Chiangmai  Astronomy  Club

การดูดาวเบื้องต้น

ในสมัยโบราณอาณาจักรที่รุ่งเรืองต่างๆ มีผู้ที่หยั่งรู้ดินฟ้าและดวงดาว ซึ่งจัดเป็นบุคคลที่ไม่ธรรมดา อาจเป็นโหราจารย ผู้วิเศษ หรือแม้แต่พ่อมด และแม่มด ซึ่งได้ถูกล่าวถึงต่อกันมานาน โดยเฉพาะในสังคมขนาดใหญ่เช่นสังคมเมือง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในสังคมชนบทหรือกลุ่มผู้เดินทางเร่ร่อน ต่างก็รู้ถึง ความลับของสิ่งเหล่านี้เช่นกัน นั่นเป็นเพราะความลับของธรรมชาติในระดับ หนึ่งเข้าใจกันได้ไม่ยากนัก แม้ว่าสมัยนั้นจะยังไม่มีใครเข้าใจ เลยว่าโลกที่เป็นจริงนั้นเป็นอย่างไร หรืออะไรอยู่บนท้องฟ้า เพียงแต่ต้องอาศัยการสังเกตอยู่เป็นประจำก็เพียงพอ

เรื่องของดวงดาวนั้น ใครๆก็สนใจได้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ระดับการศึกษามากหรือน้อยก็ตาม เพราะดวงดาวมีความสวยงาม อยู่ในตัว มีความลึกลับ ที่ล้นจินตนาการไว้สำหรับทุกคน แต่เนื่องจากทุกอย่างที่เห็นอยู่ไกลมาก และส่วนมากกว่าแสงต่างๆ บนท้องฟ้าจะมาถึงเราได้ก็หริบหรี่พอสมควร การเคลื่อนไหวหลายอย่างบนท้องฟ้า ก็ดูเหมือนจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทั้งที่ความ จริงไม่เป็นเช่นนั้น จึงไม่ง่ายนักที่จะมองภาพรวมทั้งหมดที่เกี่ยวกับ ดวงดาวได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อออกไปดูดาวด้วยตนเอง

เมื่อเรายืนดูดาวในที่มืด ปราศจากแสงรบกวน ก็จะเห็นดาวจำนวนมากปรากฏบนท้องฟ้า ที่ดูเหมือนจะมีลักษณะเป็นรูปครึ่งทรงกลมครอบ เราอยู่(เมื่อราอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมและรู้ว่านั่นเป็นห้อง สี่เหลี่ยม เพราะมีแสงเงา ตามมุมห้อง ประกอบกับ สายตาทั้งคู่ของเรา บอกกระยะและขนาดของห้อง ได้ สมองจึงสั่งการให้เห็นภาพเป็นห้อง แต่บนท้องฟ้า สายตาไม่สามารถบอกความแตก ต่าง ของระยะ ทุกอย่างดูเหมือนห่างเท่ากันหมด และไม่มีแสงเงา ใดๆ มีแต่ท้องฟ้าที่มืด สมองจึง บอกว่านี่น่าจะเป็นรูปครึ่ง ทรงกลม ทั้งๆที่ความจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้นเลย) ส่วนพื้นดินก็กว้างใหญ่เกินกว่าที่น่าจะเรู้สึกว่าโลกกลม จึงเห็นผืนแผ่นดินเป็นวงกลมราบไกลไปจนสุดขอบฟ้า ในภาพ เรายืนอยู่ที่ประเทศไทยห่างมาจากแนว เส้นศูนย์ สูตรของโลกนับเป็นองศาต่างกัน (องศาที่ว่านี้ วัดจากใจ กลางโลกออกมา ที่เราเรียกว่าเส้นรุ้งหรือ

ละติจูด) ถ้าเป็นที่ยะลา เส้นรุ้งจะมีค่าประมาณ 6 องศา ถ้าเป็นที่ กรุงเทพ เราจะห่างจากศูนย์สูตรโลก 14 องศา และถ้า เป็นที่เชียงใหม่มุมของเส้นรุ้งจะมีค่าเกือบ 19 องศาเป็นต้น


Back to Home
VISIT TO MY HOMEPAGE CLICK HERE
Hosted by www.Geocities.ws

1