ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ



จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อความสะดวก และสวยงาม
(เฉพาะหน้าจอใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์)
กรุณาคลิก จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อให้กรอบ
ค้นข้อความ ปรากฎที่ด้านซ้ายของหน้า

พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๔๕ เล่ม (ปกสีฟ้า)
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ที่มาของข้อมูล : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับ มจร.
MCUTRAI Version 1.0

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙-๓ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๖ ยมก ภาค ๒

พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๒
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้ง
หมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และเป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้และเป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้เป็นอเหตุกะมีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้แต่เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๓๒] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้อิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีฆานะและอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีอิตถีและฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้ปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีฆานะและปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้ฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลัง
จุติ บุคคลผู้มีปุริสะและฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้ง
หมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้แต่เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และเป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะแต่มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้แต่เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้และเป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้จิตเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๓๓] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคล
ผู้มีอิตถีและปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิด และปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มี
ปุริสะและอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และเป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะแต่มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้แต่เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้และเป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๓๔] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมด
ผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และเป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะแต่มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้เป็นอเหตุกะและมีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้แต่เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมด
ผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้และเป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมด
ผู้กำลังจุติ บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตและมีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ
บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๓๕] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลมีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัสในปวัตติกาล โสมนัสสินทรย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติ-
กาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่
ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลมีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิป-
ปยุตจากอุเบกขา ในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก
สัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๓๖] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสและอุเบกขา บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาท-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาและโสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นสเหตุกะแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสและที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสและสัทธา
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากสัทธาและที่สัมปยุตด้วยโสมนัสใน
ปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่
วิปปยุตจากสัทธาและโสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสและที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัส
และญาณ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณและที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังค-
ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณและ
โสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่มีจิตปราศจากโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากโสมนัสในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๓๗] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลมีจิตปราศจากอุเบกขาแต่เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาและที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังค-
ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาและสัทธา
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะแต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากสัทธาและที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังค-
ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากสัทธาและ
อุเบกขา บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตแต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาและที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังค-
ขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาและญาณ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณและที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ใน
ภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณและ
อุเบกขา บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้มีจิตเกิดได้แต่มีจิตปราศจากอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๓๘] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิต
ที่วิปปยุตจากญาณและที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
จิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณและสัทธา บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นอเหตุกะแต่มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่
วิปปยุตจากสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๓๙] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นญาณวิปปยุตแต่มีจิตเกิดได้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่วิปปยุตจากญาณในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
๒. อตีตวาร
อนุโลมบุคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๔๐] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่
ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๔๑] อนุ. ฆานินทรีย์ ฯลฯ อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ ฯลฯ ชีวิตินทรีย์
ฯลฯ โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลใดเคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
จักขุนทรียมูลนัย
[๒๔๒] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์เคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด
ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์เคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด
ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์เคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์
ไม่เคยเกิด ในปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด
ในปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด ใน
ปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๔๓] อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็
เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์เคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคย
เกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์เคยเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์
ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สัทธินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นสัทธินทรีย์เคยเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นสัทธินทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์
ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็
เคยเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๔๔] อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๔๕] อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิด แต่
ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็
เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์เคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคย
เกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์เคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์
ไม่เคยเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์เคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๔๖] อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
ไม่เคยเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด
ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์เคยเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๔๗] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๔๘] อนุ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๔๙] อนุ. สัทธินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๕๐] อนุ. ปัญญินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด มนินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๕๑] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคย
เกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๕๒] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๕๓] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๕๔] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์
ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๕๕] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๕๖] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ อุเปก-
ขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้
อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๕๗] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๕๘] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๕๙] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปัจจนีกบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๖๐] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๖๑] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ฯลฯ ชีวิตินทรีย์ ฯลฯ โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
ฯลฯ
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๖๒] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิด
มีไหม
วิ. ไม่มี
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๖๓] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. โสตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด
ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ในภูมินั้น
ก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคย
เกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็
ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคย
เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด
ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๖๔] อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่
ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่
มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๖๕] อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๖๖] อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่
ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด แต่
มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๖๗] อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่
เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๖๘] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๖๙] อนุ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๗๐] อนุ. สัทธินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๗๑] อนุ. ปัญญินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๗๒] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิและในอรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
จักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิและในอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
จักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคย
เกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๗๓] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
สุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
และอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใชไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๗๔] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๗๕] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อสัญญสัตต-
ภูมิและอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
สุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
และอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๗๖] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
สุทธาวาสภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์
ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด
และชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๗๗] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์
ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๒. อตีตวาร
อุเปกขินทรียมูลนัย
[๒๗๘] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๗๙] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๘๐] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
๓. อนาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๘๑] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ก็ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใด
มีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้มีอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่
ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้มีโสมนัสอุบัติแล้วจักปรินิพพาน จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๘๒] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่
ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๘๓] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และ
บุคคลเหล่าใดถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่
โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและ
บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและ
บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด

อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๘๔] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้ว
ปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือเอาปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ผู้ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่
ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
มนินทรียของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๘๕] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๘๖] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับ
แห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๘๗] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๘๘] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๘๙] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๙๐] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์จักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์จักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่จักขุนทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
ในปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ใน
ปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๒๙๑] อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและฆานินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิด แต่
ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิดและฆานินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิด แต่ฆานินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อิตถินทรียมูลกนัย
[๒๙๒] อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่
อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิด แต่
อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิด แต่อิตถินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๒๙๓] อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นโสมนัสสินทรีย์จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิด แต่
ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นอุเปกขินทรีย์จักเกิดและปุริสินทรีย์
ก็จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในกามาวจรภูมิ ในภูมินั้นมนินทรีย์จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๒๙๔] อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภูมินั้นชีวิตินทรีย์จักเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๒๙๕] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์
ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๒๙๖] อนุ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๒๙๗] อนุ. สัทธินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๒๙๘] อนุ. ปัญญินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด มนินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๒๙๙] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้ มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติและจุติอยู่ในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้ มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
และอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็จักเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๓๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๐๐] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ในภูมิ
นั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ในภูมิ
นั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ในภูมิ
นั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๐๑] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิใน
บางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสิน-
ทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้
อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
อิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๐๒] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่
ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็
จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิด ได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๐๓] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๐๔] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในลำดับแห่ง
จิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๐๕] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๐๖] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๐๗] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๐๘] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิม-
ภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิม-
ภวิกบุคคล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๐๙] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่
เกิด ปัจฉิมภิวกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้ว
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรียมิใช่จักไม่
เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคล ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้มีอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสิน-
ทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิม-
ภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคลและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคล ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อิตถีนทรียมูลกนัย
[๓๑๐] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่
เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้ว
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่
เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและ
บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคล อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วจักปรินิพพาน
บุคคลเหล่าใดมีปริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพในภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัส-
สินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
อรูปภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดย
ภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์บุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักไม่เกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใด
มีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพในภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่
จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพ
โดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ มีจิต
เป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้ว
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ปัจฉิมภวิกบุคคล อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่
จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๑๑] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน
และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ปัจฉิมภวิกบุคคล ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบาง
ภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคล ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๑๒] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่
เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๑๓] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
และมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๑๔] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิต
นั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๑๕] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๑๖] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๑๗] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่
จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ในภูมินั้น
ก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่
เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จัก
เกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอรูปภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นจักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๑๘] อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่
มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๑๙] อนุ. อิตถินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฯลฯ
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๒๐] อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด แต่
มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในอสัญญสัตตภูมิ ในภูมินั้นปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๒๑] อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. จักเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๒๒] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๒๓] อนุ. อุเปกขินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๒๔] อนุ. สัทธินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๒๕] อนุ. ปัญญินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด มนินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๒๖] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจ-
โวการภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจ-
โวการภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๒๗] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่
ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๒๘] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิก-
บุคคลในปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิและ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัส
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๒๙] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิม-
ภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมีจิตเป็นโสมนัสจัก
อุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปก-
ขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคล
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๓๐] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับ
แห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๓๑] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๓๒] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่
จักไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่ง
จิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๓๓] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๓๔] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๓๕] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๓๖] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๓๗] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๓๘] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๓๙] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๔๐] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุตจาก
โสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัส
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัส
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๔๑] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๔๒] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็น
สเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลัง
อุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๔๓] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุต
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๔๔] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๔๕] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิด
ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและอรูปภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่
จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๔๖] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่
ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ
เกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดและฆานินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ
เกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๔๗] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
เคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้
กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้
กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๔๘] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้
กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิด
ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้
กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๔๙] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่
ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์
ก็กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๕๐] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัส-
สินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๕๑] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขิน-
ทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุต
ด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๕๒] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาใน
ปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาใน
ปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๕๓] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณ
ในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลัง
เกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปัจจนีกบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๕๔] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ฯลฯ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๕๕] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปัจจนีกโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๕๖] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
ฯลฯ

ปัจจนีกปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๕๗] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสตินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ โสตินทรีย์ของบคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
และอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็
ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ ฯลฯ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
และอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็
ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาส-
ภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
สุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้ปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธา-
วาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในสุทธาวาส-
ภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๕๘] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์
ฯลฯ ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิ อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๕๙] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีเป็นอิตถีเกิดไม่ได้กำลัง
อุบัติในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในสุทธาวาสภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธา-
วาสภูมิ อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ และอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและ
อสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๖๐] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในสุทธาวาสภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๖๑] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติในสุทธาวาสภูมิ บุคคล
ผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ และ
บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
อุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๖๒] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญ-
สัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๖๓] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๖๔] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่
ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและ
อสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๖๕] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิ
ใช่ไม่เคยเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งอุปปัตติจิตของ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิและอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๖๖] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นผู้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
จักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
จักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มี
จักขุเกิดได้มีอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิด
ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มี
จักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๖๗] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
ฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพานและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิด
ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๖ }


>>>>> หน้าต่อไป >>>>>





eXTReMe Tracker