IPAddressing คืออะไร ?
หมายเลขไอพี ( IP Address ) คือเลขที่บอกที่อยู่เฉพาะของโหนดหรือโฮสต์ ที่อยู่ในเครื่อข่าย รวมถึงคอมพิวเตอร์และเราท์เตอร์ที่อยู่บนระบบเครื่อข่ายหมายเลขนี้จะเป็นที่อยู่ในเลเยอร์ที่ 3 หรือชั้นเครื่อข่ายหมายเลขไอพีของแต่ละเครื่องที่อยู่ในเครื่อข่ายเดียวกันจะต้องไม่ซ้ำกัน อย่างไรก็ตามโฮสต์หนึ่งอาจจะมีหมายเลขไอพีได้มากกว่าหนึ่งหมายเลขก็ได้ ซึ่งอาจจะมีประโยชน์ในการจัดการวงข่าว เช่น เราท์เตอร์ และเกตเวย์ เป็นต้น
ปัจจุบันโปรโตคอล IP ที่ใช้งานอยู่ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตจะเป็นเวอร์ชั่น4 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IPv4 ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้หมายเลขไอพีจะมีขนาด 32 บิต เนื่องจากหมายเลขฐานสอง 32 บิตเป็นตัวเลขที่ยาวและยากต่อการจดจำดังนั้นเพื่อเป็นการง่าย หมายเลขไอพีจึงนิยมเขียนให้อยู่ในรูปด็อตเดซิมอล การเขียนให้อยู่ในรูปแบบนี้จะทำได้โดยการจัดกลุ่มเลขฐานสองเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 8 บิต หลังจากนั้นให้แปลงเลขฐานสองของแต่ละกลุ่มให้เป็นเลขฐานสิบ เมื่อแปลงเสร็จแล้วให้เอาเลขทั้ง 4 ตัวมารวมกันโดยใช้จุดเป็นตัวเชื่อม ตัวอย่างเช่น 10101100 00010100 00000001 00011000 เขียนให้อยู่ในรูปด็อตเดซิมอลจะได้เป็น 197.20.1.24 เป็นต้น ดังตัวอย่างนี้จะเป็นได้ว่าหมายเลขไอพีที่อยู่ในรูปด็อตเดซิมมอลจะง่ายต่อการจำมากกว่าหมายเลขไดดีที่อยู่ในรูปเลขฐานสอง เนื่องจากหมายเลขไอพีที่เป็นเลขฐานสิบนี้เป็นการแปลงมาจากเลขฐานสอง 8 บิต ดังนั้นเลขฐานสิบแต่ละตัวจะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 255 เพราะฉะนั้นหมายเลขไอพีที่ถูกต้องจะอยู่ระหว่าง 0.0.0.0 ถึง 255.255.255.255
ประเภทของหมายเลขไอพี
Class A : สำหรับหมายเลขไอพีประเภท A หรือคลาส A นั้น บิตแรกจะเป็นเลข 0 เท่านั้น และส่วนที่บอกหมายเลขเครือข่ายคือ 8 บิต แรก ดังนั้นจะมีได้ทั้งหมด 126 เครือข่าย (หมายเลขเครือข่าย 0 จะไม่ใช้) ส่วนอีก 24 บิตที่เหลือจะเป็นเลขที่ใช้บอกหมายเลขโฮสต์ ดังนั้นในแต่ละเครือข่ายจะมีโฮสต์ทั้งหมด 16,777,124 เครื่อง (หมายเลข 0.0.0 และ 255.255.255 จะไม่ใช้) เนื่องจากเครือข่ายมีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนโฮสต์ฉะนั้นหมายเลขไอพีประเภทนี้จึงไม่เหมาะสำหรับเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายหลายเครือข่ายเชื่อต่อกัน เช่น ระบบอินเตอร์เน็ต เพราะในการส่งข้อมูลระหว่างเครือข่ายนั้นเราท์เตอร์จะใช้เฉพาะหมายเลขเครือข่ายเท่านั้น ดังนั้นเครือข่ายประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับเครือข่ายส่วนบุคคลมากกว่า
Class B : สำหรับหมายเลยไอพีประเภท B นั้น สองบิตแรกจะเป็น 10 เท่านั้น ส่วนหมายเลขเครือข่ายจะใช้ 16 บิตแรก ดังนั้นจะมีจำนวนเครือข่ายได้ทั้งหมด 16,382 เครือข่าย ส่วนอีก 16 บิตที่เหลือเป็นหมายเลขโฮสต์ ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ในแต่ละเครือข่ายมีโฮสต์ได้ทั้งหมด 65,534 เครื่อง
Class C: สำหรับประเภท C นั้น จะมีบิตเริ่มต้นเป็น 110 เมื่อรวมกับ 24 บิตต่อมาก็จะเป็นหมายเลขเครือข่าย ซึ่งจะได้ทั้งหมด 2,097,152 เครือข่าย ส่วน 8 บิตสุดท้ายเป็นหมายเลขโฮสต์ ซึ่งจะมีทั้งหมด 254 เครื่อง |
