ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ



จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อความสะดวก และสวยงาม
(เฉพาะหน้าจอใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์)
กรุณาคลิก จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อให้กรอบ
ค้นข้อความ ปรากฎที่ด้านซ้ายของหน้า

พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๔๕ เล่ม (ปกสีฟ้า)
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ที่มาของข้อมูล : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับ มจร.
MCUTRAI Version 1.0

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙-๔ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๖ ยมก ภาค ๒

พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๒
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มี
ฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีฆานะ
เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลัง
อุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๖๘] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
จักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้น
กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและ
ปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถี
เกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิด
ได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถี
เกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๖๙] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้
และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะ
เกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มี
ปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็
กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ และบุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะ
เกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๗๐] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดกำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลทั้งหมดผู้กำลังอุบัติ
ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและชีวิติน-
ทรีย์ก็กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๗๑] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นโสมนัส
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลัง
เกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมี
จิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นโสมนัส
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัส
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๗๒] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจิตเป็นอุเบกขา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็นอุเบกขา
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิต
เป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๗๓] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
และมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลัง
อุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นจักเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๗๔] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด
แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาท-
ขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นกำลัง
เกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็กำลังเกิด
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นจักเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุต
กำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นจักเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๗๕] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
ฯลฯ

อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๗๖] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๔๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและรูปาวจรภูมิ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มี
จักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ รูปาวจรภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคล
เหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและรูปาวจรภูมิ บุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ๑ในบางภพโดยภาวะนั้น๒นั่นแหละแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังอุบัติ แต่
ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิด
ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

เชิงอรรถ :
๑ คำว่า ถือปฏิสนธิ คำบาลีว่า ทสฺเสตฺวา อรรถกถาแก้ว่า ปฏิสนฺธิโย คเหตฺวา (อภิ. ปญฺจ. อ. ๒๘๑/๓๘๘)
๒ คำว่า โดยภาวะนั้น หมายถึงโดยที่มีอิตถีภาวรูปนั้นนั่นแหละ (อภิ. ปญฺจ. อ. ๒๘๑/๓๘๘)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มี
จักขุเกิดได้มีอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์
ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มี
จักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและอรูปภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่
จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์บุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและอรูปภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่
จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีจักขุเกิดได้
กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีจักขุเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๗๗] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้น
กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นกำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถี
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้น
กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นกำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ
เกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์
ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มีฆานะ
เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มีฆานะ
เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะ
เกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีฆานะเกิดได้
กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๗๘] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้
กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้
มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลัง
อุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถี
เกิดได้กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้
กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีอิตถีเกิดได้กำลัง
อุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้
กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๗๙] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิด
ได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาเกิดแล้วจักปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลัง
อุบัติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นก็จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดผู้มีปุริสะ
เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลัง
เกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้
กำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้มีปุริสะเกิดได้
กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่กำลังเกิด บุคคลผู้มีปุริสะเกิด
ได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๘๐] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์
ก็กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตใน
ปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอก
นี้ผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะแห่งจิตในปวัตติกาล
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังอุบัติในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในอุปปาทขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๘๑] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
มีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่
ใช่กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
โสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสในปวัตติกาล
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นโสมนัสกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๘๒] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่
กำลังเกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์
ก็กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้มีจิตเป็น
อุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาในปวัตติกาล
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลมีจิตเป็นอุเบกขากำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
ในปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๘๓] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นกำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาใน
ปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาในปวัตติกาล สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นสเหตุกะกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยสัทธาใน
ปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและสัทธินทรีย์ก็กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๘๔] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดกำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
กำลังเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ใน
อุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณในปวัตติกาล ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นกำลังเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่ใช่กำลัง
เกิด บุคคลผู้เป็นญาณสัมปยุตกำลังอุบัติ ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่สัมปยุตด้วยญาณใน
ปวัตติกาล มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปัญญินทรีย์ก็กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๘๕] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสตินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่กำลังเกิดและโสตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ และบุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ โสตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
ปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิ
แล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
และจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ และบุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใด
จักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิด
ได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลัง
จุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติ
ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลเหล่าใดจัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
ปัญจโวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มีจักขุ
เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิต
เป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดมี
จักขุเกิดได้มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใด
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
ปัญจโวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่
จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้ปรินิพพานในปัญจ-
โวการภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
และจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๘๖] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคล
เหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลเหล่าใดจักอุบัติใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่า
ใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคล
เหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลเหล่าใดจักเกิดใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่า
ใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคล
เหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่
กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มี
ฆานะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มี
ฆานะเกิดได้มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๘๗] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่า
นั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้จัก
อุบัติในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิอรูปาวจรภูมิแล้วปรินิพพาน และบุคคล
เหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็
ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใด
มีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและในอรูปาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๘๘] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจร-
ภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้
และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ โสมนัส-
สินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมี
ปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคล
ผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๘๙] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่ง
จิตนั้น ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ ในภังคขณะแห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๓๙๐] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิต
นั้น อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
สัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
อุเบกขา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
มนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต
ที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๓๙๑] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัส สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่
สัมปยุตด้วยโสมนัส อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่ง
ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัส มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๓๙๒] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีบ์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๓๙๓] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ บุคคลผู้เข้านิโรธสมาบัติและบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ใน
ภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเกิด
แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นไม่ใช่จักเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๙๔] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ในภูมินั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปัจจนีกปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๓๙๕] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสตินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และโสตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิและบุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจาก
รูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิและบุคคลผู้กำลังอุบัติใน
รูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่
กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิและบุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจร-
ภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้
ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
รูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปา-
วจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลัง
จุติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังอุบัติใน
รูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ บุคคลผู้กำลังจุติจากรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละ
แล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ และบุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลัง
อุบัติในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดมี
จักขุเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
จักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจ-
โวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคล
เหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิด
ได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในปัญจ-
โวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็
ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากปัญจโวการภูมิ บุคคลผู้มีจักขุเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
ปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในปัญจโวการภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
อสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็
ไม่ใช่กำลังเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๓๙๖] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อิตถินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจร-
ภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะ
นั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลกำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้น
กำลังอุบัติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพ
โดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิและบุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปุริสินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจร-
ภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะ
นั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมี
อิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่า
นั้นกำลังอุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์
มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพ
โดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลทั้งหมดผู้กำลังจุติและบุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิและปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้น
กำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์
ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีฆานะ
เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด และฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มีฆานะ
เกิดได้และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้กำลังอุบัติในกามาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีฆานะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีฆานะเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๓๙๗] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลัง
อุบัติในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
ปุริสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่
ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลัง
อุบัติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจร-
ภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิด
ได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขา
จักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้
และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ บุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
อิตถินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่
กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีอิตถีเกิดไม่ได้กำลังอุบัติใน
กามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด
และมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีอิตถีเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

ปุริสินทรียมูลกนัย
[๓๙๘] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและ
โสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะ
เกิดได้และมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังอุบัติ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
บุคคลผู้กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็น
โสมนัสจักอุบัติแล้วปรินพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้
และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้
กำลังปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมีจิตเป็น
โสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน บุคคลเหล่านั้นกำลังจุติ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคล
ผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากกามาวจรภูมิ บุคคลผู้มีปุริสะเกิดไม่ได้กำลังอุบัติ
ในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้กำลัง
ปรินิพพานในกามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลัง
เกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลผู้มีปุริสะเกิดได้กำลังอุบัติ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด บุคคลผู้กำลังปรินิพพานใน
กามาวจรภูมิ ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่
ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์
ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๓๙๙] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่ง
จิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่โสมนัส-
สินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
จักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิด
ในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะ
แห่งจิตในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วย
โสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญ-
สัตตภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็
ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดใน
ลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด
ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังจุติจากจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ในภังคขณะแห่งจิต
ในปวัตติกาล ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังอุบัติในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด
ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้กำลังจุติจากอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๐๐] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่
อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส
จักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะแห่งจิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส ปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในอุปปาทขณะแห่งจิตนั้น อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยอุเบกขา ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจักเกิดในลำดับแห่งจิตใด ในภังคขณะ
แห่งจิตนั้น บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. โสมมัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากโสมนัส โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยอุเบกขา บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๔๐๑] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด สัทธินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่สัทธินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากอุเบกขา อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์
มิใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัส บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะ
แห่งปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิตที่สัมปยุต
ด้วยโสมนัส และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๔๐๒] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด ปัญญินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิ
ใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้
อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด
และสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากสัทธา สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จัก
ไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
สัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๔๐๓] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่กำลังเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ในภังคขณะแห่งจิตของบุคคลทั้งหมด ในอุปปาทขณะแห่งจิตที่วิปปยุต
จากญาณ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิด แต่มนินทรีย์มิ
ใช่จักไม่เกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่กำลังเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่กำลังเกิดใช่ไหม
วิ. ในอุปปาทขณะแห่งปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่กำลังเกิด ในภังคขณะแห่งปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
ปัญญินทรีย์ก็ไม่ใช่กำลังเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๐๔] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในอรูปภูมิแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิและในอรูปา-
วจรภูมิแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่น
แหละแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จัก
เกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่
ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๔๐๕] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่
ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๔๐๖] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล บุคคลเหล่าใดจักอุบัติในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
แล้วปรินิพพาน และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้น
นั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่
จักเกิด บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๔๐๗] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล และบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้ว
ปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่
ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลและบุคคลเหล่าใดมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคล ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์
ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิดและมนินทรีย์
ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๔๐๘] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขาจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิด
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๐๙] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
เคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
เคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๔๑๐] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๔๑๑] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคยเกิด
และมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๔๑๒] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดเคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นเคย
เกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลมโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๑๓] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดเคยเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
ฯลฯ

อนุโลมปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๑๔] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่โสตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
ฆานินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
อิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
ปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดมีจักขุเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ
จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด
แต่จักขุนทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและจักขุนทรีย์ก็เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๔๑๕] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจร-
ภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอิตถินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจร-
ภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ฆานินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและฆานินทรีย์ก็เคยเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๔๑๖] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจร-
ภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและปุริสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้มีจิต
เป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้และมีจิต
เป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่อิตถินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอิตถินทรีย์ก็เคยเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๔๑๗] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้น
ก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้มีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ โสมนัสสินทรีย์
ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด
แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
กามาวจรภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่ปุริสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในกามาวจรภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปุริสินทรีย์ก็เคยเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๔๑๘] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยอุเบกขา
จักเกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์
ก็เคยเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
เคยเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็
เคยเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่ชีวิตินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและชีวิตินทรีย์ก็เคยเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๑๙] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ
และปัญจโวการภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและ
อุเปกขินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด
บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็
จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคล
นอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็เคยเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๔๒๐] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิ
และปัญจโวการภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์
ก็จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็
เคยเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๔๒๑] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นจักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นจักเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและ
ปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและสัทธินทรีย์ก็เคยเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

ปัญญินทรียมูลกนัย
[๔๒๒] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดเคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นเคยเกิด แต่มนินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นเคยเกิดและมนินทรีย์ก็จักเกิด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดจักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมิ
นั้นก็เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
จักเกิด แต่ปัญญินทรีย์ไม่เคยเกิด บุคคลนอกนี้ผู้อุบัติอยู่ในจตุโวการภูมิและปัญจ-
โวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นจักเกิดและปัญญินทรีย์ก็เคยเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๒๓] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ ฯลฯ อิตถินทรีย์ ฯลฯ
ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่
เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๔๒๔] อนุ. ฆานินทรีย์ ฯลฯ อิตถินทรีย์ ฯลฯ ปุริสินทรีย์ ฯลฯ ชีวิตินทรีย์
ฯลฯ โสมนัสสินทรีย์ ฯลฯ อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ของบุคคลใดไม่เคยเกิด มนินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเกิดมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้นก็ไม่เคย
เกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปัจจนีกโอกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๒๕] อนุ. จักขุนทรีย์ในภูมิใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
ฯลฯ

ปัจจนีกปุคคโลกาส
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๒๖] อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ โสตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
จักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน
ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ใน
สุทธาวาสภูมิ และปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นจักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ และ
ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
จักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มีจักษุเกิดได้และ
มีจิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
อสัญญสัตตภูมิ และอรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ ปัจฉิม-
ภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิและบุคคลเหล่าใดผู้มีจักขุเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ ปัจฉิมภวิก-
บุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์ไม่ใช่จักเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ ปัจฉิมภวิก-
บุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. จักขุนทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอรูปภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ ปัจฉิมภวิก-
บุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ จักขุนทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด จักขุนทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในปัญจโวการภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่จักขุนทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิ
ปัจฉิมภวิกบุคคลในอรูปภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและจักขุนทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

ฆานินทรียมูลกนัย
[๔๒๗] อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อิตถินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้ถือ
ปฏิสนธิในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
และอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีฆานะเกิดได้มีจิตเป็น
อุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติ
อยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จัก
เกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดผู้มีฆานะเกิดได้
และมีจิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่า
นั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปา-
วจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ฆานินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจร-
ภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ฆานินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ฆานินทรีย์ฃองบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ฆานินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและฆานินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ฆานินทรียมูลกนัย จบ

อิตถินทรียมูลกนัย
[๔๒๘] อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้ถือปฏิสนธิ
ในบางภพโดยภาวะนั้นนั่นแหละแล้วปรินิพพาน ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ
และอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์
ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและ
อรูปาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่
เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้และมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ และบุคคลเหล่าใดมีอิตถีเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. อิตถินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจร-
ภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อิตถินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อิตถินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อิตถินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอิตถินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อิตถินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๕๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปุริสินทรียมูลกนัย
[๔๒๙] อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ชีวิตินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่ชีวิตินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและ
ชีวิตินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิและอรูปา-
วจรภูมิ ชีวิตินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่เคยเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิและอรูปภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่เคยเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมี
จิตเป็นอุเบกขาจักอุบัติแล้วปรินิพพาน โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้น
ไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ และ
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ อรูปภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิและบุคคลเหล่าใดมีปุริสะเกิดได้และมี
จิตเป็นโสมนัสจักอุบัติแล้วปรินิพพาน อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ
และอสัญญสัตตภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและ
ปุริสินทรีย์ ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. ปุริสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์
ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้อุบัติอยู่ในรูปาวจรภูมิและอรูปาวจรภูมิ ปุริสินทรีย์ของบุคคล
เหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลใน
รูปาวจรภูมิ อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ ปุริสินทรีย์ของ
บุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปุริสินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. ปัจฉิมภวิกบุคคลในกามาวจรภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปุริสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด ปัจฉิมภวิกบุคคลในรูปาวจรภูมิ
อรูปาวจรภูมิ และบุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้น
ในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปุริสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปุริสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ชีวิตินทรียมูลกนัย
[๔๓๐] อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
อนุ. ชีวิตินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์ ฯลฯ
สัทธินทรีย์ ฯลฯ ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จัก
เกิดใช่ไหม
วิ. จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ชีวิตินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. เคยเกิด
ชีวิตินทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๓๑] อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด อุเปกขินทรีย์
ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต ปัจฉิมจิตที่สัมปยุตด้วยโสมนัสจัก
เกิดในลำดับแห่งจิตใด (ในลำดับแห่งจิตนั้น) อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ ฯลฯ
ปัญญินทรีย์ ฯลฯ มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. เมื่อจิตดวงที่ ๒ ของบุคคลผู้อุบัติอยู่ในสุทธาวาสภูมิเป็นไปอยู่
โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด
บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ โสมนัสสินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่
เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด โสมนัสสินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่โสมนัสสินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและโสมนัสสินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
โสมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อุเปกขินทรียมูลกนัย
[๔๓๒] อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด สัทธินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคล
นั้นในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๒. ปวัตติวาร ๑. อุปปาทวาร ๖. อตีตานาคตวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อนุ. อุเปกขินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
อุเปกขินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด อุเปกขินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่อุเปกขินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและอุเปกขินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
อุเปกขินทรียมูลกนัย จบ

สัทธินทรียมูลกนัย
[๔๓๓] อนุ. สัทธินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด ปัญญินทรีย์ ฯลฯ
มนินทรีย์ของบุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
สัทธินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด สัทธินทรีย์ของบุคคลนั้นใน
ภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่สัทธินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและสัทธินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
สัทธินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปัญญินทรียมูลกนัย
[๔๓๔] อนุ. ปัญญินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่เคยเกิด มนินทรีย์ของ
บุคคลนั้นในภูมินั้นก็ไม่ใช่จักเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้กำลังอุบัติในสุทธาวาสภูมิ ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นใน
ภูมินั้นไม่เคยเกิด แต่มนินทรีย์มิใช่จักไม่เกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
ปัญญินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่เคยเกิดและมนินทรีย์ก็ไม่ใช่จักเกิด
ปฏิ. มนินทรีย์ของบุคคลใดในภูมิใดไม่ใช่จักเกิด ปัญญินทรีย์ของบุคคลนั้น
ในภูมินั้นก็ไม่เคยเกิดใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยปัจฉิมจิต มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมิ
นั้นไม่ใช่จักเกิด แต่ปัญญินทรีย์มิใช่ไม่เคยเกิด บุคคลผู้อุบัติอยู่ในอสัญญสัตตภูมิ
มนินทรีย์ของบุคคลเหล่านั้นในภูมินั้นไม่ใช่จักเกิดและปัญญินทรีย์ก็ไม่เคยเกิด
ปัญญินทรียมูลกนัย จบ
ฯลฯ
ปวัตติวาร จบ

๓.ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุโลมบุคคล
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๓๕] อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้
โสตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้โสตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๓๖] อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกกำลังเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสิน-
ทรีย์ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคกำลังเจริญอัญญินทรีย์และกำลังละ
โทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๓๗] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
กำลังเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลัง
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๓๘] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๓๙] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
แต่มิใช่ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่
มิใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ และไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อม
เพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
แต่มิใช่ไม่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตต-
มรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่
กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อรหัตตมรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๔๐] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อม
เพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ เว้นบุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่
ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังละโทมนัส-
สินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๔๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๑. ปัจจุปปันนวาร
วิ. บุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ เว้นบุคคล ๔ จำพวกผู้พร้อม
เพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ เว้นบุคคล ๔ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ เว้นบุคคลที่ ๘ และ
อรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็
ไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลัง
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ เว้นบุคคลที่ ๘ และอรหันตบุคคลแล้ว บุคคล
ที่เหลือไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๔๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
วิ. บุคคลใดกำลังทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์
แต่มิใช่ไม่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ เว้นบุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่
กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ เว้นบุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคและอรหันตบุคคลแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำลังทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

๒. อตีตวาร
อนุโลม
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๔๓] อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกเคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อรหันตบุคคลเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ อรหันตบุคคลเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่ไม่
เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นเคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๔๔] อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคย
ละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็
เคยละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกเคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
อรหันตบุคคลเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็เคยเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกเคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
อรหันตบุคคลเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๔๕] อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญ
อัญญินทรีย์ อรหันตบุคคลเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็เคยเจริญ
อัญญินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่เคย
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ อรหันตบุคคลเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๔๖] อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นเคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่
มิใช่ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้น
เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๔๗] อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละโทมนัส-
สินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่
เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นไม่เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๔๘] อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวกไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์และไม่เคย
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๒. อตีตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๔๙] อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่
เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคย
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๕๐] อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลใดทำให้แจ้งอรหัตตผล บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
แต่มิใช่ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

๓. อนาคตวาร
อนุโลม
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๕๑] อนุ. บุคคลใดจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละโทมนัสสิน-
ทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่ไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๕ จำพวกจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็จักละโทมนัสสินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญญัส-
สามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นจักกำหนดรู้
จักขุนทรีย์และก็จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๕ จำพวกจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดจักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
แต่ไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และ
ก็จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๕๒] อนุ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวกจักละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนแต่จักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นจักละ
โทมนัสสินทรีย์และก็จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์
บุคคล ๕ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์และก็จักละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็จักละ
โทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๕๓] อนุ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จัก
ทำให้แจ้งอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดทำให้แจ้งอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคล ๖ จำพวกทำให้แจ้งอัญญินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นทำให้แจ้ง
อัญญินทรีย์และก็จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้น
จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๕๔] อนุ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
แต่ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็จักเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๕๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักกำหนดรู้
จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่จัก
ไม่กำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่กำหนดรู้
จักขุนทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่จักกำหนดรู้
จักขุนทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่
มิใช่จักไม่ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักกำหนดรู้จักขุนทรีย์
และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โสมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๕๖] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่จัก
ไม่ละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๓. อนาคตวาร
วิ. บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๕๗] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่
จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่จัก
ไม่ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๕๘] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่
จักไม่ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์และ
ก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุโลม
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๕๙] อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคเคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์และก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๖๐] อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลัง
ละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคเคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์และก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๖๑] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๖๒] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดเคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๖๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และ
ก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่
ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่
กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่เคยทำ
ให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
แต่มิใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๖๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็
ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
ละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ และก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่
ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลัง
ละโทมนัสสินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ และก็ไม่เคยทำ
ให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
แต่มิใช่ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๖๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้น
ก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่
เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่
กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคย
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๔. ปัจจุปปันนาตีตวาร
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่
เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๗ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๖๖] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่เคยทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่เคยทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่เคยทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกไม่เคยทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ และก็ไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุโลม
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๖๗] อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๖๘] อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญ-
ญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัส-
สินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคจักเจริญอัญญินทรีย์ และก็กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดกำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังละโทมนัส-
สินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
และก็กำลังละโทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๖๙] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอนัญญาตัญญัส-
สามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคลที่ ๘ จักเจริญอัญญินทรีย์และก็กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลที่ ๘ จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็
กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๗๐] อนุ. บุคคลใดกำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็กำลังเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคล ๕ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่ใช่กำลังเจริญ
อัญญินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตมรรคจักทำให้แจ้งอัญญาตา-
วินทรีย์และก็กำลังเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๗๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๕ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๔ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิ
ใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๔ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์และก็
ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่
ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัส-
สามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่
ไม่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่
กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่
จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๗๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวก
ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำลังละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่ใช่จัก
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญ
อัญญินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำ
ให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๗๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๕. ปัจจุปปันนานาคตวาร
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่
จักไม่เจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๗ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่
จักไม่ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลังเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๗๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำ
ให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๕ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่กำลังเจริญอัญญินทรีย์ และก็ไม่ใช่จักทำ
ให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำลัง
เจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
๖. อตีตานาคตวาร
อนุโลม
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๗๕] อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญญัส-
สามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๗๖] อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกเคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
อนาคามีบุคคลเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นเคยละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
อนาคามีบุคคลจักเจริญอัญญินทรีย์และก็เคยละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดเคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลเคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกเคยละโทมนัสสินทรีย์และก็จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๒ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็เคยละ
โทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๗๗] อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นจัก
เจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่ใช่
จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และ
ก็จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๕ จำพวกจักเจริญอัญญินทรีย์และก็เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่ไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกเคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และ
ก็เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๗๘] อนุ. บุคคลใดเคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. บุคคลใดจักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็เคยเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปัจจนีกะ
จักขุนทรียมูลกนัย
[๔๗๙] อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นไม่ใช่จักละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๕ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็จักไม่ละ
โทมนัสสินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์ แต่ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ และก็ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคล ๘ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๕ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนดรู้
จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยกำหนดรู้จักุขนทรีย์
บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคย
กำหนดรู้จักขุนทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยกำหนด
รู้จักขุนทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยกำหนดรู้จักขุนทรีย์
จักขุนทรียมูลกนัย จบ

โทมนัสสินทรียมูลกนัย
[๔๘๐] อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
แต่มิใช่จักไม่เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยละโทมนัส-
สินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคย
ละโทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่ไม่
เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคล ๖ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
และก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่เจริญอัญญินทรีย์
บุคคล ๓ จำพวกไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละโทมนัส-
สินทรีย์ บุคคล ๓ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญา-
ตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๖ จำพวกไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยละ
โทมนัสสินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จัก
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยละโทมนัสสินทรีย์
โทมนัสสินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย
[๔๘๑] อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็
ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่จัก
ไม่เจริญอัญญินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคย
เจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่ใช่จักเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญ-
ญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักเจริญ
อัญญินทรีย์และก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จัก
ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ แต่มิใช่จัก
ไม่ทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้น
ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่า
นั้น ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยเจริญอนัญญาตัญญัสสามีตินทรีย์
อนัญญาตัญญัสสามีตินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๑๐. อินทรียยมก] ๓. ปริญญาวาร ๖. อตีตานาคตวาร
อัญญินทรียมูลกนัย
[๔๘๒] อนุ. บุคคลใดไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๘ จำพวกไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์ แต่มิใช่จักไม่ทำให้แจ้ง
อัญญาตาวินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่เคย
เจริญอัญญินทรีย์และก็ไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ บุคคลนั้นก็ไม่เคยเจริญ
อัญญินทรีย์ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคลไม่ใช่จักทำให้แจ้งอัญญาตาวินทรีย์ แต่มิใช่ไม่เคยเจริญ
อัญญินทรีย์ บุคคลเหล่าใดเป็นปุถุชนจักไม่ได้มรรค บุคคลเหล่านั้นไม่ใช่จักทำให้
แจ้งอัญญาตาวินทรีย์และก็ไม่เคยเจริญอัญญินทรีย์
อัญญินทรียมูลกนัย จบ

ปริญญาวาร จบ

อินทรียยมก จบ

ยมกปกรณ์ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๙ หน้า :๖๔๙ }


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๙ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๖ ยมก ภาค ๒ จบ





eXTReMe Tracker