WWW Web site Web browser Web Hosting URL FTP Anchor DNS Home page Hyperlink

FTP

          FTP ย่อมาจาก File Transfer Protocol (โปรโตคอลการโอนย้ายไฟล์) เรามาลงรายละเอียดกัน โดยพื้นฐานแล้ว “โปรโตคอล” คือชุดของขั้นตอนหรือกฎที่อนุญาตให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สื่อสารกันได้ FTP เป็นชุดของกฎที่อุปกรณ์บนเครือข่าย TCP / IP (อินเทอร์เน็ต) ใช้เพื่อถ่ายโอนไฟล์ เมื่อคุณใช้อินเทอร์เน็ต คุณกำลังใช้โปรโตคอลที่แตกต่างกัน คุณจะใช้ HTTP สำหรับการเรียกดู และใช้ XMPP สำหรับการส่งและรับข้อความโต้ตอบแบบทันที FTP ก็คือโปรโตคอลที่ใช้ในการย้ายไฟล์
          เซิร์ฟเวอร์ FTP เป็นแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่เปิดใช้งานการถ่ายโอนไฟล์จากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งอาจฟังดูซับซ้อน แต่โดยพื้นฐานแล้ว เซิร์ฟเวอร์ FTP เป็นเพียงคอมพิวเตอร์ที่มีที่อยู่ FTP และมีไว้เพื่อรับการเชื่อมต่อ FTP โดยเฉพาะ เซิร์ฟเวอร์จะทำงานง่ายๆ 2 งาน ได้แก่ "รับ" และ "ใส่" อธิบายสั้นๆ ก็คือ คุณสามารถ "รับ" ไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ FTP หรือ "ใส่" ไฟล์บนเซิร์ฟเวอร์ FTP เมื่อคุณอัพโหลดไฟล์ จะมีการถ่ายโอนไฟล์เหล่านั้นจากอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณไปยังเซิร์ฟเวอร์ หรือเมื่อคุณดาวน์โหลดไฟล์ จะมีการถ่ายโอนไฟล์เหล่านั้นจากเซิร์ฟเวอร์ไปยังอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณ ในระดับพื้นฐานที่สุด เซิร์ฟเวอร์ FTP จึงเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง

FTP ทำงานอย่างไร
          FTP เป็นโปรโตคอลไคลเอนท์-เซิร์ฟเวอร์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ไคลเอนท์จะร้องขอไฟล์ และเซิร์ฟเวอร์จะจัดเตรียมไฟล์ ด้วยเหตุนี้ FTP จึงต้องใช้ช่องทางพื้นฐาน 2 ช่องเพื่อสร้างการเชื่อมต่อ ได้แก่ ช่องคำสั่ง (เริ่มต้นคำสั่ง เก็บข้อมูลพื้นฐาน กล่าวคือ ไฟล์ใดที่จะเข้าถึง) และช่องข้อมูล (ถ่ายโอนข้อมูลไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ทั้งสองเครื่อง) ในการสร้างการเชื่อมต่อ ผู้ใช้จะต้องระบุข้อมูลประจำตัวให้กับเซิร์ฟเวอร์ FTP ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้พอร์ตหมายเลข 21 เป็นโหมดการสื่อสารตามค่าเริ่มต้น สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือมีโหมดการเชื่อมต่อ FTP ที่แตกต่างกัน 2 โหมด ได้แก่ แอกทีฟและพาสซีฟ

          ในโหมดแอกทีฟ เซิร์ฟเวอร์จะมีบทบาทแอกทีฟโดยการอนุมัติการร้องขอข้อมูล อย่างไรก็ตาม ในบางครั้ง โหมดแอกทีฟอาจมีปัญหากับไฟร์วอลล์ ซึ่งจะบล็อกเซสชันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลที่สาม นั่นคือเมื่อโหมดพาสซีฟเข้ามามีบทบาท ในโหมดพาสซีฟ เซิร์ฟเวอร์จะไม่รักษาการเชื่อมต่อไว้ ทำให้ผู้ใช้สร้างทั้งช่องข้อมูลและช่องคำสั่ง โดยพื้นฐานแล้ว เซิร์ฟเวอร์จะ “รับฟัง” แต่ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างกระตือรือร้น ทำให้อุปกรณ์อีกเครื่องจัดการงานจำนวนมากได้

FTP แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
          FTP มักใช้เพื่อจัดการไฟล์จำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมักมีประโยชน์ในการพัฒนาเว็บ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ คุณสามารถจัดการการถ่ายโอนไฟล์ด้วยเซสชัน FTP ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ในการอัพโหลดไฟล์ที่เฉพาะเจาะจง เพิ่มไฟล์รูปภาพ ย้ายเทมเพลตเว็บ และอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีอาจใช้ File Transfer Protocol เพื่อถ่ายโอนไฟล์เซิร์ฟเวอร์จำนวนมากภายในระบบปิด

ข้อดีข้อเสียของ FTP คืออะไร
          FTP มีประโยชน์สองสามประการที่สำคัญที่ต้องกล่าวถึง เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นเวลานาน ผู้คนส่วนใหญ่จึงคุ้นเคยกับโปรโตคอลและมีเครื่องมือเดสก์ท็อปมากมาย เช่น FileZilla, WinSCP, Cyberduck และอื่นๆ ซึ่งทำให้การใช้ FTP เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย นอกจากนี้ ยังเป็นที่น่าสังเกตว่า FTP มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์หลายประการ เช่น ความสามารถในการถ่ายโอนไฟล์หลายไฟล์พร้อมกัน ความสามารถในการถ่ายโอนต่อในกรณีที่ขาดการเชื่อมต่อ และความสามารถในการกำหนดเวลาการถ่ายโอน
อย่างไรก็ตาม FTP มีข้อเสียที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั่นคือการขาดการรักษาความปลอดภัย FTP ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1970 และด้วยเหตุนี้ จึงมีมาก่อนมาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์หลายอย่างที่เราต้องพึ่งพาในโลกสมัยใหม่ FTP ไม่ได้รับการออกแบบมาให้เป็นโปรโตคอลที่ปลอดภัยและไม่มีการเข้ารหัสการถ่ายโอน FTP ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถอ่านรหัสผ่าน ชื่อผู้ใช้ และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นๆ ของคุณได้ค่อนข้างง่ายโดยการบันทึกแพ็กเก็ตข้อมูลของคุณ (กล่าวคือ ผ่านการโจมตีโดยการบันทึกแพ็กเก็ต)

          ช่องโหว่ด้านการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้ทำให้การรองรับ FTP ลดลงและมีตัวเลือกทดแทนต่างๆ มากมายเข้ามาในตลาด ซึ่งรวมถึง SFTP, HTTPS, AS2 และ FTPS ในปี 2020 Google Chrome จะปิด FTP ตามค่าเริ่มต้น และ Firefox ได้ลบ FTP ออกจากโค้ดของตน ดังนั้น ถ้าคุณยังคงใช้เซิร์ฟเวอร์ FTP สำหรับฟังก์ชันทางธุรกิจที่สำคัญ อาจถึงเวลาที่จะมองหาทางเลือกอื่น ตอนนี้ เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเล็กน้อยเกี่ยวกับ SFTP ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่มาแทนที่ FTP

กลับสู่ด้านบน