หน้าแรก I ประวัติพระพุทธเจ้I บททำวัตรเช้า-เย็น แปล I ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก I ตู่มือมนุษย์I การฝึกใจ l มงคลชีวิต ๓๘ ประการ

 

 

ตัวไกล-ใจใกล้


พระอยู่ที่ใจ

 

 

ทำอย่างไรเราจะได้ยึดหลักพระพุทธเจ้าไว้ในตัวเรา
ซึ่งเราก็ไม่มีโอกาสจะได้เข้าวัด
เพราะการงานหน้าที่ ภาระรับผิดชอบในครอบครัวมีมาก
แต่ความเป็นจริงคนเราแม้จะอยู่ไกลวัดก็ตาม
สำคัญอยู่ที่เราเข้าใจหลักชีวิตของเราว่าทำอย่างไร
ตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ใกล้

คนที่ตัวอยู่นอกวัดแต่ใจอยู่ในวัดนั่นนะทำอย่างไรก็ต้องมีคนมีเมตตา
เป็นคนไม่โกรธ และชนะใจตัวเอง ไม่เบียดเบียนใคร

สงเคราะห์ผู้อื่นเท่าที่เราจะสงเคราะห์ได้
ตามฐานะที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ร่วมโลกกัน
คนที่ทำความดีได้ เขาเรียกคนใจมีศีล ใจมีสัจจะ เป็นคนไม่พูดจาโกหก ไม่หลอกลวง
ไม่พูดจาหยาบคาย มีความสุภาพ อ่อนโยน
ถือว่าใจใกล้วัดเป็นคนที่ไม่เอาเปรียบคนอื่น เสียสละเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ มีเมตตา

คนเราถ้ามีธรรมะ เรียกว่ามีพระอยู่ในใจ มีพระพุทธเจ้าอยู่ในใจ มีพระธรรมเจ้าอยู่ในใจ คอยตักเตือนสั่งสอนใจเรา มีพระอริยเจ้า คือเป็นผู้มีใจประเสริฐอยู่เหนือจิตใจมนุษย์ เป็นที่เสียสละสูงอันนี้ถือว่ามีพระอยู่ในใจแล้ว ถึงเราจะอยู่ห่างวัดแต่ขอให้ใจดี ให้นึกถึงเรื่องความดีของเราที่เราได้ทำทุกครั้งไป จะเป็นการให้ การเสียสละอะไรก็สุดแล้วแต่ ก็ถือว่าเป็นความดีที่เราทำไว้ การรวบรวมจิตใจเราให้สงบ ก็ถือว่าเป็นการระมัดระวังใจไม่ให้เกิดทุกข์ เรียกว่าเป็นคนชนะความโกรธได้ ถือว่าพระอยู่ในใจแล้ว

พระอยู่ที่การปฏิบัติ

คนเราเมื่อตกอยู่ในทาสของอารมณ์ มีความโกรธ ความเกลียด จิตใจว้าวุ่น ไม่เคยสงบ เป็นคนเจ้าอารมณ์ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ถึงจะอยู่ในวัดก็ไม่มีความสุข ก็เหมือนคนอยู่นอกวัด ฉะนั้นธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า สอนให้เราเอาไปด้วย สอนให้เรากินเป็นสุขนอนเป็นสุข นั่งเป็นสุข ให้ตัดทุกข์ ฉะนั้นเราจะอยู่ที่ไหน เราก็เอาวัดไปด้วย เอาพระไปด้วย

เราต้องนึกว่า พระพุทธเจ้านั้นไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูป พระธรรมคำสอนไม่ได้อยู่ที่ตู้พระไตรปิฎก พระสงฆ์ไม่ได้อยู่ที่วัด คุณธรรมของพระพุทธเจ้า คุณธรรมของพระสงฆ์นั้นอยู่ที่ผู้ปฏิบัติตาม ผู้ใดปฏิบัติตามคนนั้นชื่อว่าเข้าถึงพระรัตนตรัย เข้าถึงวัด เข้าถึงพระธรรม เข้าถึงศาสนาได้ คนถึงจะกินในวัด นอนในวัด แต่ไม่เคยปฏิบัติศีลเลย หรือว่าเป็นคนไม่มีวิปัสสนา คือไม่พิจารณา รู้จักละทุกข์ได้เลย เป็นคนเจ้าอารมณ์ อยู่ตลอดเวลา

เมื่อเป็นดังนั้นแล้วเราจะอยู่ในวัดเท่าไหร่เราก็ไม่ดับทุกข์เหมือนไม่ได้เข้าถึงพระพุทธเจ้า ฉะนั้นญาติโยมอย่างได้คิดว่าเราอยู่ไกลวัด เราเป็นชาวพุทธเราก็ต้องคิดว่าพระพุทธเจ้าอยู่ที่ผู้ปฏิบัติตามทำอย่างไรเราจะเป็นคนใจดีใจเย็น เป็นคนไม่โกรธ ที่เอาพระคล้องคอ แต่มีควาามโกรธมาก มีความอิจฉาริษยาเขามาก ถึงจะมีพระคล้องคออยู่แต่ใจเขาก็ไม่เป็นพระ แต่คนไม่มีพระคล้องคอเลยแต่เขานึกถึงพระอยู่เรื่อย คิดจะทำความดีอยู่เรื่อยไม่อาฆาตพยาบาทใคร เพระาทำใจดีได้ พระก็ปรากฏอยู่ในใจ

เข้าวัดด้วยการทำใจ

บุคคลที่ปฏิบัติเข้าถึงธรรมะเท่านั้น จึงจะรู้บาปบุญ นรก สวรรค์ นิพพาน เพราะต้องดูด้วยปัญญาที่จะต้องฝึกให้เกิดขึ้นก็ต้องศึกษาจากสติ สมาธิเข้าไปถึงความสงบ แล้วจึงจะมีญาณ มีปัญญารู้เห็นว่า บาป บุญ สวรรค์ นิพพานอยู่ที่ใจคน ประตูใจเท่านั้นเองที่เราจะเปิดให้ดูได้ว่าทำบุญแล้วได้บุญอย่างนี้เอง เพราะทำบุญแล้วใจดี ใจสงบ ทำบาปแล้วร้อนใจทุกข์ใจ เป็นนรกอย่างนี้เอง นิพพานทำแล้วรู้จักดับทุกข์ พอโกรธแล้วไม่โกรธต่อ เป็นผู้มีสติปัญญาระวังใจ อะไรมากระทบใจก็มีปัญญาดับ เคยชังใครก็ดับวางได้หมด นั่นคือนิพพาน ที่เราเห็นศาสนาเห็นอย่างนี้ ที่เราอยู่ใกล้วัด เราอยู่อย่างนี้

เราจะไปอยู่ประเทศใด อยู่เมืองใด เราก็มีพระ มีวัดของเราอยู่ในใจแล้ว เราก็เข้าใจศาสนาพุทธอยู่ตลอดเวลา เพราะพระพุทธองค์สอนเรื่องนามธรรม สอนให้คนแก้ปัญหาหัวใจตัวเอง ให้รู้จักโทษ รู้จักทุกข์ รู้จักสิ่งที่เกิดทั้งหลาย เกิดจากใจเรา ถ้าเราทำใจให้มีธรรมะได้แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีไปหมด ฉะนั้นเราเข้าถึงวัดก็คือ พยายามไม่โกรธทำใจให้ผ่องใส ไม่คิดประทุษร้ายผู้อื่น มีเมตตาธรรม นั่นแหละเข้าถึงพระธรรมคำสอนได้ดี พระพุทธเจ้าทรงยกย่องบุคคล ที่เข้าถึงธรรมโดยสัจธรรม โดยนามธรรม โดยคุณธรรม ด้วยจิตใจอย่างนี้ ไม่ใช่โยมไปวัดทุกวันๆ แต่โยมไม่เคยเลิกโกรธเลย ไม่เคยเลิกเล่นการพนันเลย ก็ไปวัดแต่ตัว แต่ใจไม่เข้าถึงเลย ก็ไปวัดแต่ตัว แต่ใจไม่เข้าถึงเลย อันนี้เราคงเข้าใจกันนะว่า เราเข้าถึงวัดแล้วด้วยการทำใจ

ถ้าเราอยากจะถึงได้ง่ายๆ ก็ทำอย่างนี้ก็แล้วกัน ก็ถึงทุกวัน ก่อนนอนกราบพระไหว้พระ คิดถึงครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วภาวนาสัก ๕ นาที หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ แล้วก็นอนพุทโธจนกลับไป นั่นนะเข้าถึงวัด

ถ้าเราถึงตลอดวันทำไง เดินก็พุทโธ นั่งก็พุทโธ นอนก็พุทโธ จะทำการงานอะไรก็นึกถึงพุทโธ อย่างนั้นเรียกว่าเข้าถึงวัด คือการระลึกดีมีสติสัมปชัญญะ พระอยู่ตรงนี้เอง เราปฏิบัติตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเข้าวัดอยู่ที่บ้านก็ได้ เข้าวัดนี้เหมือนกับเป็นสิ่งที่สอนสั่งเราให้ทำความดีได้ง่ายขึ้น เหมือนกับเราเรียนมหาวิทยาลัย เรียนที่บ้านก็ได้ แต่ไม่มีคนแนะนำ เราเข้าวัดพระจะสอนให้เราทำความดีอย่างไร เดินจงกรมอย่างไร ทำสามธิอย่างไร ทำอย่างไรเราจะรวบกาย วาจา ใจ เหมือนเราไปเรียนสิ่งที่ดีออกมา แท้จริงเราไปเรียนเพื่อมาทำที่บ้านเรา คนไม่รู้เรื่องก็คิดว่าจะต้องเข้าวัดอยู่ตลอดเวลา มีวัดก็เหมือนมีมหาวิทยาลัย มีแต่มหาวิทยาลัย ทางวิญญาณที่สอนแต่สิ่งที่ดี ไม่กินเหล้า ไม่ทุจริต ทุกวันนี้เราไม่มีเวลาเข้าวัด ก็เหมือนกับเราไม่มีเวลาไปเรียน

ถ้าเรามีวัดมีมหาวิทยาลัย คนที่มีเวลามากก็เรียนที่มหาวิทยาทุกวัน คนที่มีเวลาเรียนน้อยก็เรียนที่บ้าน เข้าวัดก็เช่นกัน ถ้าไม่มีเวลาเราเข้าที่บ้านก็ได้ ปฏิบัติที่บ้าน ภาวนา ปฏิบัติตัวเป็นคนดี ไม่ทอดทิ้งหน้าที่ อุปการะพ่อแม่ ญาติพี่น้องไม่ให้เดือดร้อน เราทำสิ่งนี้ได้ก็เหมือนเรามีศาสดาอยู่ในใจ ถ้าเราเข้าใจ อย่างนี้แล้ว เราเข้าวัดได้ เข้าถึงศาสนาเข้าถึงพระธรรม ความดับทุกข์ได้ ใช่ไหมโยม?

ที่จริงพระพุทธเจ้าต้องการให้เราพุทโธเท่านั้น เป็นคนใจเย็น เป็นคนใจดี ถ้าทำได้ก็มีความสุข เราเรียกว่าบุญ บุญเกิดที่การกระทำใจให้สงบ จากการทำความดี เสียสละ มันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในใจเรา เพราะบุญอันนี้นำความสุขมากให้ทุกคน วันนี้เราทำวัดที่ใจ บ้านก็จะไม่วุ่นวาย ธรรมะสอนให้เราทำใจ อยู่ที่บ้าน พระพุทธเจ้าจะให้เราทำใจ ทำตัวเราให้ดี ถึงเราไม่บวช เราก็ทำใจได้ เป็นพระเราต้องรู้จักชีวิตของเรา เราต้องแก้อารมณ์ที่ตัวเราให้ได้ ธรรมะที่เรา ฝึกนี้เป็นสิ่งที่ดี มีคุณธรรมมาก พยายามภาวนาให้เป็น ให้เห็นตัวเราให้มากๆ ถ้าเรารู้ใจตัวเองมากๆ ก็จะดับได้ทันที เขาเรียกว่ารู้ใจตัวเอง ต้องให้มองตัวเองให้มากๆ ถ้าคิดทำอย่างนี้จะเรียกว่าคนชนะใจตัวเอง มีพระคุ้มครองใน


จิตที่ฝึกฝนเป็นธรรมะ

ธรรมสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าพวกเราสามารถประพฤติปฏิบัติ ก็สามารถที่จะพัฒนาจิตของเราให้ดีขึ้นได้ แต่คนเราก็ไม่ได้เข้าถึงกัน ถือว่าเป็นของยาก ..ไม่จริง.. ธรรมะคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ที่ลมหายใจอยู่แล้ว บุญก็อยู่กับลมหายใจ บาปก็อยู่กับลมหายใจ ถ้าเราต้องการให้เกิดความสงบสุข ในจิตใจของเราละก็ดูลมหายใจ พอเรารู้จักตัวเอง ก็เริ่มรู้จักธรรมะ รู้จักดับทุกข์ที่ใจ ทำบุญอะไร บุญก็เกิดหมด จะให้ทาน ทานก็มีผลมาก จะรักษาศีล ศีลก็มีอานิสงส์มาก เป็นผลคูณธรรมะไปหมด

ฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับจิตที่เราฝึกฝน ถ้าเราได้เข้ามาถึงศีลธรรมแล้วจะเป็นคนรู้จักบาปบุญ การจะคิดถึงพระ จะทำบุญ เราจะต้องคิดถึงตอนเป็นๆ ตอนดีๆ จะไปรอแก่ รอเจ็บ มันประมาทไป เราต้องศึกษาธรรมะตั้งแต่ตอนนี้เลย และนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เราจะเห็นอานิสงส์อย่างมากมาย ในชีวิตที่เราเข้ามาถึงพระรัตนตรัย พยายามสวดมนต์นั่งสมาธิไป เรามีชีวิตที่เป็นประโยชน์ อย่าไปมีชีวิตที่ไม่เกิดประโยชน์

ดับข้อง..ไขใจ

..การฆ่าสัตว์เพื่อนความอยู่รอด เพื่อรับประทาน เป็นอาชีพสุจริตที่ไม่สามารถเลือกได้ ทำไมจึงบาปค่ะ? ส่วนพระภิกษที่ไม่ได้ฆ่าเองแต่ก็ฉันจะถือว่าบาปหรือไม่คะ?

..การฆ่าสัตว์เพื่อนำมารับประทาน ก็ยังถือว่าเป็นการทำลายชีวิตเขาเหมือนกันจึงเป็นบาป ส่วนพระภิกษุที่ฉันเนื้อสัตว์ที่ผู้อื่นฆ่ามาถวายถือว่าไม่บาป แต่เนื้อนั้นจะต้องบริสุทธิ์โดยส่วน ๓ คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่สงสัยว่าเขาฆ่ามาเพื่อถวายและต้องไม่ใช่เนื้อที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามมิให้พระภิกษุฉัน ซึ่งมีอยู่ ๑๐ อย่าง คือ เนื้อมนุษย์, สุนัข, ม้า, งู, หมี, เสือเหลือง, เสือโคร่ง, เสือดาว, สิงห์โต, ช้าง นอกจากนั้น ขณะที่ฉันจะต้องฉันด้วยปัญญาจึงจะไม่บาป

..แล้วพวกที่ฆ่าสัตว์เพื่อนำมาถวายพระจะบาปไหม?

..สมัยที่พระพุทธเจ้าไปอยู่ป่าเรไลยก์ ไม่ให้ใครตามไปด้วยเลย มีช้างกับลิงอยู่ในป่าพบพระพุทธเจ้าก็เข้าไปปรนนิบัติ ช้างเอาไม้มาสีไฟให้ลุกแล้วเอาก้อนหินมาใส่ พอก้อนหินร้อนก็กลิ้งลงไปในอ่างน้ำ จากนั้นจึงเอากระบวยตักน้ำอุ่นมารดพระพุทธเจ้า เสร็จแล้วก็ไปเก็บผลไม้มาถวายพระพุทธเจ้า

ส่วนลิงก็ไปหักรังผึ้งมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เฉย ไม่รับ เพราะว่ามันมีตัวอ่อนของผึ้ง ลิงก็พิจารณาว่า พระพุทธเจ้าไม่เสวยสัตว์ที่มีชีวิต แต่พระพุทธเจ้าต้องเสวยน้ำผึ้ง ลิงจึงไปทำการหยิบตัวอ่อนออกหมด แล้วก็นำเอาแต่น้ำผึ้งมาถวายใหม่ คราวนี้พระพุทธเจ้าทรงเสวย ลิงก็ดีอกดีใจกระโดดไปกระโดนมาจนพลัดตกลงมาตาย ด้วยอานิสงส์ผลบุญที่ถวายน้ำผึ้ง ทำให้ลิงไปจุติเป็นเทวดา

เรื่องนี้เป็นตัวอย่างได้ ก็แสดงว่าแม้ลิงทำบาป แต่คุณประโยชน์ของการทำนั้นมีมากกว่า...

 

Next : Page 3>>

หน้าแรก I ประวัติพระพุทธเจ้I บททำวัตรเช้า-เย็น แปล I ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก I ตู่มือมนุษย์I การฝึกใจ l มงคลชีวิต ๓๘ ประการ

Non Copyright 2002. Buddhamamaka Home Page. All Rights Reserved. Comment or suggestion : [email protected]

 

Hosted by www.Geocities.ws

1