วิธีสร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตร
การสร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตร(table of specification) หรือตารางวิเคราะห์รายวิชา เป็นวิธีการสร้างข้อสอบที่อาศัยการวิเคราะห์หลักสูตร โดยพิจารณาจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และเนื้อหาคำอธิบายรายวิชาในหลักสูตร แล้วสรุปและตีความหมายจุดมุ่งหมายในหลักสูตรที่กว้างมาทำให้แคบหรือเฉพาะมากขึ้น ในการพิจารณาเนื้อหานั้นจะพิจารณาว่าต้องการเน้นหรือวัดในพฤติกรรมใดบ้าง มีน้ำหนักพฤติกรรมเท่าไร พฤติกรรมที่ใช้จะยึดตามแนวคิดของบลูม (Bloom) ซึ่งเป็นพฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย (cognitive domain) ประกอบไปด้วยพฤติกรรมด้านความรู้-ความจำ ความเข้าใจ การนำไปใช้ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ และการประเมินค่า
ขั้นตอนการสร้างตารางวิเคราะห์หลักสูตร มีวิธีการดังนี้
1. ตั้งกรรมการชุดหนึ่งจำนวนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป โดยจะต้องเป็นผู้ที่สอนในรายวิชานั้น ๆ หรือเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในรายวิชานั้นเป็นอย่างดี
2.กรรมการจัดลำดับความสำคัญของเนื้อหาในแต่ละบทโดยพิจารณาจากแผนการสอน หรือคู่มือครู เนื้อหาบทใดใช้เวลาในการสอนมากให้จัดอันดับความสำคัญเป็นอันดับ 1 ส่วนเนื้อหาบทใดใช้เวลาในการสอนน้อยก็จัดอันดับความสำคัญรองลงมา (อันดับความสำคัญอาจอยู่ในอันดับเดียวกันก็ได้)
3. พิจารณาเนื้อหาในแต่ละบทว่าควรเน้นพฤติกรรมด้านใดบ้าง (พฤติกรรมความรู้ ความจำ ความเข้าใจ การนำไปใช้...) โดยพิจารณาออกมาในรูปของคะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนนของแต่ละช่องพฤติกรรมซึ่งจะยึดหลักการที่ว่าพฤติกรรมใดสำคัญมากก็ให้น้ำหนักคะแนนมาก ทั้งนี้ ให้พิจารณาควบคู่ไปกับน้ำหนักคะแนนหรืออันดับความสำคัญของแต่ละบทด้วย
4.
นำน้ำหนักคะแนนของแต่ละพฤติกรรมจากกรรมการทุกคนมาเฉลี่ย
แล้วนำไปใส่ใน
ตารางเฉลี่ยวิเคราะห์พฤติกรรม
ดังตัวอย่าง
ตาราง 2.1 ตารางเฉลี่ยวิเคราะห์พฤติกรรมด้านพุทธิพิสัย วิชา ส.ป.ช. ชั้น ป.3 ภาคเรียนที่ 1
พฤติกรรม ชื่อเรื่อง |
ความรู้ความจำ (10) |
ความเข้าใจ (10) |
การนำไปใช้ (10) |
การ วิเคราะห์ (10) |
การสัง-
เคราะห์ (10) |
การประ-
เมินค่า (10) |
รวม | อันดับ |
บ.1 สิ่งมีชีวิต | 6 |
5 |
- |
2 |
1 |
- |
14 |
1 |
บ.2 ชีวิตในบ้าน | 4 |
4 |
2 |
- |
- |
1 |
11 |
2 |
บ.3 สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา | 5 |
3 |
2 |
1 |
- |
- |
11 |
2 |
บ.4 ชาติไทย | 4 |
2 |
- |
- |
- |
- |
6 |
4 |
รวม |
19 |
14 |
4 |
3 |
1 |
1 |
42 |
5. จากตารางในข้อ 4 เป็นเพียงตารางเฉลี่ยของกรรมการ ดังนั้น เพื่อให้ตารางวิเคราะห์พฤติกรรมง่ายต่อการนำไปใช้ในการออกข้อสอบ จึงควรทำให้เป็นตาราง 100 ซึ่งใช้วิธีการเทียบบัญญัติไตรยางศ์ โดยให้พิจารณาคะแนนรวมในแต่ละบทก่อน เพื่อให้อันดับความสำคัญของเนื้อหาแต่ละบทคงเดิม
ตาราง 2.2 ตาราง 100 วิชา ส.ป.ช. ชั้น ป.3 ภาคเรียนที่ 1
พฤติกรรม ชื่อเรื่อง |
ความรู้ความจำ |
ความเข้าใจ |
การนำไปใช้ |
การ วิเคราะห์ |
การสัง เคราะห์ |
การประ เมินค่า |
รวม |
อันดับ |
บ.1 สิ่งมีชีวิต | 14 |
12 |
- |
5 |
3 |
- |
34 |
1 |
บ.2 ชีวิตในบ้าน | 9 |
10 |
5 |
- |
- |
2 |
26 |
2 |
บ.3 สิ่งมีชีวิตที่อยู่รอบตัวเรา | 12 |
7 |
5 |
2 |
- |
- |
26 |
2 |
บ.4 ชาติไทย | 9 |
5 |
- |
- |
- |
- |
14 |
4 |
รวม |
41 |
34 |
10 |
7 |
3 |
2 |
100 |
วิธีคำนวณ
1. คำนวณจำนวนข้อสอบในแต่ละบท โดยการเทียบบัญญัติไตรยางศ์ เช่น
ต้องการข้อสอบทั้งหมด 42 ข้อ ออกในบทที่ 1 จำนวน = 14 ข้อ
ต้องการข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อ ออกในบทที่ 1 จำนวน = (14x100)/42= 33.33 ข้อ
ในบทที่ 1 จะออกข้อสอบประมาณ 34 ข้อ
ในบทอื่น ๆ ใช้วิธีคำนวณแบบเดียวกัน
2. คำนวณจำนวนข้อสอบในแต่ละพฤติกรรม เช่น พฤติกรรมความรู้ความจำในบทที่ 1
ต้องการข้อสอบทั้งหมด 42 ข้อ ออกข้อสอบพฤติกรรมนี้ = 6 ข้อ
ต้องการข้อสอบทั้งหมด 100 ข้อ ออกข้อสอบพฤติกรรมนี้ = (6x100)/42 = 14.28 ข้อ
เพราะฉะนั้นออกข้อสอบในพฤติกรรมด้านความรู้-ความจำในบทที่ 1 จำนวน 14 ข้อ
ส่วนในพฤติกรรมอื่น ๆ ในแต่ละบท มีวิธีคำนวณ เช่นเดียวกัน
3. กรณีที่คำนวณจำนวนข้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ผลรวมไม่ถึง 100 ข้อ ให้พิจารณาปรับเพิ่มจำนวนข้อในแต่ละช่องพฤติกรรมที่มีจุดทศนิยมมาก ๆ ก่อน ปรับให้ได้จำนวน 100 ข้อส่วนกรณีที่ผลรวมเกิน 100 ข้อ ให้พิจารณาปรับลดจำนวนข้อจากช่องพฤติกรรมที่มีจุดทศนิยม น้อย ๆ ที่
ปัดขึ้นออกไปก่อนจนเหลือ 100 ข้อ
4. ในการออกข้อสอบจริง ๆ ให้ใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางศ์จากตาราง 100 แล้วให้เพิ่มจำนวนข้อสอบให้มากกว่าที่ต้องการจริงประมาณ 20-50 % โดยให้กระจายไปในทุก ๆ บทอย่างเป็นสัดส่วน เช่น ต้องการข้อสอบจริง 40 ข้อ ควรออกข้อสอบประมาณ 48-60 ข้อ เผื่อไว้เพราะว่าเมื่อนำไปทดสอบแล้วต้องนำข้อสอบมาหาคุณภาพ จะมีข้อสอบบางข้อที่ต้องตัดทิ้งไปเนื่องจากไม่ได้คุณภาพ
บทสรุป
1.
พฤติกรรมทางการศึกษาเป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์
ซึ่งกำหนดไว้ในจุดมุ่งหมายของการศึกษา
ที่ต้องการให้เกิดขึ้นกับผู้เรียนภายหลังจากผ่านกระบวนการการศึกษาแล้ว
พฤติกรรมทางการศึกษามี 3 ด้าน คือ
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถทางสมอง
เรียกว่าพฤติกรรมด้าน
พุทธิพิสัย
พฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกนึกคิด
เรียกว่า พฤติกรรมด้าน จิตพิสัย
และพฤติกรรมที่เกี่ยวกับทักษะการเคลื่อนไหว
เรียกว่า
พฤติกรรมด้านทักษะพิสัย
2. จุดมุ่งหมายของหลักสูตร เป็นเป้าหมาย หรืออุดมการณ์ หรือปรัชญาที่มุ่งหวังที่กำหนดไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติภารกิจทางการศึกษา เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามที่ต้องการในการดำเนินงานเกี่ยวกับการศึกษา
3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม เป็นจุดประสงค์ที่ระบุพฤติกรรมของผู้เรียนไว้ล่วงหน้าว่าจะให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดภายหลังผ่านการเรียนแล้ว
4. ตารางวิเคราะห์หลักสูตรหรือตารางวิเคราะห์รายวิชา เป็นแนวทางในการสร้างข้อสอบวิธีหนึ่ง โดยยึดเนื้อหารายวิชา จุดประสงค์ และพฤติกรรมทางการศึกษาเป็นหลัก
บรรณานุกรมประจำบทที่ 2
รวีวรรณ อังคนุรักษ์พันธุ์. การวัดทัศนคติเบื้องต้น. คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 2533.
วิชาการ, กรม. กระทรวงศึกษาธิการ. คู่มือการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประถม
ศึกษา พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533). พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์คุรุสภา ลาดพร้าว, 2535.
. คู่มือหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533).
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา, 2534 ก.
. หลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533).
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2534 ข.
สวัสดิ์ ประทุมราช. แนวคิดเชิงทฤษฎี การวิจัย การวัดและประเมินผล. กรุงเทพฯ :
คณะศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันระดับบัณฑิตศึกษา ภาควิชาวิจัยการศึกษา
คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2531.
อุทุมพร จามรมาน. การวัดและประเมินการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา เล่มที่ 3.
พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : ฟันนี่พับบลิชชิ่ง, 2530.
Bloom, Benjamin S. and Others. Handbook on Formative and Summative Evaluation
of Student Learning. NewYork : McGraw-Hill, Inc., 1971.
Norman E. Gronlund. Measurement and Evaluation in Teaching. 5th ed. NewYork :
Macmillan, 1985.