พระเจ้ากับไบเบิล

ก่อนอื่นนะครับ ผมอยากจะให้ท่านทั้งหลายย้อนคิดไปถึง ทฤษฎีวิวัฒนาการเสียหน่อย แม้ในปัจจุบัน ช่องโหว่ในทฤษฎีนี้ก็ยังมีค่อนข้างแยะ โดยเฉพาะในส่วนของวิวัฒนาการแห่งชาติพันธุ์มนุษย์ หลักฐานที่มีในปัจจุบัน ไม่เพียงพอที่จะสืบสาวราวเรื่องวงศ์ตระกูลของมนุษย์ทั้งหมดได้ เพราะมีห่วงโซ่บางอย่างที่หายไปครับ นั่นคือหลักฐานที่บ่งว่ามนุษย์ถ้ำ วิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ยุคใหม่อย่างเรานั้น ไม่มีร่องรอยอยู่เลย

เหมือนกับเวลาหายไปเฉยๆประมาณหมื่นกว่าปีเสียงั้นแหละ...

ไม่ทราบเหมือนกันแหละครับ ว่าการวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดจากมนุษย์ถ้ำมาเป็นโมเดิร์นแมนนั้น เกิดมาจาก ปาฏิหารย์ของพระผู้เป็นเจ้า จากธรรมชาติ หรือความจงใจของใครบางคน จะจากอะไรก็เถิดครับ นักวิชาการหลายคนที่ได้ศึกษาไบเบิล ได้พบถึงความต่าง ระหว่างบทบาทของพระเจ้าในบทแรกๆกับบทหลังมาก พระผู้เป็นเจ้านั้นปรากฏอยู่ในหน้าแรกๆ ของคัมภีร์ไบเบิลเพียงไม่กี่หน้า ซึ่งดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ประพันธ์เรื่องราวตอนแรกของการสร้างโลก เป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพลานุภาพอย่างแท้จริง แต่... ถัดจากนั้นล่ะ? เราจะค่อยเห็นพฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไป อย่างน้อยๆนะครับ จุดนี้ก็ทำให้หลายๆคนที่ศึกษามันฉุกใจคิดถึงความน่าเคลือบแคลง อันผมจะสาธยายต่อให้ท่านฟังนะครับว่า น่าเคลือบแคลงอย่างไร

ตลอดของบทแรกและตอนต้นของบทที่สอง เลยไปจนถึงตอนกลางของบทที่สี่ (เขียนให้งงแฮะ หมอนี่) นั้นไม่ได้มีความเคลือบคลุม หรือกำกวมแต่ประการใด ทุกอย่างชัดแจ้งและตรงไปตรงมา อย่างเช่นในเนื้อหาได้กล่าวถึงผู้สร้างสรพพสิ่งทั้งมวล หรือเป็นพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งแนวความคิดของเขาปรากฏขึ้นทันทีทันใด พร้อมๆกับการเกิดสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นต้นว่า โลก ดวงดาว ดวงอาทิตย์ จะมีก็เพียงแต่วิธีการพรรณาโวหารเท่านั้น ที่จะอธิบายความรวดเร็วโดยฉับพลันเหล่านั้นได้ โดยใช้แนวคิดที่ว่า พระเจ้าคือความอมตะ ไม่มีการโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลจากสิ่งหนึ่งไปหาอีกสิ่งหนึ่ง นั่นแหละครับที่ผมจะชี้ให้ท่านดู ถึงความคลุมเคลือที่จะตามมา

คัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงพระเจ้าสร้างโลก พร้อมๆกับที่มันถูกสร้างจนเสร็จแล้ว ซึ่งบทบาทของพระผู้สร้างนี้ดูมีพลานุภาพสมกับเป็นพระผู้เป็นเจ้าจริงๆ เรื่องนี้มีปรากฏอยู่ในบทแรกๆของเยเนซิสครับ จากนั้นล่ะครับ คัมภีร์ก็ได้วกเข้ามาถึงตอนที่สองของการสร้างโลกอย่างกระทันหัน ซึ่งมันไม่เข้ากับตอนแรกเท่าไหร่ อรรถกถาจารย์ทางคัมภีร์ไบเบิลหลายท่านได้ตรวจพบ การผสมผสานระหว่างแหล่งที่มาสองแหล่ง ซึ่งแตกต่างกัน ถ้าหากอ่านดูดีๆให้เข้าแล้วเราก็จะพบว่า คัมภีร์ไบเบิลนั้นถูกเล่าต่อกันด้วยปากเปล่าก่อนที่จะมีการเขียน มันถูกถ่ายทอดต่อๆกันมานับเป็นพันๆ หรืออาจจะหมื่นปีเลยทีเดียวครับ น่าทึ่งที่ว่า เนื้อในใจความที่สำคัญ ไม่ได้ตกหล่นเลยแม้แต่ประการเดียว ซึ่งนั่นไม่สำคัญเท่าไหร่ คุณๆเชื่อกันไหมครับ หลังจากพิจารณาดูดีๆแล้ว พระเจ้าในพระคัมภีร์ในภาคสร้างโลก ระหว่างช่วงแรกกับช่วงหลัง ดูเหมือนเป็นคนละองค์กัยเสียแล้ว นี่แหละครับ ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้

นามของพระเจ้าในไบเบิลที่ถูกเรียกขานนั้นแตกต่างกันไป เช่น ยาห์เวห์ หรือ ยะโฮวาห์ บางครั้งก็ถูกเรียกขานว่า เอโลฮิม ซึ่งหมายถึงผู้ลงมาจากท้องฟ้า นั่นก็ไม่แปลกอะไรครับ เพราะเทพทั้งหลายในโลก ที่ชาวโลกซีกต่างๆนับถือกันอยู่ ล้วนมีพระนามที่แตกต่างกันมากมายเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่นะครับ.. แต่จากบทบาทที่ปรากฏอยู่ในไบเบิลนั้น พระยะโฮวาห์กับเอโลฮิม ดูเหมือนจะมีบทบาทและความเป็นไปแทบจะคนละอย่างกันเลย

อย่างไรก็ตามที ในภาคเยเนซิสของไบเบิล ซึ่งผมนำเสนออยู่นี้ ความแตกต่างของชื่อ มีความสำคัญและเหตุผลอันดี ที่จะเน้นย้ำถึงความสำคัญว่า เรื่องราวดังกล่าวถูกเล่ามาไม่เหมือนกัน

ยะโฮวาห์ และ เอโลฮิม

พระยะโฮวาห์ ไม่ได้มีหน้าที่เดียวกับเอโลฮิมของบทแรก กล่าวคือ เอโลฮิมสร้างท้องฟ้าและโลก แสงสว่าง กลางวัน - กลางคืน เวหา พืช ดวงจันทร์ กลางวัน กลางคืน และ ดวงอาทิตย์ สัตว์ และท้ายที่สุดก็คือ มนุษย์ เห็นมั๊ยครับว่า ทั้งหมดถูกทำขึ้นมาไม่เป็นระเบียบอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่ยุ่งเหยิงสำหรับเรา อาจไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้ หากถือตาทัศนคติ หรือแง่คิดที่ทรงพลานุภาพแตกต่างจากเรา

สำหรับพระยะโฮวาห์ เขาเล่นบทรองลงมา กล่าวคือ ปรับปรุงพื้นโลก ( ให้น้ำ ให้ท่า พันธุ์พืช ) และ... สร้างมนุษย์

มาถึงตรงนี้บางท่านอาจย้อนมาว่า อ้าว... แล้วมนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างโดยพระเจ้าองค์แรก - เอโลฮิม หรอกหรือ? แล้วจะมามีการสร้างหนที่สองทำไมกัน? ครับ... มันก็น่าจะเป็นอย่างนั้น นั่นล่ะครับคือที่มาของปริศนาทั้งหลายทั้งปวง และเป็นช่องทางที่ผมพยายามจะชี้ให้ท่านเห็น และฉุกใจว่า เรื่องราวในคัมภีร์นี้ มันน่าสนเท่ห์ใช่หยอกเสียเมื่อไหร่กัน

เพื่อให้มองเห็นภาพชัดยิ่งขึ้น เรามากล่าวถึงพระยะโฮวาห์กันอีกครั้ง พระเจ้าองค์นี้ปรากฏในตอนเริ่มแรกของบทที่สอง และจากนั้นจนจบคัมภีร์พันธสัญญาเก่า พระเจ้าผู้สร้างโลกก็ได้เข้ามาแทนที่ พระยะโฮวาห์องค์นี้มีหลายพระนาม รวมทั้งชื่อเอโลฮิมด้วย บางครั้งก็มาในรูปของพหูพจน์ (ก็ไหนว่ามีพระเจ้าองค์เดียวไง) แต่ก็เป็นไปไม่ได้ล่ะครับ เพราะยังไง ดูแล้วก็ไม่ใช่องค์เดียวกับที่สร้างจักรวาล แรกทีเดียวเขาไม่ได้ สร้าง แต่เขา ปั้นแต่ง มนุษย์ขึ้นมาจากฝุ่นผงของพสุธา ( เยเนซิส 2.7 ) และนั่นคือการให้กำเนิดอดัมครับ คล้ายกันเหลือเกินกับในจารึกของชาวสุเมเรี่ยน

ตามคัมภีร์กล่าว่า พระยะโฮวาห์ เป็นสิ่งที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกรุปทุกนาม จากรายละเอียดทั้งหลาย เราก็พอจะอนุมานได้เลาๆว่า ยะโฮวาห์ไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้าที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เขาอาจมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังมีอารมณ์ความรู้สึก เขาเสียใจเมื่อมนุษย์ที่เขาสร้างขึ้น ทำอะไรไม่ได้อย่างใจหวัง แสดงว่าเายังมีอารมณ์ความรู้สึก เมื่อคนของเขาหายไป เขาก็ออกตามหา นั่นย่อมหมายถึง เขาไม่ใช่พระเจ้าที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง จริงอยู่ ยะโฮวาห์ล้วนมีสิ่งที่เหนือกว่ามนุษย์ที่เขาสร้างขึ้นในทุกๆด้าน แต่ว่า เขาก็ไม่ใช่พระเจ้าตามพระคัมภีร์อยู่ดี มีแนวโน้มที่น่าคิดว่า คนส่วนใหญ่อาจจะสับสนระหว่าง ยะโฮวาห์ กับ พระเจ้า เนื่องมาจากทั้งคู่ ต่างเสด็จลงมาจากท้องฟ้าเหมือนๆกัน

เพราะฉะนั้น เราอาจตั้งคำถาม อันจะนำมาซึ่งปริศนา หรือเงื่อนงำอย่างหนึ่งว่า สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์แต่ไม่ใช่มนุษย์ เต็มไปด้วยความรู้ ที่ดูแล้วล้ำยุคราวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใช้ปาฏิหารย์ที่อธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ และเสด็จลงสู่โลกด้วยพาหนะที่ลงมาจากท้องฟ้านั้น คืออะไรกันแน่?

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและคนแรก ที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ ทฤษฎีพระเจ้าจากอวกาศมีมานานแล้ว แต่ก็ไม่แปลกนี่ครับ เพราะบรรดาเทพโบราณ ช่างคล้ายกับมนุษย์อวกาศเสียเหลือเกิน เชื่อไหมล่ะครับว่า เพราะความรู้ทางเทคโนโลยีและอวกาศ ที่เพิ่งเจริญมาเมื่อไม่กี่ปีนี้เองแหละ ได้เข้ามามีบทบาทช่วยตีความคัมภีร์ไบเบิล และมีประโยชน์มากเสียยิ่งกว่าวิชาโบราณคดีซะอีก นอกจากนี้ วิชาการด้านอื่นๆ เช่นชีววิทยา ก็ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือ ผู้ที่เคยตีความไบเบิล ด้วยนัยน์ตาอันฝ้าฟางไปด้วยศัรทธาแบบไม่ลืมหูลืมตา เรื่องของ DNA ช่วยไขรหัสลับไบเบิลได้มากเลยล่ะครับ เพราะว่าก่อนกลางศตวรรษที่ 20 นั้น หากมีใครซักคนเอ่ยขึ้นมาอย่างสัยว่า พระยะโฮวาห์น่าจะเป็นมนุษย์อวกาศ หมอนั่นจะต้องบ้าหรือไม่ก็เพี้ยนขนาดหนัก

ปัจจุบัน ในสายตาของวิทยาศาสตร์ ไบเบิลได้แสดงความขัดแย้งในตัวเองอยู่หลายอย่าง อะไรที่เคยเป็นปาฏิหารย์ อะไรที่เคยคลุมเคลือ บัดนี้มันก็แจ่มแจ่งแดงแจ๋ออกมาแล้ว

รายละเอียดในการสร้างมนุษย์ ผมจะกล่าวอีกทีในเรื่องของอาดัมกับอีฟครับ แต่จะเน้นย้ำตรงนี้เพิ่มไว้สักหน่อยนึงว่า พระยะโฮวาห์ ได้ปั้นแต่งวัสดุที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ให้เห็นมนุษย์ขึ้นมาครับ เพราะฉะนั้น จึงไม่จำเป็นเลยที่ มนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านี้ จะต้องมีวิวัฒนาการไปตามขั้นตอนของธรรมชาติ ดังนั้น Lost Link หรือ ห่วงโซ่ที่หายไปทางมานุษยวิทยาจึงเกิดขึ้น (หมายถึงการวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดด จากมนุษย์โบราณ ออสตรัลโลพิทธิคัส มาเป็นมนุษย์ยุคใหม่ โฮโม เซเปี้ยน อย่างเรา) พระยะโฮวาห์สร้างมนุษย์อย่างไร? และไบเบิลกล่าวถึงพระเจ้าจากอวกาศองค์นี้ไปในทำนองไหน ค่อยๆติดตามอ่านกันนะครับ

<< BACK หน้า1

 

 


 
 
BY ขจรศักดิ์ เลาห์สัฒนะ
Hosted by www.Geocities.ws

1