โลโก้นะเนี่ย
Column
 Home
 X-Files Series
 Photo Gallely
 Lyric
 Joke
 Dhamma for Life
 Web Maker
 Book Conner
 Movie & Music
  Learn Chinese With JK!
 Thai in My Opinian
 MultiLinks
 Memories Webboard
 X-Files Webboard
 Jkong Guest Book
Neighbour
About Me
JK's Story
JK's Friends
JK's Society
JK's Diary
JK 's Chatroom
ขอบคุณครับ



เรื่องตาหลก โจ๊กชามเล็ก
เรื่องขำขันจากเมล์

กลับมาแล้วครับเรื่องขำขัน หลังจากถูกลบจนสูญพันธุ์ ผมก็หมดอารมณ์ หมดกำลังใจ ที่จะทำต่อ รวมทั้งเวลาอันมีจำกัด เพราะยุ่งด้วยภาระกิจมากขึ้น ไม่ไดมีเวลาว่างมากมายเหมือนเมื่อก่อน ทำให้ผมไม่มีเวลาพิมพ์เรื่องราวเหล่านั้นขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เว็บผมกลับมาคึกคักอีกเหมือนในอดีต แม้ว่ากลุ่มผู้อ่านจะเปลี่ยนไป แต่ก็ทำให้ผมตั้งใจกลับมาทำอีกครั้งหนึ่ง
เรื่องขำขันจากเมล์ เป็นเรื่องราวที่ได้รับมาจากเพื่อนฝูงทางเมล์ ผมนำมาเกลาสำนวนซะใหม่หรือไม่ก็เปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์และกลุ่มเพื่อน ๆ ไป แต่ยังไงอรรถรสก็ยังสนุกสนานไม่เปลี่ยนแปลง จากนี้ไปผมจะทยอยอัพเรื่องราวตลกเหล่านี้เรื่อย ๆ ตามเวลาจะอำนวย อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ คนอื่นยิงล่ะม๊างงงงงงง เศรษฐีเฒ่าวัย 80 คนหนึ่ง มาหาหมอ เพื่อตรวจร่างกายประจำปี “เป็นไงครับ สบายดีมั้ย” หมอถาม “ฟิตปั๋งเลยแหละครับ” ชายแก่คุย “ผมเพิ่งแต่งงานใหม่กับเจ้าสาวเอ๊าะๆ อายุแค่ 18 แถมตอนนี้ เธอก็ตั้งท้องลูกของผมแล้วด้วย” ชายแก่อวดอย่างภูมิใจ หมออึ้งไปพักใหญ่แล้วพูด “ผมมีเรื่องๆ นึงจะเล่าให้ฟัง ผมรู้จักผู้ชายคนนึง เขาชอบเข้าป่าล่าสัตว์มาก อยู่มาวันนึง เขารีบไปหน่อย แทนที่จะหยิบปืนดันคว้าผิดเอาร่มไปแทน พอเข้าไปในป่า อยู่ๆ มีหมีตัวนึงโผล่ออกมาตรงหน้าเขา เขาตกใจหยิบร่มขึ้นมาแล้วกดไกทีนี้ลองทายดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น” หมอถาม “ไม่รู้สิ” ชายแก่เดาไม่ถูก หมอตอบ “หมีโดนกระสุนล้มลงตาย!” “เป็นไปได้ไง!!” ชายแก่ไม่เห็นด้วย “ฝีมือคนอื่นยิงล่ะม้าง” “ผมก็ว่างั้นแหละ ! ! ! “ หมอตอบ โค้กกับเครื่องขาย มีเศรษฐีเฒ่าคนเดิม ต่อมาเมียของตาเฒ่าก็ได้ให้กำเนิดเด็กคนหนึ่ง ต่อมาอีกด้วยความที่อายุห่างกันมากจึงทำให้เข้ากันไม่ได้ ทรัพย์สมบัติทั้งหลาบคุณภรรยาบังเกิดเกล้าก็ได้ไปมิใช่น้อย เห็นจะเหลืออย่างเดียวที่แบ่งกันไม่ได้คือลูกนั่นเอง เมื่อตกลงกันไม่ได้ก็เลยต้องไปศาล เมื่อท่านผู้พิพากษาถามถึงเหตุผลและความสามารถว่าจะเลี้ยงลูกได้ดีแค่ไหน ฝ่ายหญิง(ลุกขึ้นตอบสไตล์สาวมั่นว่า)ดิฉันเป็นผู้ให้ทนอุ้มท้อง และเป็นผู้ให้กำเนิดบุตรดังนั้นดิฉันควรได้รับสิทธิ์เลี้ยงบุตร ผู้พิพากษา ฝ่ายชายมีคำอะไรจะแก้ฝ่ายหญิงไหม ฝ่ายชาย ท่านครับถ้าท่านหยอดเหรียญลงไปในเครื่องขายน้ำ อัตโนมัติโค้กที่หล่นลงมาควรเป็นของท่านหรือของเครื่องขายนั้นครับ ไอ้เข้ มีสาวชาวบ้านคนหนึ่งมักจะมาอาบนํ้าที่คลองหลังหมู่บ้านเป็นประจัา ในขณะที่เธอกัาลังดำผุดดำว่ายอยู่อย่างสบายใจ พอดีมีนายอ๋องจุ๊บๆ แอบดุเธออาบนั้าอยู่หลังพุ่มไม้ ฉับพลันสายตาเธอเหลือบไปเห็นพอดี อ๋องจุ๊บๆจึงพูดแก้เขินไปว่า "น้องสาว มาอาบนั้าที่นี่คนเดียวไม่กลัวไอ้เข้หรือไง ?" หญิงสาวไม่กล่าวอะไรเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาแอบดุเธอ วันต่อมาเธอก็มาอาบนั้าที่เดิม แต่ย้ายไปใกล้ๆต้นไม้ใหญ่เพื่อกันคนแอบมอง อ๋องจุ๊บๆเจ้าเก่าก็มาแอบดูเธอเหมือนเดิม เเละถามเหมือนเดิมอีก "น้องสาว มาอาบนั้าที่นี่คนเดียวไม่กลัวไอ้เข้หรือไง ?" ไม่ใช่แค่นั้นอ๋องจุ๊บๆยังมาทุกวันและถามคำเดิม "น้องสาว มาอาบนั้าที่นี่คนเดียวไม่กลัวไอ้เข้หรือไง ?" จนกระทั่งวันหนึ่งอ๋องจุ๊บ ๆก็ได้คำตอบสุดท้ายจากสาวเจ้าว่า "ไอ้เข้น่ะฉันไม่กลัวหรอก.. แต่ไอ้เหี้ยนี่สิ.. แม่งมาทุกวันเลย ! " ไม่ต้องตัด จรัญไปพบหมอที่คลีนิคกามโรคแห่งหนึ่ง หมอแจ้งแก่จรัญว่า "คุณเป็นโรคผู้หญิงขั้นรุนแรง...การรักษา มีทางเดียวเท่านั้นคือต้อง...ตัดทิ้ง.ง.ง" จรัญไม่ละความพยายามไปหาหมอจีนแผนโบราณที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง... และ เล่าอาการและคำแนะนำของหมอท่านแรกให้ฟัง หมอจีนได้ฟังก็พูดขึ้นว่า... "ไม่ไหว..ไม่ไหว หมอสมัยนี้เอะอะก็จะตัดทิ้งอย่างเดียว" จรัญได้ฟังก็แสนจะดีใจและมีความหวังถามหมอจีนว่า... "หมายความว่า ผมไม่ต้องตัด...ใช่ไหมครับหมอ?" หมอจีนตอบว่า... "ม่ายต้องตัดทิ้งหรอก...ปล่อยไว้อย่างนี้แหละ เดี๋ยวมังก็หลุกปายเอง.ง.ง.ง บริกร-บริการ อรรถอ๋องไปนั่งทานอาหารในภัตตาคารหรู หลังจากนั่งได้ซักครู่เค้าชะเลืองไปเห็น บ๋อยที่มาเสริฟ มีช้อนพกอยู่ในกระเป๋าเสื้อ อีกซักพัก บ๋อยอีกคนเดินผ่านมา ยังคงมีช้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อเช่นกัน พอพนักงานเสิร์ฟอาหารเริ่มนำอาหารมาเสริฟที่โต๊ะเค้ายังคงสังเกตุเห็นอีก ว่าหมอนี่ ก็มีช้อนในพกอยู่กระเป๋า อีกนั่นแหละอดรนทนต่อไปไม่ไหว เลยกระซิบถาม " น้องๆ ทำไมพนักงานที่นี่ต้องพกช้อนติดตัวกันทุกคนล่ะหือ" บ๋อยหนุ่มยิ้ม อย่างภาคภูมิใจ " คืองี้ครับเมื่อหลายเดือนก่อน ผู้จัดการเราได้จ้างบริษัทที่ปรึกษา มาวิจัยการทำงานและบริการของเรา แล้วพบว่า ลูกค้าของเราจะทำช้อนตกมากกว่า ของอื่น 75% ซึ่งนั่นหมายถึง การทำช้อนตกประมาณ สามครั้ง ต่อชม ต่อโต๊ะ ดังนั้นถ้าให้พนักงานเราเตรียมช้อนติดตัวไว้ตลอดเวลา จะลดเวลาที่จะต้องเดินกลับเข้าครัวไปเอาช้อนใหม่ได้ ซึ่งจะช่วยลด คนงานได้ 2 คน/เวร ครับ" พอขาดคำบ๋อย ปรากฏว่ามีเสียงโลหะตกกระทบพื้น ที่โต๊ะถัดไป บ๋อยหนุ่มปราดเข้าไปยื่นช้อนในกระเป๋าให้ กับแขกโต๊ะนั้นทันที แล้วหันมายิ้มใหอรรถอ๋อง พร้อมกับอธิบายต่อ" พอเวลาผมกลับเข้าครัวผมก็จะเปลี่ยนเอาช้อนอันใหม่มาเตรียมไว้ แทนที่จะต้องย้อนกลับไปเอามาตอนนี้ เห็นมั้ยครับ" "อืมมม เข้าท่าแฮะ" อรรถอ๋องพยักหน้าแบบพึงใจ ในระบบการบริหารที่ยอดเยี่ยม แต่อดซักต่อไม่ได้ "อืมม แล้ว ด้าย เส้นเล็กๆที่พ้นขอบเอวกางเกง นี่ ล่ะมีไว้ทำไมล่ะหือ เห็นทุกคนก็มีนี่" คราวนี้บ๋อยหนุ่มค่อยๆก้มตัวใกล้แล้วกระซิบเบาๆ "แหม อันนี้ไม่ค่อยมีใครสังเกตุเห็นนะครับ ท่านเห็นได้ไงเนี่ย อันนี้เราเอาผูกไว้กับเจ้าหนูของเราน่ะครับ เวลาเข้าห้องน้ำ เราสามารถดึงเชือกเส้นนี้ ทำให้ดึงเจ้าหนูออกมาฉี่ลงโถได้ โดยไม่ต้องจับซึ่งทำให้ประหยัดเวลาในการล้างมือ เพราะว่าจากการวิจัย จะพบว่า ถ้าไม่ต้องเสียเวลาล้างมือ จะช่วยประหยัดเวลาในการเข้าห้องน้ำลงได้ 70% ซึ่งเท่ากับลดคนงานได้อีก 1 คน/เวร" "โอเค มีเหตุผลดี ว่าแต่ตอนดึงออกมา นี่ไม่ต้องใช้มือจับได้ล่ะ แล้วตอนเก็บ เจ้าหนู เข้าที่ล่ะ ทำไง ล่ะ" อรรถอ๋องซักต่อ บ๋อยหนุ่ม ยิ้ม แล้วกระซิบเบาๆ " คนอื่นไม่รู้เค้าทำกันยังไง แต่สำหรับผม.... ใช้ช้อน ตักเข้า ครับ" ดอกอะไร คุณครูคนหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องเรียน แล้วบอกนักเรียนว่า วันนี้ครูจะให้นักเรียนทายชื่อดอกไม้ที่ครูจะหยิบขึ้นมาให้นักเรียนดู แล้วครูจึงหยิบ ดอกมะลิขึนมา แล้วถามว่านี้คือดอกอะไร น.ร.ทุกคนตอบว่า ดอกมะลิคะ ครูบอกว่าดีมากจ๊ะ แล้วหยิบดอกกุหลาบขึ้นมาใหม่ แล้วถามว่านี่คือดอกอะไร นักเรียนทุกคนเงียบ ครูจึงบอกใบ้ให้ว่า คุณพ่อจะให้คุณแม่ในวันวาเลนไทน์จ๊ะ น.ร.จึงตอบว่าดอกกุหลาบคะ ครูบอกว่าถูกต้องจ๊ะ พร้อมชูดอกรักขึ้นมาแล้วถามว่าแล้วดอกนี้หละ น.ร.ทุกคนเงียบหมดครูจึงใบ้เพิ่มว่า คุณพ่อจะเอ่ยกับคุณแม่บ่อยๆ มีน.ร.คนหนึ่งลุกขึ้นตอบเสียงดังว่า " ดอกทอง " เตรียมให้พร้อม ผู้หญิงคนหนึ่งทำกระเป๋าถือหล่นหายในห้างสรรพสินค้า โชคดีที่มีเด็กคนนึงเก็บได้ และเขาก็เอามาคืนเธอ เมื่อเธอเปิดกระเป๋าออกดูหลังจากได้รับแล้ว เธอก็ต้องแปลกใจ "เอ๊ะ... ชั้นจำได้ว่ามีแบงค์ห้าร้อยในกระเป๋าอยู่ใบนึงนี่นา ทำไมมันกลายเป็นแบงค์ย่อยหมดเลยล่ะ" ไอ้หนูรีบตอบอย่างรวดเร็ว "คือว่านะคับ ครั้งที่แล้วผมเก็บกระเป๋าตังค์ได้ เจ้าของเค้าไม่มีแบงค์ย่อย ผมเลยอดรางวัลเลยคับ" คิดเหมือนเธอ อรรถอ๋องกับคนรักเมื่อรักกันใหม่ๆ อรรถอ๋องก็ถามแฟนสาวว่า คิดยังไงถ้าจะแต่งงานกัน แฟนสาวก็ตอบไปว่า คิดอย่างที่อรรถอ๋องคิด อรรถอ๋องจึงขอแต่งงาน เมื่อเวลาล่วงเลยไป อรรถอ๋องก็นึกครึ้มใจ ถามภรรยาว่า""คิดยังไงกับตน" ภรรยาก็ตอบว่า คิดอย่างที่สามีคิด อรรถอ๋องต๊กกะใจ ตะโกนเสียงดังว่า "เฮ้ย มึงคิดจะฆ่ากูเรอะ!!!" ขาดอุปกรณ์ ณ โรงเรียนในชนบทห่างไกลความเจริญ มีคุณครูท่านหนึ่งทุกฯวัน จะใช้ให้เด็กหญิงคำหล้าทุบกระท้อนให้ทานทุกวัน แต่แล้วมาวันหนึ่ง คุณครู :เด็กหญิงคำหล้าวันนี้ช่วยทุบกระท้อนให้ครูสัก 3 ลูกนะ ด.ญ คำหล้า : ครูค่ะวันนี้ให้คนอื่นทำให้ได้ไหมค่ะ คุณครู : ทำไมล่ะ! ครูจะให้เธอนั้นแหละทำ เธอทุบได้หวานอร่อยดีครูชอบ ด.ญ.คำหล้า : เอ้อ! คือว่าวันนี้หนู คงทำให้ไม่ได้จริงๆ เพราะแก้วบาดส้นเท้าหนูค่ะ คุณครู : !!!!!!????? มันเป็นอาชีพ มีชายคนหนึ่งได้ไปสู่ขอผู้หญิงคนหนึ่ง พ่อฝ่ายผู้หญิงเลยถามว่า คุณเคยเข้าอาบอบนวดไหม ทุกเดือนครับ เคยเข้าอาซีเอไหม บ่อยครับ โต๊ะสนุ๊กเคยเข้าไหม ทุกเดือนครับ คุณเป็นคนเลวมากฉันให้ลูกสาวฉันแต่งกับคุณไม่ได้ ทำไมครับก็ผมเป็นพนักงานเก็บค่าน้ำถ้าให้ผมอยู่ข้างนอกจะไปเก็บกับใครละ แต่งประโยค ในห้องเรียนห้องหนึ่ง ครู : ไหนลองใช้คำว่า แป้ง แต่งประโยคทีซิบึกบึน บึกบึน : คุณแม่กำลังทานเค้ก ครู : อ้าว แล้วแป้งอยู่ที่ไหนล่ะ ? บึกบึน : ก็อยู่ในเค้กไงครับ ครู : ???? ผม ตำรวจจับชายพเนจร 2 คน ในข้อหาจรจัดได้ที่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า นำไปฝากขังที่สถานีตำรวจ แล้วรุ่งขึ้นจึงนำตัวไปขึ้นศาล ผู้พิพากษาซึ่งเป็นคนหัวล้านได็ซักถามจำเลยคนที่หนึ่งว่าจำเลยอยู่ที่ใหน จำเลยคนที่หนึ่ง ผมยาวพาดบ่า หนวดเคราเฟิ้ม ลุกขึ้นตอบผู้พิพากษาอย่างองอาจเปิดเผยว่า "ศาลที่เคารพ ผมเป็นคนไทย ผมอยู่ในทุกหนทุกแห่ง เช่นป่าเขาลำเนาไพรตามถนนหนทางทั่วๆไปครับ " ผู้พิพากษาได้ฟังดังนั้น รู้สึกโกรธ แต่พยายามข่มใจไม่แสดงความโกรธออกมา จึงหันไปถามจำเลยคนที่สอง ผู้พิพากษา : ไหน จำเลยคนที่สองบอกมาซิว่าอยู่ที่ไหนและบ้านเลขที่เท่าได จำเลยคนที่สอง หัวล้าน แต่มีหนวดเครารุงรังตอบผู้พิพากษาอย่างอาจหาญว่า จำเลยคนที่สอง : ที่เคารพครับ ผมก็อยู่ติดกับจำเลยคนที่หนึ่งครับ เลือกเอา วันหนึ่น คนติดอ่างเค้าก็ไปสมัครงาน เดินไปเจอร้านขายหนังสือสามก๊กที่กำลังเปิดรับสมัครพนักงาน เค้าก็เข้าไปสมัครงาน เจ้าของร้านเลยเรียกไปสัมภาษณ์ เจ้าของร้านก็ถามว่าคุณติดอ่างจะขายได้เหรอ เค้าก็ตอบว่า ได้..... ซิ.......ครับ...... งั้น ฉันจะให้คุณ 3 เล่ม ภายในวันนี้คุณต้องขายให้ได้ ได้.....เลย.....ไม่.......ต้อง.......ห่วง..... ไม่ถึง3ชั่วโมงเค้าก็เดินกลับมา ผม....ขาย....หมด.....แล้ว......ครับ.....นี้.....เงิน..... เจ้าของร้อนก็ชื้นชมคุณทำไดไงเนี๊ยะ ขนาดคนธรรมดายังทำไมได้เลย งั้นพรุ่งนี้ คุณมาเอาอีก 10 เล่ม ภายในเดือนนี้ต้องขายให้หมด ถ้าขายหมด ผมรับคุณเลย รุ่งขึ้นเค้ามาเอาหนังสือตั้งแต่เช้า ไม่ถึง 1 อาทิตย์ เค้าเดินมาในร้าน ผม....ขาย......หมด....แล้ว......ครับ......นี้......เงิน..... เจ้าของร้านก็บอกว่า ฉันรับคุณเข้าทำงานเลย แล้วคุณทำไงถึงมีคนซื้อเร็วขนาดนี้ล่ะ เค้าก็ตอบว่า คือ....ว่า.....ผม.....ก็....บอก.....ว่า.....คุณ......ไป.....อ่าน......เอง.....หรือ......ว่า........ ให้.......ผม......อ่าน........ให้........ฟัง...... คนนั่งขี้ หลังจากเลิกจากงานประจำวันอันเหน็ดเหนื่อยแล้ว ขณะเดินทางกลับบ้านมาตามถนนสายหนึ่ง สายตาของอรรถอ๋องก็เหลือบ ไปเห็นอะไรแว้บๆที่ข้างทาง หลังจากเพ่งจนแน่ใจแล้วจึงรู้ว่ามีเด็ก คนหนึ่งแอบนั่งขี้อยู่ริมข้างทาง ด้วยความนึกสนุก เขาจึงตะโกนออก ไปว่า อรรถอ๋อง: เฮ้ย! คนนั่งขี้ , คนนั่งขี้ มาดูเร้ว คนนั่งขี้ ฝ่ายเด็กที่นั่งขี้อยู่ก็สะดุ้งสุดตัวทั้งโกรธ ทั้งอาย จึงตะโกนตอบ กลับไปดว้ยความโกรธว่า เด็ก : แล้วบ้านพ่อ บ้านแม่ มึง"ยืน"ขี้รึไงวะ แพงกว่า ใครแพงกว่ากัน เจ้าแมวกับเจ้าหนูต่างอวดศักดาความร่ำรวยแก่กันและกัน แมว: " ฉันว่าที่อยู่ฉันนะ ราคาบ้านพร้อมที่ดินก้อปาเข้าไปเกือบ 10 ล้านแล้ว นี่ยังไม่รวมสวนหย่อมอีก2ล้านนะ" หนู : "แล้วไง ของฉันน่ะหรือเบาะๆ แค่หลังคาก็ปาเข้าไป 1000 กว่าล้านบาทแล้ว ยังไม่รวมเสาแต่ละ ต้นอีกนะ ใหญ่ขนาด10 คนโอบ" แมว: "แล้วบ้านนายอยู่ตรงไหนวะ" หนู : "ใต้ทางด่วนดาวคะนองว่ะ" เหตุเกิดเพราะแบงค์ร้อย ในห้องเรียนห้องหนึ่ง ครูกำลังเช็คชื่อน.ร. ปรากฎว่ายังขาด น.ร. อีก1คน คือ ด.ญ. นารี ที่ยังไม่มาเรียน แล้วสักพักหนึ่ง ด..ญ.นารี จึงค่อยๆย่องเข้าห้องเรียน แต่ ครูหันมาเจอพอดี ครูจึงพูดขึ้นว่า อ้าว ด.ญ. นารี ทำไมพึ่งมาเรียน ด.ญ. นารี จึงตอบอย่างอํ้าๆอึ้งๆ "เผอิญที่ป้ายรถเมล์ หนูเจอคนทำแบงค์100ตก หนูก็เลย...... " "อ้อ ก็เลยเสียเวลาช่วยเค้าหาเงินที่ทำตก ดีมากเลยนารี เพื่อน ๆ เอาเป็นตัวอย่างนะคะ" นารียังไม่ทันพูด ครูก็กล่าวชมนารี และ บอกให้เพื่อนๆ เอาเป้นตัวอย่าง แล้วครูจึงหันไปถาม นารี "แล้วตกลง ช่วยหาเจอไหม" นารีจึงค่อยๆตอบครูว่า " หนูไม่ได้ช่วยเขาหาหรอกค่ะ แต่หนูยืนเหยียบแบงค์ 100ไว้ จนกว่าเขาจะเดินไป หนูเลยมาเช้าเรียนไม่ทันค่ะ" ชอบสัตว์อะไร ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในห้องเรียนชั้นประถม1 คุณครูถามนักเรียนว่า ที่บ้านของแต่ละคนชอบเลี้ยงสัตว์อะไรบ้าง ด.ช.ไก่ : เลี้ยงหมาครับ ด.ช.โอ๋ : เลี้ยงปลาครับ ด.ญ.ตุ่น : เลี้ยงแมวค่ะ ขณะนั้นคุณครู เห็น ด.ช. ต้อม กำลังนั่งหลับ จึงถาม ด.ช. ก้องว่า คุณครู : ด.ช.ต้อมที่บ้านชอบเลี้ยงสัตว์อะไร ด.ช.ต้อม งัวเงียแล้วลุกขึ้นตอบว่า ด.ช.ต้อม : ไม่ทราบครับ แต่พ่อบอกว่า " แม่ชอบ แรด ครับ " สิทธิของหมา คุณนายเปรมศรี จูงหมาตัวโปรดไปขึ้นรถไฟ และจะให้มันนั่งบนเบาะด้วย แต่พนักงานไม่ยอม พนักงาน : โทษนะครับ มันเป็นหมาให้นั่งที่พื้นก็แล้วกัน คุณนาย : หมาชั้นเป็นหมาแสนรู้ แถมฉลาดกว่าคนซะอีก ทำไมจะนั่งบนเบาะไม่ได้ หา!! พนักงาน : แล้วมันซื้อตั๋วหรือเปล่าล่ะ คุณนาย : ก็ได้ ถ้าชั้นซื้อตั๋วให้มัน ทีนี้มันคงมีสิทธิ์เหมือนคนอื่นแล้วนะ พนักงาน : ครับผม แต่มันต้องนั่งให้เหมือนคนนะครับ ห้ามยกขาขึ้นมาบนเบาะเด็ดขาด ไม่อร่อยหรอก มีตาและยายคู่หนึ่ง ทั้งสองได้เลี้ยงหมาไว้หนึ่งตัวชื่อว่า"ไอ้ขาว" และมีอยู่วันนึงยายได้ซื้อหมูกับพริกแกงมาจากตลาด พอมาถึงบ้านยายก็วางหมูไว้บนโต๊ะในครัว จากนั้นยายจึงเดินไปเข้าห้องน้ำ ไอ้ขาวเห็นหมูบนโต๊ะเข้าจึงอยากกินจึงกระโดดขึ้นไปคาบหมูทันที ขณะนั้นเองตาเดินเข้ามาเห็นเข้าพอดี ด้วยความตกใจไอ้ขาวจึงคาบหมูวิ่งหายไปหลังครัว พอดียายออกมาจากห้องน้ำมองไปบนโต้ะไม่เห็นหมูจึงถามตาว่า "หมูไปไหน" ตา "ไอ้ขาวคาบไปแล้ว" ยาย "แล้วทำไมตาไม่ตีมันปล่อยให้มันคาบไปทำไม" ตา "ช่างมันเถอะมันเอาไปก็กินไม่อร่อยเพราะพริกแกงอยู่นี่" ยาย ???????? พอกัน อรรถอ๋องกับน้องชายอรรถอูอยู่บ้านหลังเดียวกัน ทุกๆ วัน น้อง จะขโมยเงิน จนอรรถอ๋องจะต้องซ่อนเงินเอาไว้เป็นประจำ วันหนึ่งอรรถอ๋องจะไม่อยู่บ้านก็เลยนั่งนึกว่าจะเอาเงินซ่อนไว้ที่ไหนดี คิดไปคิดมาก็เลยเอาเงินไปซ่อนที่ใต้ถุนบ้าน ฝังดินเอาไว้ และปักป้ายเอาไว้ว่า "ไม่มีเงินอยู่ตรงนี้" พออรรถอูมาเห็นก็เลยคิดในใจว่า "พี่นี่โง่จังใครๆ ก็รู้ว่าซ่อนเงินเอาไว้ตรงนี้ " อรรถอูก็เลยเอาเงินไปและปักป้ายไว้ว่า "ไม่ได้เอาเงินไป" โฆษณาอะไร สโนว์ไวท์อยู่กับคนแคระทั้ง7 ซึ่งคนแคระทั้ง7ก็รักและบูชาสโนว์ไวท์มาก วันหนึ่งคนแคระกับสโนว์ไวท์ได้ไปเที่ยวป่า และเดินไปเจอน้ำตกสโนว์ไวท์อยากอาบน้ำมาก สโนว์ไวท์จึงตัดสินใจแก้ผ้าอาบน้ำโดยมีคนแคระทั้ง7 ยืนหันหลังอารักขาปรากฏว่าสโนว์ไวท์เกิดทำสบู่ตก ด้วยความตกใจจึงร้องออกมา คนแคระเลยหันหลังมาดู (ถามว่าเป็นโฆษณาอะไร) เฉลย เซเว่น อัพ

1