โลโก้นะเนี่ย
Column
 Home
 X-Files Series
 Photo Gallely
 Lyric
 Joke
 Dhamma for Life
 Web Maker
 Book Conner
 Movie & Music
  Learn Chinese With JK!
 Thai in My Opinian
 MultiLinks
 Memories Webboard
 X-Files Webboard
 Jkong Guest Book
Neighbour
About Me
JK's Story
JK's Friends
JK's Society
JK's Diary
JK 's Chatroom
ขอบคุณครับ



เรื่องตาหลก โจ๊กชามเล็ก
เรื่องขำขันจากเมล์

Dirty Jokes เป็นเรื่องราวที่ได้รับมาจากเพื่อนฝูงทางเมล์ ผมนำมาเกลาสำนวนซะใหม่ หรือไม่ก็เปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์และกลุ่มเพื่อน ๆ ไป แต่ยังไงอรรถรสก็ยังสนุกสนานไม่เปลี่ยนแปลง จากนี้ไปผมจะทยอยอัพเรื่องราวตลกเหล่านี้เรื่อย ๆ ตามเวลาจะอำนวย อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ แม่สอนไว้ สาวน้อยดาว เพิ่งจะมีนัดกับชายหนุ่มเป็นครั้งแรก เธอวิตกจริตพอสมควรขนเสื้อผ้าชุดเด็ดออกมาเป็นกองกะตั๊ก และเดือดร้อนต้องขอคำปรึกษาจากคุณแม่ "หนูจะทำยังไงดีค่ะคุณแม่" "ก้อยังไงก็ได้ แต่จำที่แม่จะสอนไว้สามข้อนะค่ะ" ข้อหนึ่ง "อย่าให้เค้าจูบลูก ริมฝีปากของลูกบอบบางเหมือนกลีบดอกไม้ที่จะชอกช้ำได้ง่าย" ข้อสอง "อย่าให้เค้าจับหน้าอกของลูก มันเปรียบเหมือนคริสตัลล่ำค่าราคาแพงที่เปราะบาง" ข้อสาม "อย่าให้อะไรล่วงล้ำเข้าไปใน 'ส่วนตัว' ของลูกนะ เพราะในนั้นจะเป็นเหมือนเตาอบที่จะแผดเผาทุกสิ่งที่ล่วงล้ำเข้าไป" "ค่ะ...หนูจะทำตามต่ะคุณแม่" สาวน้อยดาวได้ไปเดทกับอรรถอ๋องเพื่อนชาย ปล่อยให้คุณแม่นั่งใจจดใจจ่อรอคอย กระที่งตีสาม...สาวน้อยโผเผกลับมาบ้าน หน้าตาอิดโรย แต่แววตานั้นแช่มชื่นเหมือนกับคนอยู่ในภวังค์ที่เพิ่งผ่านอะไรดีๆ มา "คุณแม่ค่ะ หนูคิดว่าหนูกำลังตกอยู่ในความรักค่ะ...มันช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน" "ดาว...ลูกทำทุกอย่างที่แม่สั่งใช่มั้ย" คุณแม่ชักหนาวๆ..นึกในใจ-ลูกชั้น... "ค่ะ ทีแรกเค้าจะมาจูบหนู หนูก็บอกเค้าว่า ริมฝีปากหนูบอบบางเหมือนดอกไม้ เค้าก็หยุดไป... ต่อมาเค้าจะจับหน้าอกหนู หนูก็บอกว่าหนูก็บอกว่า อกหนูเหมือนคริสตัลที่เปราะแตกง่าย เค้าก็หยุดไป..." ถึงตอนนี้หนูดาวหยุดพูด หัวเราะด้วยแววตาเยิ้มฉ่ำ "แล้วยังไงต่อล่ะ" คุณแม่อดรนทนไม่ไหว "เค้าพยายามจะเอามือเข้าไปในส่วนตัวของหนูค่ะ แต่หนูบอกว่าในนั้นเป็นเหมือนเตาอบที่จะเผาทุกอย่างทีล่วงล้ำเข้าไป เค้าก็เลยหยุด.." เฮ้อ..คุณแม่ถอนหายใจอย่างโล่งอก "แล้วไงต่อล่ะลูก" "แล้วเค้าก็บอกว่า คุณมีเตาอบใช่มั้ย ผมมีขนมปังฝรั่งเศสอยู่ชิ้นนึง แล้วเค้าก็ลองเอาเข้าเตาอบของหนู หลังจากนั้นเค้าก็เร่งไฟ พอมันร้อนได้ที่เค้าก็เอาออกมาให้หนูชิมแล้วถามว่าอบได้ที่หรือยัง..." ต้องซ่อมเบรคก่อน. อรรถอ๋องและแฟนสาว... ขณะที่ออกไปขับรถกินลมกัน จู่ๆ อรรถอ๋องก็เกิดอารมณ์ขึ้นมา... เลยชวนสาวให้จอดรถ แล้วลงไป XXX กันใต้ท้องรถซะหน่อย สาวก็อ้างว่าเดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า อรรถอ๋องก็ว่า หากมีใครผ่านมาจะบอกเค้าว่ากำลังซ่อมท่อไอเสียกันอยู่ สาวเจ้าก็อิดออดอยู่พักนึงแล้วก็ใจอ่อน ยอมตามใจแฟนหนุ่ม... ขณะที่กำลังประกอบกิจกรรม....กันอยู่อย่างเมามันส์นั้น มีตำรวจนายนึงผ่านมา...เห็นเข้า เลยสะกิดขาอรรถอ๋องนั้น แล้วถามว่า เฮ้ย...เอ็งทำอะไรอยู่นั่นน่ะ.... อรรถอ๋องก็ตอบด้วยเสียงกระเส่า... ว่า "กำลังซ่อมท่อไอเสียอยู่คร๊าบบบ" ตำรวจนายนั้นจึงบอกกับอรรถอ๋องว่า "เอ็งน่าจะซ่อมเบรคซะก่อนนะ.....รถเอ็งนะไหลไปนู้น...แล้ว... เกินจะช่วย อรรถอ๋องชวนแฟนสาวสวยหุ่นเซ็กซี่ขับรถกินลมบนถนนบางนาตราด ระหว่างที่ขับรถ สองหนุ่มสาวต่างพูดจาประสาคู่เดทกัน ขับมาระหว่างทางขณะที่มีแดดรำไรใกล้พระอาทิตย์ตก สาวเจ้าเกิดมีอารมณ์พิศวาส จึงเอยกับอรรถอ๋องว่า เรามาทำอะไรสนุกๆกันไหม พูดแล้วสาวเจ้าก็จัดการกับเสือ้ผ้าเจ้าหล่อนพร้อมกับ กอดอรรถอ๋องขณะขับรถ อรรถอ๋องกลัวน้อยหน้า จึงได้จัดการกับเสื้อผ้าตัวเองด้วยเช่นกัน ขณะที่ทั้งคู่แสดงบทรักกันได้พอสมควร อรรถอ๋องเกิดอาการเกร็งอย่างสุดขีด ทำให้ขับรถตกถนนพลิกไปหลายตลบ ไปหยุดนิ่งที่ใต้ต้นไม้ สักพักสาวเจ้าได้สติพยายามตะเกียกตะกายออกจากรถได้ ส่วนอรรถอ๋องยังคงติดอยู่ภายในรถ อรรถอ๋องจึงร้อง "ที่รักช่วยไปตามคนมาช่วยผมด้วยผมออกจากรถเองไม่ได้" ด้วยอารามตกใจสาวเจ้านึกได้ว่าไม่ได้ใส่เสื้อผ้า จึงหันไปหยิบรองเท้าอรรถอ๋องที่ตกอยู่ข้างมาปิดของสงวน ก่อนวิ่งมาริมถนน ขณะนั้นตำรวจผู้เห็นเหตุการได้รีบขับรถมาเพื่อช่วยผู้ประสพอุบัติเหตุ สาวเจ้าเมื่อเห็นตำรวจได้ร้องขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า "ช่วยด้วย .......ช่วยด้วยแฟนหนูติดอยู่ข่างในค่ะ" คุณตำรวจได้ยินเสียงรีบออกจากรถ พร้อมกับจ้องมองไปที่รองเท้าอรรถอ๋องพร้อมกับพูดด้วยเสียงอาลัยว่า "โอ .... ถ้าแฟนคุณติดจนเหลือแต่รองเท้าผมคงช่วยคุณไม่ได้แล้ว " เปลี่ยนบรรยากาศ อรรถอ๋องกับแฟนสาวคบกันมานานเลยจำเจที่จะมีเซ็กซ์แบบเดิมๆ จึงเปลี่ยนบรรยากาศไปเช่าโรงแรมชานเมืองแห่งหนึ่ง เพื่อจะทำเซ็กซ์อย่างเดียว บริกรจึงพาไปห้องพักที่ชั้น 2 ทั้งสองจึงเริ่มบรรเลงเซ็กซ์ โดยเอาเชือกขึงระหว่างเพดาน แล้วตกลงว่าจะโหนเชือกเข้าหากันให้ มาเสียบกันกลางห้องพอดี ฝ่าย ญ.จึงมายืนที่ขอบหน้าต่าง ฝ่ายอรรถอ๋องมายืนที่ขอบประตู แล้วทั้ง สองก็โหนเข้าหากัน แต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฝ่ายอรรถอ๋องโหนเลยออกมานออกหน้าต่างตกลงไปในพงหญ้าชั้นล่าง ด้วยความอายที่แก้ผ้าหมดเลยจึงไม่กล้าออกจากพงหญ้า จึงยืนรอ พอดีมีพนักงานโรงแรมเดินผ่านมาจึงจะโกนเรียก อรรถอ๋อง- น้อง ๆ ๆ ๆ มาช่วยพี่หน่อย บ๋อย - ช่วยอะไรพี่ อรรถอ๋อง- ผมพักอยู่ชั้นบนที่นี่ตกหน้าต่างลงมาไม่มีเสื้อผ้าไม่กล้าเดินออกไป บ๋อย - อ๋อไม่เป็นไรพี่ไม่มีคนอยู่หรอก อรรถอ๋อง- อ้าว คนไปไหนหมดละ บ๋อย - อ๋อ….คนเค้าไปดูผู้หญิงติดลูกบิดอยู่ที่ชั้นสอง…คับ ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณ หลังจากคบหาดูใจกันพอสมควร และก็ถึงเวลาที่ทั้งคู่ ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันเสียที หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการสู่ขอ เมื่อมีโอกาสอยู่กันตามลำพัง อรรถอ๋องก็ตั้งใจเซอไพรซ์น้องดาวแฟนสาว โดยพูดเป็นนัยๆ ว่าเขามีบางอย่างจะให้เธอปล่าวๆ ไม่ใช่แหวนเพชร แหม มุขเชยๆ อย่างนี้ไม่มีที่นี่เด็ดขาด “ที่รักจ๊ะ อีกไม่นาน ต่อไปเราทั้งคู่ ก็จะไม่มีความลับต่อกันอีกแล้วน่ะครับ” “ค่ะ เอ.. แต่ว่า มีความลับอะไรที่คุณอยากให้ฉันได้รับรู้หรือค่ะ” “เอาล่ะ แต่คุณต้องทำตามที่ผมบอกทุกอย่าง อันดับแรก แบมือข้างหนึ่งออก แล้วหลับตาให้แน่น จนกว่าผมจะบอกให้ลืมตา” พอเห็นแฟนสาวหลับตาดีแล้ว อรรถอ๋องก็จัดแจง วางสิ่งลี้ลับที่สุดของตน ลงบนฝ่ามือหล่อน หญิงสาวรวบนิ้ว กำสิ่งที่อยู่ในมือพลางส่ายหน้า “ไม่ล่ะค่ะ ขอบคุณ ฉันไม่สูบบุหรี่” อรรถอ๋องเลี้ยงหมูตัวเมีย ภายหลังจากที่ทางราชการ ได้เข้าไปแนะนำวิธีการเพื่อให้ชาวบ้าน ได้รู้จักการการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ เป็ด หมู เป็นต้น อรรถอ๋อง ผู้ซึ่งพึ่งจะสึกจากพระมาหมาดๆ แล้วก็ได้แต่งงานมีเมีย มาได้ ประมาณ 1 เดือนมานี้เอง ก็เกิดความคิด อยากจะลองเลี้ยงหมู กับเขาดูบ้าง และด้วยความคิดที่ก้าวหน้า เข้าจึงไปเลือกซื้อเฉพาะลูกหมู ตัวเมียมาเลี้ยง จำนวน 40 ตัว เพราะว่าเมื่อมันโตขึ้นเป็นแม่หมู เขาจะได้ขายลูกหมู ต่อไปในอนาคต เวลาผ่านไป หมูที่เลี้ยงอยู่ โตเป็นหมูสาวแล้ว เขาก็ยังไม่ได้ลูกหมู เลยสักตัว อรรถอ๋องก็เลยไปสอบถาม กับทิดส่ง ผู้ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเลี้ยงสัตว์ประจำหมู่บ้าน ซึ่งทิดส่งก็ได้อธิบายให้ทราบว่า "จะต้องมีการผสมพันธุ์ให้กับหมูสาว เสียก่อน หมูจึงจะตั้งท้องมีลูกได้ " พร้อมกันนั้น ก็ได้บอกถึงวิธีการดูว่าเมื่อหมูสาว พร้อมที่จะผสมพันธุ์ "มันจะมีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา แต่เมื่อผสมติดแล้ว มันจะชอบเดินและชอบนอน" เมื่ออรรถอ๋องกลับมาถึงบ้าน เขาก็เข้าไปสังเกตุดูหมูที่เขาเลี้ยง ซึ่งทุกตัว มีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา แต่เนื่องจากทิดส่งผู้ที่เป็นที่ปรึกษา ไม่ได้บอกถึงวิธีการผสมพันธุ์หมูไว้ให้ เขาก็จึงคิดหาวิธีที่จะผสมพันธุ์ ให้กับหมูสาวของเขา จึงได้ความคิดว่า เขาเองก็น่าจะทำหน้าที่เป็นพ่อพันธุ์ ให้กับหมูสาวของเขาได้ เช้าวันรุ่งขึ้น อรรถอ๋องพยายามต้อนหมูสาวทุกตัว เพื่อให้ขึ้นไปอยู่บนรถ อีแต๋น ซึ่งกว่าจะต้อนให้ขึ้นไปจนครบทุกตัว ก็ทุลักทุเลพอสมควร จากนั้น ก็ขับรถอีแต๋น ไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ซึ่งดูลับตาผู้คนหน่อย จากนั้น เขาก็เริ่มทำหน้าที่พ่อพันธุ์ ให้กับหมูสาวจนครบทั้ง 40 ตัว แล้วจึง นำกลับมาที่บ้าน เช้าวันต่อมา อรรถอ๋องก็ยังสังเกตุเห็นหมูสาวของตัวเอง มีอาการชอบวิ่ง และกระโดดไปมา อยู่เช่นเดิม เขาคิดว่าคงจะยังผสมไม่ติดเป็นแน่ ดังนั้น จึงต้อนหมูสาวให้ขึ้นไปบนรถอีแต๋น ซึ่งคราวนี้ หมูทุกตัวพากันเดินขึ้นไปบนรถ อย่างมีระเบียบ จากนั้นเขาก็ขับรถไปยังที่เดิม และก็ทำเหมือนเดิม เช้าต่อมาอีกวันหนึ่ง อรรถอ๋องยังนอนไม่ตื่น อันเนื่องมาจาก ความอ่อนเพลีย เสียแรง เป็นอย่างมาก จากการที่เขาทำหน้าที่มา 2 วันก่อนนั่นเอง ได้ยินเสียงภรรยา มาเรียกปลุกให้ลุกขึ้น "พี่ พี่ หมูมันพากันขึ้นไป อยู่บนท้ายรถอีแต๋นกันหมดแล้ว และก็มีตัวหนึ่ง มันกำลังกดแตรรถอยู่ด้วย" คุณสมบัติครบถ้วน มีเศรษฐีนีคนหนึ่งซึ่งไม่มีสามีเพราะสามีของเธอเสีย ชีวิตไปแล้วและได้ทิ้งสมบัติไว้มากมายแต่เศรษฐีนี อยากมีคู่เพื่อที่จะมาบริหารสมบัติร่วมกัน ดังนั้นก็ได้ประกาศรับสมัครคู่แต่มีข้อแม้ว่า 1. จะต้องไม่ตบตีกัน 2. เวลาทะเลาะกันห้ามเดินหนี และ 3. จะต้องมีประสิทธิภาพเรื่องเซ็กส์ พอประกาศนี้ได้แพร่หลาย ก็มีผู้คนมาสมัครเรื่อยๆ แต่ผลปรากฏว่าไม่เป็นที่พอใจของเศรษฐีนี ต่อมาวันนึง ที่บ้านเศรษฐีนีมีเสียงเคาะประตูดัง ปัง ปัง ปัง เศรษฐีนีก็ได้ไปเปิดประตู เห็นผู้ชายคนนึงแขน และขาด้วน เศรษฐีนีจึงเชิญเข้ามาในบ้าน เพื่อมานั่งคุย ผู้ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นมาว่า ผมนี่แหละมีคุณสมบัติครบถ้วนทุกอย่างตามที่ประกาศรับสมัครไว้ เศรษฐีนีแปลกใจ ถามขึ้นมาว่าเพราะอะไร ชายคนนั้นตอบว่า ข้อแรก ผมไม่มีมือที่จะไปตบตีทำร้ายคุณ ข้อสอง เวลาทะเลาะกันผมไม่สามารถเดินหนีไปไหนได้เพราะผมไม่มีขา ชายคนนั้นก็หยุดพูด เศรษฐีนีถามว่า อ้าว..และข้อสุดท้ายล่ะ ชายคนนั้นพูดขึ้นมาว่า "คุณคิดว่าผมเอาอะไรเคาะประตู" สาวสวย อรรถอ๋องกำลังนั่งอยู่ในบาร์ แล้วเหลือบไปเห็นสาวสวย เดินเกาะแขนไป กับชายแก่น่าเกลียดคนหนึ่ง บาร์เทนเดอร์บอกว่าหล่อนเป็นโสเภณี อรรถอ๋องเฝ้าดูเธอตลอดเวลา เธอน่ารักจริงๆ คืนต่อมา อรรถอ๋องมาเฝ้ารอเธอ คราวนี้เธอมาคนเดียว พ่อหนุ่มของเราใจเต้น ระรัว รีบเข้าไปหา "คุณทำงานอย่างว่าจริงหรือครับ" "ใช่ แล้วทำไมหล่ะสุดหล่อ" "อืม ว่าแต่ว่าคุณคิดราคายังไงหล่ะ" "100เหรียญ สำหรับการใช้มือ" "โอ้โห 100เหรียญสำหรับใช้มือ จะบ้าเหรอ" "เห็นเฟอร์รารีที่จอดอยู่นั่นไหม ฉันซื้อมันด้วยเงินสด จากการใช้มือ รับรองว่าคุณต้องพอใจ" อรรถอ๋องคิดอยู่สักพัก แล้วกัดฟันไปกับหล่อน แล้วเขาก็พบกับความสุข จากมือของหล่อน สุขยิ่งกว่าการร่วมเพศที่เขาเคยมีมาในชีวิต คืนต่อมาเขากลับมาพบหล่อน แล้วชักชวนโดยไม่รีรอ หล่อนพูดยิ้ม "500เหรียญ สำหรับการใช้ปาก" "500เหรียญ พูดเล่นหรือเปล่า ไม่เอาน่าคนสวย" "เห็นตึก 12 ชั้นฝั่งตรงข้ามไหม ฉันซื้อด้วยเงินสดที่ได้จากการใช้ปากของฉัน" อรรถอ๋องก็กัดฟันไปกับหล่อนจนได้ แล้วเขาก็พบกับความสุขที่สุดในชีวิต เขาเกือบขาดใจถึงสองครั้ง คืนต่อมา เขามารอเธอตั้งแต่เย็น ทันทีที่เธอมา เขาแทบวิ่งเข้าไปหาเธอ "ผมติดกับคุณแล้วที่รัก คุณวิเศษที่สุด ผมต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับการร่วมเพศกันจริงๆ" หล่อนจูงมือเขาออกมาข้างนอก แล้วชี้ไปที่แมนฮัตตัน อรรถอ๋องตาเหลือก "คุณซื้อเกาะแมนฮัตตันทั้งเกาะเลยเหรอ" หล่อนส่ายหน้า แล้วยิ้ม "ถ้าชั้นเป็นผู้หญิงจริงๆแล้วละก็ ฉันคงเป็นเจ้าของเกาะนั่นไปแล้ว ไม่ใช่เหมือนกัน ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง นางพยาบาลฝึกหัดผู้อ่อนต่อโลก ผู้หาความรู้ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ได้ถามหมอว่า "คุณหมอคะ ไม่ทราบว่า ปรอทเนี่ยสามารถวัดไข้จริงๆ ได้กี่ทางคะ?" "3 ทางครับ "หมอตอบอย่างคล่องแคล่ว "แล้วมีทางไหนบ้างล่ะคะ?" พยาบาลฝึกหัดเริ่มถามเจาะขึ้น "ก็ 3 ทาง ไงครับ ทางแรกก็ทางปาก ทางที่สองก็ทางรักแร้ ทางที่สามก็ทางทวารหนัก" พยาบาลฝึกหัดสาวสวยก็ยังข้องใจอยู่ดีจึงถามอีกว่า "ตามที่ได้เรียนมา เพิ่งทำได้แค่ 2 ทางเอง คือทางปาก และทางรักแร้ ไม่ทราบว่าทางทวารหนักทำอย่างไรค๊ะ?" หมอยิ้มมุมปากเล็กน้อยถึงบอกว่า "งั้นคุณพยาบาลไปถอดกระโปรงรอผมที่บนเตียงนะ" พยาบาลฝึกหัดเชื่อฟังอย่างว่าง่าย จึงไปถอดกระโปรง นอนคว่ำโก้งโค้งรอบนเตียง "พร้อมหรือยังคุณพยาบาล" เสียงหมอกล่าว "พร้อมค่ะ" เสียงร้องแหวกอากาศก็ดังขึ้น "ว้าย ! นั่นไม่ใช่รูทวารนี่ค๊ะ หมอตอบสวนกลับอย่างทันทีทันใด "ไม่ต้องห่วงหรอก นี่ไม่ใช่ปรอท" เสร็จงานค่อยหยุด ณ ร้านขายอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับท่านชายโดยเฉพาะ อรรถอ๋องกำลังหาซื้อเครื่องมือ อย่างหนึ่งอยู่ อรรถอ๋อง "คุณมีเครื่องมีออย่างว่าขายไหม? สำหรับผู้ชายน่ะ" พนักงานขาย "มีครับ นี่เลย เป็นรุ่นใหม่เพิ่งเข้ามา" อรรถอ๋อง "งั้น โอเค ผมซื้อหนึ่งเครื่อง" อรรถอ๋องรีบกลับบ้านอย่างรวดเร็วเพื่อทดลองเครื่องที่ซื้อมาใหม่ทันที แต่สักพักก็เกิดปัญหาขึ้นมาจนได้ อรรถอ๋องรีบโทรฯ กลับไปที่ร้านทันที อรรถอ๋อง "ไอ้เครื่องของคุณนี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ผมยอมรับ ตะ แต่" พนักงานขาย "ครับ ๆ แต่ เอ่อ.....แต่ว่าผมเกรงว่าจะให้เครื่องคุณผิดไปน่ะครับ" อรรถอ๋อง "หา...ผิดเครื่องเหรอ ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมก็ชอบมันนะ" พนักงานขาย "แต่....นั่นมันเป็นเครื่องรีดนมวัวนะครับ" อรรถอ๋อง "ไม่เป็นไรหรอก แต่คุณบอกวิธีปิดเครื่องนี้หน่อยสิ ผมหาปุ่มปิดไม่เจอน่ะ อูย...... ชักจะแย่แล้วผม" พนักงานขาย "นั่นแหละครับตัวปัญหา ไอ้เครื่องนี้มันจะหลุดเองโดยอัตโนมัติ์ ถ้ามันรีดนมไดเต็มถังนะสิ ตำรวจ รถ โทรทัศน์ น้องแทมมี่.........เป็นเด็กที่พึ่งกลับจากนอกครอบครัวร่ำรวยมาก มาเรียนที่เมืองไทยได้ไม่นาน ทุกวันเวลากลับบ้านจะมีรถมารับ แต่เนื่องจาก เป็นวันแรงงานคนใช้และคนขับรถกลับบ้านกลับหมด จึงต้องกลับบ้านเอง ทางกลับบ้านน้องแทมมีต้องเดินผ่านตลาด ซึ่งมีเสียงแม่ค้าด่ากันเสียงดังมาก มีบางคำที่น้องแทมมีไม่เข้าใจ จึงกลับไปถามพี่เลี้ยงว่า "ไอ้ควาย" "จู๋" "จิ๋ม" มันคืออะไร(อันที่จริงแล้วหยาบกว่านี้) พอพี่เลี้ยงได้ฟังก็ตกใจ ทั้งถ้าแปลให้ก็กลัวคุณผู้หญิงไล่ออก ก็เลยบอกปัดไปว่า "ไอ้ควาย แปลว่า ตำรวจ "จู๋" แปลว่า รถ "จิ๋ม แปลว่า โทรทัศน์ " พอตกเย็น มีตำรวจที่เป็นเพื่อนคุณพ่อมาหาที่บ้าน น้องแทมมีเห็นเข้าก็รีบพูดขึ้นว่า "อ้าว..ไอ้ควาย เข้ามานั่งก่อน คุณพ่อกำลังล้าง จู๋อยู่ เดี๋ยวแทมมี เปิด จิ๋มให้ดู " เร็วกว่า ในวันชุมนุมสังสรรนายทหารสี่เหล่าทัพฯของไอ้กัน.. โต๊ะของท่านผู้บังคับการมีการอวดอ้างความสามารถของแต่ละเหล่าทัพข่มกัน (ผู้การทัพเรือ)...ทหารเรือมีความสามารถว่ายนำได้รวดเร็วมาก ขนาดจับทหารโยนลงไปในฝูงฉลามยังว่ายนำกลับมาขึ้นเรือโดยฉลามว่ายตามไม่ทัน (ผู้การทัพอากาศ)...ผมเห็นว่ายังช้าไป? เช้าวันหนึ่งเวลากาแฟที่ฐานทัพในฟิลิปปินส์ เด็กรับใช้กำลังตักกาแฟใส่ถ้วยให้ ผมได้รับคำสั่งด่วนให้ไปทิ้งระเบิดที่เวียดนาม จึงรีบบินไปทิ้งแล้วกลับมาดืมกาแฟ ปรากฏว่าเด็กรับใช้คนเดิมยังไม่ทันจะตักคอฟฟี่เมทใส่ถ้วยกาแฟเลย.. (ตำรวจ).....อ้อ..ท่านคิดว่าแค่นี้ไวแล้วหรือครับ?.. ผมเอ็งทุกเช้าแต่งตัวไปเข้าเวรมักจะควงปืนพกที่หน้ากระจกเงา ขณะเสียบปืนเข้าซองข้างเอวแล้ว เงาในกระจกยังควงปืนอยู่เลยครับท่าน? ทัพบก....นิ่งเฉย....เ วลาผ่านไปครู่ใหญ่สามเหล่าทัพจึงถามทัพบกว่าจะมีความสามารถอะไรมาเล่า ผู้การทัพบกจึงขอสัญญาจากทั้งสามว่า หากเล่าไปแล้วขอให้คบกันเหมือนเดิมละ... มีวันหนึ่ง.ตัวเขาเองไปดืมเหล้าบ้านเพื่อนจนดึกเลยค้างกับเพื่อน.. บ้านของเพื่อนมีห้องเดียวจึงนอนกันสามคนคือตัวเขาเองนอนซ้าย, เพื่อน(นอนกลาง)และเมียเพื่อนนอนขวา.. ด้วยความที่มีกิติศัพท์ในเรืองความรวดเร็วในเรื่องอย่างว่า..เพื่อนจึงไม่ไว้ใจ ใช้มือหนึ่งปิดของลับของเมียตัวเองใว้ตลอดคืน.. เผอิญ..ยุงบินมาเกาะหน้าผากและเผลอตบยุงเข้า พอกลับมาปิดอีกทีเพื่อนก็แปลกใจ..จึงถามเมียว่า " ทำไมมันจึงแฉะๆ " เมียเป็นงงจึงว่า " อ้าว 3 ที เมื่อกี้ไม่ใช่พี่เหรอ? " ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สามเหล่าทัพจึงหันไปคบกับกองทัพงูเห่าแทน ไม่เคยอยู่ข้างบน มีนักศึกษาอยู่กลุ่มหนึ่ง ก่อนที่จะจบการศึกษาจะต้องออกไปฝึกงาน ซึ่งต่างคนก็แสดงความประสงค์ว่าจะไปฝึกที่ใด หลังจากที่ได้รับการตอบรับของสถานที่ฝึกงานแล้ว มีการนัดหมายกันว่านักศึกษาที่ฝึกงานอยู่ใกล้กันจะต้องมีการพบกันเดือนละครั้ง ในวันที่ครบฝึกงานหนึ่งเดือนนักศึกษาก็มาพบกับ ซึ่งบางคนต้องไปฝึกงานบนดอย บางคนก็ฝึกอยู่ในเมือง พอมาพบกัน นักศึกษาต่างก็ดีใจทักทายกัน ฝ่ายที่อยู่ในเมือง: เป็นไงเธออยู่ข้างบนเป็นไงบ้าง ฝ่ายที่อยู่บนดอย: ไม่รู้สิเพราะตั้งแต่ไปฝึกงานไม่เคยอยู่ข้างบนเลย อยู่ข้างล่างทุกที ฝ่ายในเมือง: ????????????? ไม่ใช่เหมือนกัน มีซิสเตอร์คนหนึ่ง(แม่ชี-Cristain) จะต้องไปสวดมนต์ที่โบถท์ทุกวัน วันหนึ่งเธอขึ้นรถ Bus ไปคันเดียวกันกับอรรถอ๋อง อรรถอ๋องก็ตกหลุมรักกับแม่ชีคนสวย อรรถอ๋องไปถามคนขับรถด้วยท่าทางรุกรี้รุกรนเพราะอยากมีอะไรกับซิสเตอร์ใจจะขาดว่า ซิสเตอร์คนนี้ลงรถเวลานี้ทุกวันเลยหรือ คนขับก็ตอบกลับว่า ใช่เลย... คืนวันต่อมาอรรถอ๋องก็ไปดักรอซิสเตอร์ในความมืดใกล้ ๆ ป้ายแซทเทริน 115 เวลาเดิมที่ซิสเตอร์จะต้องมาลงรถทุกวัน อรรถอ๋องไปซุ่มดักรอด้วยความหื่น พอซิสเตอร์มาถึงที่อรรถอ๋องก็ปลอมตัวเป็นพระเจ้าส่งเสียงบอกซิสเตอร์ว่า "เราคือพระเจ้า เราจะส่งพระบุตรองค์ที่ 2 มาชำระบาปให้มนุษย์ต่อจากพระเยซู เจ้าจงสละพรหมจารีย์ เพื่อให้เรามอบพระบุตรไว้ในครรถ์ของเจ้า" ซิสเตอร์ตอบเสียงเบา ๆ "ดิฉันเป็นแม่ชีต้องรักษาพรมจารีย์เอาไว้ เพราะฉะนั้นท่านทำข้างหน้าไม่ได้ต้องทำข้างหลัง"(มันพอๆกันแหละ) อรรถอ๋องก็ตอบตกลงเพราะความอยากจัด เมื่อทำเสร็จภาระกิจอรรถอ๋องก็เอ่ยขึ้นว่า "ขอโทษด้วยนะซิสเตอร์ เราไม่ใช่พระเจ้าหรอกน้องขนดกเอ๋ย เราคืออรรถอ๋อง เป็นกุ๊ยอยู่แถวดาวน์ทาวน์" ซิสเตอร์ก็ส่งเสียงตอบมาว่า "ข้าก็ขอโทษด้วยเหมือนกัน ข้าไม่ใช่แม่ชีคนนั้น ข้าคือคนขับรถ!!! ทะเลาะกันมั๊ย หญิงสาวพาหลานชายนั่งรถไฟไปต่างจังหวัด เมื่อรถไฟแล่นไปจอดที่สถานีแห่งหนึ่ง พลันหลานชายก็เหลือบไปเห็นสุนัข 2 ตัวกำลังติดพันกันอยู่ ด้วยความเป็นเด็กที่ช่างพูดและขี้สงสัยสงสัยจึงหันไปถามน้าสาวว่า "น้าครับ หมามันกำลังทำอะไรกันอยู่ครับ" น้าสาว ด้วยความอายไม่รู้จะตอบหลานว่าอย่างไร จึงเลี่ยงๆตอบไปว่า "มันกำลังทะเลาะกันอยู่ค่ะ เห็นมั๊ยมันยืนหันหลังให้กันด้วย" ขณะที่ตอบอยู่นั้นเธอก็หันมาเห็นชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามนั่งอมยิ้มอยู่ เธอจึงพูดขึ้นด้วยความโมโหว่า "ยิ้มอะไร?" ชายหนุ่ม "ทำไมไม่บอกเค้าไปตรงๆ เลยว่าหมาทำอะไร" น้าสาว "มันเรื่องของฉันคุณยุ่งอะไรด้วย" ชายหนุ่ม "อ้าวก็ คุณโกหกเด็กแบบนั้นมันไม่ดี" น้าสาว "มันเรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับคุณ" ชายหนุ่มยิ้มกว้าง และพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า "ถ้างั้นเรามาทะเลาะกันซักรอบดีมั๊ย" ช่วยหน่อยนะ นายจรัญติดเกาะแห่งหนึ่ง ในเกาะนั้นไม่มีใครอยู่เลย มีเพียง หมา หนึ่งตัว และ แพะ อีก หนึ่งตัว ( 3 ชีวิต) ทุกๆวัน จรัญพยายามจะเอากะแพะให้ได้ แต่ไม่สำเร็จ เพราะหมาจะมากัดขาเขาตลอดเวลา มีอยู่วันหนึ่ง มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งได้ถูกทะเลพัดหลงมาติดเกาะเช่นกัน จรัญได้ทำการรักษาพยาบาลหญิงผู้นี้จนหายสนิท หญิงสาวรู้สึกขอบคุณจรัญมาก จึงคิดจะทดแทนพระคุณของเขา (หญิงสาว) ท่านมีพระคุณต่อข้ามาก หากท่านต้องการสิ่งใด ให้บอกข้าฯ ข้าจะยอมทุกอย่าง จะรับใช้ท่านทุกๆเรื่อง ยอมเป็นข้ารับใช้ท่านตลอดไป (จรัญ) แน่ใจนะ ว่าเจ้าจะยอมทุกอย่าง (หญิงสาว) แน่นอนคะ ชีวิตนี้ของข้าเป็นของท่านเพียงผู้เดียว จรัญได้ฟังดังนี้น จึงยิ้มดีใจสุดๆ และเอ่ยว่า " ดีมาก อย่างงั๊น เจ้าช่วยจับหมาให้แน่นๆ 5 นาที " ไม่ยอมท่าเดียว จรัญกับอรรถอ๋องขับรถกลับจากงานสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน ด้วยอาการกรึ่มๆระหว่างท่างได้เจอหมาสองตัวกำลังขึ้นขี่ กันอยู่กลางถนนจรัญจึงเบรกกระทันหัน... อรรถอ๋อง : เฮ้ยยย...เบรกทำไมวะไอ้รัญ จรัญ : ข้าเห็นมันกำลังมีความสุขว่ะไม่อยากขัดจังหวะว่ะ เดียวให้มันเสร็จแล้วค่อยไป แล้วทั้งคู่ก็นั่งดูอยู่ในรถจนเจ้าหมาทั้งคู่เสร็จธุระจึงจากไป จรัญ : เออว่ะ...กลับไปบ้านแล้วเราลองไปทำท่านี้กะเมียเรามั่งดีมั๊ยวะอ๋อง อรรถอ๋อง : เอาๆ แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ เช้าวันต่อมาทั้งคู่ก็มาเจอกัน อรรถอ๋องมาในสภาพไม่ค่อยดีนัก จรัญ : เฮ้ยอ๋อง...เป็นงัยวะ เมื่อคืนข้าลองแล้ว โห...ดีว่ะแล้วเองล่ะวะอ๋อง อรรถอ๋อง : โห...กว่าข้าจะดึงเมียข้าลงมากลางถนนได้แทบตายเลยว่ะ มันไม่ยอมท่าเดียวเลยแย่จริงๆ จรัญ : !!!!!!! ชนะกินขาด เรื่องมีอยู่ว่า...มีฝาหรั่งนายหนึ่งได้มาเที่ยวเมืองไทยแล้วก็เค้าก็อยากไปเที่ยวอย่างว่า.... แต่เนื่องจากโรคเอดส์กำลังระบาด ฝาหรั่งนายนี้ก็เลยหาวิธีป้องกันโดยการจะไปซื้อถุงยางอนามัย แกก็เดินเข้าร้านขายยา ในร้านขายยามีอาแปะเป็นคนขาย นายฝาหรั่งพูดภาษาไทยก็ไม่ได้ ภาษาจีนก็ไม่ได้ อธิบายก็ไม่ถูก คิดไปคิดมาก็นึกออกว่าจะทำอย่างไร แกก็ปลดกางเกงแล้วก็ดึงเอาไอ้นั่นของแกออกมาวางบนโต๊ะ แล้วก็วางเงินไว้ข้างๆ อาแปะตอนแรกก็งงๆ สักพักก็พยักหน้า งึดๆ แล้วแก้ก็ควักของแกออกมาวางข้างๆ ของเจ้าฝาหรั่ง แล้วพูดว่า " อั้วใหญ่กว่าอั้วกิง......" แล้วก็รวบเงินไปทั้งหมด ไม่ยอม ลูกกับพ่อเข้าห้องน้ำพร้อมกันจึงเกิดปัญหาขึ้น ลูก : ผมไม่ยอมทำไมของผมไม่เหมือนของคุณพ่อ แม่ไม่ยุติธรรม เลย พ่อ : เหมือนกันนั่นแหละลูก ลูก : ไม่เหมือน ของผมสั้นกว่า ของพ่อใหญ่กว่า ของผมขนน้อยกว่าของคุณพ่อด้วย ผมไม่ยอม พ่อ : ไม่เป็นไร...พรุ่งนี้พ่อจะให้คุณแม่เปลี่ยนให้ใหม่ เอาให้อัน ใหญ่ๆ ยาวๆ เหมือนของคุณพ่อเลย แต่พ่อว่าวันนี้ลูกทนใช้แปรงอันนี้ไปก่อนนะ มีท่อนกลาง ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง กลุ่มพยาบาลคุยกันถึงคนไข้ที่ตัวเองดูแลอยู่ พยาบาลวัยสี่สิบ:นี่สาวๆพี่ไปเช็ดตัวให้คนไข้เตียงสิบมานะสงสัยตาคนนี้มีเมียชื่อฟ้านะ พยาบาลวัยยี่สิบ:ทำไมพี่รู้ล่ะ พยาบาลวัยสี่สิบ:ก็เขาสักไว้ที่ไอ้จู๋ว่า"รักฟ้า"..ไม่เชื่อก็ไปดูสิ อีกวันต่อมา.... พยาบาลวัยยี่สิบ:พี่...พี่เข้าใจผิดแล้วละเขาไม่ได้มีเมียชื่าอฟ้าหรอกคนไข้เตียงสิบน่ะ พยาบาลวัยสี่สิบ:อ้าว..รู้ได้ไงล่ะ พยาบาลวัยยี่สิบ: ก็วันนี้หนูเช็ดตัวให้เขา..เห็นรอยสักนั่นอ่านว่า.. 'รักคุณเท่าฟ้า' ต่างหากล่ะจ๊ะ ยังเหลืออีกเยอะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีหนุ่มชาวเขา "เผ่าหนึ่ง" ได้หมั้นหมายกับสาวน้อยแรกรุ่นต่างเผ่า ด้วยความคิดถึงทรวดทรงอันอวบอิ่ม สมวัยแรกสาวบานสะพรั่งของคู่มั่นหมาย...หนุ่มเผ่าเต๋า ตั้งใจว่ารุ่งขึ้นจะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนคู่หมั้นสาวให้หายคิดถึง เย็นวันนั้นหนุ่มเผ่าเต๋าบอกกับแม่ของเขาว่า กางเกงในที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้วใส่ มา 3 เดือนไม่เคยเปลี่ยนเลยแม่ช่วยไปซื้อผ้ามาตัดให้ใหม่ที แม่ของหนุ่มเผ่าเต๋ารีบรุดออกไปตลาดซื้อผ้าใหม่มา 5 เมตร และตัดเย็บกางเกงในอย่างปรานีตสุดฝีมือให้หนุ่มเผ่าเต๋าของเรา 3 ตัวโดยใช้ผ้าไปหมดไป 2 เมตรยังเหลือเก็บใว้ 3 เมตร รุ่งเช้าหนุ่มเผ่าเต๋าของเรารีบใส่กางเกงในตัวใหม่ แล้วสวมผ้าเตี่ยวทับและออกเดิน ทางไปหาคู่หมั้นสาวทันทีมิรั้งรอ ระหว่างทางเกิดปวดท้องหนักกระทันหัน ต้องแวะต้นไม้ข้างทางเพื่อปลดทุกข์ หนุ่มเผ่าเต๋ากลัวกางเกงในตัวใหม่ จะเปื่อนเสียก่อนจึงถอดแขวนไว้กับกิ่งไม้ แต่ด้วยอารามรีบร้อนอยากพบหน้าคู่หมั้นสาว เมื่อเสร็จภาระกิจก็รีบออกเดินทางในทันที ... อนิจจาหนุ่มเผ่าเต๋าของเราลืมใส่กางเกงในที่แขวนไว้กลับคืน เมื่อเดินทางมาถึงบ้านคู่หมั้นสาวในตอนเย็นว่าที่พ่อตาได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน โดยทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น หนุ่มเผ่าเต๋าเลือกนั่งตรงข้ามกับคู่หมั้นสาวเพื่อจะโชว์กางเกงในตัวใหม่ของเขาให้คู่หมั้นสาวดู หนุ่มเผ่าเต๋าพยายามนั่งกางขาเต็มที่เพื่อให้คู่หมั้นสาวได้เห็นกางเกงในตัวใหม่ ของเขาได้ชัดๆ เต็มตา เมื่อคู่หมั้นสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผ้าเตี่ยว...ก็เกิดอาการช๊อคอ้าปากค้าง ...หนุ่มเผ่าเต๋ากระหยี่มใจคิดว่าคู่หมั้นสาวประทับใจในกางเกงในตัวใหม่ของเขาจึง ลองถามออกไปว่า "ชอบไหมจ๊ะที่รัก..ผมยังมีเหลืออีก 3 เมตรเก็บไว้ที่บ้านนะ" คู่หมั้นสาวเป็นลมหงายหลังตึงในทันที ม้าหัวเราะ มีมหาเศรษฐีอยู่คนหนึ่ง มีเงินมากมาย แต่งกมาก อยู่มาวันหนึ่งนึกเซ็งๆ ไม่รู้จะทำอะไรให้มันสนุก ก็หาเกมส์มาให้เล่นกันว่า ถ้าใครสามารถทำให้ม้าหัวเราะได้ เราจะให้เงิน 1000 ตำลึง หากม้าไม่หัวเราะจะต้องเสียทอง 20 ตำลึงให้แก่เศรษฐี ก็มีผู้คนมาสมัครมากมาย แต่ก็ต้องเสียเงิน 20 ตำลึงให้แก่เศรษฐี ทำให้เศรษฐีร่ำรวยขึ้นอีก อยู่มาวันหนึ่ง มีเงาะป่ามารับคำท้าเศรษฐี เงาะป่าเพียงแต่ไปกระซิบที่ข้างหูม้า ม้าก็หัวเราะร้อง ฮี้ ๆๆๆ ผู้คนที่มาดูต่างตบมือในความสามารถ และก็สงสัยว่าม้าทำไมจึงหัวเราะ ฝ่ายเศรษฐีก็เหงื่อตกที่ต้องสูญเสียเงิน 1000 ตำลึงให้แก่เจ้าเงาะป่าไป จึงออกอุบายไปว่า "เจ้าเงาะป่า ถ้าเจ้าสามารถทำให้ม้าร้องให้ได้ ข้าจะให้เงินเจ้าอีก 1000 ตำลึง หากเจ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องคืนเงิน 1000 ตำลึงให้แก่ข้า" เงาะป่าก็รับคำท้า แค่เดินไปใกล้ๆ ม้า สักครู่เดียว ม้าตัวนั้นก็ร้องไห้ออกมา เศรษฐีเห็นดังนั้นก็แทบเป็นลม จำเป็นต้องจ่ายเงินอีก 1000 ตำลึงให้แก่เจ้าเงาะป่า แล้วถามว่าเจ้าทำยังไง จึงสามารถทำให้ม้าหัวเราะและร้องไห้ได้ เงาะป่ารู้ว่าเศรษฐีเป็นคนงก ก็อยากจะดัดนิสัย ก็บอกว่าถ้าจะให้เฉลยต้องจ่ายมาอีก 100 ตำลึง ไม่งั้นไม่เฉลย เศรษฐีก็ยอมจ่าย เงาะป่าก็บอกว่า ทำให้ม้าหัวเราะ ก็แค่บอกว่า " ของข้าใหญ่กว่าของเจ้า" ม้าได้ฟังก็หัวเราะ เพราะนึกว่าของมันเองใหญ่กว่าใครอยู่แล้ว เศรษฐีก็ถามว่า แล้วม้าร้องไห้ล่ะ เงาะป่าก็ตอบว่า "ข้าก็เปิดให้เจ้าม้านั่นดูเท่านั้นเอง แก่แล้วแต่วิเศษมาก อรรถอ๋องต้องการเอาใจแกมกระเซ้าร่านศรีภรรยาด้วยการซื้อเค้กวันเกิดครบรอบปีที่ 35 เมื่อไปถึงร้านขนมเค้กชื่อดังก็สั่งให้จัดเค้กขนาดสามปอนด์พร้อมให้เขียนคำอวยพรลงบนหน้าเค้ก อรรถอ๋อง: ช่วยเขียนคำว่า "เธอแก่แล้วนะ" และคำว่า "แต่ก็วิเศษมาก" พนักงานขาย: พี่จะให้จัดตัวเขียนยังไงคะ อรรถอ๋อง: ช่วยวางคำว่า "เธอแก่แล้วนะ" ตรงข้างบน ส่วนคำว่า "แต่ก็วิเศษมาก" ตรงข้างล่าง เมื่อถึงวันเกิดของภรรยาสุดที่รัก อรรถอ๋องก็จัดการเอาขนมเค้กที่เตรียมไว้ส่งให้ทันที เมื่อร่านศรีเปิดกล่องเค้กท่ามกลางบรรดาแขกไฮโซฯ ไฮซ้อ ที่มางานทั้งหลายก็เกิดอาการหน้าแดงก่ำ ด้วยความโกรธระคนความอาย ทำให้อรรถอ๋องเกิดความงงเป็นอันมาก จึงได้มองดูที่เค้กซึ่งมีคำอวยพร ของตนเขียนไว้ว่า "เธอแก่แล้วนะ ตรงข้างบน" "แต่ก็วิเศษมาก ตรงข้างล่าง" มือใหนอีก หญิงสาวนางหนึ่งถูกข่มขืน ไปแจ้งความที่โรงพัก ร้อยเวรเป้ : ใหนคุณลองเล่ารายละเอียดสิครับ หญิงสาว : ดิฉันเดินเข้าซอยมา ซอยมันเปลี่ยวแล้วก็มืดมากเลยค่ะ ดิฉันเดินอยู่ดี ๆ ก็ถูกมันล๊อคคอดึงเข้ามุมมืด มือข้างหนึ่งมันล๊อคคอดิฉัน มือหนึ่งมันล๊อคเอว แล้วกระโปรงกับกางเกงในดิฉันก็ถูกถอดออก ร้อยเวรเป้ : มันมากันกี่คนครับ หญิงสาว คนเดียวค่ะ ร้อยเวรเป้ : เอ๊ะ เดี๋ยวลองเล่ารายละเอียดอีกครั้งสิครับ หญิงสาว : มันล๊อคคอดิฉันดึงเข้ามุมมืด มือข้างหนึ่งมันล๊อคคอ มือหนึ่งมันล๊อกเอว แล้วก็ถอดกระโปรงกับกางเกงในดิฉันออก ร้อยเวรเป้ : เดี๋ยวนะครับ มือข้างใหนล๊อคคอครับ หญิงสาว : มือซ้ายค่ะ ร้อยเวรเป้ : มือข้างใหนกอดเอวครับ หญิงสาว : มือขวาค่ะ ร้อยเวรเป้ : อ้าวก็มือข้างหนึ่งล๊อคคอ ข้างหนึ่งล๊อคเอว แล้วมือข้างใหนถอดกระโปรงล่ะครับ หญิงสาว : มือดิฉันเองค่ะ ร้อยเวร : !!!!!

1