หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2545
วิชาชีพพื้นฐาน
สาขาพณิชยการ
2200-1004 บัญชีเบื้องต้น 2
จุดประสงค์รายวิชา เพื่อให้
1. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ วิธีการและขั้นตอนการจัดทำบัญชีสำหรับกิจการของเจ้าของ
คนเดียวประเภทธุรกิจซื้อขาย
2. มีทักษะปฏิบัติงานบัญชีเบื้องต้นตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป สำหรับกิจการเจ้าของคนเดียว
ประเภทธุรกิจซื้อขายสินค้า
3. มีกิจนิสัย ความมีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ มีวินัยตรงต่อเวลา และมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพบัญชี
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาความหมายของสินค้า จดบันทึกรายการเกี่ยวกับสินค้าในสมุดจดรายการขั้นต้น
การผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท รายการปรับปรุงเมื่อสิ้นงวดบัญชี การปิดบัญชี กระดาษทำการ 8 ช่อง
งบกำไรขาดทุนและงบดุล และสรุปวงจรบัญชี
สาขางานการบัญชี
สาระที่ 1
การประยุกต์ใช้ภาษาไทย
ภาษาอังกฤษ สังคมศึกษา
วิทยาศาสตร์
คณิตศาสตร์สุขศึกษาและพลศึกษา
มาตรฐานที่ 1
สื่อสารโดยใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันและงานอาชีพ
มาตรฐานที่ 2
พัฒนาตนเองและสังคมตามหลักศาสนา
สิทธิหน้าที่พลเมืองและวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
มาตรฐานที่ 3
พัฒนาตนเองและงานอาชีพ
โดยใช้หลักการและกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
สาระที่ 3
งานบัญชีของกิจการประเภทธุรกิจซื้อขายสินค้า
มาตรฐานที่ 1
มีความรู้ความเข้าใจในหลักการและกระบวนการปฏิบัติงานบัญชีของกิจการประเภทธุรกิจซื้อขาย
สินค้า
มาตรฐานที่ 2
มีทักษะ
ประสบการณ์ในการปฏิบัติงานบัญชีของกิจการประเภทธุรกิจซื้อขายสินค้า
มาตรฐานที่ 3
มีคุณลักษณะนิสัยที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตในสังคมและการประกอบอาชีพ
ตารางการวิเคราห์สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้
ที่ |
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ |
สาระที่
1 |
สาระที่
3 |
ม.
1 |
ม.
2 |
ม.
3 |
ม.
1 |
ม.
2 |
ม.
3 |
1 |
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
2 |
การบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น
และผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
3 |
การปรับปรุงเมื่อสิ้นงวดบัญชี |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
4 |
การปิดบัญชี
และการจัดทำงบการเงิน |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
/ |
ตารางการวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้และจำนวนคาบเพื่อจัดทำแผนการเรียนรู้
หน่วยที่ |
แผน
ฯ ที่ |
ชื่อหน่วยการเรียนรู้
// เรื่อง |
จำนวนคาบ |
1 |
|
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า |
16 |
|
1
2
3
4
5 |
สินค้าและเงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้า
ค่าขนส่งสินค้าและเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าขนส่งสินค้า
การบันทึกบัญชีที่เกี่ยวกับต้นทุนขาย
:
วิธีการบันทึกสินค้าเมื่อสิ้นงวด
การบันทึกบัญชีที่เกี่ยวกับต้นทุนขาย
:
วิธีการบันทึกสินค้าแบบต่อเนื่อง
การบันทึกบัญชีที่เกี่ยวกับการขายสินค้า
|
2
2
4
4
4 |
2 |
|
การบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น |
36 |
|
6
7
8
9
10
11
12
13
14 |
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันทั่วไป
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันซื้อ
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันส่งคืนและจำนวนที่ได้ลด
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันขาย
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันรับคืนและจำนวนที่ยอมลดให้
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันรับเงิน
การบันทึกรายการค้าในสมุดรายวันจ่ายเงิน
การผ่านรายการค้าจากสมุดบันทึกรายการขั้นต้นไปบัญชีแยกประเภท
การจัดทำงบทดลอง
|
4
4
4
4
4
4
4
4
4 |
3 |
|
การปรับปรุงเมื่อสิ้นงวดบัญชี |
20 |
|
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24 |
วัตถุประสงค์ของการปรับปรุงบัญชี
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้า
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีรายได้รับล่วงหน้า
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีรายได้ค้างรับ
หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ
บันทึกรายการเกี่ยวกับบัญชีการตั้งหนี้สงสัยจะสูญ
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวร
การปรับปรุงและบันทึกบัญชีวัสดุสิ้นเปลือง
การบันทึกรายการแก้ไขข้อผิดพลาดทางบัญชี
|
2
2
2
2
2
2
2
2
2
2 |
4 |
|
การปิดบัญชี
และการจัดทำงบการเงิน |
36 |
|
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34 |
ความหมายและการคำนวณสินค้าคงเหลือ
กระดาษทำการ 8 ช่อง
การบันทึกรายการปิดบัญชีในสมุดรายวันทั่วไป
การผ่านรายการปิดบัญชีจากสมุดรายวันทั่วไปไปบัญชีแยกประเภท
การจัดทำงบกำไรขาดทุนแบบบัญชี
การจัดทำงบกำไรขาดทุนแบบรายงาน
การจัดทำงบดุลแบบบัญชี
การจัดทำงบดุลแบบรายงาน
การบันทึกรายการกลับบัญชี
วงจรบัญชีกิจการเจ้าของคนเดียวประเภทธุรกิจซื้อขาย
|
8
8
6
2
2
2
2
2
2
2 |
รวม |
108 |
สอบวัดผลระหว่างภาค |
6 |
สอบวัดผลปลายภาค |
6 |
รวมทั้งสิ้น |
120 |
ตารางการกำหนดอัตราส่วนคะแนน
ระหว่างภาคเรียน
: ปลายภาคเรียน = 70 : 30
ความรู้ความเข้าใจ (K) :
ทักษะกระบวนการ (P) :
คุณลักษณะที่พึงประสงค์ (A) = 40 : 15
: 15
หน่วยที่ |
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ |
ระหว่างภาค |
ปลายภาค |
รวม |
K |
P |
A |
1 |
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า |
10 |
3 |
2 |
5 |
20 |
2 |
การบันทึกรายการค้าในสมุดบันทึกรายการขั้นต้น
และผ่านรายการไปบัญชีแยกประเภท |
10 |
5 |
5 |
10 |
30 |
3 |
การปรับปรุงเมื่อสิ้นงวดบัญชี |
10 |
2 |
3 |
10 |
25 |
4 |
การปิดบัญชี
และการจัดทำงบการเงิน |
10 |
5 |
5 |
5 |
25 |
|
รวม |
40 |
15 |
15 |
30 |
100 |
เอกสารประกอบการเรียนรู้
รายวิชา
2200 - 1004 บัญชีเบื้องต้น 2
ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ชั้นปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2
หน่วยการเรียนรู้ที่
1
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้า
เรื่อง
สินค้าและเงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้า
-
สินค้า (Goods)
คือ
สินทรัพย์หรือสิ่งของที่กิจการมีไว้จำหน่ายเพื่อหากำไร
ในการจัดหาสินค้ามาเพื่อจำหน่าย
กิจการอาจจะซื้อมาเป็นเงินสด
หรือเป็นเงินเชื่อ
-
ในการซื้อขายสินค้ามักมีการต่อรองราคาระหว่างกัน
จึงเกิดส่วนลดขึ้น เรียกว่า
ส่วนลดการค้า (Trade Discount)
ส่วนลดการค้า คือ
ผลต่างจากราคาที่ติดประกาศกับราคาที่ซื้อขายจริงหลังจากการต่อรองแล้ว
-
เงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้า
(Term of Payment)
ในการซื้อขายสินค้าเป็นเงินเชื่อ
ผู้ขายจะเป็นผู้กำหนดระยะเวลาในการชำระหนี้ค่าสินค้า
เช่น ภายใน 30 วัน หรือภายใน 60
วันนับจากวันที่ขาย
แต่เพื่อเป็นการเร่งรัดให้ผู้ซื้อชำระค่าสินค้าเร็วกว่าที่กำหนดไว้ข้างต้น
ผู้ขายจะมีส่วนลดให้แก่ผู้ซื้อที่นำเงินมาชำระก่อนกำหนดก็ได้
ตัวอย่างเงื่อนไขการชำระเงินค่าสินค้า
n/40 หมายความว่า
ผู้ซื้อต้องชำระค่าสินค้าตามราคาในใบกำกับภาษี/ใบกำกับสินค้า
ภายใน 40 วัน
นับจากวันที่ที่ปรากฏในใบกำกับภาษี/ใบกำกับสินค้า
2/10, n/40
หมายความว่า
ผู้ซื้อต้องชำระค่าสินค้าภายใน
40 วัน
แต่ถ้าชำระหนี้ก่อนกำหนดภายใน10
วัน
นับจากวันที่ที่ปรากฏในใบกำกับภาษี/ใบกำกับสินค้า
จะได้ส่วนลด 2 % (ถ้าเกิน 10
วันนับจากวันที่ที่ปรากฏในใบกำกับภาษี/ใบกำกับสินค้า
จะไม่ได้ส่วนลด)
2/10, eom. หมายความว่า
ถ้าผู้ซื้อต้องชำระค่าสินค้า
ภายใน 10 วัน
ของเดือนถัดไปจะได้ส่วนลด 2 %
(eom. = end of month)
ส่วนลด
(Discounts)
ส่วนลด (Discounts)
มี 2 ชนิด คือ
1. ส่วนลดการค้า (Trade discount) (ไม่ต้องบันทึกบัญชี)
2. ส่วนลดเงินสด (Cash discount) (ต้องบันทึกบัญชี)
บันทึกบัญชีโดย
เดบิต
ส่วนลดจ่าย
120
เครดิต ลูกหนี้
120
บันทึกบัญชีโดย
เดบิต เจ้าหนี้
120
เครดิต
ส่วนลดรับ
120
เรื่อง
ค่าขนส่งสินค้าและเงื่อนไขเกี่ยวกับค่าขนส่งสินค้า
การซื้อขายสินค้าส่วนใหญ่
ผู้ซื้อและผู้ขายจะอยู่ต่างสถานที่กัน
หรือห่างกันต้องอาศัยกิจการขนส่งในการขนส่งสินค้า
เช่น เครื่องบิน รถไฟ เรือ
รถบรรทุก ฯลฯ
ดังนั้นผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องตกลงกันให้เรียบร้อยว่าใครจะเป็นผู้จ่ายค่าขนส่ง
ตามปกติแล้ว การขนส่งสินค้า
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.
การขนส่งเข้า (Transportation-in)
หมายถึง
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับต้นทุนสินค้าที่ขาย
ซึ่งผู้ซื้อเป็นผู้จ่าย
โดยบันทึกไว้ในบัญชี ค่าขนส่งเข้า
2.
การขนส่งออก (Transportation-out) หมายถึง
ค่าใช้จ่ายเกีร่ยวกับการขายสินค้า
ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกิจการ
ผู้ขายเป็นผู้จ่าย
โดยบันทึกไว้ในบัญชี ค่าขนส่งออก
เงื่อนไขเกี่ยวกับค่าขนส่งสินค้า
1.
กำหนดราคาซื้อขาย เป็น F.O.B. Shipping
Point หมายความว่า
ราคาสินค้าส่งมอบต้นทาง
ผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระค่าขนส่ง
จึงบันทึกบัญชีเป็น
ค่าขนส่งเข้า
2.
กำหนดราคาซื้อขาย เป็น F.O.B. Destination
หมายความว่า
ราคาสินค้าส่งมอบปลายทาง
ผู้ขายเป็นผู้รับภาระค่าขนส่ง
จึงบันทึกบัญชีเป็น
ค่าขนส่งออก
เงื่อนไขราคาซื้อสินค้า--จากต่างประเทศ--ที่เกี่ยวข้องกับค่าขนส่งสินค้า
หมายเหตุ
F.O.B. (Free on board), C F (Cost & Freight), Cost = ต้นทุน ,
Freight = ค่าระวาง
เมื่อกิจการซื้อสินค้า
ถ้าตกลงกันว่าผู้ซื้อต้องออกค่าขนส่งสินค้าเอง
ฝ่ายผู้ซื้อจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
โดยใช้ชื่อว่าบัญชีค่าขนส่งเข้า
ตัวอย่าง
กิจการซื้อสินค้ามาโดยจ่ายค่าขนส่งสินค้ามายังร้าน
300 บาท จะบันทึกบัญชีโดย
เดบิต
ค่าขนส่งเข้า 300
เครดิต
เงินสด 300
ตัวอย่าง
กิจการซื้อสินค้ามาและต้องออกค่าขนส่งสินค้าเอง
แต่ฝ่ายผู้ขายได้ทดรองออกไปก่อน
300 บาท
กรณีแบบนี้
จะบันทึกบัญชีโดย
เดบิต
ค่าขนส่งเข้า 300
เครดิต
เจ้าหนี้ - ร้าน
300
|