เจียวกู้หลานธรรมชาติหรือเจียวกู้หลานป่าจากเจียวกู้หลานฟอร์ยูทางออกของสุขภาพไม่แข็งแรง

ผลการวิจัยสมุนไพฃรเจียวกู้หลานในห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์
ผลงานวิจัยสมุนไพรเจียวกู้หลานเพื่อเป็นข้อมูล ในการใช้สมุนไพรให้ถูกต้องเหมาะสมและสะดวกกว่าเพื่อคุณ

ผลงานการวิจัยเจียวกู้หลานในสาระสำคัญเรื่อง
ลดไขมันในหลอดเลือดลดความดัน ลดเบาหวาน ต่อต้านมะเร็ง  ลดการอักเสบ  ช่วยหลอดเลือดและหัวใจ ป้องกันพิษที่ตับ
ลดระดับน้ำตาลในเลือด  เสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย สมุนไพรเจียวกู้หลานน่าใช้กว่าสมุนไพรตัวอื่น เจียวกู้หลานฟอร์ยู
 


เจียวกู้หลานฟอร์ยูผลิตและจำหน่ายเจียวกู้หลานจากธรรมชาติ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา
เปรียบเทียบในการเลือกใช้สมุนไพรที่คุ้มค่ากว่า ประหยัดกว่า สะดวกกว่า สมุนไพรทั่วๆ ไป
ผลิตภัณฑ์เจียวกู้หลานทั้งหมดผลิตจากเจียวกู้หลานจากป่า-เจียวกู้หลานธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกายแตกต่างด้วยคุณภาพไม่มีสารพิษตกค้างเหมือนเจียวกู้หลานทั่วๆ ไป
ผลิตภัณฑ์เจียวกู้หลานทั้งหมดผลิตจากเจียวกู้หลานจากป่า-เจียวกู้หลานธรรมชาติ ปลอดภัยต่อร่างกายแตกต่างด้วยคุณภาพไม่มีสารพิษตกค้างเหมือนเจียวกู้หลานทั่วๆ ไป
รายละเอียดการสั่งซื้อ เจียวกู้หลานป่า ธรรมชาติมุนไพรไทยคุณภาพจากเชียงใหม่ เจียวกู้หลานธรรมชาติจากเชียงใหม่ ปลอดสารพิษดีกว่าเจียวกู้หลานทั่วไป

นำเสนอเพื่อเปรียบเทียบ ระหว่างสมุนไพรเจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์กับสมุนไพรอื่นๆ

กลุ่มสมุนไพรที่ใช้ในการลดความดันโลหิต
      ความดันโลหิตสูง โรคที่คนเราทุกคนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะความดันโลหิตจะเป็นแรงผลักดันให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้นรักษาให้ความดันโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปกติ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ซึ่งหัวใจของคนเราเต้น 60-80 ครั้ง ความดันก็จะเพิ่มขณะที่หัวใจบีบตัวลดลงขณะที่หัวใจคลายตัว ความดันโลหิตของคนเราจะไม่เท่ากันตลอดขึ้นกับปัจจัย ความเครียด การออกกำลังกายนอนหลับไม่ควรเกิน 140/90 หากสูงกว่านี้ คุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูง
      โรคความดันโลหิตสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคอัมพาต โรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่คุกคามชีวิตที่น่ากลัว เพราะไม่มีอาการเตือน ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเป็นผู้หนึ่งที่ต้องเผชิญภาวะความดันโลหิตสูงอยู่ สมุนไพรที่ใช้จัดการกับโรคนี้คือ
ใบทองพันชั่ง นำใบที่ไม่อ่อนหรือแก่เกินไปนำมาตากแดดให้แห้ง ประมาณ 1 หยิบมือหรือประมาณ 20 ใบ ผสมกับชาจีน 1 หยิบมือ หลังจากนั้นใช้ชงในน้ำร้อนปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วนำมารับประทานวันละ3 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็น 5-7 วันติดต่อกัน แต่หากรับประทานไปแล้วความดันโลหิตยังสูงอยู่ก็ควรรับประทานต่อไปอีก 5-7 วัน จนกว่าความดันนั้นจะลดลงเป็นปกติ

กระเทียม ให้ซอยกระเทียมสดประมาณครึ่งช้อนชา กินพร้อมอาหารวันละ 2-3 ครั้งหรืออาจจะเคี้ยวกระเทียมกินสดๆ ก็ได้ ที่สำคัญห้ามกินตอนท้องว่าง เพราะฤทธิ์ร้อนของกระเทียมจะทำให้แสบกระเพาะได้

ขึ้นฉ่าย วิธีการนำขึ้นฉ่ายมารักษานั้นให้เลือกต้นสดๆ มาตำ คั้นเอาแต่น้ำดื่ม หรือใช้ต้นสด 1-2 กำมือตำให้ละเอียดต้มกับน้ำ แล้วกรองเอากากออก ใช้รับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะก่อนอาหาร หรือกินเป็นผักสดผสมในอาหารก็ได้

กาฝากมะม่วง ใช้กาฝากของต้นมะม่วง นำมาตากแห้งต้มน้ำดื่มต่างน้ำชาหรือตากแห้งคั่วแล้วชงดื่ม วิธีการทำ เอาน้ำใส่หม้อต้มใส่กาฝากมะม่วงที่ตากแห้งแล้วลงไปต้มให้เดือดและเคี่ยวจนกว่าน้ำของกาฝากจะออกมาเป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ที่ก็สามารถนำมาดื่มเป็นน้ำชา หรือดื่มแทนน้ำได้ตลอดเวลาที่หิวน้ำ

กระเจี๊ยบแดง น้ำกระเจี๊ยบจะมีรสเปรี้ยวหวานหอม กินแล้วสดชื่นพบมากในเขตร้อน กลีบเลี้ยงของดอกกระเจี๊ยบเป็นสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ส่วนที่ใช้ลดอาการความดันโลหิตสูงก็คือส่วนของกลีบเลี้ยง วิธีการเพียงนำกลีบเลี้ยงที่แห้งต้มน้ำหรือชงน้ำร้อนกินเป็นชากระเจี๊ยบ นอกจากจะช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงแล้วยังช่วยลดคอเลสเตอรอล แก้นิ่ว และลดไข้ได้อีกด้วย

ใบบัวบก นำต้นสดจำนวน 1-2 กำมือ มาต้มกับน้ำดื่ม แล้วดื่มเป็นประจำก็จะสามารถลดอาการความดันโลหิตสูงได้ แต่ที่น่าพิศวงมากกว่านั้นก็คือ ใบบัวบกสามารถรักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ เพียงนำต้นสด 1 กำมือล้างแล้วตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นผสมกับน้ำมันมะพร้าวทาวันละ 3-4 ครั้งรับรองแผลหาย ส่วนคนที่เป็นโรคตับ ตับโต ตับอักเสบ ใช้ต้นสดของใบบัวบก 240-550 กรัม ต้มคั้นเอาน้ำขนาดชามใหญ่ดื่มทุกวันอาการจะค่อยๆ ทุเลาจนดีขึ้นในที่สุด

หญ้าหนวดแมว นำใบไปตากจนแห้ง หลังจากนั้นนำมาชงกับน้ำ ดื่มเป็นประจำจนกว่าอาการความดันจะกลับสู่ภาวะปกติ แต่สิ่งที่ควรจำไว้ก็คือหญ้าหนวดแมวมีเกลือโพแทสเซียมอยู่ในปริมาณสูง ดังนั้นจึงไม่ควรใช้คู่กับยาแอสไพริน และผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ หากไม่มั่นใจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนำมาดื่ม

สมุนไพรอื่นๆ ที่มักเป็นส่วนผสมอยู่ในอาหารที่เรารับประทานอยู่ทุกวัน อาทิ ขิง ขี้เหล็ก ผักชี ผักชีฝรั่ง มะขาม แมงลัก ก็สามารถช่วยลดอาการโรคความดันโลหิตสูงได้ หากเจอสมุนไพรเหล่านี้ในอาหารอย่าเขี่ยทิ้งลงถังหรือข้างขอบจานเหมือนที่ผ่านมา ช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
สมุนไพรเหล่านี้ท่านต้องออกไปเสาะหาแล้วนำมาปรุงเพื่อจัดการกับความดัน เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ชนิดเดียวเอาอยู่

สมุนไพรลดเบาหวาน
มะระขี้นก ขม ขรุขระ ชนะเบาหวาน Cucumber
รายงานการศึกษาวิจัย
สรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด มีรายงานการศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดีย พบฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดในสัตว์ทดลอง และผู้ป่วยเบาหวาน และสามารถชะลอการเกิดต้อกระจกซึ่งเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้
ความเป็นพิษ การศึกษาด้านพิษวิทยาและความปลอดภัยของมะระขี้นก พบว่าเมล็ดมีสารโมมอร์คาริน (momorcharin) ประกอบที่เป็นพิษต่อระบบสืบพันธุ์ในสัตว์ทดลองคือ สารดังกล่าวมีฤทธิ์ทำให้แท้งในหนูถีบจักร ไม่มีพิษต่อเซลล์ แต่มีผลกระทบต่อเซลล์ของตัวอ่อนในระยะสร้างอวัยวะ ทำให้ส่วนหัว ลำตัว และขามีรูปร่างผิดปกติ แต่เมล็ดก็สามารถแยกส่วนออกไปได้ง่าย ดังนั้น จึงน่าจะมีความปลอดภัยในการนำมาใช้พอสมควร

สมุนไพรใช้ลดน้ำตาล
ลดระดับน้ำตาลได้มีสมุนไพรที่น่าศึกษา ดังนี้
กระเทียม มีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ คือ allicin โดยสารนี้จะไปกระตุ้นให้มีการหลั่ง insulin มากขึ้น หรือไปทำให้ insulin อยู่ในรูปอิสระ (free insulin แทน bound insulin) จึงทำให้มีการใช้น้ำตาลได้มากขึ้น ทำให้มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดได้
กะเพรา มีสารสำคัญ methyl chavicol,linalool ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
กาแฟ เมล็ดกาแฟเป็นถั่วชนิดหนึ่ง ซึ่งมีแร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระและสารพฤกษเคมีโพลีฟีนอลสูง ซึ่งมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับกรดคลอโรเจนิค (chlorogenic acid) และกรดไฟติก (phytic acid) ซึ่งมีผลทำให้ฮอร์โมน insulin ทำงานดีขึ้น
ขมิ้น มีสารสำคัญ คือ curmin และสารต้านอนุมูลอิสระ cur***inoids ชนิด hydroxyl radical ซึ่งสารดังกล่าวโดยเฉพาะ cur***in จะช่วยให้ฮอร์โมน insulin ย่อยสลายน้ำตาลได้ดี จึงช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
ข้าวกล้อง โดยมีการเปรียบเทียบกับข้าวที่ผ่านการขัดสี พบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะมีค่าของ glycamic area และ glycamic index ต่ำกว่าเมื่อรับประทานข้าวกล้องซึ่งมีสาร phytic acid, polyphenols จึงช่วยลดระดับน้ำตาลได้
เจียวกู้หลาน มีสารสำคัญ คือ gypenosides, flavonoids,glycosides ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด จึงช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ โดยไปกระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งสาร insulin และยับยั้งการดูดซึมกลูโคสในทางเดินอาหาร
ช้าพลู มีสาร lignans และ alkaloids สามารถลดน้ำตาลได้ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีอาการไม่รุนแรง แต่การออกฤทธิ์จะค่อนข้างช้า คือหลังจากรับประทานไปแล้ว 6-16 สัปดาห์
เตยหอม มีสาร linalyl acetate, linalool, coumarin ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ตำลึง ส่วนที่ใช้ คือ ใบและราก หรือทั้งต้น มีสาร betasitosterol, lupcolacetate, beta amyrin acetate และ cucurbitacin glycoside ใช้ลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งอาจนำมาใช้เป็นยารักษาเบาหวานได้
ถั่วเหลือง เป็นโปรตีนที่มีไอโซฟลาโวน (isoflavone) สูง มีผลทำให้ระดับ insulin ในเลือดเพิ่มขึ้น จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หรือปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้พอดี จึงเหมาะที่จะทำอาหารสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน
บอระเพ็ด มีสารกลุ่ม alkaloids และ diterpene lactones มีรสขมจัด มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการหลั่ง insulin ได้
บิลเบอรี่ ( bilbery ) มีสารสำคัญกลุ่ม flavonoids สูง ได้แก่ แอนโทไซยานินส์ หรือแอนโทไซยาโนไซด์ ซึ่งสามารถนำใบบิลเบอรี่แห้งชงน้ำเดือดดื่ม พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานได้ และช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน เช่น เส้นเลือดไปเลี้ยงประสาทตาลดลง ปลายเส้นประสาทตาอักเสบ จอประสาทตาเสื่อม
ผักชี สารสำคัญชื่อ coriandrol ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
ผักบุ้งไทย ช่วยลดน้ำตาล มีประโยชน์ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ฟักทอง เนื้อผล ใช้กระตุ้นการหลั่งของ insulin ได้ ให้ประโยชน์กับผู้ป่วยเบาหวาน
มะเขือพวง มีสาร solasodene และ solasodiene ส่วนรากมีสาร neochlorgenin และ jurubine รับประทานแล้วจะช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
มะแว้ง มี allealoid, solanine และ solanidine, diosgenin, betasilooteral ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้เล็กน้อย
มะระจีน มีสารรสขม momordicine และ P-insulin ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
มะระขี้นก มีสาร charanthin และ 5-hydroxy serotonin และมีสารที่ทำให้ขม ชอ momordicine มีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้ดี
มะรุม มีสาร moringinine และ moringin รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้
หม่อน มีสาร deoxynojimycin ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ยอ ส่วนที่ใช้ คือ ราก มีสาร anthraquinones ชนิด damacomthol-3-0-beta-D-primeceroside และ lucidin-3-0-Beta-D-primeneroside มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
เห็ดหลินจือ สารสำคัญ คือ bitter triterpenoid, polysaccharide, nucleotide จึงช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
สะตอ ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
โสม มีสารสำคัญ คือ ginsenosides และ polysaccharides ช่วยลดน้ำตาลในเลือดได้
หอมใหญ่ มีสาร flavonoid ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
อบเชย มีสาร flavonoid หรือ polyphenol ชนิด methylhydroxy chalcone polymer ซึ่งช่วยให้ร่างกายของคนเรามีความสามารถในการใช้ insulin เพื่อสันดาปกลูโคสได้ดีขึ้น และอบเชยสามารถลดการดื้อ insulin ทำให้เซลล์ต่าง ๆ สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานให้หมดไป ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดดี
อินทนินน้ำ ใบ มีคุณสมบัติเร่งให้เกิดการนำส่งน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์ไขมันเหมือน insulin สามารถลดระดับน้ำตาลได้
อัลฟาฟา (alfafa) มีสาร flavonoid ที่สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
ฮว่านง็อก หรือพญาวานร เป็นพืชของเวียดนาม ประกอบด้วย flavonoid หลายชนิด มีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลได้บ้าง

สมุนไพรเหล่านี้ท่านต้องออกไปเสาะหาแล้วนำมาปรุงเพื่อจัดการกับความดัน เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ชนิดเดียวเอาอยู่
เอกสารอ้างอิง : วารสารเภสัชกรรมชุมชน ปีที่ 8 ฉบับที่ 43 เดือนเมษายน 2552.


สมุนไพรแก้อาการภูมิแพ้
ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จึงทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เพราะในวันหนึ่งๆ มีทั้งอากาศหนาว,ร้อน,ฝนตก ทำให้เป็นภูมิแพ้ บางท่านเป็นหนักก็จะมีอาการหอบหืด สูตรยาสมุนไพรได้ผลดีสมุนไพรที่ใช้
1. หอมแดง 1 หัว (ขนาดเท่าหัวแม่มือผู้ป่วย)
2. กระเทียม (ขนาดเท่าหัวแม่มือผู้ป่วย)
3. ขิง เหมือนกับข้อ1-2
4. มะนาว 3-4 ลูก
5. น้ำผึ้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดง, กระเทียม, ขิง ที่เอาเปลือกออกแล้ว โขลกรวมกัน(ถ้ามีเครื่องปั่นก็ใช้วิธีปั่น)ให้ละเอียด มะนาวบีบเอาน้ำ นำมาผสมรวมกันกับหอมแดง กระเทียม ขิง และน้ำผึ้ง
ป.ล. ควรทำทีละมากๆหน่อย กะปริมาณเพราะสูตรข้างบนนี้เฉพาะดื่มครั้งเดียว ถ้าทำมากเก็บแช่ตู้เย็นไว้ดื่มทุกวันดื่มเวลาไหนก็ได้วันละกี่ครั้งก็ได้ เพราะสมุนไพรมีแต่ประโยชน์ไม่มีโทษ ตอนแรกดิฉันดื่มได้ประมาณ 1 เดือน อาการดีขึ้นมาก จากที่ต้องกินยา พ่นยา เดี๋ยวนี้ไม่ต้องใช้ยาแล้วจ้า
ถึงจะหายถ้านึกได้ก็จะดื่มเสมอๆจ้าฟ้าทะลายโจร สมุนไพรแก้ภูมิแพ้ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Burm.f.) Nees
วงศ์ : ACANTHACEAE
ชื่อท้องถิ่น : ฟ้าทะลาย, น้ำลายพังพอน, หญ้ากันงู, ฟ้าสะท้าน, คีปังฮี
ลักษณะทั่วไป :
ฟ้าทะลายโจรจัดเป็นพืชล้มลุก มีความสูงอยู่ในช่วง 30-60 ซม. ลำต้นลักษณะเป็นรูป 4 เหลี่ยมตั้งตรง กิ่งขนาดเล็กและแตกกิ่งออกทางด้านข้างจำนวนมาก รูปใบเรียว ขนาดกว้างประมาณ 1 ซม. ปลายแหลม ดอกมีขนาดเล็ก สีขาวประม่วงแดง เป็นช่อขนาดเล็ก กลีบดอก ด้านบนมีสามหยัก ส่วนด้านล่างมีสองหยัก ฝักของผลรูปร่างคล้ายต้อยติ่ง เมล็ดมีสีน้ำตาลอ่อน ส่วนของลำต้นและใบจะมีรสขมมาก ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยใช้เมล็ด
รายงานการศึกษาทางคลินิค
1. การรักษาอาการไข้เจ็บคอ (Pharyngotonsillitis) จากการติดเชื้อ
2. การรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิดแบคทีเรีย (Bacilliary dysentery)
3. การศึกษาประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด (Common cold)
ประโยชน์ของฟ้าทะลายโจร
1. ใช้ในการเพิ่มภูมิคุ้มกัน และ บรรเทาอาการหวัด โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคภูมิแพ้
2. รักษาอาการเจ็บคอ เนื่องจากการติดเชื้อ (ที่ไม่รุนแรง)
3. ใช้รักษาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการท้องเสีย และ โรคอุจจาระร่วงฉับพลัน
4. ใช้รักษาการติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง เช่น แผลฝีหนองต่างๆ
ข้อควรระวังในการใช้ฟ้าทะลายโจร
1. ในผู้ป่วยบางคน อาจจะมีอาการปวดท้อง ท้องเดิน ใจสั่น ให้หยุดใช้ฟ้าทะลายโจรทันที
2. หากใช้ต่อเนื่องกันนานๆ อาจเกิดอาการแขนขาชาหรืออ่อนแรง
3. หากใช้ฟ้าทะลายโจร 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาต่อไป
4. ไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์
สมุนไพรเหล่านี้ท่านต้องออกไปเสาะหาแล้วนำมาปรุงเพื่อจัดการกับความดัน เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ชนิดเดียวเอาอยู่

สมุนไพรที่ช่วยเพิ่มพลัง
โสมเป็นสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มพลัง ป้องกันโรคมะเร็ง และเสริมภูมิคุ้มกัน.
โสม

โสมเป็นรากของพืชทำให้แห้งอยู่ในตระกูล Araliaceae แบ่งคร่าวๆว่าเป็นโสมที่มีแหล่งกำเนิดจากเอเซียเรียก Asian ginseng ( Panax ginseng C.A., Meyer) ได้โสมจากประเทศ จีน เกาหลี โสมจากประเทศอเมริกา American ginseng ( Panax quinquefolius L. ) ให้ผลการรักษาน้อยกว่าจากเอเซีย อีกชนิดหนึ่งคือ Siberian ginseng ส่วนประกอบจะไม่เหมือนสองชนิดแรก ให้ผลการรักษาอ่อนสุด

โสมเป็นสมุนไพรซึ่งนิยมใช้ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน โดยประเทศทางตะวันออก เชื่อว่าเป็นยาครอบจักรวาลช่วยเพิ่มพลัง โสมนี้ยังมีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น โสมจัน โสมญี่ปุ่น โสมเกาหลี โสมอเมริกา ผักกะโสม โสมไทย โสมดอกแดง และโสมที่นิยมใช้กันมาพันปี คือ โสมเกาหลี หรือโสมอเมริกา ซึ่งเชื่อว่ามีสรรพคุณทางยาอย่างแท้จริง
“ โสมมีคุณภาพมากมาย จริงหรือไม่?”

ช่วยเพิ่มพลัง คุณสมบัติต่อต้านความเมื่อยล้าของโสม ทำให้ร่างกายมีการปลดปล่อยพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพขณะทำงานหรือออกกำลังกาย โสมช่วยให้ผนังเซลล์ดูดซึมออกซิเจนเพิ่มขึ้น มีผลทำให้ขบวนการเผาผลาญภายในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงปลดปล่อยพลังงานได้มากขึ้น ร่างกายจึงเหน็ดเหนื่อยช้า มีความทนต่อการทำงานหนักมากยิ่งขึ้น
ใช้ป้องกันโรคมะเร็ง
เสริมภูมิคุ้มกัน มีการทดลองในสัตว์พบว่าโสมสามารถเพิ่มการตอบสนองของภูมเิ่พิ่มขึ้น 50% มีปฏิกิริยาตอบสนองของเม็ดเลือดขาวต่อสารเคมีสูงขึ้น มีอัตราการทำลายจุลินทรีย์ หรืออนุภาคแปลกปลอมต่างๆของเซลล์เม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้น จำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มสูงขึ้น เป็นผลทำให้ร่างกายสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อโรค ที่มีสาเหตุจากเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อไวรัส เชื้อรา และสารเคมีต่างๆ ตลอดจนการต่อต้านโรคภูมิแพ้ หรือโรคที่เกิดจากภูมิคุ้มกันบกพร่องชนิดต่างๆได้ดี
ช่วยคลายเครียด คุณสมบัติต่อต้านความเครียดของโสม ช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจ ให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โสมจะเป็นตัวป้องกันและต่อต้านความเครียด โดยเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารต่างๆ เพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด
เป็นสมุนไพรที่ชลอความแก่่ อนุมูลอิสระที่สลายตัวจากการเผาพลาญ จะเป็นตัวทำลายเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ให้เสื่อมสลายลง อันเป็นสาเหตุหนึ่งของความแก่ โสมสามารถทำลายอนุมูลอิสระของออกซิเจน ช่วยให้เนื้อเยื่อเสื่อมช้าลง ประกอบกับคุณสมบัติเป็นตัวปรับสภาพให้ร่างกายและจิตใจ มีความทนทานต่อความกดดัน ซึ่งช่วยลดขบวนการของความแก่ ดังนั้นโสมจึงช่วยให้ชะลอความแก่ลงได้
ช่วยลดน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน ในคนไข้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง โสมทำให้ต่อมในตับอ่อนหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันการเกิด อาการมึนชา ตามนิ้วมือนิ้วเท้า และการเกิดแผลเน่าเปื่อย นอกจากนี้ ginsenoside Rb และ ginsenoside Rc ยังออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน จึงช่วยลดขนาดการใช้อินซูลินจากภายนอกในการรักษาคนไข้โรคเบาหวานได้
รักษาโรคสมรรถภาพทางเพศเสื่อม ผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ในสมัยโบราณเชื่อกันว่าโสมเป็นตัวกระตุ้นกำหนัดทางเพศ แต่การวิจัยทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้ว่า โสมไม่ได้ทำให้ฮอร์โมนทางเพศเปลี่ยนแปลงเลย การที่โสมช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น เป็นผลจากคุณสมบัติ ที่ทำให้สุขภาพจิต และสมรรถภาพทางร่างกายดีขึ้น
สารสำคัญในโสม

สารสำคัญ ที่พบในรากเป็นสาร saponin ซึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม ginsenoside กลุ่ม panaxoside และกลุ่ม chikusetsusaponin แต่ส่วนประกอบที่สำคัญ ของโสมคือ ginsenoside ซึ่งจะมีในโสมประมาณ ร้อยละ 1 -2 โดยน้ำหนัก ขึ้นกับชนิดของโสม แหล่งที่ปลูก รวมทั้งกระบวนการผลิต พบว่าโสมที่ขายในท้องตลาดบางชนิดแทบจะไม่มี ginsenoside เลย ดังนั้นเมื่อหาซื้อโสมมาบำรุงร่างกายจึงควรดูส่วนประกอบของโสม คือ ginsenoside เป็นสำคัญ

หลักฐานทางวิทยาศาสตร์

ยังไม่มีมาตรฐานความบริสุทธิ์และความเข้มข้นของโสม ทำให้ขาดความน่เชื่อถือ
พอจะมีหลักฐานว่าโสมทำให้มีพลังเพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากยังขาดมาตรฐานในการทดลองจึงขาดความน่าเชื่อถือ

ผลข้างเคียงของโสม

ผู้ที่รับประทานโสมมานานและปริมาณมากอาจจะเกิดกลุ่มอาการที่ประกอบไปด้วย ความดันโลหิตสูง นอนไม่หลับ มีผื่นและท้องร่วงที่เรียกว่า ginseng abuse syndrome
โสมแดงอาจจเสริมฤทธิ์กับกาแฟ หรือสารที่กระตุ้น
แม่ที่รับประทานโสมขณะตั้งครรภ์เมื่อคลอดลูกอาจจะมีขนมาก
โสมมีฮอร์โมนซึ่งทำให้เกิดอาการคัดเต้านม
การทดสอบคุณภาพของโสม

ตรวจพบยาฆ่าแมลง hexachlorobenzene ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งหนึ่งตัวอย่างในห้าตัวอย่าง
พบยาฆ่าแมลง quintozene and lindane สองในห้าตัวอย่าง
บางตัวอย่างพบว่ามีปริมาณโสมน้อยกว่าที่ระบุในฉลาก
สรุบพบว่า 10ใน 12 มใีคุณภาพตามที่ระบุในฉลาก ไม่พบโลหะหนัก หรือสารเจือปน

สมุนไพรเหล่านี้ท่านต้องออกไปเสาะหาแล้วนำมาปรุงเพื่อจัดการกับความดัน เจียวกู้หลานหรือปัญจขันธ์ชนิดเดียวเอาอยู่

วิเคราะห์เนื้อหางานวิจัย

     เราสามารถใช้ผลของงานวิจัยนี้เป็นข้อประกอบในการใช้สมุนไพรเจียวกู้หลานในทางช่วยทำความสะอาดให้หลอดเลือด เมื่อกำจัดไขมันที่เกาะตามผนังหลอดเลือดออกไป การไหลเวียนโลหิตจะง่ายขึ้นส่งผลทำให้หัวใจทำงานลดลงคือใชแรงดันบีบเลือดโดยสังเกตุจากการปั๊มหัวใจตามธรรมชาติต้องใช้แรงดันมากถ้าหลอดเลือดมีไขมันมาก การเอามันออกไป เลือดเดินสะดวกแรงปั๊มก็จะลดลงความดันที่หัวใจใช้ก็จะลดลงตรงไปตรงมา

เจียวกู้หลานนอกจากป้องกันและช่วยร่างกาย ยังบำรุงร่างกายเหมือนโสมสมุนไพรมากกว่าโสมเจียวกู้หลานเป็นสมุนไพรเย็นไม่ทำให้ร้อนใน

เจียวกู้หลานฟอร์ยูผลิตและจำหน่ายเจียวกู้หลานจากธรรมชาติ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้าชมเว็บไซต์ของเรา
เว็บไซด์นี้ใช้เพื่อการฝึกอบรมภายในการเครือข่ายผู้รักสุขภาพเท่านั้น