1. สำหรับแอลกอฮอล์นั้นหมู่ฟังก์ชันที่แสดงลักษณะคือหมู่ไฮดรอกซิล -OH ; ที่ก่อพันธะกับไฮโดรคาร์บอน |
2. แอลกอฮอล์เป็นโมเลกุลที่มีขั้ว |
3. เหตุที่แอลกอฮอล์มีอุณหภูมิสูงเพราะ เนื่องจากมีพันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุล |
4. เนื่องจากการเกิดปฏิกิริยาของแลกอฮอล์ขึ้นกับการจัดตัวของคาร์บอนภายในโมเลกุลจึงแบ่งแอลกอฮอล์ออกเป็น 3 กลุ่ม โดยพิจารณาจากการการจัดตัวของคาร์บอนที่ก่อพันธะกับหมู่ไฮดรอกซิล มีดังนี้ |
1) แอลกอฮอล์ปฐมภูมิ คือแอลกอฮอล์ที่หมู่ไฮดรอกซิลก่อพันธะกับคาร์บอนปฐมภูมิ |
2) แอลกอฮอล์ทุติยภูมิ คือ แอลกอฮอล์ที่หมู่ไฮดรอกซิลก่อพันธะกับคาร์บอนทุติยภูมิ |
3) แอลกอฮอล์ตติยภูมิ คือ แอลกอฮอล์ที่หมู่ไฮดรอกซิลก่อพันธะกับคาร์บอนตติยภูมิ |
5. ส่วนใหญ่จะใช้เมทานอลเป็นตัวทำละลายสำหรับชะแล็กและวานิช ปัจจุบันนี้มีการนำไปผสมในนํ้ามันเติมรถยนต์ |
6. เอทานอลสามารถสังเคราะห์ได้จากปฏิกิริยาการเติมนํ้า (ไฮเดรชัน , hydration) ของเอทิลีน เมื่อมีกรดเป็นตัวเร่ง หรือจากขบวนการหมักนํ้าตาลและแป้ง |
7. เอทานอลที่ได้จากขบวนการหมักนี้มีปริมาณประมาณ 12% เท่านั้น ดังนั้นจะต้องนำผลผลิตที่ได้จากการหมักทั้งหมดมากบั่นเพื่อเพิ่มปริมาณเอทานอล ซึ่งทำให้ ้ในการทำวิสกี รัม วอดกา ยินและอื่นๆนั้นได้ปริมาณแอลกอฮอล์ 40-60% |
8. ปฏิกิริยาหลักของแอลกอฮอล์ประกอบด้วยการแตกพันธะ C-O และ H-O |
9. ในธรรมชาติพบแอลกอฮอล์ทั้งที่มีโครงสร้างง่ายและสลับซับซ้อนมากมาย ซึ่งเราสามารถแยกแอลกอฮอล์โซ่เปิดที่มีคาร์บอนไม่เกิน 10 ได้จากพืชซึ่งมักอยู่ในรูปขอ ง เอสเทอร์มากกว่าแอลกอฮอล์อิสระ โดยให้รสชาติและกลิ่นหอมแก่ผลไม้ |