บริเวณหุบเขาลุ่มน้ำแม่กลองตอนบน
หุบเขาลุ่มน้ำแม่กลอง อันเป็น
ผืนป่าตะวันตกแหล่งมรดกโลก

น้ำตกทีลอซูไหลจากห้วยกล้อทอลงมาตามผาหินปูน ก่อนจะผ่านไปลงน้ำแม่กลอง
น้ำตกทีลอซูไหลจากห้วยกล้อทอลงมา
ตามผาหินปูนก่อนจะผ่านไปลงน้ำแม่กลอง

น้ำตกทีลอจ่อ อันเป็นน้ำตกหินปูน ปกคลุมด้วยมอสและเฟิร์น
น้ำตกทีลอจ่อ อันเป็นน้ำตก
หินปูน ปกคลุมด้วยมอสและเฟิร์น

ช้างแห่งบ้านทิโพจิชุมชนกะเหรี่ยงในอุ้มผาง
ช้างแห่งบ้านทิโพจิชุมชนกะเหรี่ยงในอุ้มผาง

บ้านหลังคาปีกไม้อันสวยงามของชาวกะเหรี่ยง
บ้านหลังคาปีกไม้อันสวยงามของชาวกะเหรี่ยง

พระฤาษีและลูกศิษย์พร้อมกับงาช้างโบราณแห่งบ้านเลตองคุ
พระฤาษีและลูกศิษย์พร้อมกับ
งาช้างโบราณ แห่งบ้านเลตองคุ

การล่องแม่กลองด้วยเรือยาง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อ
การล่องแม่กลองด้วยเรือยาง ผ่านน้ำตกทีลอจ่อ

น้ำตกทีลอเรไหลลงสู่แม่กลองตอนช่วงปลายของการล่องแม่น้ำ
น้ำตกทีลอเรไหลลงสู่แม่กลอง
ตอนช่วงปลายของการล่องแม่น้ำ

แก่งอันเชียวกรากในแม่กลองตอนล่าง
แก่งอันเชียวกรากในแม่กลองตอนล่าง

เส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติทางรถยนต์ในอุ้มผาง
          อำเภออุ้มผางคือเมืองในหุบลุ่มน้ำแม่กลอง ที่มีภูเขาสูงกั้นอยู่ระหว่าง อำเภอแม่สอด มาทางอำเภอพบพระ อดีตจะต้องใช้เส้นทางตัดตรงผ่านพม่าเข้ามาทางพบพระ- หนองหลวง ต่อมาเส้นทางรถยนต์ซึ่งอ้อมขึ้นมาบนภูเขาในเขตไทยแล้วเสร็จ ระยะทาง 164 กิโลเมตร จึงเกิด "ถนนลอยฟ้า" อันเป็นเส้นทางราดยางขนาดเล็ก อันคดเคี้ยวอยู่บนภูเขาสูง ต้องใช้เวลาราว 3-4 ชั่วโมง เป็นเส้นทางขับรถผจญภัย อย่างดียิ่ง นอกจากนี้ในอำเภออุ้มผางยังมีเส้นทางรถยนต์ที่นำขึ้นไปสู่แหล่งท่องเที่ยว ธรรมชาติและวัฒนธรรมอีก 2 สาย คือ

ก. สายอุ้มผาง-ปะหละทะ

1. น้ำตกทีลอจ่อ หรือน้ำตกสายฝน อยู่ห่างจากตัวอำเภออุ้มผางราว 3 กิโลเมตร มีทางแยกขวาเข้าไปอีกเล็กน้อย จะถึงหน้าผา มีทางเดินป่าลงไปราว 15 นาที สภาพ น้ำตกแบ่งเป็นชั้นๆ รวม 2 ชั้น น้ำตกขั้นบนอยู่บนผาสูงและชันแคบ ชั้นล่างตกอยู่ ในลำน้ำแม่กลอง สามารถชมได้จากทางน้ำ ลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน สายน้ำตก คล้ายสายฝน มีเฟิร์นก้านดำขึ้นเต็มสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

2.ดอยหัวหมด อยู่ห่างจากอุ้มผางราว 8 กิโลเมตร ลักษณะเป็นภูเขาดินลูกรังหัวโล้น เป็นแหล่งแร่โดโลไมต์ ทอดแนวหลายลูกติดต่อกันมีความยาวราว 30 กิโลเมตร กว้าง 2 กิโลเมตร บนภูเขานี้ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้น ทว่าจะมีโขดหินปูนตั้งอยู่ระเกะระกะ และมีแต่ต้นไม้เตี้ยๆ จำพวกต้นเป้ง ปรง มีขึ้นทั่วไป มีดอกไม้ป่าขึ้นปกคลุม ออกดอกสะพรั่งตามฤดูกาล เช่น ดอกเทียนในฤดูฝน ตามพื้นเป็นดินลูกรังลื่นชัน บนดอยหัวหมดมีจุดชมวิวทะเลหมอกในยามเช้าสามารถมองเห็นตัวอำเภออุ้มผาง ป่าไม้และทิวเขาสลับซับซ้อนโดยรอบ

3.หมู่บ้านปะหละทะ เป็นหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงที่ใหญ่และเก่าแก่มากในอุ้มผาง ตั้งอยู่ริมน้ำแม่กลอง ชาวบ้านเลี้ยงช้างใช้เป้นพาหนะและขนส่ง จากปะหละทะเป็น จุดที่เดินป่าและขี่ช้างไปบ้านโคทะและน้ำตกทีลอซู และเป็นจุดล่องแม่น้ำไปน้ำตก ทีลอเรด้วย ปะหละทะอยู่ห่างจากอุ้มผางราว 27 กิโลเมตร

4.น้ำตกเซปละ อยู่ในเขตบ้านเซปละ ตำบลแม่ละมุ้ง ห่างจากปะหละทะราว 3 กิโลเมตร เป็นน้ำตกหินปูนที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกหินปูนที่มีความ สวยงามอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกจะตกลงมาเป็นชั้นๆ มีความกว้างประมาณ 10 เมตร กระแสน้ำที่ตกลงมากระทบโขดหินแตกกระจายมองดูคล้ายก้อนเมฆสีขาว

ข. สายแม่กลองใหม่-บ้านเปิ่งเคลิ่ง

1.ถ้ำตะโค๊ะบิ๊ ตั้งอยู่ในเขตบ้านแม่กลองใหม่ ห่างจากอุ้มผางราว 3 กิโลเมตร ลักษณะของถ้ำมีทางเดินลงไปเป็นชั้นๆ ข้างในมีทางแยกกลางทาง มีห้องโถงในถ้ำ กว้างขวาง บางแห่งสามารถทะลุออกบ้านแม่กลองได้ ความลึกประมาณ 3 กิโลเมตร มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก ควรมีคนนำทาง

2.น้ำตกทีลอซู อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง มีเส้นทางลำลองแยกจากถนน ใหญ่ราว 27 กิโลเมตร ใช้ได้เฉพาะในฤดูแล้งทีลอซูเป็นน้ำตกหินปูนที่งดงามที่สุด ในประเทศไทย เกิดจากลำห้วยกล้อทอไหลตกจากช่องเขาขาด สูงประมาณ 200-300 เมตร กว้างเกือบ 400 เมตร น้ำตกไหลลดหลั่นเป็นชั้นๆ แวดล้อมด้วยป่าดงดิบสมบูรณ์ มีเส้นทางเดินป่าเข้าน้ำตกจากที่ทำการเขตฯใช้เวลาราว 15 นาที และมีจุดชมวิวบน ยอดเขาฝั่งตรงกันข้ามใช้เวลาเดินราว 45 นาที ฤดูฝนน้ำตกทีลอซูจะมีความงดงามมาก ต้องเดินทางโดยการเดินป่า หรือการล่องแม่น้ำแล้วเดินป่า รถยนต์สามารถเข้าได้ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-เมษายน เท่านั้น

3.บ้านทิโพจิและบึงแฝด หมู่บ้านกะเหรี่ยงที่ยังมีวัฒนะธรรมที่งดงาม ด้วยบ้านหลังคา ปีกไม้ที่เป็นธรรมชาติ ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำนา ทอผ้า ปลูกพริก และเลี้ยงช้าง

จากทิโพจิ มีเส้นทางเดินชมป่าไม้ที่สมบูรณ์ โดยจะผ่านป่าไผ่ยักษ์ ดงกล้วยไม้ ฯลฯ สู่บึงที่ชื่อว่า บึงลาอือเอาะ ที่เต็มไปด้วยนกน้ำในฤดูอพยพ นอกจากนี้ยังมีถ้ำที่น่าสนใจ อยู่อีกด้านหนึ่งของหมู่บ้าน อยู่ห่างจากอุ้มผางราว 45 กิโลเมตร ขับรถแยกจากปากทาง ที่บ้านนุโพ ถึงทิโพจิ ราว 12 กิโลเมตร ทางใช้ได้เฉพาะฤดูแล้ง

4.บ้านกะเหรี่ยงฤาษีเลตองคุ ถนนสายนี้จะมาสุดเขตชายแดนไทยที่บ้านเปิ่งเคลิ่ง จากนี้ไปเป็นถนนลำลองเข้าไปในเขตพม่าเส้นทางสมบุกสมบันมาก ข้ามแม่น้ำลึกมาก รถวิ่งได้เฉพาะในฤดูแล้ง ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ และขออนุญาตกองร้อยตชด. เปิ่งเคลิ่งก่อน

หมู่บ้านเลตองคุเป็นกะเหรี่ยงที่นับถือไหว้พระ ซึ่งเป็นฤาษี ประเพณีต่างจากกะเหรี่ยงทั่วไป มีงานสำคัญจุดไฟบูชาอาจารย์พระฤาษีในเดือนธันวาคม พระฤาษีจะพำนักในวัด ซึ่งมีของสำคัญคือ งาช้างโบราณ อายุกว่า 400 ปี ยาวประมาณ 1.70 เมตร 2 ข้าง หนักรวมกันกว่า 40 กิโลกรัม แกะสลักเป็นรูปพระพุทธเจ้านั่งปางสมาธิ โดยรอบจากโคนถึง ปลายงา พระฤาษีจะแวดล้อมด้วยลูกศิลย์ซึ่งเป็นเด็กหนุ่มไว้ผมยาวเกล้าจุกข้าง ๆ ราว 50 คน และที่บ้านเลตองคุแห่งนี้คือศูนย์กลางลัทธิความเชื่อถือพระฤาษีของกะเหรี่ยง

เส้นทางล่องแม่น้ำแม่กลอง
          แม่น้ำแม่กลอง มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสูงในตำบลโมโกร มีลำห้วยไหลมารวมกัน หลายสายในเขตบ้านแม่กลองคี ซึ่งเป็นต้นน้ำแม่กลอง ไหลผ่านอำเภออุ้มผาง ไปบรรจบ กับแม่น้ำแม่จัน รวมกันเป็นแม่น้ำแม่กลอง แล้วไหลลงไปทางทิศใต้ผ่านป่าทุ่งใหญ่ นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี เป็นแม่น้ำแควใหญ่และเมื่อรวมกับแม่น้ำแควน้อย ก็จะ กลายมาเป็นแม่น้ำแม่กลอง ไหลออกอ่าวไทย ที่สมุทรสงคราม นับเป็นแม่น้ำที่มีความ ยาวมากที่สุดของประเทศไทยอีกเส้นหนึ่ง
          แม่น้ำแม่กลองในช่วงต้นที่อำเภออุ้มผางจึงเป็นเส้นทางชมธรรมชาติสองฝั่ง ที่ผ่าน แก่ง หน้าผา และน้ำตกที่งดวาม มีกิจกรรมการล่องแพไม้ไผ่และเรือยางที่น่าสนใจคือ

  1. อุ้มผาง-ปะหละทะ การล่องแม่กลอง สามารถเริ่มต้นจากอำเภออุ้มผาง ลงไปตาม ลำห้วยอุ้มผาง ซึ่งไหลไปออกน้ำแม่กลอง สองฝั่งจะปกคลุมด้วยป่าเบญจพรรณ มีไม้สัก ป่าไผ่ อยู่ทั่วไป จุดแรกที่สวยงามและเป็นจุดเด่นที่สุดบนสายน้ำช่วงนี้คือ น้ำตกทีลอจ่อ หรือน้ำตกสายฝนตอนล่าง ไหลตกลงมาจากยอดเขาสูงฝั่งซ้ายของสายน้ำ ลักษณะหน้า ผาจะเป็นหินงอกหินย้อยลงมาตามโขดหินปูน ซึ่งเต็มไปด้วยเฟิร์นก้านดำ น้ำตกสายนี้จะ ไหลมาจากยอดผาสูง แตกกระเซ็นเป็นละอองคล้ายสายฝน ล่องลงมาอีกเล็กน้อยจะพบ น้ำตกที่ไหลผ่านชะง่อนหินทอดแนวยาวคล้านม่านและมีแสงแดดส่องผ่านเกิดเป็น น้ำตกม่านสายรุ้ง ล่องแม่น้ำลงมาอีกจะถึงบ่อน้ำร้อนขนาดเล็กๆริมแม่น้ำ เป็นจุดพักอีก แห่งหนึ่งที่น่าสนใจ ระหว่างทางสายน้ำจะไหลเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณแก่งตะโคะบิ๊ ซึ่ง สายน้ำไหลเป็นลูกคลื่น สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าร่มครื้ม จนไปถึงบริเวณ ผาเลือด อันเป็นหน้าผาหินสูงสีแดง บนหน้าผามีต้นจันทน์ผาขึ้นแซม ผาผึ้งเป็นหินขาวสูงชัน มีรังผึ้งเกาะเต็มไปหมด ถัดมาไม่ไกลนักจะถึง ผาบ่อง ลักษณะเป็นรูโหว่ใหญ่ ล่องแม่น้ำ ต่อไปก็จะถึงท่าทราย อันเป็นจุดที่ขึ้นฝั่งไปพบกับเส้นทางเข้าน้ำตกทีลอซู

    ช่วงล่างลงมาจะผ่านแก่งมอแกนโด อันมีหินก้อนใหญ่ขวางอยู่กลางน้ำ ซึ่งบีบสายน้ำ ไหลแรงลงช่องทางแคบๆ ถัดมาก็จะมีแก่งกีด ซึ่งเต็มไปด้วยโขดหินระเกะระกะในช่วง ฤดูแล้ง จากนั้นไปสายน้ำก็ค่อนข้างไหลเรียบไปจนถึงสบแม่ละมุ้ง อันมีสายน้ำแม่ละมุ้ง ไหลมาลงแม่กลอง เป็นจุดที่ขึ้นฝั่งไปออกถนนสายปะหละทะได้ และล่องน้ำไปอีกพัก หนึ่งก็ถึงบ้านปะหละทะ หมู่บ้านกะเหรี่ยงที่มีเส้นทางกลับเข้าอุ้มผางได้เช่นกัน

    การล่องแม่น้ำช่วงนี้ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 วันเต็ม หากจะแยกเข้าทีลอซูใช้เวลาราวครึ่งวัน ฤดูฝนน้ำไหลแรงใช้เวลาน้อยกว่า ระดับสายน้ำธรรมดามีแก่งเล็กน้อย (ระดับ 2) สามารถล่องได้เกือบตลอดปี

  2. สายปะหละทะ-น้ำตกทีลอเร เริ่มต้นจากบ้านปะหละทะ สายน้ำจะไหลเรียบไปราว ชั่วโมงหนึ่งเป็นอย่างน้อยในช่วงฤดูแล้ง จุดแรกบนสายน้ำที่ไหลมาจะพบสบห้วย กล้อทอ ซึ่งไหลมาเป็นน้ำตกทีลอซู ผ่านบ้านโคทะนั้นเอง สองฝั่งน้ำสมบูรณ์ด้วยป่าเขา เขียวชอุ่ม บางตอนเป็นแนวขุนเขาสูงทอดแนวมาจากเทือกเขาพะวาตู้ แก่งแรกที่พบ คือ แก่งเลเกติ อันเป็นแก่งใหญ่ทอดยาวติดต่อกันหลายกิโลเมตร ซึ่งแบ่งเป็น 3 ตอน มีโขดหินขนาดใหญ่ๆขวางอยู่ คั่นด้วยวังน้ำช่วงสั้นๆ แก่งตอนที่แรงมากคือ เลเกติ 2 ใต้แก่งลงมามีหาดทรายแคบๆเป็นจุดพัก จากนั้นลงมาจะล่องแม่น้ำผ่านน้ำตกเล็กๆ ทางฝั่งขวา สภาพแวดล้อมเป็นภูผาสูง จนมาถึงที่เป็นชะเงื้อมบนยอดเขาลักษณะคล้าย คนนั่งอยู่บนยอดเขาเรียกกันว่า ผาคนมอง เบื้องล่างคือสายน้ำที่เริ่มไหลเชี่ยวเป็นแก่ง ใหญ่ที่คดเคี่ยวเต็มไปด้วยหินก้อนใหญ่หักมุมไปมานั่นคือ แก่งคนมอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ตอน เช่นเดียวกับเลเกติ แต่แก่งน้ำเชี่ยวกรากรุนแรงยิ่งกว่ามาก ช่วงนี้สองฝั่งน้ำเป็น โขดหินสูง สามารถปีนป่ายขี้นไปดูเส้นทางน้ำที่เต็มไปด้วยแก่งหินเบื้องล่าง จะเห็นสาย น้ำที่บีบเข้ามาเป็นช่องแคบ ฤดูแล้งหินจะโผล่พ้นน้ำกีดขวางทาง ทำให้เรือชนตลอด ช่วงสุดท้ายก็จะมาออกวังน้ำกว้างมีหาดทรายใหญ่อยู่ข้างหน้า ช่วงต่อมาไม่มีแก่งใหญ่ น้ำไหลเรื่อยๆ จนถึงปากห้วยกะชอจิ๊ทะ หรือ ห้วยช้างวิ่ง จะมีเกาะหาดกรวดอยู่ข้างหน้า บริเวณนี้เป็นที่ตั้งแคมป์พักแรม ก่อนจะลงแก่งสุดท้ายซึ่งเป็นช่วงโค้งหักศอกลงไปเจอ หินใหญ่ขวางกลางน้ำ คือแก่งกะชอจิ๊เล หรือ ช้างวิ่งชนผา ผ่านลงมาจะเป็นเวิ้งน้ำไหล โค้งเข้าสู่เพิงผาคล้ายถ้ำริมน้ำ มีสายน้ำตกลงมาเป็นสายใหญ่ และหยดน้ำตามผาด้าน ข้างที่ห้อยย้อยด้วยเถาวัลย์ มีเฟิร์นก้านดำประดับประดาบนผาหินปูน นั่นคือน้ำตก ทีลอเรอันเป็นจุดหมายบนเส้นทางล่องแม่น้ำช่วงนี้

    การล่องแม่น้ำช่วงนี้ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 วันเต็ม ฤดูฝนน้ำไหลแรง ไม่เหมาะที่จะเดินทาง ระดับสายน้ำมีแก่งปานกลาง บางช่วง (ระดับ 3-4) การเดินทางกลับต้องใช้ช้างขน สัมภาระ เพราะเดินไกล


ย้อนกลับ
จัดทำโดย นายสมเกียรติ อ่วมจ้อย
ต่อไป

ประวัติ&ภูมิประเทศ  สถานที่ท่องเที่ยว เทศกาลงานประเพณี อาหารพื้นเมือง ลู่ทางการลงทุน คู่มือท่องเที่ยวอุ้มผาง มีอะไรใหม่?
Hosted by www.Geocities.ws

1