วิธีการแก้ความโกรธจากผู้เป็นศัตรู 2

5. ถ้าความโกรธยังไม่ระงับ ให้นึกถึงจารีตของพระพุทธเจ้า
เช่นในสมัยเมื่อพระองค์เสวยพระชาติเป็นขันติวาทีดาบส ผู้ถูกพระเจ้ากาสีทรมาน และในสมัยเสวยพระชาติเป็น ธรรมปาลกุมาร ผู้ถูกพระเจ้ามหาตปะ รับสั่งให้ตัดมือตัดเท้า แม้แต่พระพุทธองค์ถูกพระนางมาคันทิยาผู้โกรธแค้นพระองค์ จ้างพวกทาสมารุมด่าพระองค์และภิกษุด้วยคำหยาบคายต่าง ๆ ในสมัยที่พระองค์เสด็จประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี แต่พระองค์ไม่โกรธตอบ และได้ตรัสว่า

"เราจักอดกลั้นต่อคำล่วงเกิน ดั่งช้างอดทนต่อลูกศรซึ่งตกลงมาจากแล่งในสงคราม เพราะว่าคนเป็นอันมากเป็นคนทุศีล, ในหมู่มนุษย์ ผู้ใดอดกลั่นคำกล่าวล่วงเกินได้ ผู้นั้นชื่อว่าได้ฝึกตนแล้ว เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ม้าอัสดรที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ ม้าอาชาไนย ม้าสินธพที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ พญาช้างชาติกุญชรที่ฝึกแล้ว เป็นสัตว์ประเสริฐ แต่ผู้ที่ฝึกตนแล้ว ประเสริฐกว่านั้น"

แม้พระพุทธเจ้าก็ยังถูกด่า ยังถูกดูหมิ่นแล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างเราที่จะไม่ถูกด่า ไม่ถูกดูหมิ่นบ้าง พระองค์ไม่ทรงพิโรธ และทรงอดทนจนประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่างที่ดีเลิศมาแล้ว เราเองก็ควรจะทำตามรอยพระยุคลบาท ของพระองค์ในเรื่องนี้ เมื่อนึกถึงอย่างนี้อยู่บ่อย ๆ ความแค้นเคืองก็จะสงบไปได้ในที่สุด

 

6. ถ้ายังไม่ระงับให้นึกถึงสังสารวัฏอันไม่มีที่สิ้นสุด
ทุกคนเคยเป็นญาติพี่น้องกันมาก่อน ไม่เคยมีใครเลยที่ไม่เคยเป็นญาติพี่น้องกันมาในสังสารวัฏ ที่คนเราเคยเกิดมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน
คนที่เราโกรธแค้น ต้องการให้เขาฉิบหายนั้น ในชาติก่อน เขาอาจจะเคยเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นพี่เป็นน้อง เป็นลุงป้าอาปู่ย่าตายายของเราก็ได้ ถ้าเราโกรธหรือทำร้ายคนผู้นั้น ก็เท่ากับว่าเราทำร้ายญาติสายโลหิตของเรา

เช่น หญิงที่เป็นศัตรูของเรา ในชาติก่อนอาจเคยเป็นแม่ของเราก็ได้ ซึ่งเคยอุ้มท้องเลี้ยงดูเรามาด้วยความยากลำบาก และด้วยความรัก ความเอ็นดู ถ้าเราฆ่าหรือทำร้ายหญิงคนนั้น ก็เท่ากับเราฆ่าหรือทำร้ายแม้ของเรานั่นเอง หรือชายที่เราโกรธแค้นนั้น ในชาติก่อนอาจเป็นพ่อของเราก็ได้ ซึ่งเคยฝ่าอันตรายช่วยชีวิตเรามาเลี้ยงดูเราด้วยความ ยากลำบาก และมีความรักความเอ็นดูเรามาก่อน ถ้าเราฆ่าหรือทำร้ายชายคนนั้น ก็เท่ากับเราฆ่าหรือทำร้ายพ่อของเรานั่นเอง

 

 

 

 

7. ถ้ายังไม่รับให้ระลึกถึงอานิสงส์เมตตา ทำให้มากแล้ว ตั้งมั่นไว้แล้ว สั่งสมชำนาญแล้ว ปรารถนาสม่ำเสมอแล้ว หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข ไม่ฝันร้าย เป็นที่รักของพวกมนุษย์ เป็นที่รักของพวกอมนุษย์ เทวดาย่อมรักษา ผู้นั้นไม่มีไฟหรือพิษหรือศัสตราที่จะกล้ำกรายได้ จิตย่อมเป็นสมาธิได้เร็ว สีหน้าย่อมผ่องใส ไม่หลงฟั่นเฟือนในเวลาใกล้ตาย เมื่อยังไม่บรรลุธรรมชั้นสูงก็จะไปเกิดในพรหมโลก

8. ถ้าความแค้นเคืองยังไม่ระงับให้ทำการแยกธาตุ
"เฮ้ย เจ้าขี้โกรธอย่างไรกัน ก็เมื่อท่านโกรธผู้นี้ จะโกรธส่วนไหนของเขา คือ จะโกรธผม หรือจะโกรธขน หรือจะโกรธเล็บ ในอาการ 32 ในร่างกาย ท่านจะโกรธส่วนไหนของเขา หรือว่าในบรรดาธาตุ 4 อันก่อเข้าเป็นร่างกายนี้ ท่านจะโกรธส่วนไหน คือ จะโกรธธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ หรือธาตุลม
หรือว่าในบรรดาขันธ์ 5 อายตนะ 12 ธาตุ 18 ที่ประกอบขึ้นมาเป็นตัวศัตรูนี้ ท่านจะโกรธส่วนไหนของเขา คือจะโกรธรูปขันธ์ หรือเวทนาขันธ์ หรือวิญญาณขันธ์ หรือจะโกรธตา จะโกรธหู หรือจะโกรธมโนธาตุ หรือมโนวิญญาณธาตุ ของเขา"

9. ถ้ายังไม่หายแค้นเคืองให้ทำการเผื่อแผ่
คือแบ่งปัน หรือให้ของของตนแก่ศัตรูนั้นบ้าง รับของศัตรูที่ให้ตนบ้าง เมื่อทำอย่างนี้บ่อย ๆ ความอาฆาตในผู้นั้นย่อมลดน้อยลง หรือระงับได้ทีเดียว เพราะว่าการให้ (ทาน) ย่อมผุกไมตรีกันและกันไว้ได้ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของผู้รับ เพราะทานมีอานุภาพมาก ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจริงตรัสไว้ว่า
"ทานเป็นเครื่องฝึกคนที่ฝึกไม่ได้ ทานยังประโยชน์ทุกอย่างให้สำเร็จ ผู้ให้ย่อมบันเทิงด้วยการให้ ฝ่ายผู้รับ ก็ย่อมถนอมน้ำใจผู้ให้ด้วยการกล่าวปิยวาจา"

<1><2>

 

 

 

 

 

Hosted by www.Geocities.ws

1