Page[1][2][3][4][5]
พยาธิภายนอก
-อาการที่พบจากพยาธิภายนอก
-วิธีกำจัดหมัดตามตัวและตามบ้าน
-วิธีกำจัดไรในหู
-มนุษย์กับพยาธิ
พยาธิภายใน
-อาการที่พบจากพยาธิภายใน
-พยาธิในลำไส้ที่มองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์
-พยาธิขนาดใหญ่ในลำไส้
-พยาธิหัวใจ
พยาธิภายนอก
             พยาธิบางประเภทเช่น เห็บ หมัด เหา และไรในหู สามารถพบเห็นได้ในขนแมว ขณะที่บางประเภท เช่น ไร ยีนส์ และรา จะไม่อาจ มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ปรสิตเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของการคัน ขนหยาบ มีรังแค ผิวหนังอักเสบโดยไม่มีอาการคัน หรือมีอาการคัน พร้อมกับมี่หรือไม่มีอาการอักเสบ นอกจากพยาธิภายนอกจะมีสาเหตุของอาการทางผิวหนังแล้วยังอาจนำโรคที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้หลากหลาย
             ความก้าวหน้าในการควบคุมพยาธิภายนอกส่งผลให้แมวมีปัญหาผิวหนังอันเกิดจากพยาธิน้อยลง แต่กระนั้น ภาวะทางผิวหนัง ที่มี พยาธิเป็นต้นเหตุก็ยังคงได้รับการวินิจฉัยจากสัตวแพทย์อยู่บ่อยๆ
อาการที่พบ
วิธีกำจัดหมัดตามตัวแมว และตามบ้าน
การควบคุมหมัด
             ใช้ยา Lufenuron สำหรับกำจัดหมัดแบบหยดตรงต้นคอ หรือแบบฉีด หมัดที่เกาะกินเลือดจากแมวก็จะถูกทำให้เป็นหมัน จากนั้นหมัดที่โตเต็มวัยก็จะตาย แล้วบ้านและแมวก็จะปลอดจากหมัด
ยานี้มีคุณภาพดี แต่ไม่เหมาะกับแมวที่แพ้น้ำลายหมัด ในแมวเหล่านี้หมัดควรถูกกำจัดก่อนที่มันจะกัดแมว

ยาฆ่าหมัด
             ใช้ยาสำหรับหยดบนผิวหนัง เช่น Imidocloprid, Fipronyl หรือ Selamectin มาหยดบนหลังคอแมว ทุกเดือน ยา Selamectin ยังฆ่าไรขี้หู ไรในหู และพยาธิตัวกลมได้ด้วย ส่วนยา Fipronyl ฆ่าได้ทั้งเห็บและหมัด
             ยาทุกชนิดดังกล่าวต้องใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์สเปรย์ชีวภาพที่ใช้ตามบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ไข่หมัดฟักเป็นตัว

ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมคลายปุ่มหรือตุ่มสีน้ำตาลเทา ติดตามตัวแมวหรือไม่? แมวของคุณมีเห็บ ดึงเห็บออกทันที
ถ้าแมวสะบัดหูหรือเกาหัวมากผิดปกติหรือไม่? ในหูมีคราบสกปรกหรือไม่? แมวของคุณมีไรในหู( ดูวิธีกำจัดไรในหู ) ใช้ยากำจัดไรในหู
ถ้ามีขนร่วงเป็นวงทั้งตัวใช่หรือไม่? อาจเป็นเชื้อราที่ผิวหนัง ( โรคขี้กลากวงเดือน ) หรือเป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากเห็บหมัด พบสัตวแพทย์ ภายใน 24 ชม
ถ้าแมวมีอาการคันอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่? แมวของคุณมีเหา จงอาบน้ำให้แมวด้วยแชมพูกำจัดเหา
ถ้าแมวมีอาการคันอยู่ตลอดเวลาใช่หรือไม่? อาจมีเห็บหรือหมัด เชื้อรา หรืออาการแพ้ บางกรณีอาจเป็นขี้เรื้อน พบสัตวแพทย์ภายใน 24 ชม.
ถ้าคุณเห็นตัวหมัด หรือสิ่งสกปรกจากตัวหมัด ตามขนแมวหรือไม่? กำจัดหมัดที่ตัวแมวและตามบ้านด้วยยา ฆ่าที่มีประสิทธิภาพ  
วิธีกำจัดไรในหู
 ไรในหูพบได้บ่อยมากในแมว และแมวจรจัดโดยส่วนมากมักได้รับการถ่ายทอดไรในหูมาจากแม่แมวหรือจากแมวละแวกนั้น
          - การกำจัดในหูอย่างชนิดถอนรากถอนโคนต้องใช้เวลานาน ไรที่อยู่ในหูจะกำจัดได้ง่ายด้วยการใช้ยาชนิดที่กำจัดไรในหูได้              หรือใช้ยา Selamectin หยดไปบนหลังคอแมว การหยดมิเนอรัล ออยล์ (mineral oil) ลงไปในหูจะฆ่าไรส่วน ใหญ่ได้แต่่              ไม่อาจกำจัดไรพวกที่อยู่นอกหู
          - ไรในหูสามารถแพร่ระบาดได้สูง ถ้าแมวตัวหนึ่งของคุณมีไรในหู ก็จะมีโอกาสสูงที่จะติดไปสู่แมวและสุนัขทุกตัวของคุณ
          - ควรทำการบำบัดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถกำจัดปัญหานี้ได้หมดสิ้น

มนุษย์กับพยาธิ
พยาธิบางชนิดมีผลต่อคน เช่น
         - เห็บและหมัด อาจขึ้นไปอยู่บนตัวคน เช่นเดียวกับบนตัวแมว
         - ไรขี้เรื้อน ทำให้ผิวหนังของคนละคายเคืองและอักเสบ
         - เชื้อราที่ผิวหนังติดต่อได้ง่ายมากสามารถแพร่กระจายไปสู่คนและจากคนไปสู่แมวได้ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการ            ติดเชื้อสูงเป็นพิเศษ ทั้งนี้แมวที่มีขนยาวมักจะเป็นโรคนี้กันมาก แต่ไม่ค่อยแสดงอาการติดเชื้อออกมา

พยาธิภายใน
พยาธิภายในบางชนิด โดยเฉพาะที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กว่าจะรู้ว่ามีอยู่ในตัวแมว อาจเกิดความเสียหายมากแล้ว หนึ่งในบรรดาพยาธิภายในประเภทนี้ คือพยาธิ Toxoplasma สามารถแพร่ไปสู่คนผ่านมูลของแมวที่ติดเชื้อนี้ ส่วนพยาธิอีกชนิดหนึ่งคือ Giardia ( พยาธิโปรโตชัวที่มีแส้ ) ก็จะแพร่ระบาดไปทั่วโลก ทั้งนี้พยาธิภายในลำไส้สามารถป้องกันได้ด้วยวิธีการทางการแพทย์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลเป็นประจำ

ลูกแมวท้องป่อง สะอึก และขนหยาบหรือไม่? ลูกแมวอาจมีพยาธิตัวกลม ให้แมวกินยาถ่ายพยาธิ
ลูกแมวที่แข็งแรงดีมีพยาธิตัวกลมปนออกมากับ อาเจียนหรือกับอุจจาระร่วงหรือไม่? ลูกแมวอาจมีพยาธิตัวกลม ให้แมวกินยาถ่ายพยาธิ
มีวัตถุขนาดใหญ่เท่าเมล็ดข้าวที่ขนตรง ปากทวารหนักหรือไม่? แมวมีพยาธิตัวแบน ให้แมวถ่ายพยาธิตัวแบน
แมวเลียบริเวณทราวหนักมากผิดปกติหรือไม่? อาจมีพยาธิตัวแบน พยาธิแส้ม้าหรือมีอาการ ระคายเคืองที่ต่อมข้างก้น บีบต่อมข้างก้นและปรึกษาสัตวแพทย์
แมวมีอาการท้องร่วงเรื้อรัง ( มีสีขาวคล้ายแป้งเปียก ) ใช่หรือไม่? อาจมีเชื้อโปรโตซัวที่ชื่อ Giardia พบสัตวแพทย์ภายใน 48 ชม
แมวกินพวกสัตว์ป่าหรือไม่? อาจเป็นอาการของโรคที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ชนิด Toxoplasma หญิงมีครรภ์ควรทำการตรวจโรคและ ขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์
อาการที่พบ
พยาธิในลำไส้ที่มองเห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์

        พยาธิชนิดนี้ซึ่งมีเซลล์เดียว และสร้างปัญหาให้แมวมีอยู่ 2 ประเภทสำคัญคือ
- พยาธิโปรโตชัวที่มีแส้ (Giardia) ซึ่งทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ทั้งคนและแมว ติดต่อได้ทางกินน้ำที่มีเชื้อนี้อยู่ อีกทั้งแมวยังมีเชื้อนี้จาก การกินสัตว์ป่าที่ติดเชื้อนี้ หรือเกิดจากการตัดเล็บเท้าสัตว์ด้วยอุปกรณ์ที่ติดเชื้อนี้
- พยาธิโปรโตชัวในตระกูล Toxoplasma เกิดจากพยาธิเซลล์เดียวไม่ค่อยสร้างปัญหาให้กับแมวที่ติดพยาธิชนิดนี้ แต่ติดต่อไปสู่ คนได้ผ่านทางอุจจาระแมวที่ติดเชื้อ (แมวสามารถแพร่มูลที่ติดเชื้อได้หลังจากติดเชื้อได้หลังจากติดพยาธิชนิดนี้เพียงสองสามสัปดาห์ ) ผู้หญิงมีครรภ์ (ทารกในครรภ์ที่ได้รับเชื้ออาจมีปัญหาขั้นรุนแรง ) และผู้มีคุ้มกันต่ำจะต้องระวังการติดเชื้อมากเป็นพิเศษ
*สตรีมีครรภ์ควรสวมถุงมือยางเมื่อล้างอุจจาระของแมว รวมทั้งตอนทำสวน โดยเฉพาะตอนทำเนื้อดิบมาปรุงอาหาร หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่ควรบริโภคเนื้อที่ไม่สุก เพราะเป็นช่องทางที่พยาธิโปรโตซัวในตระกูล Toxoplasma จะติดต่อไปสู่คนได้มากที่สุด
การป้องกันและการรักษา
         ใช้ยา Fenbendazole กับแมวที่ติดพยาธิโปรโตซัวที่มีแส้
ยังไม่มีสวิธีการรักษา พยาธิในตระกูล Toxoplasmaได้แต่แมวที่อยู่ในบ้านจะไม่ติดเชื้อนี้ ถ้าไม่ไปกินสัตว์จำพวกที่ใช้ฟันแทะ

พยาธิขนาดใหญ่ในลำไส้

           พยาธิตัวกลมมีขนาดเท่าไส้เดือนตัวเล็กลูกแมวมักจะติดพยาธิจากแม่ หรือติดจากรก หรือในการกินนมแม่ครั้งแรกพยาธิ ตัวกลมพบได้มากที่สุดในลูกแมว
สำหรับแมวที่โตเต็มวัย พยาธิที่พบบ่อยที่สุดคือ พยาธิตัวแบน ซึ่งติดต่อได้จากการที่แมวกลืนหมัดเข้าไป ถ้าแมวมีตัวหมัด ก็มีความเป็นไปได้ ้ที่จะมีพยาธิตัวแบนพยาธิชนิดอื่นๆ เช่น พยาธิปากขอและพยาธิแส้ม้า ปัจจุบันไม่ค่อยพบในแมว
การป้องกันและการรักษา
            ใช้ยา Imidoclopri , Fiprony หรือ Selamectin เพื่อควบคุมหมัด ซึ่งเป็นพาหะโดยตรงของพยาธิตัวแบน ยาที่ได้รับการจดทะเบียน จะออกฤทธิ์ฆ่าพยาธิทั่วไปได้เป็นส่วนใหญ่โดยเฉพาะยา Fenbendazole ที่ใช้ถ่ายพยาธิตัวกลมยาเหล่านี้ใช้ได้ทั่ง เพื่อป้องกัน และรักษาตามแต่วิถีชีวิตของแมวจะเป็นเช่นไร

พยาธิหัวใจ
             แมวอาจป่วยจากการติดพยาธิที่ไปทำลายการทำงานของปอดและหัวใจ พยาธิหัวใจมียุ่งเป็นพาหะพบได้ใน หลายภูมิภาคของทวีปยุโรป และอเมริกาเหนือ ถ้าปล่อยให้พยาธิชนิดนี้เติบโต มันจะไปขัดขวางการทำงานของหัวใจ และ เส้นเลือดใหญ่รอบๆ หัวใจ ทำให้แมวน้ำหนักค่อยๆ ลดลง และออกกำลังกายได้น้อยลง
การป้องกันและการรักษา
             พยาธิหัวใจ ซึ่งพบในสุนัขมากกว่าแมวสามารถป้องกันได้ โดยยา Selamectin เพื่อใช้ป้องกันพยาธิหัวใจ รวมทั้งหมัด ไรในหู พยาธิตัวกลม และไรขี้เรื้อน ตลอดจนยังมียาอีกหลายชนิดที่สามรถป้องกันพยาธิหัวใจได้ โดยต้องกินเดือนละครั้ง
ถ้าแมวของคุณชอบออกไปเที่ยวนอกบ้าน ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับความชุกของพยาธิหัวใจในภูมิลำเนาที่อยู่ ทั้งนี้การรักษา จะต้องกินยาติดต่อกันเป็นชุด


Webmaster C.F.Y. FARM   E-mail [email protected]
มีต่อหน้า 5 จ๊ะ
health & beauty 5
Hosted by www.Geocities.ws

1