2. การสังเกต (observation)
การสังเกต หมายถึง การศึกษาเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับบุคคล โดยใช้ประสาทสัมผัสของผู้สังเกตเฝ้าดูพฤติกรรมต่าง ๆ ที่บุคคลนั้นแสดงออกมาในลักษณะที่เป็นจริงตามธรรมชาติโดยมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอนในการดู และไม่มีการควบคุมสถานการณ์ที่ทำการศึกษา
การสังเกตสามารถแบ่งได้โดยใช้เกณฑ์ในการแบ่ง 3 เกณฑ์ ดังนี้ (กมลรัตน์ หล้าสุวงษ์. 2527 : 33-36)
2.1 ใช้วิธีการใช้การสังเกตเป็นเกณฑ์ แบ่งได้ 2 ประเภท คือ
2.1.1 การสังเกตทางตรง (direct observations) คือวิธีการสังเกตที่ ผู้สังเกตไปสังเกตด้วยตนเองตลอดเวลา
2.1.2 การสังเกตทางอ้อม (indirect observations) คือวิธีที่ผู้สังเกตไม่ได้สังเกตด้วยตนเองแต่ส่งตัวแทนไป แล้วกลับมาเล่าพฤติกรรมที่สังเกตได้ให้ฟัง
2.2 ใช้ผู้สังเกตเป็นเกณฑ์ แบ่งได้ 2 ชนิด ดังนี้
2.2.1 การสังเกตโดยการเข้าร่วม (participant observations) คือการที่ผู้สังเกตเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่สังเกต โดยทำตนเป็นเหมือนสมาชิกในกลุ่มนั้น เช่น การศึกษาพฤติกรรมของคนในหมู่บ้าน โดยการเข้าไปอยู่ในหมู่บ้าน
2.2.2 การสังเกตโดยการไม่เข้าร่วม(non-participant observations) คือการที่ผู้สังเกตไม่ได้เข้าไปอยู่ในสถานการณ์ เพียงแต่อยู่ภายนอกสถานการณ์เพื่อคอยสังเกตเพียงอย่างเดียว
2.3 ใช้ผู้ถูกสังเกตเป็นเกณฑ์ แบ่งออกได้ 2 ชนิด คือ
2.3.1 การสังเกตเป็นทางการ (formal observations) คือ การที่ ผู้ถูกสังเกตรู้ตัวว่าถูกสังเกต เพราะมีการบอกจุดมุ่งหมาย วัน เวลา สถานที่ ที่จะสังเกตไว้ล่วงหน้า
2.3.2 การสังเกตแบบไม่เป็นทางการ (informal observation) คือการสังเกตที่ผู้ถูกสังเกตไม่รู้ตัวว่าถูกสังเกต
หลักในการสังเกต
1. ต้องตั้งจุดมุ่งหมายในการสังเกตที่แน่นอนว่าจะสังเกตพฤติกรรมใด เช่น พฤติกรรมการช่วยเหลือผู้อื่น การเสียสละ เป็นต้น
2. ต้องสังเกตด้วยความระมัดระวังและใช้วิจารญาณในการพินิจพิเคราะห์ ทั้งพฤติกรรม ดีและไม่ดี และต้องมีความยุติธรรมกับเด็กมากที่สุด
3. ระยะเวลาในการสังเกตต้องติดต่อกัน และต้องทำการสังเกตหลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ สถานการณ์ เพื่อที่จะให้ได้พฤติกรรมที่แท้จริง
4. วิธีการสังเกตและวิธีการบันทึกข้อมูลต้องเป็นระบบ มีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน เช่น การใช้มาตราส่วนประมาณค่า ระเบียนพฤติกรรม เป็นต้น
5. ขณะที่สังเกตจะต้องไม่ให้ผู้ถูกสังเกตรู้ตัว เพื่อที่จะได้พฤติกรรมที่แท้จริง
6. บันทึกเฉพาะพฤติกรรมที่สังเกตเห็นเท่านั้นไม่ใส่ความรู้สึกส่วนตัวของผู้สังเกตเข้าไป
7. การสังเกตจะให้ผลที่แน่นอนน่าเชื่อถือ ควรใช้ผู้สังเกตหลาย ๆ คน
เครื่องมือที่ใช้ในการสังเกต
การสังเกตเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดยการเฝ้าดูอย่างใกล้ชิด และจดบันทึกไว้อย่างมีระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการสังเกตจึงได้แก่ แบบสังเกต ซึ่งแบบสังเกตสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภท คือ แบบสังเกตพฤติกรรม และแบบสังเกตทักษะ
1. แบบสังเกตพฤติกรรม เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ที่ได้จากการสังเกตพฤติกรรมการแสดงออก ซึ่งเป็นคุณลักษณะด้านจิตพิสัย เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ความรับผิดชอบ เป็นต้น
ตัวอย่าง แบบสังเกตพฤติกรรมที่กำหนดรายการพฤติกรรมมาให้ แล้วให้ผู้สังเกตประเมินความมากน้อยของพฤติกรรมที่สังเกตเห็น
แบบสังเกตความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา
ชื่อ .......................................................................... ....................
วัน / เดือน / ปี ที่สังเกต ................................................ เวลา .................................... ........
สถานที่ .................................................. กิจกรรมที่ปฏิบัติ ................................................. ..
ผู้สังเกต ....................................................................
รายการ |
บ่อยมาก |
บ่อย |
นานๆ ครั้ง |
ไม่ปรากฏ |
1. การปฏิบัติตามกติกาการเล่น | ||||
2. ความอดทน | ||||
3. ................................................. | ||||
4. ................................................. | ||||
5. การยอมรับผลการเล่น |
2. แบบสังเกตทักษะ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสังเกตทักษะการปฏิบัติต่าง ๆ เช่น ทักษะการพูด ทักษะการเล่นกีฬา เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือประกอบการตรวจผลงานที่ได้จากการปฏิบัติ เช่น การตอนกิ่ง การติดตา การเย็บเสื้อตามแบบที่กำหนด เป็นต้น
ตัวอย่าง แบบสังเกตทักษะการปฏิบัติงาน ให้ผู้สังเกตบันทึกผลการสังเกต โดยเขียนบรรยายพฤติกรรมที่สังเกตได้จากรายการที่กำหนด แล้วให้คะแนนผลการสังเกต
แบบสังเกตทักษะการขยายพันธุ์พืชโดยการตอน
ชื่อ ................................................................ ชั้น ............................................................
วัน/เดือน/ปี ที่สังเกต ...................................... เวลา .........................................................
รายการที่สังเกต |
ผลการสังเกต |
คะแนนเต็ม |
คะแนนที่ได้ |
1. การเตรียมเครื่องมือตอนกิ่ง | 10 |
||
2. การเลือกกิ่งพันธุ์ | 10 |
||
3. การควั่นกิ่งพันธุ์ | 10 |
||
4. การหุ้มกิ่ง | 10 |
||
5. การเก็บเครื่องมือตอนกิ่ง | 5 |
||
6. ผลงาน | 25 |
||
รวม |
70 |
ลงชื่อ..................................................
(ผู้สังเกต)
คุณสมบัติของผู้สังเกตที่ดี
ข้อมูลที่ได้จากการสังเกต จะถูกต้องแม่นยำเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้สังเกต ดังนั้นผู้สังเกตที่ดี ควรมีลักษณะดังนี้
1. ต้องเป็นผู้ที่มีความสนใจและตั้งใจที่จะแสวงหาความรู้ในเรื่องนั้นอย่างจริงจัง
2. ต้องมีความว่องไวในการใช้ประสาทสัมผัสและการสื่อความหมาย
3. ต้องมีความยุติธรรม ไม่ลำเอียง
4.ต้องมีความรู้พื้นฐานในเรื่องที่จะสังเกตได้ดีพอสมควร
ข้อดีและข้อจำกัดของการสังเกต (บุญชม ศรีสะอาด. 2535 : 75)
ข้อดีของการสังเกต
1. ช่วยให้ได้ข้อมูลที่ไม่สามารถรวบรวมโดยใช้เครื่องมือหรือเทคนิคอย่างอื่น
2. ช่วยให้ได้ข้อมูลที่เป็นตัวแทนพฤติกรรมในสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างแท้จริง
3. สามารถบันทึกความจริงในระหว่างที่เกิดเหตุการณ์นั้น
4. การสังเกตเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย สะดวกและนำไปใช้บ่อยโดยไม่เปลืองเงิน
5. ช่วยให้ผู้สังเกตมีทักษะในการสังเกตดียิ่งขึ้น
6.มีความสบายใจทั้งสองฝ่ายเนื่องจากผู้ถูกสังเกตไม่เกิดความรู้สึกว่าถูกจ้องหรือจับผิด (กรณีที่ผู้ถูกสังเกตไม่รู้ตัว)
ข้อจำกัดของการสังเกต
1. สิ้นเปลืองเวลาที่ต้องแอบติดตามสังเกตพฤติกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ
2. ถ้าผู้สังเกตมีเวลาน้อยอาจทำให้ได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน
3. การสังเกตบางครั้งทำได้ไม่สะดวก เช่น ที่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว
4. การสังเกตบางเหตุการณ์กระทำไม่ได้ ถ้าหากว่าเหตุการณ์นั้นไม่เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่ทำการสังเกต