การนำเงินมาทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ และสิ่งของต่าง ๆ นั้นมี 2 ลักษณะ ลักษณะหนึ่ง คือใช้เงิน เป็นเหลักหรือเป็นส่วนประกอบชนิดเดียวของสิ่งของนั้น อีกลักษณะหนึ่งคือการช้เงินเป็นเพียงส่วน ประกอบรองเพื่อตกแต่งให้สวยงาม คำว่า "เครื่องเงิน" ในที่นี้หมายถึงเฉพาะการทำเครื่องใช้โดยมีเงินเป็นหลัก ทั้งเครื่องเงินที่ทำจาก เงินโดยตกแต่งให้สวยงามด้วยสิ่งมีค่าชนิดอื่น เช่น ขัน เชี่ยนหมาก อย่างที่ชาวบ้านรู้จักกันทั่วไป และ เครื่องเงินที่ทำจากเงินโดยตกแต่งให้สวยงามด้วยสิ่งมีค่าชนิดอื่น เช่น ประดับเพชร พลอย หรือ อัญมณี มีค่าต่าง ๆ กะไหล่ทองซึ่งดูภายนอกเป็นทองแต่ภายในเป็นเงินทั้งหมด รวมทั้งการลงยา การลงถม ซึ่งตัว ภาชนะเป็นเงินแล้วใช้น้ำยาสีหรือน้ำยาถมตกแต่งภายนอก ส่วนการใช้เงินเป็นส่วนประกอบเพื่อการตกแต่งให้สวยงามลงบนภาชนะที่ทำจากวัสดุอื่นนั้น จะไม่ เรียกว่า เครื่องเงิน
เครื่องเงินรูปพรรณ
การผลิตเครื่องเงินรูปพรรณทั่วไป มีวิธีการหลัก 3 ขั้น คือ หลอม ขึ้นรูป และตกแต่ง การหลอม คือการนำเงินซึ่งอาจเป็นเม็ดเล็ก ๆ หรือเป็นเหรียนหรือเป็นรูปอื่นใดมาหลอมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ตามปริมาณที่ต้องการ หลอมแล้วหล่อให้เป็นรูปที่ต้องการ ส่วนมากเป็นแผ่นหนาบ้างบางบ้าง
การขึ้นรูป ในขั้นของการขึ้นรูปนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับสิ่งของที่จะทำ 1. การหล่อ ต้องทำหุ่นขึ้นก่อนแล้วถอดพิมพ์ เทเนื้อเงินที่หลอมละลายลงพิมพ์ แม่พิมพ์จะบังคับ ให้เป็นรูปที่ต้องการ เช่นพระพุทธรูป 2. การทุบ ใช้ฆ้อนขนาดต่าง ๆ ทุบแท่งเงินที่หลอมแล้วให้เป็นรูปที่ต้องการ เช่น เหรียญ ขัน ถาด บางทีขึ้นรูปเป็นส่วน ๆ แล้วนำมาประกอบกันอีกที เชน พาน คนโท 3. การตัดต่อ รีดเงินให้เป็นแผ่นแบน ตัดเป็นชิ้นแล้วบัดกรีต่อเป็นรูปที่ต้องการ เช่น กล่อง หีบ 4. การสาน รีดเงินเป็นแผ่นบางแล้ตัดเป็นเส้นแบบดอกไม้ไผ่ แล้วนำมาสานเป็นรูปทรง ต่าง ๆ เช่น ตลับ จอก กระบุง เสื่อ 5. การบุ นำเงินมาตีให้บาง ตัดให้ได้ขนาดแล้วนำไปหุ้มกับหุ่นที่อาจเป็นโลหะอื่นหรือไม้ เช่น พระพุทธรูป เจดีย์ ตัวสัตว์จำลอง หรือ อื่น ๆ 6. การชักลาย นำเงินมาตีเป็นเส้นยาว รีดให้เป็นลวดขนาดที่ต้องการ ตัดเป็นท่อนแล้ทำเป็นห่วง ร้อยต่อกันเป็นเส้นด้วยวิธีต่าง ๆ กันตามลวดลายที่ต้องการ เช่น พวกสร้อยต่าง ๆ
|
|
Copyright © 2000 Mr.Kanchana Pumnual. All rights reserved. Revised : เมษายน 28, 2543 . |