ยาฆ่าหมัด
ใช้ยาสำหรับหยดบนผิวหนัง
เช่น Imidocloprid, Fipronyl หรือ Selamectin มาหยดบนหลังคอแมว ทุกเดือน ยา Selamectin
ยังฆ่าไรขี้หู ไรในหู และพยาธิตัวกลมได้ด้วย ส่วนยา Fipronyl ฆ่าได้ทั้งเห็บและหมัด
ยาทุกชนิดดังกล่าวต้องใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์สเปรย์ชีวภาพที่ใช้ตามบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่หมัดฟักเป็นตัว
ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมคลายปุ่มหรือตุ่มสีน้ำตาลเทา ติดตามตัวแมวหรือไม่? | แมวของคุณมีเห็บ | ดึงเห็บออกทันที |
ถ้าแมวสะบัดหูหรือเกาหัวมากผิดปกติหรือไม่? ในหูมีคราบสกปรกหรือไม่? | แมวของคุณมีไรในหู( ดูวิธีกำจัดไรในหู ) | ใช้ยากำจัดไรในหู |
ถ้ามีขนร่วงเป็นวงทั้งตัวใช่หรือไม่? | อาจเป็นเชื้อราที่ผิวหนัง ( โรคขี้กลากวงเดือน ) หรือเป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเห็บหมัด | พบสัตวแพทย์ ภายใน 24 ชม |
ถ้าแมวมีอาการคันอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่? | แมวของคุณมีเหา | จงอาบน้ำให้แมวด้วยแชมพูกำจัดเหา |
ถ้าแมวมีอาการคันอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่? | อาจมีเห็บหรือหมัด เชื้อรา หรืออาการแพ้ บางกรณีอาจเป็นขี้เรื้อน | พบสัตวแพทย์ภายใน 24 ชม. |
ถ้าคุณเห็นตัวหมัด หรือสิ่งสกปรกจากตัวหมัด ตามขนแมวหรือไม่? | กำจัดหมัดที่ตัวแมวและตามบ้านด้วยยา ฆ่าที่มีประสิทธิภาพ |
พยาธิภายใน
พยาธิภายในบางชนิด โดยเฉพาะที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กว่าจะรู้ว่ามีอยู่ในตัวแมว
อาจเกิดความเสียหายมากแล้ว หนึ่งในบรรดาพยาธิภายในประเภทนี้ คือพยาธิ Toxoplasma
สามารถแพร่ไปสู่คนผ่านมูลของแมวที่ติดเชื้อนี้ ส่วนพยาธิอีกชนิดหนึ่งคือ Giardia
( พยาธิโปรโตชัวที่มีแส้ ) ก็จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทั้งนี้พยาธิภายในลำไส้สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลเป็นประจำ
ลูกแมวท้องป่อง สะอึก และขนหยาบหรือไม่? | ลูกแมวอาจมีพยาธิตัวกลม | ให้แมวกินยาถ่ายพยาธิ |
ลูกแมวที่แข็งแรงดีมีพยาธิตัวกลมปนออกมากับ อาเจียนหรือกับอุจจาระร่วงหรือไม่? | ลูกแมวอาจมีพยาธิตัวกลม | ให้แมวกินยาถ่ายพยาธิ |
มีวัตถุขนาดใหญ่เท่าเมล็ดข้าวที่ขนตรง ปากทวารหนักหรือไม่? | แมวมีพยาธิตัวแบน | ให้แมวถ่ายพยาธิตัวแบน |
แมวเลียบริเวณทราวหนักมากผิดปกติหรือไม่? | อาจมีพยาธิตัวแบน พยาธิแส้ม้าหรือมีอาการ ระคายเคืองที่ต่อมข้างก้น | บีบต่อมข้างก้นและปรึกษาสัตวแพทย์ |
แมวมีอาการท้องร่วงเรื้อรัง ( มีสีขาวคล้ายแป้งเปียก ) ใช่หรือไม่? | อาจมีเชื้อโปรโตซัวที่ชื่อ Giardia | พบสัตวแพทย์ภายใน 48 ชม |
แมวกินพวกสัตว์ป่าหรือไม่? | อาจเป็นอาการของโรคที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ชนิด Toxoplasma | หญิงมีครรภ์ควรทำการตรวจโรคและ ขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ |
พยาธิชนิดนี้ซึ่งมีเซลล์เดียว
และสร้างปัญหาให้แมวมีอยู่ 2 ประเภทสำคัญคือ
- พยาธิโปรโตชัวที่มีแส้ (Giardia) ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ทั้งคนและแมว
ติดต่อได้ทางกินน้ำที่มีเชื้อนี้อยู่ อีกทั้งแมวยังมีเชื้อนี้จาก การกินสัตว์ป่าที่ติดเชื้อนี้
หรือเกิดจากการตัดเล็บเท้าสัตว์ด้วยอุปกรณ์ที่ติดเชื้อนี้
- พยาธิโปรโตชัวในตระกูล Toxoplasma เกิดจากพยาธิเซลล์เดียวไม่ค่อยสร้างปัญหาให้กับแมวที่ติดพยาธิชนิดนี้
แต่ติดต่อไปสู่ คนได้ผ่านทางอุจจาระแมวที่ติดเชื้อ (แมวสามารถแพร่มูลที่ติดเชื้อได้หลังจากติดเชื้อได้หลังจากติดพยาธิชนิดนี้เพียงสองสามสัปดาห์
) ผู้หญิงมีครรภ์ (ทารกในครรภ์ที่ได้รับเชื้ออาจมีปัญหาขั้นรุนแรง ) และผู้มีคุ้มกันต่ำจะต้องระวังการติดเชื้อมากเป็นพิเศษ
*สตรีมีครรภ์ควรสวมถุงมือยางเมื่อล้างอุจจาระของแมว รวมทั้งตอนทำสวน โดยเฉพาะตอนทำเนื้อดิบมาปรุงอาหาร
หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคเนื้อที่ไม่สุก เพราะเป็นช่องทางที่พยาธิโปรโตซัวในตระกูล
Toxoplasma จะติดต่อไปสู่คนได้มากที่สุด
การป้องกันและการรักษา
ใช้ยา Fenbendazole กับแมวที่ติดพยาธิโปรโตซัวที่มีแส้
ยังไม่มีสวิธีการรักษา พยาธิในตระกูล Toxoplasmaได้แต่แมวที่อยู่ในบ้านจะไม่ติดเชื้อนี้
ถ้าไม่ไปกินสัตว์จำพวกที่ใช้ฟันแทะ
พยาธิตัวกลมมีขนาดเท่าไส้เดือนตัวเล็กลูกแมวมักจะติดพยาธิจากแม่
หรือติดจากรก หรือในการกินนมแม่ครั้งแรกพยาธิ ตัวกลมพบได้มากที่สุดในลูกแมว
สำหรับแมวที่โตเต็มวัย พยาธิที่พบบ่อยที่สุดคือ พยาธิตัวแบน ซึ่งติดต่อได้จากการที่แมวกลืนหมัดเข้าไป
ถ้าแมวมีตัวหมัด ก็มีความเป็นไปได้ ้ที่จะมีพยาธิตัวแบนพยาธิชนิดอื่นๆ เช่น พยาธิปากขอและพยาธิแส้ม้า
ปัจจุบันไม่ค่อยพบในแมว
การป้องกันและการรักษา
ใช้ยา
Imidoclopri , Fiprony หรือ Selamectin เพื่อควบคุมหมัด ซึ่งเป็นพาหะโดยตรงของพยาธิตัวแบน
ยาที่ได้รับการจดทะเบียน จะออกฤทธิ์ฆ่าพยาธิทั่วไปได้เป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะยา
Fenbendazole ที่ใช้ถ่ายพยาธิตัวกลมยาเหล่านี้ใช้ได้ทั่ง เพื่อป้องกัน และรักษาตามแต่วิถีชีวิตของแมวจะเป็นเช่นไร
พยาธิหัวใจ
แมวอาจป่วยจากการติดพยาธิที่ไปทำลายการทำงานของปอดและหัวใจ
พยาธิหัวใจมียุ่งเป็นพาหะพบได้ใน หลายภูมิภาคของทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ ถ้าปล่อยให้พยาธิชนิดนี้เติบโต
มันจะไปขัดขวางการทำงานของหัวใจ และ เส้นเลือดใหญ่รอบๆ หัวใจ ทำให้แมวน้ำหนักค่อยๆ
ลดลง และออกกำลังกายได้น้อยลง
การป้องกันและการรักษา
พยาธิหัวใจ
ซึ่งพบในสุนัขมากกว่าแมวสามารถป้องกันได้ โดยยา Selamectin เพื่อใช้ป้องกันพยาธิหัวใจ
รวมทั้งหมัด ไรในหู พยาธิตัวกลม และไรขี้เรื้อน ตลอดจนยังมียาอีกหลายชนิดที่สามรถป้องกันพยาธิหัวใจได้
โดยต้องกินเดือนละครั้ง
ถ้าแมวของคุณชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับความชุกของพยาธิหัวใจในภูมิลำเนาที่อยู่
ทั้งนี้การรักษา จะต้องกินยาติดต่อกันเป็นชุด