ไม่มีอนุสาวรีย์ใดจะสวยเด่นเป็นสง่าเท่าอนุสาวรีย์แห่งคุณความดี
นายอำเภอของเรา
|
จากการสอบถามเด็ก ๆ วัย ๑๒ - ๑๓ ปี เมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วซึ่งเป็นผู้ใหญ่ในวันนี้ทำให้ทราบว่า ตั้งแต่ทางราชการได้ย้าย นายขรรค์ชัย กัมพลานนท์ ชายไทยวัย ๓๒ ปี
ผู้มีวุฒิปริญญาธรรมศาสตร์บัณฑิต (ธ.บ.) จากรั้วเหลืองแดง "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง" จากตำแหน่งนายอำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มาดำรงตำแหน่ง นายอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๔๙๓ ทำให้พี่น้องชาวสะเดามีความอบอุ่นใจ รู้สึกปลอดภัยกันทุกถ้วนหน้า สภาพท้องที่โดยทั่วไปของอำเภอสะเดาในขณะนั้นเป็นดินแดนทุรกันดาร การไปมาติดต่อระหว่างหมู่บ้านระหว่างตำบลหรือระหว่างอำเภอเป็นไปด้วยความยากลำบาก สมัยนั้นมีรถสองแถวซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่ารถหลอหลี วิ่งรับส่งผู้โดยสารระหว่างสะเดา-หาดใหญ่ เพียงสองคันเท่านั้น คือคันที่มีเลขทะเบียน สข ๑๔๔ กับ สข ๕๙๙
การตัดสินใจ คือ หัวใจของการบริหาร การจัดพัฒนางานด้านใด ๆ ก็ต้องมีข้อมูลด้านนั้น ๆ อย่างถูกต้องและเชื่อถือได้เพื่อใช้ประกอบการ พิจารณาตัดสินใจ
ตอนแรก ๆ ดูออกจะเป็นเรื่องแปลกมากสำหรับชาวบ้านทั่วไป ที่ได้เห็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ระดับนายอำเภอ เที่ยวตะลอน ๆ และเยี่ยมเยียนพี่น้องชาวบ้านตามหมู่บ้านต่าง ๆ อย่างไม่เป็นทางการในตอนเช้าตรู่และยามเย็น ๆ เพราะไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อน เสียงกรอกแกรก ๆ จากรถถีบคันเก่า ๆ ที่ท่านนายอำเภอขรรค์ชัย ใช้ในการเดินทางแวะเวียนไปพูดคุย ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบกับพี่น้องชาวบ้าน หรือสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ จากเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน "บ้านนี้เขาทำอะไร..." "บ้านหลังนั้นเขาอยู่กันกี่คน...จบ ป. ๔ แล้วไปเรียนต่อบ้างไหม......." แต่พอนานเข้าก็กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะว่านายอำเภอขรรค์ชัย ท่านได้ทำเป็นปกติวิสัย
ครั้งหนึ่ง ในตอนเช้าเมื่อท่านนายอำเภอขรรค์ชัยขี่รถถีบไปถึงบ้านระตะ ท่านก็เห็นเด็กชายคนหนึ่งกำลังตักข้าวให้หมูอยู่ ท่านถามเด็กชายคนนั้นด้วยภาษาใต้ว่า เธอชื่ออะไร เด็กชายคนนั้นตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า ชื่อประสิทธิ์ ทองคำ ครับ แล้วท่านก็พูดว่า มา..ให้น้าช่วยบ้าง ว่าแล้วท่านก็ลงมือช่วยเด็กชายประสิทธิ์ ทองคำ ตักข้าวให้หมูทันที แล้วคุยกันไปทำงานกันไปอย่างสนุก เป็นกันเอง เธอจบชั้นไหน "ปอสี่ครับ"ทำไมไม่เรียนต่อ "โรงเรียนอยู่ไกลครับ"คำว่า
โรงเรียนอยู่ไกล
ที่ท่านนายอำเภอขรรค์ชัยได้รับทราบจากเด็กที่จบป. ๔ แล้วจำนวนหลายคน รวมทั้งผู้ปกครองทั้งหลายที่อยากได้บุตรหลานได้มีโอกาสเรียนต่อในชั้นที่สูงขึ้นแต่ก็ไม่สามารถจะกระทำได้ต่อเนื่องจากไม่มีกำลังทรัพย์เพียงพอ ถ้าอำเภอสะเดาเรามีโรงเรียนมัธยม เด็ก ๆ ย่อมมีโอกาสได้เรียนต่อชั้นสูงขึ้นแน่และผู้ปกครองก็คงไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทองค่าใช้จ่ายมากนักทั้งไม่ต้องลำบากใจเพราะเป็นห่วงเป็นใยในความรักลูกหลานเนื่องจากโรงเรียนอยู่ใกล้บ้าน
นี่คือคำปราถนาดีที่อดีตนายอำเภอขรรค์ชัยผู้เป็นขวัญใจของชาวสะเดา กล่าวกับผู้ใกล้ชิดและกำนันผู้ใหญ่บ้านเสมอ ๆ
สมัยนั้นเด็ก ๆ ที่เรียนจบชั้นป. ๔ แล้ว หากจะเรียนต่อก็ต้องไปเรียนที่ในตัวเมืองสงขลา การพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนานกับน้าชายผู้ใจดีและเป็นกันเองเหมือนน้าจริง ๆ ในวันนั้น
เด็กชายประสิทธิ์ ทองคำ (ปัจจุบัน คือ พระครูพิทักษ์นิมพเขต เจ้าอาวาสวัดพังลา เจ้าคณะอำเภอสะเดา
ไม่ทราบเลยว่าเป็นนายอำเภอสะเดา และแล้วเย็นวันหนึ่ง ท่านนายอำเภอขรรค์ชัย ก็ขี่รถถีบคันเก่าซึ่งมีเสียงกรอกแกรก ๆ เป็นเอกลักษณ์ พอไปถึงบ้านระตะก็เข้าไปพูดคุยกับพี่น้องชาวบ้านและเด็ก ๆ ขณะที่เด็กชายประสิทธิ์ ทองคำ ลูกยายแก้ว-ตาคงกำลังรดน้ำผักอยู่ท่านนายอำเภอขรรค์ชัยก็เอาหนังสือที่ท่านนำติดตัวไปด้วยให้เด็กชายประสิทธิ์อ่านให้ฟัง วันนั้นท่านชมเด็กชายประสิทธิ์ว่า เธออ่านคล่องจัง
พร้อมกับยื่นเงินให้เป็นรางวัล
ทุกครั้งที่นายอำเภอขรรค์ชัย กัมพลานนท์ ออกเยี่ยมพี่น้องตามหมู่บ้านต่าง ๆ ท่านจะตั้งคำถาม หรือไม่ก็เอาหนังสือที่ท่านเตรียมไปให้เด็ก ๆ อ่านให้ฟังแล้วท่านจะให้เงินเป็นรางวัล จึงทำให้เด็ก ๆ เตรียมตัวเตรียมใจอย่างจดจ่อและเฝ้ารอนายอำเภอเพื่อที่จะได้ตอบคำถามและอ่านหนังสือเอาเงินรางวัลกันเกือบทุกหมู่บ้านหลังจากวันนั้นท่านนายอำเภอขรรค์ชัยไปเยี่ยมพี่น้องชาวบ้านแห่งบ้านระตะอีก ท่านได้นำภาพจำนวน ๓ ภาพไปให้เด็กชายประสิทธิ์ดูแล้วให้ตอบว่าเป็นรูปภาพอะไรบ้าง ปรากฏว่า เด็กชายประสิทธิ์ตอบถูกหมดทั้ง ๓ ภาพ คือ ภาพพระราชวังบางปะอิน พระปรางค์สามยอด
และภาพพระพุทธชินราช
แล้วเด็กชายประสิทธิ์ก็ได้รับเงินเป็นของรางวัลพร้อมกับคำชมเชยจากท่านนายอำเภอขรรค์ชัย ด้วยความภาคภูมิใจและเกิดความคิดอยู่ในใจเสมอมาว่า การเป็นคนมีความรู้นี่เป็นสิ่งดีนะ..ได้ทั้งคำยกย่องและเงินรางวัล
ครับ เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ข้างต้นนี้ทำให้เราทราบว่านายอำเภอของเราเป็นนักบริหารสมัยใหม่ ท่านใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ และข้อมูลนั้นต้องเชื่อถือได้ ท่านจึงต้องลงไปหา ลงไปคลุกคลีกับแหล่งข้อมูล ไม่ใช่นั่งอยู่แต่ในห้อง เพื่อรอฟังรายงานจากลูกน้องผู้ใต้บังคับบัญชาเพียงอย่างเดียวอีกประการหนึ่งชี้ให้เห็นว่า ท่านให้ความสนใจและความสำคัญต่อการศึกษาของเยาวชนของชาติเป็นอย่างมากด้วย
ความหวังความตั้งใจของนายอำเภอขรรค์ชัยที่จะพัฒนาสะเดาให้เจริญก้าวหน้าซึ่งผู้ใกล้ชิดนายอำเภอขรรค์ชัยได้รับรู้จากคำปรารภของท่านเสมอ ๆ ต้องสะดุดลงเนื่องจากท่านถูกโจรจีนคอมมิวนิสต์ซุ่มโจมตี และยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๔๙๕
เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่านนายอำเภอขรรค์ชัย พี่น้องชาวอำเภอสะเดา จึงได้ร่วมมือกันสืบทอดเจตนารมณ์ของท่าน โดยการสร้างโรงเรียนมัธยมและนำชื่อของท่านมาเป็นที่ระลึกด้วย คือ โรงเรียนสะเดา "ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์" เพื่อเป็นอนุสรณ์ แด่วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ในหัวใจของพี่น้องประชาชนชาวสะเดาทั้งหลาย
"นายขรรค์ชัย กัมพลานนท์" นายอำเภอของเรา
(คัดจาก หนังสือ 40 ปีสะเดา "ขรรค์ชัยฯ" หน้า 26 -
29 เรื่อง นายอำเภอของเรา โดย นิโรจน์ ขาวมาก) พ.ศ. 2537
|
กลับไปส่วนบน
ชมประมวลภาพงานฌาปนกิจศพนายอำเภอขรรค์ชัย
กัมพลานนท์ ...คลิกที่นี่ ? |