หน้าแรก

หลักการทำงาน

อุปกรณ์สำคัญ

ขั้นนตอนการดำเนินงานและงบประมาณ

ผู้จัดทำ

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ


*** ยินดีต้อนรับสู่ My Project ***

การฉายแสง uv-c ฆ่าเชื้อโควิด19 ด้วยรถบังคับผ่านแอปพลิเคชัน ( Blynk)

UV-c irradiation Sterilize COVID-19 With a controlled car through an application.(Blynk)


อาจารย์ที่ปรึกษา

อาจารย์ สัญญา ผาสุข

ความเป็นมาและความสำคัญ

ประเทศไทยพบการระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด19 ในช่วงปลายปี 2563 จากการพบผุ้ป่วยจำนวนมากในช่วงนี้ อาจารย์ สัญญา ผาสุข จึงได้แนะนำคณะผู้จัดทำให้ทำโครงงานรถรถบังคับฉายแสง UV-C ที่สามารถกำจัดเชื้อโรคโควิด -19 โดยการควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือนี้ ซึ้งมีเคลื่อนที่โดยมีหลักการทำงานคือ เข้าสู่แอปพลิเคชันเพื่อบังคับรถฉายแสง UV-C แบบเรียลไทม์และควบคุมการเปิด-ปิด หลอดไฟได้ตามที่ต้องการและใช้กล้องเรียลไทม์แทนการมองด้วยตาเปล่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อร่ายกาย จึงเปลี่ยนแปลงมาใช้รถบังคับผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อการกำจัดเชื่อโรคโควิด -19 ทางคณะผุ้จัดทำจึงเล็งเห็นว่าการจัดทำรถบังคับฉายแสง UV-C ผ่านแอปพลิเคชัน Blynk เพื่อแก้ปัญหานี้

วัตถุประสงค์ของโครงงาน

1. เพื่อผลิตสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด 19 ได้
2. เพื่อสร้างรถบังคับฉายแสง uv ในที่ไม่มีคนโดยควบคุมจากระยะไกล
3. เพื่อสร้างและแอบพลิเคชั่นในการควบคุมระยะไกล
4. เพื่อประยุกต์ใช่กล้องแบบเรียลไทล์

ขอบเขตของโครงงาน

1. สร้างตัวรถบังคับที่สามารถพาเครื่องฉายแสงuv-cและสามารถควบคุมจากระยะไกลด้วยแอบพิเคชั่น
2. สามารถควบคุมการฉายแสงจากระยะไกลได้
3. สามารถใช่แสงฆ่า covid 19 ได้

หลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง

1.รังสี UV-C

รังสี UV-C เป็นที่รู้กันดีว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อสำหรับอากาศ พื้นผิว วัตถุ และน้ำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และมีการใช้กันอย่างแพร่หลายมานานกว่า 40 ปีแล้ว แบคทีเรียและไวรัสทุกชนิดที่ทำการทดสอบกันมาจนถึงปัจจุบัน (หลายร้อยชนิดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ) ล้วนตอบสนองต่อการฆ่าเชื้อโรคด้วยรังสี UV-C ในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ แหล่งกำเนิดแสง UV-C ของเรายับยั้งไวรัส SARS-CoV-2 ได้ 99% บนพื้นผิวที่ได้รับแสงเป็นเวลา 6 วินาที ถือเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่ารังสี UV-C มีส่วนสำคัญในกลยุทธ์การป้องกันดูแลสุขภาพของคุณได้


2.Wifi

Wi-Fi (wireless fidelity ) หมายถึง องค์กรที่ทำหน้าที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ระบบเครือข่ายแบบไร้สาย (Wireless Lan) ภายใต้เทคโนโลยีการสื่อสารมาตราฐาน IEEE 802.11ว่าอุปกรณ์แต่ะละยี่ห้อกันนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งเมื่ออุปกรณ์เหล่านั้นผ่านการตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อุปกรณ์ก็จะถูกประทับตราสัญลักษณ์ Wi-Fi Certified รับรองว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นสามารถติดต่อสื่อสารกับอุปกรณ์ตัวอื่นๆที่มีตราสัญลักษณ์ Wi-Fi certified ได้


3.Blynk

Wi-Fi (wireless fidelity ) Blynk เป็นแพลตฟอร์ม ที่เป็นแอปพลิเคชัน ด้วย iOS และ Android เพื่อควบคุม Arduino, Raspberry Pi บนระบบอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นแผงควบคุมระบบดิจิตอลที่ผู้ใช้สามารถสร้างส่วนต่อประสานกราฟิกสำหรับโครงการของผู้ใช้โดยการลากและวางเครื่องมือ (widgets) ที่มีให้เลือกอยู่หลากหลาย เป็นเรื่องที่ง่ายมากในการตั้งค่าทุกอย่างและคุณจะเริ่มใช้งานได้ในเวลาไม่ถึง 5 นาที Blynk ไม่ได้ผูกติดอยู่กับบอร์ดหรือบอร์ดเสริมบางตัว แต่จะสนับสนุนฮาร์ดแวร์ที่นักพัฒนาเลือก ไม่ว่าจะเป็น Arduino หรือ Raspberry Pi จะเชื่อมโยงกับอินเทอร์เน็ตผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) หรือแบบมีสาย จะช่วยให้อุปกรณ์ของนักพัฒนาออนไลน์และพร้อมสำหรับ Internet of Things (loT)


4.IoT

Wi-Fi (wireless fidelity ) ในยุคที่ทุกๆ สิ่งมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและไม่หยุดยั้ง Internet of Things หรือ IoT คือสิ่งสำคัญที่เข้ามามีบทบาททั้งในด้านการใช้งานในชีวิตประจำวันหรือในการทำงานก็ตามซึ่ง IoT นั้นเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและน่าสนใจมากๆ เพราะเป็นการเชื่อมทุกสิ่งเข้าหากันผ่านอินเทอร์เน็ต ทั้งในส่วนของโทรทัศน์ เครื่องคอมพิวเตอร์ นาฬิกา หลอดไฟ รถยนต์ ไปจนถึงการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตและส่งข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ หรือแม้กระทั่งการควบคุมระบบหรือแอปพลิเคชันผ่านทางสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เป็นต้น Internet of Things คือเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ สามารถเชื่อมโยงและรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้อย่างง่ายดายและสามารถสั่งการเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้ผ่านทางระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น Smart Device, Smart Home, Smart Network เป็นต้น ซึ่งการเชื่อมโยงนั้น จะสามารถเก็บและรวบรวมข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้แล้ว ยังมีระบบคลาวด์ที่จัดเก็บและประมวลผลข้อมูลผ่านออนไลน์ โดยที่เราสามารถควบคุมหรือกำหนดความเป็นส่วนตัวและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา ประโยชน์ในการใช้งาน IoT คือการที่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับส่งข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล ตลอดเวลา และสามารถทำงานได้ทันที อีกทั้งยังช่วยในการลดภาระงานของบุคลากร รวมไปถึงการเข้าไปตรวจสอบในจุดที่อาจตกหล่น ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย นอกจากนี้แล้ว สิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกับ Internet of Things คือการจัดการข้อมูลและวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างทันท่วงทีและในรูปแบบเรียลไทม์ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่หรือจัดการข้อมูลระดับย่อย การเชื่อมต่อระบบอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย AI การทำงานในยุคปัจจุบันนี้ Internet of Things คือตัวช่วยที่เข้ามาทำให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาทำงานในด้านธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์การพัฒนาและการนำข้อมูลที่รวบรวมไว้เป็น Big Data ที่สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคอย่างแท้จริง และเพื่อพัฒนาระบบธุรกิจให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นสำหรับองค์กรธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการปรับตัวให้พร้อมกับการโลกแห่งอนาคตที่จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการทำงาน โดยเฉพาะการใช้งานระบบคลาวด์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน Internet of Things ที่สำคัญในการทำงานอย่างมาก เพื่อการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมไปถึงการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาเชื่อมต่อเข้ากับระบบต่างๆ เพื่อให้สามารถทำงานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย


www.000webhost.com