|
การวิจัยพบว่า ปัญจขันธ์ หรือ
เจียวกู่หลาน มีส่วนประกอบสำคัญเช่นเดียวกับ โสมถึง 6
ชนิดและมีคุณภาพดีกว่า โสมทั่วไป คุณสมบัติเด่น ในด้านการรักษา
ในกลุ่มคน พบว่า ช่วยรักษา โรคเส้นเลือดใหญ่อุดตัน โรคความดันโลหิตสูง
เสริมภูมิคุ้มกัน ให้ร่างกายเข้มแข็งขึ้น และ ปัญจขันธ์ หรือ เจียวกู่หลาน
สมุนไพร อาจช่วย รักษาโรคมะเร็งและโรค เอดส์ ได้
สรรพคุณที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง คือ สามารถทำให้คนกระชุ่มกระชวยและฟื้นฟู
ความเป็นหนุ่มสาว และ กระทรวงสาธารณสุขของ ประเทศจีน จึงได้รับรอง สมุนไพร
ปัญจขันธ์ หรือ เจียวกู่หลาน หรือ เจียวกู้หลาน ในบทบาทใช้บำบัดรักษา
ผู้ป่วยมากขึ้น
การพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทำให้สามารถสกัดและแยกสารเคมีบริสุทธิ์ที่มีคุณประโยชน์
ทางยาในพืชสมุนไพรได้สารสำคัญดังนี้
ไกลโคไซด์ (glycoside)
เป็นสารประกอบที่พบมากในพืชสมุนไพร มีโครงสร้างแบ่งเป็นสองส่วนคือ
ส่วนที่เป็นน้ำตาลกับส่วนที่ไม่ได้เป็นน้ำตาล ที่เรียกว่า อะไกลโคน
(aglycone) หรือ เจนิน (genin)
ส่วนที่ไม่ใช่น้ำตาลมีโครงสร้างแตกต่างกันไปหลายประเภท
ดังนั้นฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารประกอบในกลุ่มนี้จึงมีได้กว้างขวางแตกต่างกันออกไป
ส่วนที่เป็นน้ำตาลไม่มีฤทธิ์
ทางเภสัชวิทยาแต่เป็นส่วนช่วยทำให้การละลายและการดูดซึมเข้าสู่
ร่างกายดีขึ้น ช่วย ระบบกล้ามเนื้อหัวใจ และระบบการ ไหลเวียนของโลหิต
ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
กลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids Glycoside)
สารกลุ่มนี้มีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระ
และมีฤทธิ์ต่อต้านการจับตัวกันเป็นก้อนของ เกร็ดเลือด
ป้องกันการเกิดภาวะอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง
ไตรเทอร์ปีน แลคโตน (Triterpene Lactone)
สารกลุ่มที่พบว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมการ
ไหลเวียนของโลหิตได้รวดเร็วขึ้น
โดย นพ.สมทรง รักษ์เผ่า
นพ.สมทรง รักษ์เผ่า อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า
สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
ศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดปัญจขันธ์หรือ เจียวกู่หลาน เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา
พบมากในประเทศญี่ปุ่น จีน
และในไทยสามารถปลูกได้คุณภาพดีที่จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า
ตัวยาที่สกัดได้แสดงฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์เอชไอวีโพรทีเอส
ทำให้เชื้อไวรัสเอชไอวีไม่เพิ่มจำนวน มีฤทธิ์เสริมภูมิต้านทานในหลอดทดลอง
เมื่อทดสอบกับสัตว์ทดลอง ไม่พบพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง นอกจากนั้น
เมื่อทดสอบในอาสาสมัครให้รับประทานสารสกัดในแคปซูล พบว่า มีความปลอดภัย
ทางสถาบันวิจัยสมุนไพรเตรียมขยายผลนำสมุนไพรมาพัฒนาเป็นยาทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบัน
ทั้งนี้ในญี่ปุ่นและจีนใช้ปัญจขันธ์เป็นยาต้านการอักเสบ แก้ปวด
แก้ไอขับเสมหะ ลดระดับไขมันในเลือด เสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ยับยั้งการเติบโตของเนื้องอก รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ยับยั้งการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
ที่มา : สำนักข่าวไทย
โดยกรมวิชาการเกษตร
ในปี 2543 กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
ได้ทำการวิจัยพบสารต้านอนุมูลอิสระ ถึง 3 ชนิด คือ
1. เควอซิติน ( Quercetin )
2. เคมเฟอรอล ( Kaempferol ) เป็นสารกลุ่ม ฟลาโวนอยส์ ( Flavonoids )
มีคุณสมบัติ
- ป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้เล็ก
- ทำให้กระแสเลือดหมุนเวียนดี และหลอดเลือดแข็งแรง
- ยับยั้งการก่อสารมะเร็งเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่
- ลดอาการแพ้ ยืดอายุเม็ดเลือดขาว
3. โพลีฟีนอล ( Polyphenols ) มีฟทธิ์ป้องกัยอนุมูลอิสระ ลดความเครียด
เนื่องมากจากความไม่สมดุลของร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแข็งตัว
ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอกเลือดหัวใจ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งกระเพาะอาหาร
ลดคลอเรสเตอรอล เจียวกู่หลาน ช่วยปรับลดระดับคลอเลสเตอรอลชนิด LDL
กรดไขมันที่เสีย ที่ทำให้เกิดการอุดตันที่หลอดเลือดหัวใจ จึงเท่ากับ
ลดความเสี่ยงในการเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน รักษาสมดุลให้กรดไขมัน ชนิด HDL
กรดไขมันดี ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้ดี
และลดกรดไขมันอิสระที่เกิดขึ้นเกิดจากการแปรสภาพของกรดไขมันเสีย
สมุนไพรประเภทชงคล้ายชา ( ไม่รวมชา ) ไม่มีสารคาเฟอีน จึงไม่ทำให้
เรานอนไม่หลับ
ข้อมูลที่ใช้อ้าอิง
1. ภญ.ดร.อัญชลี จูฑพุทธิและ ภญ.ปราณี ชวลิตธำรง,
เจียวกู่หลานกระตุ้นภูมิคุ้มกันต้านอนุมูลอิสระ
หนองชาวบ้าน หน้า 14 ปีที่ 27 ฉบับที่ 316/2548
2. ศิริวรรณ สุทธจิตร เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพในหนังสือ
ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพ
คณะเภสัชศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2540
3. พัฒนาสมุนไพร "ปัญจขันธ์" ยับยั้งไวรัสเอดส์
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2547 www.nrct.net
4. ย้อนรอย "ฟ้าทะลายโจร-ปัญจขันธ์" บนเส้นทางสู่สุดยอดสมุนไพรปี 2548
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ วันที่ 18 สิงหาคม 2548
5. สถาบันจุฬาภรณ์ศึกษา "ปัญจขันธ์" ต้านมะเร็ง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, วันที่ 13 ตุลาคม 2549
6. สมศักดิ์ สินเถียนรพี
และคณะประสิทธิผลของปัญจขันธ์ในการลดระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วย
สารศิริราช ฉบับที่ 53 เดือนพฤศจิกายน 2544
7. สมุนไพรน่ารู้ 2:ปัญจขันธ์ สถาบันวิจัยสมุนไพร
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารสุข นนทบุรี 2548
8. จารีย์ บันสิทธิ์
และคณะคุณค่าทางโภชนาการของปัญจขันธ์ในการประชุมวิชาการ 50 ปีกรมอนามัย
วันที่ 10-12 กรกฏาคม 2545 กรุงเทพ 2545 หน้า N1
9. วิญนุ ธรรมลิขิตกุล, การวิจัยสมุนไพรทางคลีนิค, คลินึค 2534 ;7 (8)
:556-564
10. กัลยา อนุลักขณาปกรณ์และคณะ,
การศึกษาฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากปัญจขันธ์ในหนูขาว,
รายงานห้องปฏิบัติการเภสัชวิทยา สถาบันวิจัยสมุนไพร
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, นนทบุรี, 2547
11. กัลยา อนุลักขณษปกรณ์และคณะ,
การศึกษาฤทธิต้านอักเสบของปัญจขันธ์ในหนูขาว,
รายงานห้องปฏิบัติการเภสัชวิทยา
สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นนทบุรี, 2547
12. วารุณี จิรวัฒนาพงศ์, ข้อกำหนดทางเคมีของสมุนไพรปัญจขันธ์,
วารสารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, ก.ค.-ก,ย. 2548
47 (3) หน้า 168-7-179
13. Liu Jialiu, et al. Overall health-strengthening effects of
gypenosides containning tonic in
middle agen and aged persons. Journal fo Gulyang Medical College, 1993;
(3):146
14. Liu Jialiu, et al. Wffects of gypenosides-containing tonic on the
serum SOD activity and
MDA content in middle-aged person. "Joumal of Gulyang Medical College.
1994;19(1):17
15. Michale Blumert and Dr.Lialiu Lui. Jiaogulan immortality Herb. 1999
Feb 2.
16.ข้อมูลจากงานวิจัยสมุนไพรหนังสือ
สมุนไพรน่ารู้
17.สถาบันวิจัย สมุนไพร กรทวิทยาศาสตร์ การแพทย์
กระทรวงสาธารณะสุข ISBN 974-7549-68-3
18.กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
19.กรมวิชาการเกษตร
20.หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 4 กุมภาพันธ์
2540 |
