Page[1][2][3][4][5]
-การจับแมวที่อยู่ในอารมณ์สงบก่อนตรวจสุขภาพ
- การจับแมวที่อยู่ในอารมณ์ตื่นกลัวก่อนตรวจสุขภาพ
- การตรวจร่างกายแมวตั้งแต่หัวจรดหาง
- การตรวจภาวะขาดน้ำ
- การตรวจสีของเหงือกและริมฝีปาก
- การตรวจระยะเวลาการคืนตัวของเส้นเลือดฝอย
การตรวจร่างกายและสุขภาพแม
การตรวจร่างกายและสุขภาพแมว
          ในการจะค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมว คุณจำเป็นต้องตรวจร่างกายแมว ซึ่งการทำเช่นนี้ได้ คุณต้องควบคุมเจ้าเหมียวให้อยู่ นี่อาจเป็นกระบวนการธรรมดา ๆ แต่ในบางสภาวะก็ทำได้ยากลำบาก เช่นเมื่อแมวมีอาการตื่นกลัว หรือกำลังเจ็บปวด จะไม่ยอมให้จับตัว ทั้งนี้ตอนที่คุณจับตัวแมวจงจับให้แน่นแต่นุ่มนวล และอย่างทำให้ตัวเองอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงที่จะถูกตะปบหรือกัด
การจับตัวแมว
           คุณควรฝึกให้แมวให้ยอมตรวจร่างกายให้ทั่วนับตั้งแต่ที่นำมาเลี้ยง ควรหมั่นฝึกการตรวจร่างกายแมว โดยให้นำไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการเล่น ในระหว่างการฝึกตรวจร่างกายแมว จงอย่าพยายามทำทุกอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะจะทำให้แมวส่วนใหญ่หงุดหงิด วิธีที่ถูกต้องคือ ควรตัวร่างกายเป็นส่วนๆ เช่น ตรวจที่หัวกับคอ หรือที่ผิวหนังกับขนทั้งนี้ควรสร้างความเคยชินให้แก่แมวในการตรวจร่างกายด้วยการให้รางวัลแมวที่เชื่อฟังคำสั่งด้วยอาหาร เช่น ตับหรือกุ้งสุก
การจับตัวแมวที่อยู่ในอาการสงบ
   1. จับหัวแมวจากบริเวณใต้คางให้แน่นแต่ควรจับเบาๆ
   2. ใช้ข้อศอกของแขนอีกข้างหนึ่งกดเบาๆ ไปที่ตัวแมว ขณะที่ทำการตรวจร่างกายด้วยมือข้างนั้น

การจับตัวแมวที่อยู่ในอาการตื่นกลัว
           จงจับแมวให้เบาและนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะหากจับแน่นหรือแรงเกินไปจะทำให้แมวหงุดหงิดและยิ่งไม่ยอมให้ความร่วมมือ
พยายามพูดคุยสร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าเหมียวขณะที่เข้าหาแมวอย่างช้าๆ อย่าจ้องตาแมวเพราะเจ้าเหมียวจะถือว่าเป็นการข่มขู่
คอยสังเกตภาษากายของแมวเพื่อตีความท่าทางและพฤติกรรม
อย่าทำให้ตัวเองเสี่ยงกับการถูกแมวข่วนหรือกัด ถ้าคุณไม่มั่นใจว่าแมวจะตอบสนองต่อการตรวจร่างกายอย่างไรควรนำผ้าขนหนูผืนใหญ่ๆ มาห่อแมวไว้
   1. จับแมวให้อยู่บนผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอน หรือวัสดุที่ห่อได้ และจับแมวบริเวณหลังคอให้แมวอยู่นิ่ง
   2. ห่อผ้าพันตัวแมวไม่ให้หลุด ระวังอย่าให้แมวสามารถใช้ฟันกัด หรือใช้อุ้มเท้าตะปบได้
   3. ต้องให้หัวแมวขยับได้ขณะที่ตัวถูกพันอยู่ในห่อผ้า โดยพันผ้าไว้ที่คอเพื่อไม่ให้แมวสลัดห่อผ้าหลุด และทำการตรวจร่างกายเมื่อแมวอยู่ในอาการสงบแล้วเท่านั้น

การตรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดหาง
           ความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับแมวขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเห็น ได้กลิ่น และได้ยิน ซึ่งนั้นเป็นวิธีการเชิงรับคือต้องรอให้เกิดปัญหาก่อน เราจึงจะทราบ แต่คุณจะยิ่งเข้าใจแมวได้มากขึ้นเมื่อคุณพบว่า อะไรเกิดขึ้นถ้าแมวของคุณไม่พอใจเมื่อถูกตรวจร่างกายเราควรรู้จัก และเข้าใจอารมณ์ของแมวต่างๆ ได้ดี ขณะคุณตรวจร่างกายและควรบันทึกสิ่งที่พบไว้ด้วย และนำบันทึกสถิตินั้นติดไปด้วยเมื่อพบสัตวแพทย

สังเกต
บันทึก
สังเกตพฤติกรรมและปฏิกิริยาของแมว บันทึกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่พบ
ฟังเสียงที่แมวเปล่งออกมา บันทึกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่พบและดำเนินการใดๆ ที่จำเป็น
เฝ้าดูกิจกรรมและการเคลื่อนไหวของแมว บันทึกการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่พบและดำเนินการใดๆ ที่จำเป็น
ดมกลิ่นแมวทั่วทั้งตัว บันทึกการเปลี่ยนแปลง
ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจและอัตราการหายใจเข้าออก บันทึกสถิติ
ตรวจดูสีเหงือก และการคืนตัวของเส้นโลหิตฝอย capillary refill บันทึกสีเหงือก และระยะเวลาการคืนตัวของเส้นเลือดฝอย
บีบและดึงผิวหนังบริเวณหลังคอของแมว เฝ้าดูภาวการณ์ขาดน้ำของแมว
ตรวจ ตา หู จมูกและปากของแมว บันทึกสิ่งที่พบ
ตรวจหัวและบริเวณคอของแมว บันทึกสิ่งที่พบ
ตรวจร่างกายและแขนขา รวมทั้งอุ้มเท้าและเล็บ บันทึกสิ่งที่พบ
ตรวจหาง ทวารหนัก ช่องคลอดและเนื้อเยื่อบริเวณเต้านม หรือที่อวัยวะเพศของตัวผู้ ถุงอัณฑะ และหนังหุ้มลึงค์ บันทึกสิ่งที่พบ
ตรวจผิวหนังและขนของแมว นำสิ่งแปลกปลอมที่พบทิ้งไปและบันทึกการเปลี่ยนแปลง
สังเกตการเปลี่ยนแปลงด้านการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ บันทึกสิ่งที่พบ
เฝ้าดูกิจวัตรการขับถ่ายของแมว บันทึกการเปลี่ยนแปลง
เฝ้าดูพฤติกรรมการกินอาหารและน้ำของแมว บันทึกการเปลี่ยนแปลง
จับแมวชั่งน้ำหนัก บันทึกน้ำหนักตัว

คำแนะนำของสัตวแพทย์
          การตรวจสอบน้ำหนักตัวของแมวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และจะต้องมีมาตรวัดที่แม่นยำและละเอียดเป็นพิเศษ ทั้งนี้เพราะน้ำหนักตัวที่ลดลง 225 กรัม อาจฟังดูไม่มากแต่กับแมวทั่วไป มันเทียบเท่ากับน้ำหนักของคุณลดลงถึง 7 กิโลกรัมเลยทีเดียว ฉะนั้นการเปลี่ยนแปลง
ของน้ำหนักที่ไม่คาดคิดจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับแมวของคุณแล้ว

ควรไปพบแพทย์ภายใน 24 ชม หากคุณสังเกตพบ
น้ำหนักลดพร้อมกับ
- มีไข้
- อาเจียน
- เซื่องซึม
- ท้องร่วง
- เดินกระเผลก
- ความอยากอาหารเปลี่ยนไป
- พฤติกรรมการดื่มน้ำเปลี่ยนไป
น้ำหนักขึ้นพร้อมกับ
- เซื่องซึม
- กระหายน้ำมากขึ้น
- ความอยากอาหารลดลง
- ขนไม่เป็นเงางาม
- ขนร่วง
- ตัวสั่น หรือตัวโยน
- อาเจียน
การตรวจภาวะขาดน้ำ
           ความยืดหยุ่นของผิวหนังบริเวณส่วนบนของคอแมว นับเป็นเครื่องบ่งชี้ที่ดีถึงภาวการณ์ขาดน้ำ สำหรับแมวที่สุขภาพดีเมื่อดึงหนังบริเวณ ส่วนคอบนและปล่อยให้มันคืนตัวกระบวนการนี้เรียกว่ากระบวนการทำกระโจม ผิวหนังจะคืนตัวกลับมาอยู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว ในการทดสอบภาวการณ์ขาดน้ำในสัตว์ที่อ้วนผิดปกติหรือสูงอายุ ต้องตรวจสอบที่เหงือกว่าเหงือกจะแห้งและเหนียว
เหตุใดผิวหนังจึงไม่คืนตัวทันที
กรณีที่ 1. แมวอาจอยู่ในภาวะขาดน้ำ พบสัตวแพทย์ทันที
กรณีที่ 2. แมวอาจขาดสารอาหาร พบสัตวแพทย์วันนี้
กรณีที่ 3. แมวอาจแก่ชรา การสูญเสียความยืดหยุ่นตามธรรมชาติของวัย ทำการตรวจยุ่งยากมาก
กรณีที่ 4. แมวอาจอ้วนเกินไป ผิวหนังตึงทำให้การประเมินภาวการณ์ขาดน้ำยากขึ้น

การตรวจสีของเหงือกและริมฝีปาก
           สีเหงือกของแมวบ่งชี้ปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดสามารถตรวจสอบได้โดยเผยอริมฝีปากขึ้นมาและสังเกตสีของเหงือก และริมฝีปากโดยไม่ต้องพิจารณาเหงือกบริเวณที่เป็นสีดำ

เหลือง แมวอาจมีพยาธิในเลือด มีการติดเชื้อที่ตับ หรือเป็นโรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบติดเชื้อ พบสัตวแพทย์ภายใน24 ชม.
น้ำเงิน แมวอาจอยู่ในภาวะช็อค เนื่องจากขาดออกซิเจน พบสัตวแพทย์ทันที
ขาว แมวอาจอยู่ในภาวะช็อคหรือสูญเสียเลือด หรือโลหิตจาง พบสัตวแพทย์ทันที
ซีด แมวอาจอยู่ในภาวะช็อคหรือสูญเสียเลือด หรือโลหิตจาง พบสัตวแพทย์ทันที
ชมพู เป็นภาวะปกติ
แดง แมวอาจได้รับสารพิษคาร์บอน มอนนอกไซด์หรือมีเลือดออกในปาก พบสัตวแพทย์ทันที

การตรวจระยะเวลาการคืนตัวของเสื้นเลือดฝอย
           หากเลือดไหลเวียนเป็นปกติ เมื่อคุณใช้นิ้วกดลงบนเหงือกแมว จะทำให้บริเวณที่ถูกกดซีด และเมื่อปล่อยมือบริเวณที่
ถูกกดนั้นจะต้อง มีเลือดไหลกลับมาหล่อเลี้ยงทันที

เหงือกแมวซีดอยู่นานแค่ไหนหลังจากถูกกด ? และหมายความว่าอย่างไร
4 วินาที แมวอยู่ในภาวะช็อคขั้นรุนแรง พบสัตวแพทย์ทันที
2วินาที แมวอยู่ในภาวะช็อคที่ไม่รุนแรงหรือสูญเสียเลือด พบสัตวแพทย์วันนี้
1-2 วินาที เป็นภาวะปกติ
น้อยกว่า 1 วินาที แมวของคุณอาจมีความดันโลหิตสูง พบสัตวแพทย์ภายใน24 ชม.

มีต่อหน้า 3
Webmaster C.F.Y. FARM mail [email protected]
Hosted by www.Geocities.ws

1