วิธีการตรวจจับข้อผิดพลาด (Error Detection Methods) ตามหลักการแล้วเครือข่ายจะต้องสามารถถ่ายโอนข้อมูลจากอุปกรณ์หนึ่งไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้อย่างถูกต้อง และสมบูรณ์ แต่เครือข่ายไม่สามารถรับประกันถึงข้อมูลที่ส่งไปยังปลายทาง ว่าจะเป็นข้อมูลที่เหมือนกับต้นทางที่ส่ง มาหรือไม่ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ข้อมูลอาจผิดเพี้ยนไปจากเดิมในระหว่างการเดินทาง อันเนื่องมาจากถูกรบกวนจาก ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดทอนของสัญญาณ หรือถูกสัญญาณรบกวนสอดแทรกเข้ามาระหว่างการ เดินทาง สิ่งเหล่านี้จะส่งผลกระทบข้อมูลโดยตรง ทำให้บิตข้อมูลอาจถูกลบล้างไปบิตใดบิตหนึ่งหรือหลายๆบิตก็ เป็นได้ อย่างไรก็ตามเครือข่ายที่ดีต้องมีความน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีกลไกในการตรวจจับเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งตามปกติการตรวจจับข้อ ผิดพลาดและการแก้ไข (Detection and Correction) ถูกนำมาใช้งานบนชั้นสื่อสารดาต้าลิงก์ และชั้นสื่อสารทราน สปอร์ตบนแบบจำลอง OSI โดยในชั้นสื่อสารดาต้าลิงก์เมื่ออุปกรณ์ใดมีการสร้างเฟรมข้อมูลขึ้นมา ก็จะมีการแทรก รหัสเข้าไปเพื่อนำมาใช้ตรวจจับข้อผิดพลาด ของข้อมูลในเฟรมนั้นด้วยครั้นเมื่อเฟรมข้อมูลดังกล่าวเดินทางมาถึง ปลายทาง โหนดปลายทางก็จะนำรหัสตรวจจับข้อผิดพลาด ที่แนบมาพร้อมกับเฟรมข้อมูลนำไปตรวจสอบ ในทำ นองเดียวกัน ชั้นสื่อสารทรานสปอร์ตก็จะมีความคล้ายคลึงกับชั้นสื่อสารดาต้าลิงก์ แต่การปฏิบัติการบนชั้นสื่อสาร ทรานสปอร์ตจะเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่รับส่งกันในลักษณะ End-to-End ที่แต่ละโฮสต์อยู่ห่างไกลกัน ในขณะที่ชั้นสื่อ สารดาต้าลิงก์จะเป็นในลักษณะ Node-to-Node ซึ่งรับส่งอยู่บนลิงก์เดียวกันสำหรับชนิดของรหัสตรวจจับข้อผิดพลาด มีหลายวิธีด้วยกัน คือ 1. การใช้บิตตรวจสอบ (Parity Checks) 2. การหาผลรวม (Checksum) 3. การใช้วิธี CRC (Cyclic Redundancy Checksum) |