เวลา:->

บันทึกข้อตกลง

ระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงมหาดไทย

ในระเบียบการอันเกี่ยวกับพระราชบัญญัติรับราชการทหาร

พ.ศ. ๒๔๙๗

___________________________________

                การลงบัญชีทหารกองเกินที่อำเภอ

         ข้อ ๑ เมื่อมีบุคคลมาแสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกินที่อำเภอ ตามมาตรา ๑๖ หรือมาตรา ๑๘ ให้นายอำเภอรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม (แบบ สด. ๑) และออกใบสำคัญตาม (แบบ สด. ๙) ท้ายบันทึกนี้ แต่ถ้าออกใบสำคัญไม่ทันให้ออกใบรับตาม (แบบ สด. ๑๐) ท้ายบันทึกนี้เป็นหลักฐาน แล้วจึงจัดการออกใบสำคัญ
ให้ภายหลังโดยเร็วที่สุด ส่วนในท้องที่ใดยังมิได้กำหนดให้เรียกคนเข้ารับราชการทหารกองประจำการ เมื่อรับลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้วให้ออกแต่ใบรับ (แบบ สด. ๑๐) และให้ส่งบัญชีรายชื่อต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตาม (แบบ สด. ๒) ท้ายบันทึกนี้บุคคลที่รับลงบัญชีทหารกองเกินตามมาตรา ๑๖ ให้ส่งบัญชีรายชื่อ ภายในเดือนมกราคม
ของปีถัดไป เว้นแต่ถ้าคนใดได้ย้ายภูมิลำเนาทหารไปต่างจังหวัด ก่อนกำหนดส่งบัญชีให้นายอำเภอคัดรายชื่อผู้นั้น
ส่งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อจัดการโอนเป็นราย ๆ ไป ส่วนบุคคลที่รับลงบัญชีทหารกองเกิน ตามมาตรา ๑๘ ให้ส่งบัญชีรายชื่อภายในกำหนดสามสิบวัน นับตั้งแต่วันรับลงบัญชีทหารกองเกินสำหรับบุคคลที่รับลงบัญชีตามมาตรา ๑๙ ให้ส่งบัญชีรายชื่อภายในสามสิบวันนับแต่วันที่สุดสิ้นกำหนดวันประกาศของนายอำเภอ

          ข้อ ๒ สามเณรเปรียญที่ไม่ต้องไปแสดงตนต่อนายอำเภอตามมาตรา ๒๑ (๑) นั้น ให้นายอำเภอส่งเจ้าพนักงาน
ไปทำบัญชีรายชื่อที่อารามหรือสำนักสงฆ์ และออกใบรับตาม (แบบ สด. ๑๐) ส่วนบุคคลตามมาตรา ๒๑ (๒) ให้เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมหรือคุมขังส่งบัญชีรายชื่อตาม (แบบ สด. ๒)ให้นายอำเภอเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน
และออกใบสำคัญหรือใบรับให้แล้วแต่กรณีทั้งนี้ ถ้าบุคคลใดมีภูมิลำเนาทหารอยู่ในท้องที่อำเภออื่น ให้นายอำเภอ
ส่งบัญชีรายชื่อไปให้นายอำเภอตามภูมิลำเนาทหารของบุคคลนั้น

          ข้อ ๓ เมื่อมีบุคคลมาแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกินใหม่ ตามประกาศของนายอำเภอตามมาตรา ๑๙ ให้นายอำเภอรับลงบัญชีทหารกองเกินตาม (แบบ สด. ๑) และปฏิบัติการอย่างอื่นตามข้อ ๑ และ ข้อ ๒ โดยอนุโลม ส่วนใบสำคัญหรือใบรับที่ได้ออกให้ไว้แต่เดิมนั้น ให้นายอำเภอประกาศยกเลิกเสีย เมื่อได้ออกใบสำคัญ หรือใบรับให้แก่ผู้ใดใหม่แล้ว ให้เรียกใบสำคัญหรือใบรับฉบับเดิมคืนมาจัดการทำลายเสียอย่าให้ผู้ใดนำไปใช้ได้อีกต่อไป

          ข้อ ๔ เมื่อนายอำเภอได้รับแจ้งตามมาตรา ๑๕ แล้ว ให้ออกใบรับตาม (แบบ สด. ๑๐)การเรียกคนเข้า
กองประจำการ

          ข้อ ๕ ทหารกองเกินที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบเอ็ดปีบริบูรณ์ขึ้นไป และยังไม่ถึงสามสิบปีบริบูรณ์ ซึ่งอยู่ในกำหนดเรียกเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อส่งเข้ากองประจำการ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๙ (พ.ศ. ๒๔๙๘) (๒) นั้น นายอำเภอจะจัดการส่งหมายเรียกไปมอบ ให้แก่ผู้ถูกเรียกหรือจะเรียกผู้ถูกเรียกมารับหมายเรียกที่อำเภอ
ท้องที่ซึ่งเป็นภูมิลำเนาทหารของผู้นั้น ก็ให้นายอำเภอกระทำได้ตามความเหมาะสม

          ข้อ ๖ ในเดือนมิถุนายนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดส่งบัญชีจำนวนทหารกองเกิน ที่จะเรียกเข้ารับราชการ
กองประจำการประจำปีให้ผู้บัญชาการมณฑล หรือผู้บังคับการจังหวัดทหารบกทราบ เพื่อจะได้เฉลี่ยคนในจังหวัดต่าง ๆ ให้เหมาะกับส่วนจำนวนคน

          ข้อ ๗ การเรียกทหารกองเกินเข้ารับราชการกองประจำการในปีใดนั้น ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ต้องการคน
แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด ดังนี้
                (๑) สำหรับทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ เป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการมณฑลหรือ
ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกแล้วแต่กรณี
                (๒) สำหรับตำรวจจังหวัดอื่น ๆ นอกจากจังหวัดพระนครและธนบุรี ให้เป็นหน้าที่ผู้กำกับการหรือ
ผู้บังคับกองตำรวจจังหวัดนั้น ส่วนจังหวัดพระนครและธนบุรี ให้เป็นหน้าที่อธิบดีกรมตำรวจการเรียกนี้ต้องบอกให้ชัดว่า
จะต้องการคนเท่าใด กำหนดรับคนเสร็จเมื่อใด ถ้าไม่มีเหตุการณ์จำเป็นแล้วให้แจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดล่วงหน้า
ไม่น้อยกว่าหกเดือน เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ต้องการคนแล้ว ให้เฉลี่ยคนที่ถูกเรียก
ในจังหวัดนั้นเป็นอำเภอตามส่วนที่มีคนมากและน้อย และแจ้งจำนวนคนที่เฉลี่ยแล้ว ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่ต้องการคนทราบ
ก่อนวันตรวจเลือกไม่น้อยกว่าสามเดือน

          ข้อ ๘ การขอเรียก ถ้าจำนวนคนที่ขอเรียกไว้นั้นจำเป็นจะต้องเพิ่มขึ้น หรือลดลงให้ผู้ขอเรียกชี้แจงไปยัง
ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามสิบวัน แต่ความจำเป็นนั้นเกิดขึ้นภายหลังที่กำหนดนี้ ให้ผู้ขอเรียกชี้แจงตรงต่อคณะกรรมการตรวจเลือก ในคราวรวมคนตรวจเลือกนั้นได้

          ข้อ ๙ คนซึ่งต้องขึ้นทะเบียนกองประจำการนั้น คือ
                (๑) คนซึ่งต้องส่งเข้ากองประจำการในวันตรวจเลือก
                (๒) คนซึ่งนายอำเภอนัดส่งเข้ากองประจำการภายหลังวันตรวจเลือก
                (๓) คนซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดส่งเข้ากองประจำการภายหลังวันตรวจเลือก
                (๔) คนซึ่งร้องขอเข้ากองประจำการก่อนวันตรวจเลือก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับไว้
      สำหรับใน (๑) เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคนเป็นผู้นำขึ้นทะเบียน
      สำหรับใน (๒) นายอำเภอท้องที่เป็นผู้นำขึ้นทะเบียน
      สำหรับใน (๓) ปลัดจังหวัดเป็นผู้นำขึ้นทะเบียน
      สำหรับใน (๔) เจ้าหน้าที่ฝ่ายรับคนเป็นผู้นำขึ้นทะเบียน

          ข้อ ๑๐ เครื่องหมายประจำตัวทหารหรือตำรวจซึ่งต้องลงในทะเบียน กองประจำการนั้น ให้ใช้ดังนี้
                (๑) ให้ลงอักษรย่อแผนกแล้วลงเลขพุทธศักราชต่อท้ายไว้บรรทัดบน และลงอักษรย่อชื่อจังหวัดที่เป็น
ภูมิลำเนาทหาร ดังลงเลขประจำตัวบุคคลที่เข้ารับราชการกองประจำการในจังหวัดนั้นไว้บรรทัดล่าง
                (๒) อักษรย่อแผนก คือ

                       ทหารบก เขียนว่า ท.บ.
                       ทหารเรือ เขียนว่า ท.ร.
                       ทหารอากาศ เขียนว่า ท.อ.
                       ตำรวจ เขียนว่า ต.ร.

               (๓) อักษรย่อชื่อจังหวัด คือ

                       กระบี่ เขียนว่า ก.บ.
                       กาญจนบุรี เขียนว่า ก.จ.
                       กาฬสินธุ์ เขียนว่า ก.ส.
                       กำแพงเพชร เขียนว่า ก.พ.
                       กรุงเทพมหานคร เขียนว่า ก.ท.
                       ขอนแก่น เขียนว่า ข.ก.
                       จันทบุรี เขียนว่า จ.บ.
                       ฉะเชิงเทรา เขียนว่า ฉ.ช.
                       ชลบุรี เขียนว่า ช.บ.
                       ชัยนาท เขียนว่า ช.น.
                       ชัยภูมิ เขียนว่า ช.ย.
                       ชุมพร เขียนว่า ช.พ.
                       เชียงราย เขียนว่า ช.ร.
                       เชียงใหม่ เขียนว่า ช.ม.
                       ตรัง เขียนว่า ต.ง.
                       ตราด เขียนว่า ต.ร.
                       ตาก เขียนว่า ต.ก.
                       นครนายก เขียนว่า น.ย.
                       นครปฐม เขียนว่า น.ฐ.
                       นครพนม เขียนว่า น.พ.
                       นครราชสีมา เขียนว่า น.ม.
                       นครศรีธรรมราช เขียนว่า น.ศ.
                       นครสวรรค์ เขียนว่า น.ว.
                       นนทบุรี เขียนว่า น.บ.
                       นราธิวาส เขียนว่า น.ธ.
                       น่าน เขียนว่า น.น.
                       หนองคาย เขียนว่า น.ค.
                       หนองบัวลำภู เขียนว่า น.ภ.
                       บุรีรัมย์ เขียนว่า บ.ร.
                       ปทุมธานี เขียนว่า ป.ท.
                       ประจวบคีรีขันธ์ เขียนว่า ป.ข.
                       ปราจีนบุรี เขียนว่า ป.จ.
                       ปัตตานี เขียนว่า ป.น.
                       พระนครศรีอยุธยา เขียนว่า อ.ย.
                       พังงา เขียนว่า พ.ง.
                       พัทลุง เขียนว่า พ.ท.
                       พิจิตร เขียนว่า พ.จ.
                       พิษณุโลก เขียนว่า พ.ล.
                       เพชรบุรี เขียนว่า พ.บ.
                       เพชรบูรณ์ เขียนว่า พ.ช.
                       แพร่ เขียนว่า พ.ร.
                       พะเยา เขียนว่า พ.ย.
                       ภูเก็ต เขียนว่า ภ.ก.
                       มหาสารคาม เขียนว่า ม.ค.
                       มุกดาหาร เขียนว่า ม.ห.
                       แม่ฮ่องสอน เขียนว่า ม.ส.
                       ยะลา เขียนว่า ย.ล.
                       ยโสธร เขียนว่า ย.ส.
                       ร้อยเอ็ด เขียนว่า ร.อ.
                       ระนอง เขียนว่า ร.น.
                       ระยอง เขียนว่า ร.ย.
                       ราชบุรี เขียนว่า ร.บ.
                       ลพบุรี เขียนว่า ล.บ.
                       ลำปาง เขียนว่า ล.ป.
                       ลำพูน เขียนว่า ล.พ.
                       เลย เขียนว่า ล.ย.
                       ศรีสะเกษ เขียนว่า ศ.ก.
                       สกลนคร เขียนว่า ส.น.
                       สงขลา เขียนว่า ส.ข.
                       สตูล เขียนว่า ส.ต.
                       สมุทรปราการ เขียนว่า ส.ป.
                       สมุทรสงคราม เขียนว่า ส.ส.
                       สมุทรสาคร เขียนว่า ส.ค.
                       สระบุรี เขียนว่า ส.บ.
                       สระแก้ว เขียนว่า ส.ก.
                       สิงห์บุรี เขียนว่า ส.ห.
                       สุโขทัย เขียนว่า ส.ท.
                       สุพรรณบุรี เขียนว่า ส.พ.
                       สุราษฎร์ธานี เขียนว่า ส.ฎ.
                       สุรินทร์ เขียนว่า ส.ร.
                       อ่างทอง เขียนว่า อ.ท.
                       อุดรธานี เขียนว่า อ.ด.
                       อุตรดิตถ์ เขียนว่า อ.ต.
                       อุทัยธานี เขียนว่า อ.น.
                       อุบลราชธานี เขียนว่า อ.บ.
                       อำนาจเจริญ เขียนว่า อ.จ.

                                                
                                           หน้า   1   2   3   กลับหน้าแรก

Hosted by www.Geocities.ws

1