ความหมาย ตามตำราฝรั่ง เครื่องถมอาจทำด้วยทองหรือเงินหรือทองแดงก็ได้ แต่สำหรับไทยแล้วมักเป็นเงิน เพียงอย่างเดียว ถ้าทำด้วยทองก็มักเป็นลงยา หรือถ้าทำด้วยทองแดงก็มักเป็นถมปัด สิ่งที่คนไทยเรียกกันว่าถมปัดนั้น แท้จริงไม่ใช่เครื่องถม แต่เป็นทองแดงลงยาสีต่างๆ เช่น เดียว กับการลงยาทั่วไปบนโลหะเงินหรือทองหรืออื่นๆ ในบ้านเรา เครื่องถมไทย ในที่นี้คือโลหะเงินที่ลงยาถมสีดำตามร่องลายต่าง ๆ หมายความว่า ยาถมมีสีดำเพียงสีเดียว และยาถมที่ได้มาตรฐานจะต้องมีโลหะเงินผสมอยู่ไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 8 ของน้ำหนัก การลงยาถม เห็นแต่ลงตามร่องลายของภาชนะที่เป็นเงิน ภาชนะถมจะมีสีดำเป็นพื้นลาย มีสีเงิน เป็นลวดลาย ไม่เคยเห็นยาถมสีดำเป็นตัวลายและสีเงินเป็นร่องลาย ต่างกับการลงยาสีซึ่งอาจลงยาเป็น ร่องลายหรือตัวลายก็ได้และลงยาได้หลายสี โลหะเงินที่จะทำเครื่องถมที่มีมาตรฐาน ต้องเป็นเงินที่มีโลหะอื่นผสมไม่เกิน้อยละ 7.5 ของน้ำ หนัก เงินที่เจือโลหะอื่นมากกว่านั้นจะทำถมที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน คืออาจถมไม่ติดหรือติดแต่หลุด ลอกง่าย ถ้าเป็นเงินต่ำกว่า 50 % แล้วอาจถมไม่ติดเลย เครื่องถมที่ดี น้ำยาถมจะต้องจับติดเนื้อเงินจนสนิทแนบแน่นเป็นเนื้อเดียว จะกระทบกระแทก อย่างไรก็ไม่หลุดง่าย ถ้าหลุดหรือกระเทาะออกช่างถมจะเรียกว่า "ถมร้าว" เครื่องถมทั่วไปมี 2 ชนิด คือถมเงินหรือถมธรรมดา หรือถมดำ และถมทอง ถมทอง คือถมเงินที่ใช้วิธีตะทองหรือเปียกทอง ทำให้ลายสีเงินเป็นสีทองตามทองทีแต้มไว้
ขั้นตอนการผลิต การทำยาถม ยาถมมีส่วยผสมของโลหะเงิน ทองแดง และตะกั่ว ตามสูตรเฉพาะของช่างถมแต่ ละคนซึ่งมักปิดสูตรของตนเป็นความลับ บางคนใช้เงิน 3 ส่วน ทองแดง 5 ส่วน ตะกั่ว 6 ส่วน กำมะถัน 14 ส่วน บางคนใช้เงิน 1 ส่วน ตะกั่ว 6 ส่วน กำมะถัน 13 ส่วน บางคนใช้เงิน 15 ส่วน ทองแดง 25 ส่วน ตะกั่ว 30 ส่วน อย่างไรก็ตาม มาตรฐานของน้ำยาถมในที่นี้ต้องมีโลหะเงินผสมอยู่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 8 ของน้ำหนัก 1. นำเงิน ทองแดง ตะกั่ว ตามสูตรที่ต้องการใส่ในเบ้าหลอมมีฝาปิด ใส่ในเตาสูบ ใช้ความร้อย 300 องศาเซลเซียส นานประมาณ 4 ชม. 2. ซัดด้วยกำมะถันเหลือจนหมดฟองและฝ้า จะได้น้ำยาถมสีดำใส 3. เทลงเบ้าจานทิ้งไว้จนแห้ง ยาถมจะเป็นของแข็งสีดำขึ้นเงาสีน้ำเงินอ่อน เนื้อคล้ายโลหะแต่ทุบ ให้แตกละเอียดได้ มีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าเงินหรือทอง 4. เมื่อได้ยาถมแล้ว ในอดึนจะนำมาบดหรือป่นในครกจนเป็นเม็ดเล็กเท่าเม็ดงาเก็บไว้ใช้ แต่ใน ปัจจุบันจะนำมาหล่อเป็นแท่งเก็บไว้ใช้ |
|
Copyright © 2000 Mr.Kanchana Pumnual. All rights reserved. Revised : เมษายน 28, 2543 . |