมแสนรัก

ขอบุญดล ให้พานพบเจ้าชาติใหม่
ให้หนึ่งฤทัย เกิดมาเป็นน้องพี่อีกที
บุญเจ้าน้อยจึงด่วนจากไปน้องรักคนดี
หากชาติหน้ามีขอชีวีเจ้ายั่งยืนนาน

น้องหนึ่งเป็นหลานสาวผม ผมเป็นอาของเธอ เพราะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพ่อเธอ แต่น้องหนึ่งอ่อนกว่าแค่ 4 ปี เลยไม่แปลกที่เธอจะเรียกผมว่าพี่ และผมเรียกเธอเป็นน้อง ผมพบน้องหนึ่งครั้งแรกตอนเธออายุเพียงไม่กี่ขวบ ตอนนั้นเพียงเริ่มหัดพูดใหม่ ๆ กับคำพูดที่ยังไม่ค่อยเป็นภาษา "แอ้บ แอ้บ แอ้บ" นั่นคือ 3 คำแรกที่ผมได้ยินจากปากน้องหนึ่ง
เราเหมือนโตมาด้วยกัน สนิทกันมาก ทุกครั้งที่ปิดเทอม ผมจะต้องไปพักอยู่ที่บ้านลุง(ปู่ของเธอ แต่เธอเรียกว่าพ่อ เพราะพ่อเธอเสียไปแล้ว) ตื่นเช้ามาล้างหน้าแปรงฟัน เธอก็จะไปเก็บที่นอนพับผ้าห่มให้ผมถ้าผมลืมเก็บ แล้วไปหุงข้าว ทำอะไรหลายอย่าง แล้วเราก็จะพากันออกไปตักบาตรหน้าบ้าน พอตกสายมาก็เอาปิ่นโตไปถวายเพลพระ(ภาษาของชาวบ้านแถวนั้นเรียกว่า จังหัน) สาย ๆ ก็ออกไปออกไปตักผักน้ำ เก็บหอยกาบที่จมอยู่ในผืนทรายที่แม่น้ำหลังบ้านลุงเอามาเป็นอาหารเย็น ทำอะไรหลาย ๆ อย่างสนุกสนานไปตามวัยเด็ก ตกเย็นก็อาบน้ำที่แม่น้ำหลังบ้าน หรือไม่ก็ลำคลองชลประทานที่หน้าหมู่บ้านด้วยกันเสมอ และก่อนจะนอนทุกคืนเธอจะเป็นคนมาจัดที่นอนให้ผม
เธอเป็นน้องรักของผม ที่จะคอยห่วงพี่ชายคนนี้ จะคอยถามอยู่เรื่อยว่ากินข้าวหรือยัง คอยเป็นห่วงดูแลสารพัด เราทั้งคู่ต่างภูมิใจกัน น้องหนึ่งภูมิใจที่มีพี่ชายอย่างผม ชอบเอาไปอวดเพื่อนได้อย่างภาคภูมิใจ ในขณะที่ผมเองก็ภูมิใจที่มีน้องสาวที่น่ารักและนิสัยดีอย่างนี้ ตอนที่น้องหนึ่งเป็นสาว เวลาเธอเข้ามาทักผม พอเธอเดินจากไป และเพื่อน ๆ ชอบถามว่า "เฮ๊ย ใครวะ?" หรือไม่ก็ "เฮ๊ย แนะนำหน่อยดิ" ทำให้ผมทั้งภูมิใจและหวงน้องสาวคนนี้มากด้วย
น้องหนึ่งไว้ผมยาว นุ่ม และหอมมาก ผมชอบเล่นเส้นผมเธอ ชอบเอาหน้าไปซุกกับผมบนหัวเธอเล่น น้องหนึ่งเองเธอก็อยากให้ผมไว้ผมยาว เธอเคยบอกผมหลายครั้งว่าอยากให้ผมไว้ผมยาวให้เหมือนพิสุทธิ์ (พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร นักร้องในดวงใจของน้องหนึ่ง) สิ่งที่เธอคอยบอกผมเสมอก็คือ อยากเห็นผมไว้ผมยาว ไม่อยากให้ผมกินเหล้า แต่ผมก็ไม่เคยทำให้เธอได้ซักที
เดือนพฤศจิกายน ปี 2536 ตอนนั้นผมพักอยู่แถวเทพารักษ์ ที่บ้านพี่บีแฟนเก่าเฮียอาร์ม ซึ่งเป็นลูกชายของลุง เฮียฦๅพี่ชายคนรองผมเดินเข้ามาในบ้าน บอกว่ากลับบ้านกัน ผมงงทำไมอยู่ดี ๆ เฮียแกชวนกลับบ้าน "น้องหนึ่งตายแล้ว" นั่นคือคำพูดที่ผมได้ยินจากปากพี่ชาย ผมทรุดลงบนโซฟาทันทีที่รู้ข่าว ขามันอ่อนดันตัวเองลุกไม่ขึ้น ผมได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่จริง ๆ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฟังข่าวกันมาผิด น้องหนึ่งของผมเพิ่งอายุ 16 กำลัง จะ 17 อีกไม่กี่เดือน ผมกำลังจะหาของขวัญวันเกิดไปให้เธอ เธอจะตายได้ยังไง ผมกลับเข้ากรุงเทพ ตีตั๋วรถเดินทางจากกรุงเทพ สู่กาฬสินธุ์ ในใจคิดตลอดทางว่าเรื่องนี้ไม่จริง ผมกลับไปผมจะต้องเจอน้องหนึ่งคอยยิ้มให้ผม แล้วถามผมว่า "กินข้าวหรือยัง" แล้วก็กุลีกุจอเข้าครัวหาอะไรมาให้ผมกิน ผมนอนไม่หลับกลับถึงกาฬสินธุ์ตอนเช้ามืด แล้วต่อรถไปบ้านลุงเลย พอไปถึง ผมก็เห็นบรรยากาศของงานศพ ผมยังคิดตลอดว่าคนที่นอนอยู่ในโลงนั่น ต้องไม่ใช่น้องสาวผมแน่ ต้องเป็นคนอื่นแล้วเข้าใจผิดกันว่าเป็นน้องหนึ่ง แล้วน้องสาวผมจะกลับมา แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง น้องหนึ่ง น้องสาวที่ผมแสนรักได้จากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันที่จะหวนกลับมาอีก
วันนั้นเป็นวันกีฬาสีของโรงเรียน เธอขับรถมอเตอร์ไซค์ไปกับเพื่อน มีรถสิบล้อคันหนึ่งคนขับเมายาบ้ามาเต็มที่ ขับมาชนและบดเธอไปกับถนน เมื่อผมต้องยอมรับความจริงว่า เธอจากไปแล้ว และผมกำลังอยู่ในงานศพน้องหนึ่ง น้องสาวที่ผมแสนรัก ผมขอลุงให้เปิดโลง ผมต้องการดูหน้าน้องสาวผมเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อย่าดูเลย ขอให้จำภาพที่งดงามของน้องไว้จะดีกว่า(ผมมารู้ภายหลังว่าศรีษะส่วนบนของเธอแหลกละเอียดไม่เป็นชิ้น) น้องสาวที่แสนน่ารักนิสัยดีอันเป็นที่รักของญาติ ๆ และเพื่อน ๆ อย่างเธอ ใครเลยจะคิดว่าเธอจะอายุสั้น
ผมนอนข้างโลงศพน้องหนึ่งทุกคืน และไม่ยอมไปใหน ด้วยในใจหวังว่าน้องสาวจะมาหาบ้าง แต่ผมก็ผิดหวัง(ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจอผีนับครั้งไม่ถ้วน) วันสวดวันสุดท้าย เป็นวันที่ผมเก็บอารมย์ไม่อยู่ วันนั้นผมเมาเต็มที่ รู้ตัวว่าตัวเองดูไม่ได้ในวันนั้น แต่รู้เพียงว่าอยากจะเมาเท่านั้น วันนั้นแม่ดุผม แต่ผมไม่ใส่ใจ ผมรู้แต่ว่าผมต้องการจะเมา ผมรับไม่ได้กับการจากไปอย่างไม่มีวันหวนคืนกลับมาของน้องหนึ่ง
วันต่อมาเป็นวันเผา ตามปกติคนที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุแถวบ้านผมเขาจะไม่เผาจะฝังกัน แต่น้องสาวผมคนนี้ร่างกายเธอไม่อยู่ครบ 32 เหมือนกรณีทั่วไป จึงต้องเผา ผมอยู่จนไฟลุกท่วมโลง ผมดูอยู่อย่างนั้น จนญาติมาบอกให้กลับ ผมเสียใจอยู่นาน หลังงานศพน้องหนึ่ง และได้แต่เพลงนี้ไว้มอบให้เธอ น้องหนึ่ง

น้องรักของพี่ พี่ได้แต่หวังว่า ทุกวันนี้เธอจะเป็นนางฟ้า อยู่อย่างสุขสบายบนสรวงสวรรค์ ลาก่อน
หนึ่งฤทัย

เจ้าจากไป จากไกล ไม่หวนคืนมา
น้องข้า เจ้าช่างอาภัพเสียจริง
รักและหวง ห่วงใย เจ้าน้องหญิง
เจ้าทอดทิ้ง ทุกคนไป ไม่ได้เอ่ยลา

จากพ่อแม่ ลุงป้า น้าอาของเจ้า
เพราะกรรมเก่า พรากเจ้าไป จากใจพี่ยา
สุดจะเสียใจ สุดจะอาลัย ร่ำให้พร่ำหา
โอ้เอ๋ย น้องข้า ขอดวงวิญญา เจ้าจงไปดี

ขอบุญดล ให้พานพบเจ้าชาติใหม่
ให้หนึ่งฤทัย เกิดมาเป็นน้องพี่อีกที
บุญเจ้าน้อยจึงด่วนจากไปน้องรักคนดี
หากชาติหน้ามีขอชีวีเจ้ายั่งยืนนาน

ขอสุขสมหวัง ให้เจ้ามีพร้อม ในชาติหน้า
ให้เจ้าเกิดมา สดชื่นชีวา ชีวิตเบิกบาน
มากมายเพื่อนรัก ไม่ทุกข์ลำบาก มีชีวิตยาวนาน
ให้สุขสำราญ ให้เจ้าพบพาน แต่สิ่งที่ดี

ภาวนา ให้วิญญาณเจ้า บรมสุข
สิ้นโศก สิ้นทุกข์ อย่าได้อาลัย สิ่งใดในชาตินี้
จะไม่หม่นหมอง ไม่โศกเสียใจ หากเจ้าไปดี
ไปเถิดน้องพี่ คนดี พี่ขออวยพร

จะจดจำ น้องพี่ชั่วกาลนาน
ตราบชั่วชีวัน ตลอดกาล นิรันดร
จารึกภาพ น้องรักพี่ไว้ ในเพลง ในกลอน
หลับตานอน จะมิลืมเลือน เจ้าหนึ่งฤทัย
9 พ.ย. 2536

ถ้าน้องหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ ป่านนี้เธอก็คงมีครอบครัวที่มีความสุข เป็นแม่บ้านเลี้ยงลูก
ส่วนผมก็จะกลายเป็นปู่ แต่น้องหนึ่งคงให้ลูกเรียกผมว่าลุง


ทำวันนี้ให้เต็มที่ เพราะพรุ่งนี้ไม่รู้ว่าเราจะยังหายใจอยู่หรือเปล่า
1