|
1) |
ยางเรียบ |
Pimples - In |
|
ยางเรียบจะให้คุณสมบัติ การหมุน (Spin) ได้ดีที่สุด และจะเป็นหน้ายางที่เล่นได้ง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นปิงปองทุกคน
|
|
2) |
ยางเม็ดสั้น |
Pimples - Out |
|
ยางเม็ดสั้นจะมีคุณสมบัติในการให้ความเร็วได้ดี เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเล่นเร็ว โดยทั่วไปยางเม็ดสั้นมักจะนิยมนำมาไว้ใช้ในด้าน Back Hand มากกว่า Fore Hand มีข้อแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการจะเล่นยางประเภทเม็ดสั้นนี้จะขอแนะนำให้ฝึกซ้อมโดยใช้ยางเม็ดสั้นมาตั้งแต่เริ่มเล่นเลย เพราะจะทำให้เกิดความชำนาญและความคุ้นเคยได้ดีกว่ามาเปลี่ยนเล่นภายหลัง โดยเฉพาะการเล่นยางเม็ดสั้นนี้จะต้องตีจังหวะที่เร็ว ( จังหวะที่ลูกลอยขึ้นถึงจุดสูงสุด ) จึงจะได้เปรียบคู่ต่อสู้
|
|
3) |
ยางเม็ดยาว |
Long - Pimples |
|
ยางเม็ดยาวจะเป็นยางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ เน้นการรับ การเล่นยางเม็ดยาวนี้ จะต้องผ่านการฝึก และ ได้รับการแนะนำจากผู้ที่มีความชำนาญในการเล่นยางประเภทนี้มาโดยเฉพาะ จึงจะทำให้เกิดความลำบากกับคู่ต่อสู้ได้ ลักษณะของลูกปิงปองที่เกิดจะการเล่นยางชนิดนี้จะมีความไม่แน่นอนที่สูง บางครั้งลูกจะมีอาการแกว่งไปมา , บางครั้งลูกจะไม่หมุนเลย หรือบางครั้งลูกจะหนักมาก ฯลฯ สำหรับการเล่นยางปิงปองชนิดนี้ในประเทศไทย สมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยได้กำหนดอายุผู้ที่สามารถเล่นยางชนิดนี้ได้ต้องอายุตั้งแต่ 14 ปีขึ้นไปเท่านั้นจึงจะอนุญาตให้แข่งขันได้
|
|
4) |
ยางเม็ดกึ่ง |
Half - Pimples |
|
ยางเม็ดกึ่งจะมีความยาวของเม็ดยางอยู่กึ่งกลางระหว่างยางเม็ดสั้น และ ยางเม็ดยาว ซึ่งยางเม็ดกึ่งนี้จะให้คุณสมบัติที่คล้ายๆ กับยางเม็ดยาว การจะเล่นให้เกิดความชำนาญจึงต้องการการฝึกซ้อมที่เป็นพิเศษเช่นกัน
|
|
5) |
ยางแอนตี้ |
Anti - Rubber |
|
ยางประเภทนี้จะมีหน้ายางที่เรียบเหมือนกับยางเรียบ ( Pimples-in ) แต่จะแตกต่างที่ยางชนิดนี้ จะไม่ทำให้เกิดการหมุนเลย ซึ่งลูกที่เกิดจากการตียางชนิดนี้จะตรงกันข้ามกับที่เกิดขึ้นกับยางเรียบ เช่น หากยางเรียบตัดมาเป็นลูกหนัก เราใช้ยางแอนตี้ตัดกลับไปจะเป็นลูกเบา ฯลฯ
|