เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) คือสายนำสัญญาณที่ผลิตด้วยใยแก้วบริสุทธิ์ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งสัญญาณแสงได้ ในระยะทางไกลการสูญเสียสัญญาณต่ำและสามารถส่งข้อมูลได้ในขนาดมากๆ (Bandwidth) และไม่มีผลกระทบกับคลื่นสัญญาณรบกวน และข้อมูลรั่วไหลได้ยาก
เส้นใยแก้วนำแสงประกอบไปด้วยใยแก้วที่ทำด้วยแก้วหรือพลาสติกคุณภาพสูง เรียกว่า Core หุ้มด้วยเปลือกหุ้มด้านใน เรียกว่า Cladding ซึ่งมีค่าดัชนีในการหักเหของแสงต่ำกว่า Core และเคลือบด้วยสี (Coating) ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 125 ไมครอนโดยรอบ โดยสีจะแตกต่างกันไป 12 สี เพื่อช่วยบ่งบอกว่าสายใยแก้วนำแสงเป็นสายลำดับที่เท่าไร เนื่องจากเส้นใยแก้วนำแสงแต่ละเส้นมีขนาดเล็กมาก สายใยแก้วจะถูกจัดเป็นชุด ชุดละไม่เกิน 12 เส้น อยู่ในท่อพีอี เรียกว่า Loose Tube และฉีดเจลลี่เข้าไปในท่อเพื่อประคองสายไฟเบอร์ออฟติก ในกรณีมี Loose Tube มากกว่า 1 Tube จะมีการทำให้สีแตกต่างกันเพื่อเรียงลำดับ Loose Tube เช่นเดียวกับเส้นใยแก้ว
- ความสามารถในการรับส่งข้อมูลข่าวสาร รับส่งข้อมูลข่าวสารได้จำนวนมาก - กำลังสูญเสียต่ำ - คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถรบกวนได้ - ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา - มีความปลอดภัยในเรื่องข้อมูลสูงกว่า - มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน - อายุการใช้งานยาวนาน - มีความน่าเชื่อถือสูง - ปัจจุบันมีราคาถูก
- สายไฟเบอร์ออฟติกไม่สามารถโค้งงอได้เท่าสายทองแดงเนื่องจากการโค้งงอมากๆจะทำให้สายเกิดค่าลดทอนสูง และอาจเกิดการแตกหักได้ - เปราะบาง และแตกหักง่าย เมื่อมีแรกมากระทำกับตัวสาย จึงต้องระวังมาก - การติดตั้งสายไฟเบอร์ออฟติกจะต้องใช้เครื่องมือเฉพาะที่มีราคาแพงในการเข้าหัวและจะต้องใช้ช่างที่มีทักษะความชำนาญ มีประสบการณ์มาติดตั้ง