ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ



จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อความสะดวก และสวยงาม
(เฉพาะหน้าจอใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์)
กรุณาคลิก จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อให้กรอบ
ค้นข้อความ ปรากฎที่ด้านซ้ายของหน้า

พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๔๕ เล่ม (ปกสีฟ้า)
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ที่มาของข้อมูล : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับ มจร.
MCUTRAI Version 1.0

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๗ ปัฏฐาน ภาค ๑

พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] มาติกานิกเขปวาร ๑. ปัจจยุทเทส

พระอภิธรรมปิฎก
ธัมมานุโลม ติกปัฏฐาน
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

มาติกานิกเขปวาร
๑. ปัจจยุทเทส

๑. เหตุปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นเหตุ
๒. อารมฺมณปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นอารมณ์
๓. อธิปติปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นอธิบดี
๔. อนนฺตรปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่น
๕. สมนนฺตรปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความติดต่อกันไม่มีระหว่างคั่น
ด้วยดี
๖. สหชาตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเกิดพร้อมกัน
๗. อญฺมญฺปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นปัจจัยแก่กันและกัน
๘. นิสฺสยปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นที่อาศัย
๙. อุปนิสฺสยปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นที่อาศัยที่มีกำลัง
๑๐. ปุเรชาตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเกิดก่อน
๑๑. ปจฺฉาชาตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเกิดทีหลัง
๑๒. อาเสวนปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเสพบ่อย ๆ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส

๑๓. กมฺมปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นกรรม
๑๔. วิปากปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นวิบาก
๑๕. อาหารปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นอาหาร
๑๖. อินฺทฺริยปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นอินทรีย์
๑๗. ฌานปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นฌาน
๑๘. มคฺคปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นมรรค
๑๙. สมฺปยุตฺตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นการประกอบ
๒๐. วิปฺปยุตฺตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นการไม่ประกอบ
๒๑. อตฺถิปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นภาวะที่ยังมีอยู่
๒๒. นตฺถิปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความเป็นภาวะที่ไม่มีอยู่
๒๓. วิคตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความปราศจากไป
๒๔. อวิคตปจฺจโย สภาวธรรมที่ช่วยอุปการะโดยความไม่ปราศจากไป

ปัจจยุทเทส จบ

ปัจจยวิภังควาร
๒. ปัจจยนิทเทส
[๑] เหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยเหตุและ
รูปที่มีธรรมอันสัมปยุตด้วยเหตุนั้นเป็นสมุฏฐานโดยเหตุปัจจัย
[๒] อารัมมณปัจจัย ได้แก่ รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและ
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
รสายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ และโผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
สภาวธรรมทั้งปวงเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
มโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอารัมมณปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใด ๆ ปรารภสภาวธรรมใด ๆ เกิดขึ้น สภาว-
ธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้น ๆ โดยอารัมมณปัจจัย
[๓] อธิปติปัจจัย ได้แก่ ฉันทาธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยฉันทะและรูปที่มีธรรมอันสัมปยุตด้วยฉันทะนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย
วิริยาธิบดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยวิริยะและรูปที่มีธรรมอันสัมปยุต
ด้วยวิริยะนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย
จิตตาธิบดี เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจิตและรูปที่มีธรรมอัน
สัมปยุตด้วยจิตนั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย
วิมังสาธิบดี เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยวิมังสา และรูปที่มีธรรมอัน
สัมปยุตด้วยวิมังสานั้นเป็นสมุฏฐานโดยอธิปติปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใด ๆ ทำสภาวธรรมใด ๆ ให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่นเกิดขึ้น
สภาวธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้น ๆ โดย
อธิปติปัจจัย
[๔] อนันตรปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุ
นั้นโดยอนันตรปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ
และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็น
ปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใด ๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งสภาวธรรมใด ๆ
สภาวธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้น ๆ โดยอนันตร-
ปัจจัย
[๕] สมนันตรปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุ
นั้นโดยสมนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่ง
เกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใด ๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งสภาวธรรมใด ๆ สภา
วธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้น ๆ โดยสมนันตรปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
[๖] สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกัน
โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยสหชาตปัจจัยใน
ปฏิสนธิขณะ นามรูป เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยสหชาตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป๑โดยสหชาต-
ปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย สภาวธรรมที่
เป็นรูป บางคราวเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นรูปโดยสหชาตปัจจัย บางคราว
ไม่เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย
[๗] อัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญ-
ปัจจัย มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ นามรูปเป็น
ปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย
[๘] นิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกันโดย
นิสสยปัจจัย มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยนิสสยปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
นามรูป เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสย-
ปัจจัย มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยนิสสยปัจจัย
จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย จักขุ-
วิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย
โสตายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย
ฆานายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย

เชิงอรรถ :
๑ รูปที่เกิดจากจิตมี ๑๗ คือ วิญญัตติรูป ๒ วิการรูป ๓ อุปจยรูป ๑ สันตติรูป ๑ สัททรูป ๑ ปริจเฉทรูป
๑ และอวินิพโภครูป ๘ (อภิ.สงฺ. ๓๔/๗๖๒๑๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
ชิวหายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย
กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยนิสสยปัจจัย
รูปที่มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไปเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ มโน-
วิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยธาตุทั้ง ๒ นั้นโดยนิสสยปัจจัย
[๙] อุปนิสสยปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลบาง
เหล่าซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่ง
เกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลบาง
เหล่าซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยา-
กฤตซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
แม้อุตุและโภชนะก็เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย แม้บุคคลก็เป็นปัจจัยโดย
อุปนิสสยปัจจัย แม้เสนาสนะก็เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
[๑๐] ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและ
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
โสตายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
ฆานายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
ชิวหายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
คันธายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆาน-
วิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
รสายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ และโผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
รูปที่มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไปเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ และ
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย บางคราวเป็นปัจจัยแก่
มโนวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยปุเรชาตปัจจัย
บางคราวไม่เป็นปัจจัยโดยปุเรชาตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
[๑๑] ปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกซึ่งเกิดภายหลัง
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ซึ่งเกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย
[๑๒] อาเสวนปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่ง
เกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากตกิริยาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย
[๑๓] กัมมปัจจัย ได้แก่ กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากและกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย
เจตนา เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตและรูปมีสภาวธรรมนั้นเป็นสมุฏฐาน
โดยกัมมปัจจัย
[๑๔] วิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่เป็นวิบาก ซึ่งไม่เป็นรูป เป็นปัจจัยแก่
กันและกันโดยวิปากปัจจัย
[๑๕] อาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหาร-
ปัจจัย อาหารที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตและรูปซึ่งมีสภาวธรรม
นั้นเป็นสมุฏฐานโดยอาหารปัจจัย
[๑๖] อินทรียปัจจัย ได้แก่ จักขุนทรีย์เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และ
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทรียปัจจัย
โสตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสต-
วิญญาณธาตุนั้นโดยอินทรียปัจจัย
ฆานินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆาน-
วิญญาณธาตุนั้นโดยอินทรียปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
ชิวหินทรีย์เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทรียปัจจัย
กายินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอินทรียปัจจัย
รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย
อินทรีย์ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต และรูปซึ่งมีสภาวธรรม
นั้นเป็นสมุฏฐานโดยอินทรียปัจจัย
[๑๗] ฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฌานและรูปซึ่งมีสภาวธรรมนั้นเป็นสมุฏฐานโดยฌานปัจจัย
[๑๘] มัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
มรรคและรูปซึ่งมีสภาวธรรมนั้นเป็นสมุฏฐานโดยมัคคปัจจัย
[๑๙] สัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกัน
โดยสัมปยุตตปัจจัย
[๒๐] วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่ไม่เป็นรูป เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
[๒๑] อัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูปเป็นปัจจัยแก่กันและกันโดย
อัตถิปัจจัย
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ นามรูป
เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอัตถิปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกเป็นปัจจัย
แก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดย
อัตถิปัจจัย
จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยจักขุ-
วิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ และโผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอัตถิปัจจัย
รูปที่มโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไป เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยธาตุทั้ง ๒ นั้นโดยอัตถิปัจจัย
[๒๒] นัตถิปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่ดับไปไม่มีระหว่าง
คั่นด้วยดีเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เป็นปัจจุบันโดยนัตถิปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปัจจยวิภังควาร ๒. ปัจจยนิทเทส
[๒๓] วิคตปัจจัย ได้แก่ สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่ปราศจากไปไม่มี
ระหว่างคั่นด้วยดี เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เป็นปัจจุบันโดย
วิคตปัจจัย
[๒๔] อวิคตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๔ ที่ไม่เป็นรูป เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดย
อวิคตปัจจัย
มหาภูตรูป ๔ เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอวิคตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
นามรูป เป็นปัจจัยแก่กันและกันโดยอวิคตปัจจัย สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิก
เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอวิคตปัจจัย
มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยอวิคตปัจจัย
จักขายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
ฆานายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
ชิวหายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
กายายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
สัททายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
โสตวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
คันธายตนะ เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ฆานวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
รสายตนะ เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ชิวหาวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
กายวิญญาณธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
รูปายตนะ สัททายตนะ คันธายตนะ รสายตนะ และโผฏฐัพพายตนะ เป็น
ปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอวิคตปัจจัย
รูปที่มโนธาตุและมโนวิญญาณธาตุอาศัยเป็นไป เป็นปัจจัยแก่มโนธาตุ
มโนวิญญาณธาตุ และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยธาตุทั้ง ๒ นั้นโดยอวิคตปัจจัย
ปัจจยนิทเทส จบ

ปุจฉาวาร
๑. ปัจจยานุโลม
เอกมูลกนัย ๑. กุสลบท
[๒๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

๒. อกุสลบท
[๒๖] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

๓. อัพยากตบท
[๒๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

๔. กุสลาพยากตบท
[๒๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่
เป็นอัพยากฤต พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็น
อัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
กุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
๕. อกุสลาพยากตบท
[๒๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและ
ที่เป็นอัพยากฤต พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็น
อัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
อกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

๖. กุสลากุสลบท
[๓๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลพึง
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่
เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่
เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็น
อกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
กุศลและที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม

๗. กุสลากุสลาพยากตบท
[๓๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล และ
ที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล และที่เป็น
อัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล และที่
เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็น
อกุศล และที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่
เป็นอกุศล และที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล
และที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล
ที่เป็นอกุศล และที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
เหตุปัจจยวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
[๓๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
(แม้อารัมมณปัจจัยก็พึงอธิบายให้พิสดารเหมือนเหตุปัจจัยตามแนวแห่งคำสอน)
[๓๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะ
อัญญมัญญปัจจัย เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย
เพราะปัจฉาชาตปัจจัย เพราะอาเสวนปัจจัย เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย
เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย
เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย
เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
[๓๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อวิคตปัจจัยได้บ้างไหม ฯลฯ อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ อาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ อาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ อาศัยสภาวธรรมที่เป็น
กุศลและที่เป็นอกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศล ที่เป็นอกุศล และที่เป็น
อัพยากฤตพึงเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรม
ที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้น
ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่
เป็นกุศลและที่เป็นอกุศลพึงเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตพึงเกิดขึ้นเพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
(แม้อวิคตปัจจัยก็พึงอธิบายให้พิสดารเหมือนเหตุปัจจัยตามแนวแห่งคำสอน)
เอกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
ทุมูลกนัยเป็นต้น
เหตุมูลกนัย
[๓๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็น
อกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
พึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
[๓๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย
ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะ
อวิคตปัจจัยได้บ้างไหม

ทุมูลกนัย จบ
[๓๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม ฯลฯ เพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย
เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม

ติมูลกนัย จบ
[๓๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัยได้บ้างไหม
ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
ได้บ้างไหม

จตุมูลกนัย จบ
(ท่านได้ย่อปัญจมูลกนัยเป็นต้นไว้แล้ว ผู้รู้พึงอธิบายเอกมูลกนัย ทุมูลกนัย
ติมูลกนัย จตุมูลกนัย ปัญจมูลกนัย สัพพมูลกนัยของบทแต่ละบทให้พิสดาร)
เหตุมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๑. ปัจจยานุโลม
อารัมมณมูลกนัยเป็นต้น
[๓๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติ-
ปัจจัย ฯลฯ เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้บ้างไหม เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย
เพราะอัญญมัญญปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะ
อวิคตปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม

ทุมูลกนัย จบ
[๔๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม เพราะอวิคตปัจจัย
เพราะเหตุปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะ
อนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้
บ้างไหม
[๔๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม
เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย
ฯลฯ เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
(ผู้รู้พึงอธิบายเอกมูลกนัย ทุมูลกนัย ติมูลกนัย จตุมูลกนัย ปัญจมูลกนัย
สัพพมูลกนัยของบทแต่ละบทให้พิสดาร)
อนุโลมมีนัยอันลึกซึ้ง ๖ ประการ คือ
๑. ติกปัฏฐาน ๒. ทุกปัฏฐาน
๓. ทุกติกปัฏฐาน ๔. ติกทุกปัฏฐาน
๕. ติกติกปัฏฐาน ๖. ทุกทุกปัฏฐาน
แต่ละปัฏฐานประเสริฐสูงสุด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๒. ปัจจยปัจจนียะ
๒. ปัจจยปัจจนียะ
[๔๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย๑ ได้บ้างไหม
(พึงอธิบายนเหตุปัจจัยแม้ในปัจจนียะให้พิสดารเหมือนเหตุปัจจัยในอนุโลม)
[๔๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม เพราะนอธิปติปัจจัย เพราะนอนันตรปัจจัย เพราะ
นสมนันตรปัจจัย เพราะนสหชาตปัจจัย เพราะนอัญญมัญญปัจจัย เพราะ
นนิสสยปัจจัย เพราะนอุปนิสสยปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย เพราะนปัจฉาชาต-
ปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย เพราะนกัมมปัจจัย เพราะนวิปากปัจจัย เพราะ
นอาหารปัจจัย เพราะนอินทรียปัจจัย เพราะนฌานปัจจัย เพราะนมัคคปัจจัย
เพราะนสัมปยุตตปัจจัย เพราะนวิปปยุตตปัจจัย เพราะโนอัตถิปัจจัย เพราะ
โนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
[๔๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะนเหตุ-
ปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
(แม้ในปัจจนียะ ผู้รู้พึงอธิบายเอกมูลกนัย ทุมูลกนัย ติมูลกนัย จตุมูลกนัย
จนถึงเตวีสติมูลกนัยของบทแต่ละบทให้พิสดารเหมือนในอนุโลม)
ปัจจนียะมีนัยอันลึกซึ้ง ๖ ประการ คือ
๑. ติกปัฏฐาน ๒. ทุกปัฏฐาน
๓. ทุกติกปัฏฐาน ๔. ติกทุกปัฏฐาน
๕. ติกติกปัฏฐาน ๖. ทุกทุกปัฏฐาน
แต่ละปัฏฐานประเสริฐสูงสุด

เชิงอรรถ :
๑ หมายถึงปัจจัยอื่น ๆ ตามสมควรที่ไม่ใช่เหตุปัจจัย แม้อารัมมณปัจจัยเป็นต้นก็พึงทราบโดยนัยนี้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๔๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
เพราะนอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
(แม้ในอนุโลมปัจจนียะ ผู้รู้พึงอธิบายบทให้พิสดารเหมือนกับเหตุปัจจัยใน
อนุโลม)
[๔๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะนอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม เพราะเหตุปัจจัย เพราะนอนันตรปัจจัย
ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
[๔๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะนอธิปติปัจจัยได้บ้างไหม เพราะเหตุปัจจัย
เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะนอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะ
อารัมมณปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะ
นอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย
เพราะโนอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอนันตร-
ปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย
เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัย ฯลฯ
... เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย เพราะ
อนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญมัญญปัจจัย
เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย เพราะ
ปัจฉาชาตปัจจัย เพราะอาเสวนปัจจัย เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย
เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย
เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย
เพราะวิคตปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๔๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะอธิปติปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย เพราะ
นเหตุปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย
เพราะโนวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย ฯลฯ เพราะ
อวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะ
นอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย
เพราะโนวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย เพราะ
อธิปติปัจจัย เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย ฯลฯ
เพราะโนวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
อนุโลมปัจจนียะมีนัยอันลึกซึ้ง ๖ ประการ คือ
๑. ติกปัฏฐาน ๒. ทุกปัฏฐาน
๓. ทุกติกปัฏฐาน ๔. ติกทุกปัฏฐาน
๕. ติกติกปัฏฐาน ๖. ทุกทุกปัฏฐาน
แต่ละปัฏฐานประเสริฐสูงสุด

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๔๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัยได้บ้างไหม
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย
เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะนเหตุปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ปุจฉาวาร ๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๕๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะอวิคตปัจจัย
ได้บ้างไหม
... เพราะนเหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย เพราะนอธิปติปัจจัย ฯลฯ
เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม เพราะนเหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย เพราะ
นอธิปติปัจจัย เพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะโนอัตถิ-
ปัจจัย เพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
[๕๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัย เพราะเหตุปัจจัยได้บ้างไหม
[๕๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลพึงเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะนอารัมมณปัจจัย เพราะ
อวิคตปัจจัย ฯลฯ เพราะโนอวิคตปัจจัย เพราะเหตุปัจจัย เพราะโนอวิคตปัจจัย
เพราะอารัมมณปัจจัย ฯลฯ เพราะโนอวิคตปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะโนอวิคตปัจจัย เพราะนเหตุปัจจัย เพราะอารัมมณปัจจัย ฯลฯ
เพราะโนอวิคตปัจจัย เพราะนเหตุปัจจัย เพราะวิคตปัจจัยได้บ้างไหม
... เพราะโนอวิคตปัจจัย เพราะนเหตุปัจจัย เพราะนอารัมมณปัจจัย เพราะ
นอธิปติปัจจัย ฯลฯ เพราะโนอัตถิปัจจัย เพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย
ได้บ้างไหม
ปัจจนียานุโลมมีนัยอันลึกซึ้ง ๖ ประการ คือ
๑. ติกปัฏฐาน ๒. ทุกปัฏฐาน
๓. ทุกติกปัฏฐาน ๔. ติกทุกปัฏฐาน
๕. ติกติกปัฏฐาน ๖. ทุกทุกปัฏฐาน
แต่ละปัฏฐานประเสริฐสูงสุด
ปัณณัตติวาร จบ
ปัจจัย ๒๓ ในนิทเทสวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
อนุโลม เหตุปัจจัย
[๕๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัย
ขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อารัมมณปัจจัย
[๕๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อธิปติปัจจัย
[๕๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศล และที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
เกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบากและอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิด
ขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป
๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย
[๕๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอนันตร-
ปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
(อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัยเหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[๕๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศล และที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
เกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒
อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่เป็นภายนอกเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒
เกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัย
มหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น อุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป
๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อัญญมัญญปัจจัย
[๕๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอัญญ-
มัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
อัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป
๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป
๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น (๑)

นิสสยปัจจัย
[๕๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนิสสย-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล (นิสสยปัจจัยเหมือนกับสหชาตปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อุปนิสสยปัจจัย
[๖๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอุป-
นิสสยปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล (อุปนิสสยปัจจัยเหมือนกับ
อารัมมณปัจจัย)

ปุเรชาตปัจจัย
[๖๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะปุเรชาต-
ปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๖๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอาเสวน-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอาเสวน-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)

กัมมปัจจัย
[๖๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะกัมมปัจจัย
ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ

... อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ /l

สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ
จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับ
เหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะกัมมปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะกัมมปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

วิปากปัจจัย
[๖๔] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น
เพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป
๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อาหารปัจจัย
[๖๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอาหาร-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะอาหาร-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
อาหารปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ
จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... อาศัย
มหาภูตรูป ๑ ที่มีอาหารเป็นสมุฎฐาน ฯลฯ อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

... อาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ (๑)

สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะอาหารปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อินทรียปัจจัย
[๖๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอินทรีย-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ

... อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ
... อาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ...

อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (อินทรียปัจจัยเหมือนกับกัมมปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ฌานปัจจัยและมัคคปัจจัย
[๖๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะฌานปัจจัย
... เพราะมัคคปัจจัย
(ฌานปัจจัยและมัคคปัจจัยเหมือนกับเหตุปัจจัย)

สัมปยุตตปัจจัย
[๖๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะสัมปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... (สัมปยุตตปัจจัยเหมือนกับ
อารัมมณปัจจัย)

วิปปยุตตปัจจัย
[๖๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิด
ขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิด
ขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปอาศัยขันธ์เกิด
ขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัย
มหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อัตถิปัจจัย
[๗๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอัตถิปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (ย่อ) (อัตถิปัจจัยเหมือนกับ
สหชาตปัจจัย)

นัตถิปัจจัยและวิคตปัจจัย
[๗๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนัตถิปัจจัย
เพราะวิคตปัจจัย (นัตถิปัจจัยและวิคตปัจจัยเหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

อวิคตปัจจัย
[๗๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะอวิคตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (อวิคตปัจจัยเหมือนกับสหชาตปัจจัย)
(ผู้สาธยายพึงขยายปัจจัย ๒๓ เหล่านี้ให้พิสดาร)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
คณนเหตุมูลกนัย

[๗๓] เหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

ทุกนัย

[๗๔] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย ” มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

กัมมปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย ” มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย ” มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย ” มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ

ติกนัย

[๗๕] อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย ” " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

ฌานปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ ฯลฯ

ทวาทสกนัย
[๗๖] กัมมปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย
สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
ปุเรชาตปัจจัย และอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ

อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

พาวีสกนัย
[๗๗] อวิคตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ อาเสวนปัจจัย
กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรียปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย สัมปยุตตปัจจัย
วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย และวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เตรสกนัย
[๗๘] อาหารปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ

อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

พาวีสกนัย
[๗๙] อวิคตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรียปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย
สัมปยุตตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย และวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
การนับวาระ มีเหตุปัจจัยเป็นมูล จบ

ทุกนัยมีอารัมมณปัจจัยเป็นต้น
(ปัจจัยทั้งปวงกับปัจจัยที่ตั้งอยู่ในอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ เท่านั้น)

[๘๐] เหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

เหตุปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย ” มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ

อาเสวนทุกนัย

[๘๑] เหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย ” มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย ” มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ

(ปัจจัยที่มีอาเสวนปัจจัยเป็นมูลไม่มีวิปากปัจจัย)

กัมมทุกนัย

[๘๒] เหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ

วิปากทุกนัย

[๘๓] เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อารัมมณปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อธิปติปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย ” มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย ” มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย ” มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย ” มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย ” มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย ” มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย ” มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

(ปัจจัยที่มีวิปากปัจจัยเป็นมูลไม่มีอาเสวนปัจจัย)

ทุกนัยมีอาหารปัจจัยเป็นต้น

[๘๔] เหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับนัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ

อวิคตทุกนัย

[๘๕] เหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

(ผู้สาธยายพึงทำปัจจัยแต่ละอย่างให้เป็นมูลแล้วนับดูเถิด)
อนุโลม จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
ปัจจนียะ นเหตุปัจจัย
[๘๖] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ที่เป็นอเหตุกะ๑ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหา-
ภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น... ที่เป็นภายนอก... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน...
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหา-
ภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัย
มหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอารัมมณปัจจัย
[๘๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑)

เชิงอรรถ :
๑ ได้แก่ อุเปกขาสันตีรณจิต ๒ ขณะทำหน้าที่ปฏิสนธิของทุคคติอเหตุกบุคคลและสุคติอเหตุกบุคคลใน
กามภูมิ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบาก
เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น
จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑
อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอธิปติปัจจัย
[๘๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่
เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบาก และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหา-
ภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัย
มหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป
๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัยและนสมนันตรปัจจัย
[๘๙] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศล
เกิดขึ้น (นอนันตรปัจจัยและนสมนันตรปัจจัยเหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

นอัญญมัญญปัจจัย
[๙๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่
เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากต-
วิบากเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิด
ขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปที่เป็นภายนอกเกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
เกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหา-
ภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอุปนิสสยปัจจัย
[๙๑] ภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นอุปนิสสยปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (นอุปนิสสย-
ปัจจัยเหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

นปุเรชาตปัจจัย
[๙๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเร-
ชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย
ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์
๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑
อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จิตตสมุฏฐานรูป๑ และกฏัตตารูป๒ ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑
อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่
เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย
[๙๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนปัจฉา-
ชาตปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนอาเสวนปัจจัย
ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ (นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย
เหมือนกับนอธิปติปัจจัย)

นกัมมปัจจัย
[๙๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนกัมม-
ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย
ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๑)

เชิงอรรถ :
๑ ในที่นี้ได้แก่ จิตตชรูป ๑๓
๒ ในที่นี้ได้แก่ กัมมชรูป ๑๖ ที่เกิดพร้อมกับอุปาทขณะของปฏิสนธิวิญญาณ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาอาศัยขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น
... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป
๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น มหา-
ภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นวิปากปัจจัย
[๙๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปาก-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย
... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
กิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิด
ขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอาหารปัจจัย
[๙๖] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น
เพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับ
เหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอินทรียปัจจัย
[๙๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิด
ขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ...
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น ฯลฯ อุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม รูปชีวิตินทรีย์อาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น

นฌานปัจจัย
[๙๘] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น
เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณเกิด
ขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นมัคคปัจจัย
[๙๙] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้น
เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อาศัยมหาภูตรูป ๓ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน
... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิด
ขึ้น (๑)

นสัมปยุตตปัจจัย
[๑๐๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (ปัจจัยนี้
เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

นวิปปยุตตปัจจัย
[๑๐๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปป-
ยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์
๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
วิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
โนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย
[๑๐๒] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
โนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศล
เกิดขึ้น (สองปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
คณนมูลกนัย

[๑๐๓] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นเหตุทุกนัย

[๑๐๔] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๐๕] นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ ฯลฯ

วีสกนัย
[๑๐๖] โนวิคตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเร-
ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย
นวิปปยุตตปัจจัย และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ
นเหตุมูลกนัย จบ

นอารัมมณทุกนัย

[๑๐๗] นเหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นสมนันตรปัจจัย กับนอารัมมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๕ วาระ ฯลฯ
จตุกกนัย
[๑๐๘] นอนันตรปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอธิปติปัจจัย
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นอธิปติทุกนัย
[๑๐๙] นเหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๕ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๑๐] นอารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " ” มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นกัมมปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๑๑] นอนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น

[๑๑๒] ... กับนอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ

นอุปนิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)
นปุเรชาตทุกนัย

[๑๑๓] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอนันตรปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๑๔] นอารัมมณปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปากปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๑๕] นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย
มี ๑ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นปัจฉาชาตะและนอาเสวนทุกนัย

[๑๑๖] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ


นอารัมมณปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” ” มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” ” มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” ” มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นกัมมปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย ” ” มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” ” มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๑๗] นอารัมมณปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย ” ” มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” ” มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร


นวิปปยุตตปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๑๘] นอธิปติปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นกัมมทุกนัย

[๑๑๙] นเหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๒๐] นอารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ


นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

นวิปากทุกนัย

[๑๒๑] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๒๒] นอารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๒๓] นอธิปติปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทุกนัยมีนอาหารปัจจัยเป็นต้น

[๑๒๔] นเหตุปัจจัย กับนอาหารปัจจัย ฯลฯ นอินทรียปัจจัย ฯลฯ

นฌานปัจจัย ฯลฯ นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นสัมปยุตตทุกนัย

[๑๒๕] นเหตุปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ

(ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

นวิปปยุตตทุกนัย

[๑๒๖] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปากปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๒๗] นอารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จตุกกนัย

[๑๒๘] นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

โนนัตถิและโนวิคตทุกนัย

[๑๒๙] นเหตุปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย

[๑๓๐] นอารัมมณปัจจัย กับโนวิคตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๑ วาระ

(ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)

นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๑๓๑] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย

[๑๓๒] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

จตุกกนัย

[๑๓๓] นปุเรชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย และอธิปติปัจจัย มี

๓ วาระ

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

เอกาทสกนัย

[๑๓๔] นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย


อนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย


อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ


นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ทวาทสกนัย (สาเสวนะ)
[๑๓๕] นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
และอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย
[๑๓๖] นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
อาเสวนปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรียปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย
สัมปยุตตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคต-
ปัจจัย มี ๓ วาระ

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

เตรสกนัย (สวิปากะ)
[๑๓๗] นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย
[๑๓๘] นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรียปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย
สัมปยุตตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และ
อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

เหตุมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อารัมมณทุกนัย

[๑๓๙] นเหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

[๑๔๐] นอธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

อารัมมณมูลกนัย จบ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

อธิปติทุกนัย

[๑๔๑] นอารัมมณปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอัญญมัญญปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย

[๑๔๒] นปุเรชาตปัจจัย กับอธิปติปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓
วาระ


นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

อนันตระและสมนันตรทุกนัย
(พึงขยายอนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย ให้พิสดารเหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

สหชาตทุกนัย

[๑๔๓] นเหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอธิปติปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๔๔] นอารัมมณปัจจัย กับสหชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับสหชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๔๕] นอธิปติปัจจัย กับสหชาตปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓

วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

อัญญมัญญทุกนัย

[๑๔๖] นเหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๔๗] นอารัมมณปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปปยุตตปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๔๘] นอธิปติปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย

มี ๓ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

นิสสยะและอุปนิสสยทุกนัย

[๑๔๙] นเหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ

(วาระที่มีนิสสยปัจจัยเป็นมูลเหมือนกับวาระที่มีสหชาตปัจจัยเป็นมูล และ
วาระที่มีอุปนิสสยปัจจัยเป็นมูลเหมือนกับวาระที่มีอารัมมณปัจจัยเป็นมูล)

ปุเรชาตทุกนัย

[๑๕๐] นเหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นกัมมปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๕๑] นอธิปติปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

อาเสวนทุกนัย

[๑๕๒] นเหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

[๑๕๓] นอธิปติปัจจัย กับอาเสวนปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับอาเสวนปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

กัมมทุกนัย

[๑๕๔] นเหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย

[๑๕๕] นอารัมมณปัจจัย กับกัมมปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๕๖] นอธิปติปัจจัย กับกัมมปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓

วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
วิปากทุกนัย

[๑๕๗] นเหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

[๑๕๘] นอารัมมณปัจจัย กับวิปากปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอาเสวนปัจจัย กับวิปากปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๑๕๙] นอธิปติปัจจัย กับวิปากปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี

๑ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ปัญจกนัย

[๑๖๐] นปุเรชาตปัจจัย กับวิปากปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย และ

อธิปติปัจจัย มี ๑ วาระ

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย

[๑๖๑] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปากปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย

อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย
นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรีย-
ปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย สัมปยุตตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย
นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อาหารทุกนัย

[๑๖๒] นเหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๖๓] นอารัมมณปัจจัย กับอาหารปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับอาหารปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๖๔] นอธิปติปัจจัย กับอาหารปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี

๓ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

อินทรียทุกนัย

[๑๖๕] นเหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นสมนันตรปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๖๖] นอารัมมณปัจจัย กับอินทรียปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปากปัจจัย กับอินทรียปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๖๗] นอธิปติปัจจัย กับอินทรียปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี

๓ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

ฌานทุกนัย

[๑๖๘] นเหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๖๙] นอารัมมณปัจจัย กับฌานปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จตุกกนัย

[๑๗๐] นอธิปติปัจจัย กับฌานปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓

วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

มัคคทุกนัย

[๑๗๑] นเหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

โนนัตถิปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๗๒] นอารัมมณปัจจัย กับมัคคปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๗๓] นอธิปติปัจจัย กับมัคคปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓

วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

สัมปยุตตทุกนัย

[๑๗๔] นเหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

[๑๗๕] นอธิปติปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
วิปปยุตตทุกนัย

[๑๗๖] นเหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๗๗] นอารัมมณปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๗๘] นอธิปติปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย

มี ๓ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ปัญจกนัย

[๑๗๙] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย

และอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ทวาทสกนัย

[๑๘๐] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย
อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย
นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ


นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

เตวีสกนัย (สาเสวนะ)
[๑๘๑] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
อาเสวนปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

จุททสกนัย (สวิปากะ)
[๑๘๒] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาต-
ปัจจัย กัมมปัจจัย และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

เตวีสกนัย
[๑๘๓] นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาต-
ปัจจัย กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

อัตถิทุกนัย
[๑๘๔] นเหตุปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอธิปติปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๘๕] นอารัมมณปัจจัย กับอัตถิปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นอาเสวนปัจจัย กับอัตถิปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

[๑๘๖] นอธิปติปัจจัย กับอัตถิปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓

วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)

นัตถิวิคตทุกนัย

[๑๘๗] l นเหตุปัจจัย กับนัตถิปัจจัย ฯลฯ วิคตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีอารัมมณปัจจัยเป็นมูล)

อวิคตทุกนัย

[๑๘๘] นเหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย

[๑๘๙] นอารัมมณปัจจัย กับอวิคตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีเหตุปัจจัยเป็นมูล)
การนับจำนวนปัจจัยในอนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๑๙๐] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย

[๑๙๑] สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

ฌานปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย

[๑๙๒] สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย

นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

(ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) ฯลฯ

ทสกนัย

[๑๙๓] ... กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย และนอาเสวนปัจจัย ...
(ทุกปัจจัยจนถึงอาเสวนปัจจัยเหมือนกัน เมื่อนับนกัมมปัจจัยเข้าแล้วก็มี ๕
วาระ)
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นอาเสวนปัจจัย
และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

จุททสกนัย

[๑๙๔] สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย

นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย
นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
และนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย

[๑๙๕] สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย

นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเร-
ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย
นวิปปยุตตปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณทุกนัย

[๑๙๖] เหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สหชาตปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๑๙๗] สหชาตปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีนเหตุปัจจัยเป็นมูล)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอธิปติทุกนัย

[๑๙๘] เหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ

ติกนัย

[๑๙๙] อารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สมนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย

[๒๐๐] สหชาตปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

ทุกนัยมีนอนันตรปัจจัยเป็นต้น

[๒๐๑] เหตุปัจจัย กับนอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย

และ นอุปนิสสยปัจจัยมี ๕ วาระ

อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๒๐๒] สหชาตปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นิสสยปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นปุเรชาตทุกนัย

[๒๐๓] เหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สัมปยุตตปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

ติกนัย

[๒๐๔] อารัมมณปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จตุกกนัย

[๒๐๕] สหชาตปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นปัจฉาชาตทุกนัย

[๒๐๖] เหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

วิปากปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ

ติกนัย

[๒๐๗] อารัมมณปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

มัคคปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย

[๒๐๘] สหชาตปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นอาเสวนทุกนัย

[๒๐๙] เหตุปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สมนันตรปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ/l/l
มัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ

ติกนัย

[๒๑๐] อารัมมณปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

ปุเรชาตปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย

[๒๑๑] สหชาตปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นกัมมทุกนัย

[๒๑๒] เหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

[๒๑๓] อารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สหชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๒๑๔] สหชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปากทุกนัย

[๒๑๕] เหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

อธิปติปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ

ติกนัย

[๒๑๖] อารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นิสสยปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย

[๒๑๗] สหชาตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอาหารทุกนัย

[๒๑๘] สหชาตปัจจัย บนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นอินทรียทุกนัย

[๒๑๙] สหชาตปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นฌานทุกนัย

[๒๒๐] อารัมมณปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

กัมมปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นมัคคติกนัย

[๒๒๑] อารัมมณปัจจัย กับนมัคคปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับนมัคคปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

[๒๒๒] สหชาตปัจจัย กับนมัคคปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นสัมปยุตตทุกนัย

[๒๒๓] เหตุปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

วิปากปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๒๒๔] สหชาตปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปปยุตตทุกนัย

[๒๒๕] เหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

สมนันตรปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

[๒๒๖] อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

กัมมปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย

[๒๒๗] สหชาตปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณ-

ปัจจัยมี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

โนนัตถิและโนวิคตทุกนัย

[๒๒๘] เหตุปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย " " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นิสสยปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

ติกนัย

[๒๒๙] สหชาตปัจจัย กับโนวิคตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย

[๒๓๐] สหชาตปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย

นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เตรสกนัย

[๒๓๑] สหชาตปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย มี

๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

ปัณณรสกนัย

[๒๓๒] สหชาตปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย

นวิปากปัจจัย และนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เอกวีสกนัย
[๒๓๓] สหชาตปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย
นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ปัจจนียานุโลม จบ

ปฏิจจวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร
๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๒๓๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ขันธ์ ๑ เกิดพร้อมกับขันธ์ ๓
ขันธ์ ๒ เกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ที่เป็นกุศล (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นกุศล
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศล ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และจิตต-
สมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ (๓)
[๒๓๕] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ขันธ์ ๑ เกิดพร้อมกับ
ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ที่เป็นอกุศล (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศล ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และจิตต-
สมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ (๓)
[๒๓๖] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับ
ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
และกฏัตตารูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูป
เกิดพร้อมกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ หทัยวัตถุ
เกิดพร้อมกับขันธ์ ขันธ์เกิดพร้อมกับหทัยวัตถุ มหาภูตรูป ๓ เกิดพร้อมกับ
มหาภูตรูป ๑ มหาภูตรูป ๑ เกิดพร้อมกับมหาภูตรูป ๓ มหาภูตรูป ๒ เกิด
พร้อมกับมหาภูตรูป ๒ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปเกิดพร้อม
กับมหาภูตรูป (๑)
[๒๓๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลและ
ที่เป็นอัพยากฤตเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ที่เป็น
กุศลและมหาภูตรูป (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็น
อัพยากฤตเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ที่เป็นอกุศล
และมหาภูตรูป (๑)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปฏิจจวาร)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร

[๒๓๘] เหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร

ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

อนุโลม จบ
(พึงนับวาระเหมือนการนับในปฏิจจวาร)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย

[๒๓๙] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะ

นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดพร้อม
กับขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดพร้อมกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยา ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร
ขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะที่เป็น
อเหตุกะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก ขันธ์ ๑
และกฏัตตารูป เกิดพร้อมกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปเกิดพร้อมกับขันธ์ ๒
หทัยวัตถุเกิดพร้อมกับขันธ์ ขันธ์เกิดพร้อมกับหทัยวัตถุ มหาภูตรูป ๓ เกิดพร้อม
กับมหาภูตรูป ๑ มหาภูตรูป ๑ เกิดพร้อมกับมหาภูตรูป ๓ มหาภูตรูป ๒ เกิด
พร้อมกับมหาภูตรูป ๒ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปเกิดพร้อม
กับมหาภูตรูป ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ...
สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ เกิดพร้อมกับมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปเกิดพร้อมกับมหาภูตรูป
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปฏิจจวาร)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร

[๒๔๐] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร

นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ

[๒๔๑] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

อนุโลมปัจจนียะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๒. สหชาตวาร

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม

[๒๔๒] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ปัจจนียานุโลม จบ
สหชาตวาร จบ

(ที่เป็นปฏิจจวาร ได้แก่ สหชาตวาร ที่เป็นสหชาตวาร ได้แก่ ปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๒๔๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัย๑เกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๒๔๔] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)

เชิงอรรถ :
๑อภิ.ปญฺจ.อ. ๒๔๓/๔๙๐

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
[๒๔๕] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๑
ที่เป็นอัพยากตวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๓ ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น หทัยวัตถุ
ทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓
ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ ทำมหาภูตรูป ๓ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ ทำมหาภูตรูป ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๕)
[๒๔๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลและ
มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็น
อัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศลและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ที่เป็นกุศลและมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๒๔๗] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่
เป็นอกุศลและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)

อารัมมณปัจจัย
[๒๔๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
[๒๔๙] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
[๒๕๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
และที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒
ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณ
ทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โสตวิญญาณทำโสตายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฆานวิญญาณทำฆานายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ชิวหาวิญญาณทำชิวหายตนะให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๒๕๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (๑)
[๒๕๒] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล
และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
อธิปติปัจจัย
[๒๕๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๓
ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูป
ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากต-
กิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนเหตุปัจจัย)

อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย
[๒๕๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนอารัมมณปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[๒๕๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มี
อุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำ
จักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนเหตุปัจจัย)

อัญญมัญญปัจจัย
[๒๕๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและ
ที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น หทัยวัตถุ
ทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ ทำ
มหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ ทำมหาภูตรูป ๒ ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ ทำมหาภูตรูป ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำ
จักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนอารัมมณปัจจัย)

นิสสยปัจจัย
[๒๕๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนสหชาตปัจจัย)

อุปนิสสยปัจจัย
[๒๕๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอุปนิสสยปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... (ปัจจัยนี้เหมือนกับ
อารัมมณปัจจัย)

ปุเรชาตปัจจัย
[๒๕๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย จักขุวิญญาณ
ทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๒๖๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ฯลฯ (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
... ทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ

กัมมปัจจัย
[๒๖๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะกัมมปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำ
กายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะกัมมปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๕)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นกุศล และที่เป็นอัพยากฤต ... ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต ... ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและหทัยวัตถุ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

วิปากปัจจัย
[๒๖๒] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น
อัพยากตวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น

อาหารปัจจัย
[๒๖๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อาหารปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะอาหารปัจจัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ ทำมหาภูตรูป ๑ ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ฯลฯ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณ
ทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากต-
กิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (บริบูรณ์แล้ว)

อินทรียปัจจัย
[๒๖๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อินทรียปัจจัย ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายอินทรียปัจจัยให้พิสดารเหมือนกับกัมมปัจจัย)

ฌานปัจจัยและมัคคปัจจัย
[๒๖๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
ฌานปัจจัย ฯลฯ เพราะมัคคปัจจัย
(พึงขยายฌานปัจจัยและมัคคปัจจัยให้พิสดารเหมือนกับเหตุปัจจัย)

สัมปยุตตปัจจัย
[๒๖๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
สัมปยุตตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

วิปปยุตตปัจจัย
[๒๖๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑
ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากให้


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย กฏัตตารูปทำขันธ์ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ... ทำ
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตต-
ปัจจัย จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำ
กายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒
ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศล
และมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็น
อัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่
เป็นกุศลและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลและมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นอกุศล
และมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
เป็นอกุศลและหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ... จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย (๓)

อัตถิปัจจัยเป็นต้น
[๒๖๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อัตถิปัจจัย ฯลฯ (อัตถิปัจจัยพึงแจกเหมือนสหชาตปัจจัย นัตถิปัจจัยและวิคตปัจจัย
พึงแจกเหมือนอารัมมณปัจจัย อวิคตปัจจัยพึงแจกเหมือนสหชาตปัจจัย)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร

[๒๖๙] เหตุปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

มัคคปัจจัย มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๗ วาระ

เหตุทุกนัย

[๒๗๐] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ

ติกนัย
อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ (ทุกปัจจัยมี
ปัจจัยละ ๗ วาระ)

วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

ทวาทสกนัย (สาเสวนะ)

กัมมปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย

สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
ปุเรชาตปัจจัย และอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

พาวีสกนัย
อวิคตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย อาเสวนปัจจัย
กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ

เตรสกนัย (สวิปากะ)
อาหารปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย กัมมปัจจัย
และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

พาวีสกนัย (สวิปากะ)
อวิคตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย กัมมปัจจัย
วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ วิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
เหตุมูลกนัย จบ

อารัมมณทุกนัย

[๒๗๑] เหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ

(พึงขยายอารัมมณมูลกนัยให้พิสดารเหมือนเหตุมูลกนัย)

อธิปติทุกนัย

[๒๗๒] เหตุปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
อนันตระและสมนันตรทุกนัย

[๒๗๓] เหตุปัจจัย กับอนันตรปัจจัย...
เหตุปัจจัย กับสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ

ทุกนัยมีสหชาตปัจจัยเป็นต้น

[๒๗๔] เหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

มัคคปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

กัมมะและวิปากทุกนัย

[๒๗๕] เหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

สัมปยุตตปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทุกนัยมีอาหารปัจจัยเป็นต้น

[๒๗๖] เหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับอัตถิปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับนัตถิปัจจัย ...
เหตุปัจจัย กับวิคตปัจจัย ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

อนุโลมในปัจจยวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๒๗๗] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
ทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำ
มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่
มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูต-
รูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณ
ทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและ
อัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วย
อุทธัจจะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอารัมมณปัจจัย
[๒๗๘] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิด
ขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนอารัมมณปัจจัยในปฏิจจวาร)

นอธิปติปัจจัย
[๒๗๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (พึงเพิ่ม
อัพยากตบทให้บริบูรณ์) ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มี
อุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
(พึงนับเหมือนสหชาตปัจจัยในอนุโลม)

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๒๘๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย เพราะนอัญญมัญญปัจจัย
เพราะ นอุปนิสสยปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[๒๘๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย ฯลฯ ทำจักขายตนะ ฯลฯ
(นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัยบริบูรณ์แล้ว มี ๑๗ วาระ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนสหชาตปัจจัยในอนุโลม)

นกัมมปัจจัย
[๒๘๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัยได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำขันธ์ที่เป็นอกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาทำขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ทำมหาภูตรูป ๑
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ อุปาทายรูป ... เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลทำขันธ์ที่เป็นกุศลและทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลทำขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นวิปากปัจจัย
[๒๘๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นวิปากปัจจัย ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากต-
กิริยาให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตต-
สมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก
... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นกุศลทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (เว้นวิปากปัจจัย
ทุกปัจจัยพึงขยายให้พิสดาร)

นอาหารปัจจัยเป็นต้น
[๒๘๔] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย เพราะนอินทรียปัจจัย เพราะนฌานปัจจัย ฯลฯ
จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (นี้เป็นความต่างกันในนฌานปัจจัย)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นอัพยากต-
วิบากและอัพยากตกิริยาทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (นี้เป็นความต่างกันใน
นมัคคปัจจัย)
(ที่เหลือพึงขยายให้พิสดารเหมือนปัจจนียะในปฏิจจวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นสัมปยุตตปัจจัยเป็นต้น
[๒๘๕] ... เพราะนสัมปยุตตปัจจัย เพราะนวิปปยุตตปัจจัย เพราะโนนัตถิ-
ปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตทำสภาวธรรมที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
โนวิคตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นกุศลให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปฏิจจวาร)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร

[๒๘๖] นเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

นเหตุทุกนัย

[๒๘๗] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

นอารัมมณทุกนัย

[๒๘๘] นเหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

โนนัตถิปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

นอธิปติทุกนัย

[๒๘๙] นเหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย
นอนันตรปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) ฯลฯ

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๒๙๐] ...กับนอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ
นอุปนิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นปุเรชาตทุกนัย

[๒๙๑] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นปัจฉาชาตะและนอาเสวนทุกนัย

[๒๙๒] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย ฯลฯ นอาเสวนปัจจัย มี ๔ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นมัคคปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นกัมมทุกนัย

[๒๙๓] นเหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นมัคคปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย
นอารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมี
ปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นวิปากทุกนัย

[๒๙๔] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นมัคคปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทุกนัยมีนอาหารปัจจัยเป็นต้น
[๒๙๕] นเหตุปัจจัย กับนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑
วาระ)
โนวิคตปัจจัย กับนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
นเหตุปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
นเหตุปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
... กับนสัมปยุตตปัจจัย ... (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

นวิปปยุตตทุกนัย

[๒๙๖] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นวิปากปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี
๑ วาระ (ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ)
... กับโนนัตถิปัจจัย ... กับโนวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)
ปัจจนียะในปัจจยวาร จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๒๙๗] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ ฯลฯ

เอกาทสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย
สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
และปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

ทวาทสกนัย (สาเสวนะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย และ
อาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
อาเสวนปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย อินทรียปัจจัย ฌานปัจจัย มัคคปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
สัมปยุตตปัจจัย วิปปยุตตปัจจัย อัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคต-
ปัจจัย มี ๗ วาระ

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

เตรสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย กัมมปัจจัย
และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

เตวีสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

อารัมมณทุกนัย

[๒๙๘] นเหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

(พึงนับเหมือนเหตุมูลกนัย)

อธิปติทุกนัย

[๒๙๙] นอารัมมณปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

... กับอธิปติปัจจัยและเหตุปัจจัย (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
...กับอนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย ... (พึงขยายให้พิสดารเหมือน
อารัมมณมูลกนัย)

สหชาตทุกนัย

[๓๐๐] นเหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับสหชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ (ย่อ)
นวิปากปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับสหชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

... กับสหชาตปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย (ย่อ)

อัญญมัญญทุกนัย

[๓๐๑] นเหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๗
วาระ (ย่อ)

นิสสยทุกนัย
[๓๐๒] นเหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย มี ๔ วาระ (นิสสยปัจจัยเหมือน
สหชาตปัจจัย)

อุปนิสสยทุกนัย
[๓๐๓] นเหตุปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๔ วาระ (อุปนิสสยปัจจัยพึง
แจกเหมือนอารัมมณปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ปุเรชาตทุกนัย

[๓๐๔] นเหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ

... กับปุเรชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย ฯลฯ

อาเสวนทุกนัย

[๓๐๕] นเหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับอาเสวนปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
จตุกกนัย
[๓๐๖] นอธิปติปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี
๗ วาระ (ย่อ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

กัมมทุกนัย

[๓๐๗] นเหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับกัมมปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ (ย่อ)

วิปากทุกนัย

[๓๐๘] นเหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับวิปากปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทวาทสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปากปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปากปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย กัมม-
ปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

อาหารทุกนัย
[๓๐๙] นเหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นอธิปติปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับอาหารปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นวปปยุตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
อินทรียทุกนัย

[๓๑๐] นเหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

... กับอินทรียปัจจัย และเหตุปัจจัย (ย่อ)

ฌานทุกนัย

[๓๑๑] นเหตุปัจจัย บฌานปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

... กับฌานปัจจัยและเหตุปัจจัย (ย่อ)

มัคคทุกนัย

[๓๑๒] นเหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

นวิปากปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับมัคคปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ (ย่อ)
... กับสัมปยุตตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

วิปปยุตตทุกนัย

[๓๑๓] นเหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

นอารัมมณปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๕ วาระ

จตุกกนัย

นอธิปติปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๗


วาระ


นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ปัญจกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย และ
อธิปติปัจจัย มี ๗ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

เตรสกนัย (สาเสวนะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย
อธิปติปัจจัย

ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย และอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ


นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

เตวีสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ อาเสวนปัจจัย
กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

จุททสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย (ย่อ)
ปุเรชาตปัจจัย กัมมปัจจัย และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

เตวีสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย (ย่อ) และอวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
... กับอัตถิปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับสหชาตปัจจัย)
... กับนัตถิปัจจัยและวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอารัมมณปัจจัย)
... กับอวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับสหชาตปัจจัย)
อนุโลมปัจจนียะในปัจจยวาร จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๓๑๔] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๔ วาระ

ติกนัย

สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ทวาทสกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตร-
ปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

จุททสกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย และนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย ฯลฯ โนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ

นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอารัมมณทุกนัย

[๓๑๕] เหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

สหชาตปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อัตถิปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นอธิปติทุกนัย

[๓๑๖] เหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ทุกนัยมีนอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๓๑๗] ...กับนอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ
นอุปนิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)

นปุเรชาตทุกนัย

[๓๑๘] เหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นปัจฉาชาตทุกนัย

[๓๑๙] เหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี
๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอาเสวนทุกนัย

[๓๒๐] เหตุปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

สมนันตรปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑
วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นกัมมทุกนัย

[๓๒๑] เหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อธิปติปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อุปนิสสยปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ

จตุกกนัย

สหชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑

วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปากทุกนัย

[๓๒๒] เหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

สมนันตรปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อุปนิสสยปัจจัย กับนวิปากปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๔ วาระ

จตุกกนัย

สหชาตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑

วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๑๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอาหารทุกนัย

[๓๒๓] สหชาตปัจจัย กับนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นอินทรียทุกนัย

[๓๒๔] สหชาตปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นฌานทุกนัย

[๓๒๕] อารัมมณปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

ปุเรชาตปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย

สหชาตปัจจัย กับนฌานปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๑

วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นมัคคทุกนัย

[๓๒๖] อารัมมณปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

สมนันตรปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนมัคคปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นสัมปยุตตทุกนัย

[๓๒๗] เหตุปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๕ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๕ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ

ติกนัย

สหชาตปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร
นวิปปยุตตทุกนัย

[๓๒๘] เหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๓. ปัจจยวาร

อัญญมัญญปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย
สหชาตปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี
๑ วาระ

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

... กับโนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย... (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณปัจจัย)
ปัจจนียานุโลมในปัจจยวาร จบ
ปัจจยวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร
๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
อนุโลมเหตุปัจจัย
[๓๒๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อิงอาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
กุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
[๓๓๐] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อิง
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
[๓๓๑] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร
อิงอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปอิงอาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอิงอาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอิงอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อิงอาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๑ อิงอาศัยมหาภูตรูป ๓
เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๒ อิงอาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบาก
และที่เป็นอัพยากตกิริยาอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะเหตุ
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๕)
[๓๓๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและอิงอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อิงอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอิงอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่
เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล
และอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อิงอาศัยขันธ์ ๒ และอิงอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศลและอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและอิงอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อิงอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและ
อิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศล
และที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อกุศลและอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อิงอาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ที่เป็นอกุศลและอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปัจจยวาร)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๓๓] เหตุปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร

อัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๗ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปัจจยวาร)
อนุโลมในนิสสยวาร จบ

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๓๓๔] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอิงอาศัย
ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่ง
เป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัย
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิ-
ขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอิงอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอิงอาศัย
ขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อิงอาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอิงอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ...
สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อิงอาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอิงอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น จักขุวิญญาณอิงอาศัย
จักขายตนะเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณอิงอาศัยกายายตนะเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งเป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาอิงอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอิงอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
อิงอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและอิงอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น (๑)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในปัจจยวาร)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๓๕] นเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร

นอธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

ปัจจนียะในนิสสยวาร จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๓๓๖] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๔. นิสสยวาร

นสมนันตรปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ (ย่อ)

อนุโลมปัจจนียะในนิสสยวาร จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๓๓๗] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๔ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๔ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

วิปากปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๔ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๔ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๔ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๔ วาระ (ย่อ)

ปัจจนียานุโลมในนิสสยวาร จบ
(ที่เป็นปัจจยวาร ได้แก่ นิสสยวาร ที่เป็นนิสสยวาร ได้แก่ ปัจจยวาร)
นิสสยวาร จบ

๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๓๓๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยา ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก ขันธ์ ๑
เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)

อารัมมณปัจจัยเป็นต้น
[๓๓๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะ
อารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย (ไม่มีอธิปติปัจจัยในปฏิสนธิขณะ) เพราะ
อนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญมัญญปัจจัย
เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย (บททั้งหมดเหมือนเหตุมูลกนัย)

ปุเรชาตปัจจัย
[๓๔๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์
๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ขันธ์เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะปุเรชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ขันธ์เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
ปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยา ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ขันธ์
เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะปุเรชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๓๔๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตกิริยา ฯลฯ

กัมมปัจจัย
[๓๔๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะกัมม-
ปัจจัย ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ

วิปากปัจจัย
[๓๔๓] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
ฯลฯ

อาหารปัจจัยเป็นต้น
[๓๔๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะอาหาร-
ปัจจัย เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตต-
ปัจจัย (บทเหล่านี้เหมือนกับเหตุปัจจัย)

วิปปยุตตปัจจัย
[๓๔๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะวิป-
ปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ ขันธ์ ๒
เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ขันธ์เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะวิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ ขันธ์
เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะวิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
ขันธ์เกิดระคนกับหทัยวัตถุเพราะวิปปยุตตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
อัตถิปัจจัยเป็นต้น
[๓๔๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะอัตถิ-
ปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือน
กับเหตุปัจจัย)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๔๗] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ

เหตุทุกนัย

[๓๔๘] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (พึงขยายเหตุมูลกนัยให้
พิสดาร)

อาเสวนทุกนัย

[๓๔๙] เหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อัตถิปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

วิปากทุกนัย

[๓๕๐] เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

อนุโลมในสังสัฏฐวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๓๕๑] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะนเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดระคนกับ
ขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นอัพยากตวิบาก
และอัพยากตกิริยา ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
ขันธ์ ๑ เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)

นอธิปติปัจจัยเป็นต้น
[๓๕๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะ
นอธิปติปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ เกิดระคน
กับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒

นปัจฉาชาตปัจจัย
[๓๕๓] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะนปัจฉาชาตปัจจัย
มี ๓ วาระ เพราะนอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ

นกัมมปัจจัย
[๓๕๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะนกัมม-
ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลเกิดระคนกับขันธ์ที่เป็นกุศล (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะนกัมมปัจจัย
ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับขันธ์ที่เป็นอกุศล (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
นกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดระคนกับขันธ์ที่เป็นอัพยากต-
กิริยา (๑)

นวิปากปัจจัย
[๓๕๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศล ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
นวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตกิริยา
(นกัมมปัจจัยและนวิปากปัจจัยในปัจจนียวิภังค์สังสัฏฐวารไม่มีปฏิสนธิ มีแต่
่ในปัจจัยที่เหลือ)

นฌานปัจจัย
[๓๕๖] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณ
ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)

นมัคคปัจจัย
[๓๕๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่ง
เป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยา ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นวิปปยุตตปัจจัย
[๓๕๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเพราะนวิป-
ปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศล ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเพราะนวิปปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศล ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเพราะ
นวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์
๒ (ไม่มีปฏิสนธิในนวิปปยุตตปัจจัย) (๑)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๕๙] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นเหตุทุกนัย

[๓๖๐] นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
lนอาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย

นปุเรชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ

จตุกกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๒
วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

ฉักกนัย
นกัมมปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาต-
ปัจจัย และนอาเสวนปัจจัย มี ๑ วาระ

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

สัตตกนัย
นวิปากปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาต-
ปัจจัย นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ

นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นวิปปยุตตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย และนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ

นอธิปติทุกนัย

[๓๖๑] นเหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

นกัมมปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นปุเรชาตปัจจัย กับนอธิปติปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ (ย่อ)

นปุเรชาตทุกนัย

[๓๖๒] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ (ย่อ)

นปัจฉาชาตะและนอาเสวนทุกนัย
[๓๖๓] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย ฯลฯ นอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ

นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

นวิปากปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ (ย่อ)

นกัมมทุกนัย

[๓๖๔] นเหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปากทุกนัย

[๓๖๕] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

นปุเรชาตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
นกัมมปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย และนอาเสวนปัจจัย มี ๑ วาระ

นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)

นฌานทุกนัย

[๓๖๖] นเหตุปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ฉักกนัย
นมัคคปัจจัย กับนฌานปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย
และนอาเสวนปัจจัย มี ๑ วาระ

นมัคคทุกนัย

[๓๖๕] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

นปุเรชาตปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปปยุตตทุกนัย

[๓๖๘] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นวกนัย
นมัคคปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย และนวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๓๖๙] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
จตุกกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย และอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

เอกาทสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย
สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย นิสสยปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
และปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ทวาทสกนัย (สาเสวนะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย และ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย (สาเสวนะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
อาเสวนปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
เตรสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย และวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

เตวีสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

อารัมมณทุกนัย

[๓๗๐] นเหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
อธิปติทุกนัย

[๓๗๑] นปุเรชาตปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัยเป็นต้น
... กับอธิปติปัจจัย และเหตุปัจจัย (ย่อ)

อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๓๗๒] ... กับอนันตรปัจจัย สมนันตรปัจจัย สหชาตปัจจัย อัญญมัญญ-
ปัจจัย นิสสยปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย (พึงขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มี
อารัมมณปัจจัยเป็นมูล)

ปุเรชาตทุกนัย

[๓๗๓] นเหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ (ย่อ)

อาเสวนทุกนัย

[๓๗๔] นเหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับอาเสวนปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
กัมมทุกนัย

[๓๗๕] นเหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับกัมมปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

วิปากทุกนัย

[๓๗๖] นเหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับวิปากปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
อาหารทุกนัย

[๓๗๗] นเหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับอาหารปัจจัย และเหตุปัจจัยมี ๓ วาระ (ย่อ)

อินทรียทุกนัย

[๓๗๘] นเหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับอินทรียปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

ฌานทุกนัย

[๓๗๙] นเหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับฌานปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

มัคคทุกนัย

[๓๘๐] นเหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับมัคคปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

สัมปยุตตทุกนัย

[๓๘๑] นเหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย และเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

วิปปยุตตทุกนัย

[๓๘๒] นเหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัยและเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย และอารัมมณปัจจัย มี ๓
วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

ทวาทสกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย ฯลฯ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

เตวีสกนัย (สาเสวนะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
อาเสวนปัจจัย กัมมปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
เตวีสกนัย (สวิปากะ)
นปัจฉาชาตปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย เหตุปัจจัย ฯลฯ ปุเรชาตปัจจัย
กัมมปัจจัย วิปากปัจจัย อาหารปัจจัย ฯลฯ อวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ทุกนัยมีอัตถิปัจจัยเป็นต้นเป็นอาทิ
[๓๘๓] ... กับอัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคตปัจจัย ... (พึง
ขยายให้พิสดารเหมือนวาระที่มีอารัมมณปัจจัยเป็นมูล)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๓๘๔] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อินทรียปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ (ทุกปัจจัย

มีปัจจัยละ ๒ วาระ)

จตุกกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉา-
ชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

(ทุกปัจจัยมีปัจจัยละ ๑ วาระ) ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ทสกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉา-
ชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย นมัคคปัจจัย และ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

(นวิปากปัจจัย นมัคคปัจจัย และนวิปปยุตตปัจจัย เหมือนกับนกัมมปัจจัย)

นอธิปติทุกนัย

[๓๘๕] เหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย และนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

(พึงทำวาระที่มีนอธิปติปัจจัยเป็นมูล ให้เหมือนกับวาระที่มีนเหตุปัจจัยเป็นมูล
โดยยึดนเหตุปัจจัยเป็นหลัก)

นปุเรชาตทุกนัย

[๓๘๖] เหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ

(พึงขยายให้พิสดารทุกบท ในบทที่ไม่ได้เขียนไว้ มี ๓ วาระเหล่านี้ ในวาระ
ที่มีนปุเรชาตปัจจัยเป็นมูล ผู้รู้พึงยึดนเหตุปัจจัยเป็นหลักแล้วเพิ่ม ๑ วาระ ใน
อาเสวนปัจจัยและมัคคปัจจัย ส่วนที่เหลือเหมือนกับนเหตุปัจจัย พึงทำนปัจฉาชาต-
ปัจจัยให้บริบูรณ์เหมือนกับนอธิปติปัจจัย)

นกัมมทุกนัย

[๓๘๗] เหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อุปนิสสยปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

สัมปยุตตปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และ

นปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

(พึงขยายบทที่เหลือให้พิสดารโดยอุบายนี้ ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นวิปากทุกนัย

[๓๘๘] เหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ พึงเพิ่มให้บริบูรณ์)
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ปัญจกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนวิปากปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเร-

ชาตปัจจัย มี ๒ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

(วาระที่มีนวิปากปัจจัยเป็นมูล มีข้อแตกต่างกันเท่านี้ ส่วนที่เหลือเหมือนกับ
นัยที่มีนเหตุปัจจัยเป็นมูล)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นฌานทุกนัย

[๓๘๙] อารัมมณปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนฌานปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปัจฉา-
ชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย และนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นมัคคทุกนัย

[๓๙๐] อารัมมณปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

อาหารปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนมัคคปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเร-
ชาตปัจจัย มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ฉักกนัยเป็นต้น
... กับนมัคคปัจจัยและนเหตุปัจจัย (ย่อ)

นวิปปยุตตทุกนัย

[๓๙๑] เหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร

สัมปยุตตปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย

อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๒ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นวกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเร-
ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย (แม้วาระที่มีนอาเสวนปัจจัยเป็นมูล ก็เหมือนกับวาระ
ที่มีนเหตุปัจจัยเป็นมูล) นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย และนมัคคปัจจัย (มูลทั้ง ๓
นี้เป็นเหมือนกับมูลเดียวกัน) มี ๑ วาระ

อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ปัจจนียานุโลม จบ
สังสัฏฐวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
๑. กุสลติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๓๙๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นกุศลเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
สัมปยุตกับขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
[๓๙๓] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุต
กับขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
[๓๙๔] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเกิด
ขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
และที่เป็นอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุตกับขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒
สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็น
อัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุตกับขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับ
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (ย่อ) (๑)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๙๕] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๖. สัมปยุตตวาร

นิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ

อนุโลม จบ

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๓๙๖] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นอกุศลเกิดขึ้น
เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
สัมปยุตกับขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น
[๓๙๗] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ ซึ่ง
เป็นอัพยากตวิบากและอัพยากตกิริยาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุตกับขันธ์ ๓
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุตกับ
ขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (ย่อ)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๓๙๘] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๓๙๙] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ (ย่อ)

อนุโลมปัจจนียะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย

[๔๐๐] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ (ย่อ)

ปัจจนียานุโลม จบ
สัมปยุตตวาร จบ
(สังสัฏฐวาร ได้แก่ สัมปยุตตวาร สัมปยุตตวาร ได้แก่ สังสัฏฐวาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๔๐๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยเหตุปัจจัย
ได้แก่ เหตุที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยเหตุปัจจัย
ได้แก่ เหตุที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
[๔๐๒] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยเหตุปัจจัย
ได้แก่ เหตุที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
[๔๐๓] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็น
อัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๑)

อารัมมณปัจจัย
[๔๐๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌาน พระเสขะ
พิจารณาโคตรภู พิจารณาโวทาน ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรค พระเสขะหรือ
ปุถุชนเห็นแจ้งกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา บุคคลรู้จิตของบุคคล
ผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นกุศลด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนกุศล
เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกุศลโดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนกุศลเป็น
ปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็น
ปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ
และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
[๔๐๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วยินดี
เพลิดเพลินกุศลนั้น เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคล
ยินดีเพลิดเพลินกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึง
เกิดขึ้น บุคคลออกจากฌานแล้วยินดีเพลิดเพลินฌาน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินฌานนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะ
จึงเกิดขึ้น สำหรับท่านผู้มีวิปฏิสาร เมื่อฌานเสื่อมแล้ว โทมนัสจึงเกิดขึ้น (๒)
[๔๐๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรค พิจารณา
กุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว เห็นแจ้งกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นกุศลด้วยเจโตปริยญาณ พระเสขะ
หรือปุถุชน เห็นแจ้งกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เมื่อกุศล
ดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ บุคคลยินดีเพลิดเพลิน
กุศล เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่ออกุศลดับแล้ว จิตตุป-
บาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ อากาสานัญจายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิญญาณัญจายตนวิบากและกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนกุศลเป็น
ปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนวิบากและกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่เป็น
กุศลเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ
อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๓)
[๔๐๗] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะ เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินราคะนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะ
จึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลินทิฏฐิ เพราะปรารภความ
ยินดีเพลิดเพลินทิฏฐินั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น
อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภวิจิกิจฉา วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภอุทธัจจะ
อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะ
ปรารภโทมนัส โทมนัสจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึง
เกิดขึ้น (๑)
[๔๐๘] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ พระเสขะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้
กิเลสที่เคยเกิดขึ้น พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งอกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็น
ทุกข์ เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นอกุศลด้วยเจโต-
ปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๒)
[๔๐๙] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น
เห็นแจ้งอกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคลผู้มี
ความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นอกุศลด้วยเจโตปริยญาณ พระเสขะหรือปุถุชนเห็น
แจ้งอกุศลโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เมื่ออกุศลดับแล้ว จิตตุป-
บาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ บุคคลยินดีเพลิดเพลินอกุศล เพราะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินอกุศลนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึง
เกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่ออกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็น
วิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิต
โดยอารัมมณปัจจัย (๓)
[๔๑๐] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณาผล พิจารณานิพพาน นิพพาน
เป็นปัจจัยแก่ผลและอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดย
เป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ ชิวหา
ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ
ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นอัพยากตวิบากและที่
เป็นอัพยากตกิริยาด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่
วิญญาณัญจายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่
เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุ-
วิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย สัททายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณ คันธายตนะ
เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณ รสายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณ โผฏฐัพพายตนะ
เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่
อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และ
อาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
[๔๑๑] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผล พิจารณานิพพาน นิพพานเป็น
ปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน และมรรค โดยอารัมมณปัจจัย พระเสขะหรือปุถุชน
เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ
ฆานะ ฯลฯ ชิวหา ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โผฏฐัพพะ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากต-
กิริยาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นอัพยากต-
วิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัย
แก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ และอนาคตังสญาณ
โดยอารัมมณปัจจัย (๒)
[๔๑๒] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะ
จึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลิน โสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ
ชิวหา ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ
ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น (๓)

อธิปติปัจจัย
[๔๑๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอธิปติ-
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พระเสขะพิจารณาโคตรภูให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาโวทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
อธิปติปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๔๑๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอธิปติ-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำ
ความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึง
เกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลินกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้วให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น บุคคลออกจากฌานแล้วยินดีเพลิดเพลินฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินฌานนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอธิปติปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอรหันต์ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอธิปติปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นกุศล
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๔)
[๔๑๕] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดย
อธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินทิฏฐิให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินทิฏฐินั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
อธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอกุศล
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)
[๔๑๖] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่ผลโดยอธิปติ-
ปัจจัย
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากต-
กิริยาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่
โคตรภู โวทาน และมรรคโดยอธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอธิปติปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้นให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ยินดี เพลิดเพลินโสตะ ... ฆานะ ...
ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ
... ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย
[๔๑๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ กุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล อนุโลมของพระเสขะเป็น
ปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็น
ปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ อกุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
ก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิตเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต กิริยาเป็นปัจจัยแก่
วุฏฐานะ อนุโลมของพระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญา-
ยตนกิริยาของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดยอนันตรปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมนันตรปัจจัย
[๔๑๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยสมนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัยอนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยสมนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยสมนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ กุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล อนุโลมของพระ
เสขะเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลของท่านผู้ออกจาก
นิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยสมนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยสมนันตรปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยสมนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยสมนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ อกุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยสมนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
สมนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
ก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยสมนันตรปัจจัย ภวังคจิตเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต กิริยาเป็นปัจจัยแก่
วุฏฐานะ อนุโลมของพระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตน-
กิริยาของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยสมนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยสมนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดยสมนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยสมนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดยสมนันตรปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตปัจจัย
[๔๑๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
สหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยสหชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
สหชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยสหชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
สหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยสหชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
สหชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑
และกฏัตตารูปโดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูป
โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยสหชาตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยสหชาต-
ปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๒
เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
รูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๑ ที่เป็นภายนอก
เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป
๑ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยสหชาตปัจจัย
มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๑ ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐานเป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัย
แก่มหาภูตรูป ๑ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดย
สหชาตปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๑
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัย แก่มหาภูตรูป ๓ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๓
เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูต-
รูป ๒ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย
สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดย
สหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยสหชาตปัจจัย
มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัย
แก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัญญมัญญปัจจัย
[๔๒๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอัญญ-
มัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัญญมัญญปัจจัย
ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
โดยอัญญมัญญปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอัญญมัญญปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
อัญญมัญญปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอัญญ-
มัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๓ โดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอัญญมัญญปัจจัย
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัญญมัญญปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่
เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุโดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และหทัยวัตถุโดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
๒ และหทัยวัตถุโดยอัญญมัญญปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยอัญญมัญญ-
ปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์โดยอัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัย
แก่มหาภูตรูป ๓ โดยอัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑
โดยอัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยอัญญมัญญ-
ปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดย
อัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยอัญญมัญญปัจจัย
ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยอัญญมัญญปัจจัย (๑)

นิสสยปัจจัย
[๔๒๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยนิสสย-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
นิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยนิสสยปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสย-
ปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยนิสสยปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
นิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยนิสสยปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสย-
ปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยนิสสย-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยนิสสยปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
กฏัตตารูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปโดยนิสสย-
ปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยนิสสยปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยนิสสยปัจจัย
มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็น
ปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยนิสสยปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหาร
เป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหา-
ภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัย
แก่มหาภูตรูป ๑ โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒
โดยนิสสยปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูปโดยนิสสย-
ปัจจัย จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยนิสสยปัจจัย โสตายตนะ ฯลฯ
ฆานายตนะ ฯลฯ ชิวหายตนะ ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดย
นิสสยปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากต-
กิริยาโดยนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยนิสสยปัจจัย
ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดยนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยนิสสยปัจจัย
ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดยนิสสยปัจจัย (๓)
[๔๒๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นกุศลโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
๓ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์
๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
โดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓
โดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยนิสสยปัจจัย
ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย (๒)

อุปนิสสยปัจจัย
[๔๒๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พระเสขะพิจารณาโคตรภูให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาโวทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลม
เป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดย
อุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษา
อุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญา
ให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น อาศัยศีล ฯลฯ สุตะ ฯลฯ จาคะ ฯลฯ
ปัญญาแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้
เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธา ...
ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญาเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ
... ปัญญาโดยอุปนิสสยปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
บริกรรมปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ปฐมฌานโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมทุติย-
ฌานเป็นปัจจัยแก่ทุติยฌานโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมตติยฌานเป็นปัจจัยแก่
ตติยฌานโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมจตุตถฌานเป็นปัจจัยแก่จตุตถฌานโดย
อุปนิสสยปัจจัย บริกรรมอากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่อากาสานัญจายตนะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมวิญญานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญานัญจายตนะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมอากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่อากิญจัญญายตนะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญา-
นาสัญญายตนะโดยเป็นอุปนิสสยปัจจัย ปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ทุติยฌานโดย
อุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ จตุตถฌานเป็นปัจจัยแก่อากาสานัญจายตนะโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญานัญจายตนะ ... วิญญานัญจายตนะ
เป็นปัจจัยแก่อากิญจัญญายตนะ ... อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญา-
นาสัญญายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย
บริกรรมทิพพจักขุเป็นปัจจัยแก่ทิพพจักขุโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมทิพพ-
โสตธาตุเป็นปัจจัยแก่ทิพพโสตธาตุโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมอิทธิวิธญาณเป็น
ปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมเจโตปริยญาณเป็นปัจจัยแก่
เจโตปริยญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมปุพเพนิวาสานุสสติญาณเป็นปัจจัยแก่
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมยถากัมมูปคญาณเป็นปัจจัย
แก่ยถากัมมูปคญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมอนาคตังสญาณเป็นปัจจัยแก่
อนาคตังสญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย
ทิพพจักขุเป็นปัจจัยแก่ทิพพโสตธาตุโดยอุปนิสสยปัจจัย ทิพพโสตธาตุเป็น
ปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย อิทธิวิธญาณเป็นปัจจัยแก่เจโตปริย-
ญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย เจโตปริยญาณเป็นปัจจัยแก่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณโดย
อุปนิสสยปัจจัย ปุพเพนิวาสานุสสติญาณเป็นปัจจัยแก่ยถากัมมูปคญาณโดย
อุปนิสสยปัจจัย ยถากัมมูปคญาณเป็นปัจจัยแก่อนาคตังสญาณโดยอุปนิสสยปัจจัย
บริกรรมปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ปฐมมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมทุติยมรรค
เป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่ตติยมรรค
โดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมจตุตถมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย ทุติยมรรคเป็นปัจจัยแก่ตติย-
มรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย ตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย
พระเสขะอาศัยมรรคทำสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้าสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็น
แจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มรรคของพระเสขะเป็น
ปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ธัมมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา
และความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิด
เพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น เพราะ
ยินดีเพลิดเพลินกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้วให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำ
ความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึง
เกิดขึ้น บุคคลออกจากฌานแล้วยินดีเพลิดเพลินฌานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
แล้ว เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินฌานนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วมีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล ฯลฯ
สุตะ ฯลฯ จาคะ ฯลฯ ปัญญาแล้วมีมานะ ถือทิฏฐิ ศรัทธา ... ศีล ... สุตะ ...
จาคะ ... ปัญญาเป็นปัจจัยแก่ราคะ ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ...
ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอรหันต์ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ กุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล
อนุโลมของพระเสขะเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลของ
ท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาแล้วทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน
เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล อาศัยศีล ฯลฯ สุตะ ฯลฯ จาคะ ฯลฯ ปัญญา
แล้วทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล ศรัทธา ... ศีล
... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญาเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทางกายและผลสมาบัติ
โดยอุปนิสสยปัจจัย กรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่วิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย พระ
อรหันต์อาศัยมรรคแล้วทำกิริยาสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิด
ขึ้นแล้วเห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา มรรคของ
พระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ธัมมปฏิสัมภิทา นิรุตติปฏิสัมภิทา
ปฏิภาณปฏิสัมภิทา และความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย
มรรคเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินทิฏฐิให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินทิฏฐินั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขี้น
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นอกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะแล้วฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดเท็จ พูด
ส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้นเรือนหลังเดียว
ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ล่วงเกินภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา
ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายทำพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อ ทำลายสงฆ์ให้
แตกกัน อาศัยโทสะ ฯลฯ โมหะ ฯลฯ มานะ ฯลฯ ทิฏฐิ ฯลฯ ความปรารถนา
แล้วฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ราคะ ฯลฯ โทสะ ฯลฯ โมหะ ฯลฯ
มานะ ฯลฯ ทิฏฐิ ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่ราคะ ฯลฯ โทสะ ฯลฯ
โมหะ ฯลฯ มานะ ฯลฯ ทิฏฐิ ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปาณาติบาตเป็นปัจจัยแก่ปาณาติบาตโดยอุปนิสสยปัจจัย ปาณาติบาตเป็น
ปัจจัยแก่อทินนาทาน ฯลฯ กาเมสุมิจฉาจาร ฯลฯ มุสาวาท ฯลฯ ปิสุณาวาจา
ฯลฯ ผรุสวาจา ฯลฯ สัมผัปปลาปะ ฯลฯ อภิชฌา ฯลฯ พยาบาท ฯลฯ
มิจฉาทิฏฐิโดยอุปนิสสยปัจจัย อทินนาทานเป็นปัจจัยแก่อทินนาทาน ... กาเมสุ-
มิจฉาจาร ... มุสาวาท ... (ย่อ) มิจฉาทิฏฐิ ... ปาณาติบาตโดยอุปนิสสยปัจจัย
(พึงผูกให้เป็นจักกนัย)
กาเมสุมิจฉาจาร ฯลฯ มุสาวาท ฯลฯ ปิสุณาวาจา ฯลฯ ผรุสวาจา ฯลฯ
สัมผัปปลาปะ ฯลฯ อภิชฌา ฯลฯ พยาบาท ฯลฯ มิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัย
แก่มิจฉาทิฏฐิโดยอุปนิสสยปัจจัย มิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่ปาณาติปาต ฯลฯ
อทินนาทาน ฯลฯ กาเมสุมิจฉาจาร ฯลฯ มุสาวาท ฯลฯ ปิสุณาวาจา ฯลฯ
ผรุสวาจา ฯลฯ สัมผัปปลาปะ ฯลฯ อภิชฌา ฯลฯ พยาบาทโดยอุปนิสสยปัจจัย
มาตุฆาตกรรมเป็นปัจจัยแก่มาตุฆาตกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย มาตุฆาตกรรม
เป็นปัจจัยแก่ปิตุฆาตกรรม ... อรหันตฆาตกรรม ... โลหิตุปปาทกรรม ...
สังฆเภทกรรม ... นิยตมิจฉาทิฏฐิโดยอุปนิสสยปัจจัย ปิตุฆาตกรรมเป็นปัจจัยแก่
ปิตุฆาตกรรม ... อรหันตฆาตกรรม ... โลหิตุปปาทกรรม ... สังฆเภทกรรม ...
นิยตมิจฉาทิฏฐิ ... มาตุฆาตกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย
อรหันตฆาตกรรมเป็นปัจจัยแก่อรหันตฆาตกรรม ... โลหิตุปปาทกรรม ฯลฯ
โลหิตุปปาทกรรมเป็นปัจจัยแก่โลหิตุปปาทกรรม ฯลฯ สังฆเภทกรรมเป็นปัจจัย
แก่สังฆเภทกรรม ฯลฯ นิยตมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่นิยตมิจฉาทิฏฐิโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย นิยตมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่มาตุฆาตกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย ... เป็น
ปัจจัยแก่ปิตุฆาตกรรม ฯลฯ อรหันตฆาตกรรม ฯลฯ โลหิตุปปาทกรรม ฯลฯ
สังฆเภทกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย (พึงทำให้เป็นจักกนัย) (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอุปนิสสยปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะแล้วจึงให้ทาน สมาทาน
ศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น
ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น อาศัยโทสะ ... โมหะ ... มานะ ...


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทิฏฐิ ... ความปรารถนาจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น
ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิด
ขึ้น ราคะ ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาเป็น
ปัจจัยแก่ศรัทธา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญาโดยอุปนิสสยปัจจัย
บุคคลฆ่าสัตว์แล้วประสงค์จะลบล้างปาณาติบาตกรรมนั้น จึงให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำ
อภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิด ขึ้น บุคคลลักทรัพย์ พูดเท็จ ... พูดส่อเสียด
... พูดคำหยาบ ... พูดเพ้อเจ้อ ... งัดแงะ ... ปล้นไม่ให้เหลือ ... ปล้นเรือนหลังเดียว
... ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ... ล่วงเกินภรรยาผู้อื่น ... ฆ่าชาวบ้าน ... ฆ่าชาวนิคม
ประสงค์จะลบล้างกรรมชั่วนั้น จึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานให้
เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติ
ให้เกิดขึ้น ฆ่ามารดา ประสงค์จะลบล้างมาตุฆาตกรรมนั้น จึงให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ฆ่าบิดา ... ฆ่าพระอรหันต์ ... มีจิตประทุษร้ายทำพระโลหิตของ
พระตถาคตให้ห้อ ... ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ประสงค์จะลบล้างสังฆเภทกรรมนั้น
จึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ อกุศลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะแล้วทำตนให้เดือดร้อนให้ร้อนรนเสวย
ทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล อาศัยโทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความ
ปรารถนา ทำตนให้เดือดร้อนให้ร้อนรน เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล ราคะ ...
โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย
ทุกข์ทางกายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย กรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่
วิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่ผลโดย
อุปนิสสยปัจจัย
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่ง
เกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอุปนิสสยปัจจัย ภวังคจิตเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิต กิริยาเป็นปัจจัย
แก่วุฏฐานะ อนุโลมของพระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญา-
ยตนกิริยาของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ สุขทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย ทุกข์ทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์
ทางกายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย อุตุเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทาง
กายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย โภชนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทาง
กายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์
ทางกายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ...
โภชนะ ... เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทางกายและผลสมาบัติโดย
อุปนิสสยปัจจัย ผลสมาบัติเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย
พระอรหันต์อาศัยสุขทางกายแล้วทำกิริยาสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้า
กิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา อาศัยทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้ว ทำกิริยาสมาบัติ
ที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภูโวทาน
และมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดย
อุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยสุขทางกายแล้วให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำ
อภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น อาศัยทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ...
เสนาสนะแล้ว จึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำ
วิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น
สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา
... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
อารัมมณูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดีเพลิดเพลินโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ...
กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่เป็น
อัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำ
ความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
อนันตรูปนิสสยะ ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดย
อุปนิสสยปัจจัย
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยสุขทางกายแล้วฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ พูดเท็จ
พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้นเรือนหลังเดียว
ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ล่วงเกินภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม ฆ่ามารดา ฆ่าบิดา
ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายทำพระโลหิตของพระตถาคตให้ห้อ ทำลายสงฆ์ให้
แตกกัน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาศัยทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วฆ่าสัตว์ (ย่อ)
ทำลายสงฆ์ให้แตกกัน
สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ราคะ
... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)

ปุเรชาตปัจจัย
[๔๒๔] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง
... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รูปายตนะเป็น
ปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย สัททายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณ ...
คันธายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณ ... รสายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณ ...
โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย
โสตายตนะ เป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณ ... ฆานายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณ ...
ชิวหายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณ ... กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ
โดยปุเรชาตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็น
อัพยากตกิริยาโดยปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยปุเรชาตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชน เห็นแจ้งจักษุโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย
... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดยปุเรชาตปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยปุเรชาต-
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ เพราะปรารภความ
ยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น
อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ...
กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ เพราะปรารภ
ความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึง
เกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดยปุเรชาต-
ปัจจัย (๓)

ปัจฉาชาตปัจจัย
[๔๒๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
ปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดภายหลังเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน
โดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยปัจฉา-
ชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดภายหลังเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดย
ปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
ปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิด
ภายหลังเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๔๒๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอาเสวน-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอาเสวนปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นอัพยากตกิริยาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (๑)

กัมมปัจจัย
[๔๒๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยกัมมปัจจัย
ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยกัมมปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบาก และ
กฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยกัมมปัจจัย ได้แก่
เจตนาที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยกัมม
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมม-
ปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและ
กฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยา-
กฤตโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยกัมม-
ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เจตนาที่เป็น
อัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย เจตนาเป็น
ปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยกัมมปัจจัย (๑)

วิปากปัจจัย
[๔๒๘] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
วิปากปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓
และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และกฏัตตารูปโดย
วิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์
เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปากปัจจัย (๑)

อาหารปัจจัย
[๔๒๙] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอาหาร-
ปัจจัย ได้แก่ อาหารที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอาหารปัจจัย
ได้แก่ อาหารที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอาหารปัจจัย
ได้แก่ อาหารที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอาหารปัจจัย
ได้แก่ อาหารที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
อาหารที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยอาหารปัจจัย
กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหารปัจจัย (๑)

อินทรียปัจจัย
[๔๓๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอินทรีย-
ปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอินทรียปัจจัย
ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอินทรียปัจจัย
ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอินทรียปัจจัย
ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
อินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
อินทรีย์ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย
จักขุนทรีย์เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย โสตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่
โสตวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย ฆานินทรีย์เป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณโดยอินทรีย-
ปัจจัย ชิวหินทรีย์เป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย กายินทรีย์เป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
อินทรียปัจจัย (๑)

ฌานปัจจัย
[๔๓๑] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยฌานปัจจัย
ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยฌานปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยฌานปัจจัย
ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยฌานปัจจัย ได้แก่
องค์ฌานที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยฌานปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยฌานปัจจัย
ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยฌาน-
ปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ องค์ฌานที่เป็น
อัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยฌานปัจจัย (๑)

มัคคปัจจัย
[๔๓๒] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยมัคคปัจจัย
ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยมัคคปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยมัคคปัจจัย
ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยมัคคปัจจัย ได้แก่
องค์มรรคที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยมัคคปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยมัคคปัจจัย
ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยมัคค-
ปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ องค์มรรคที่เป็น
อัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยมัคคปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัมปยุตตปัจจัย
[๔๓๓] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยสัมปยุตต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์
๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
โดยสัมปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยสัมปยุตตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
สัมปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
สัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดย
สัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสัมปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๓
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสัมปยุตตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดย
สัมปยุตตปัจจัย (๑)

วิปปยุตตปัจจัย
[๔๓๔] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
วิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดย
วิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดย
วิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดย
วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็นปัจจัย
แก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบาก
เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยวิปปยุตตปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดย
วิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์โดยวิปปยุตตปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย
โสตายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย ฆานายตนะเป็นปัจจัย
แก่ฆานวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย ชิวหายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหาวิญญาณ
โดยวิปปยุตตปัจจัย กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย
หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาโดย
วิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย มี อย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
กุศลโดยวิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศล
โดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัตถิปัจจัย
[๔๓๕] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอัตถิปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๑ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอัตถิปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิ-
ปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๑ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอัตถิปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิ-
ปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอัตถิ-
ปัจจัย มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอัพยากตวิบาก
เป็นปัจจัย แก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑
และกฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปโดย
อัตถิปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยอัตถิปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยอัตถิปัจจัย
มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๑ โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็น
ปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑
เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัยแก่มหาภูต-
รูป ๑ โดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ โดยอัตถิปัจจัย
มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
ปุเรชาตะ ได้แก่ พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ ชิวหา ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ
เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ หทัยวัตถุ โดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย สัททายตนะ
ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย จักขายตนะเป็น
ปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย โสตายตนะเป็นปัจจัยแก่โสตวิญญาณ ฯลฯ
ฆานายตนะเป็นปัจจัยแก่ฆานวิญญาณ ฯลฯ ชิวหายตนะเป็นปัจจัยแก่ชิวหา-
วิญญาณ ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย หทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยาโดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอัพยากตวิบากและที่เป็นอัพยากตกิริยา
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
โดยอัตถิปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอัตถิปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ ชิวหา
ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ
ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอัตถิปัจจัย
มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ เพราะปรารภ
ความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น
อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินโสตะ ฯลฯ ฆานะ ฯลฯ ชิวหา
ฯลฯ กาย ฯลฯ รูป ฯลฯ เสียง ฯลฯ กลิ่น ฯลฯ รส ฯลฯ โผฏฐัพพะ ฯลฯ
หทัยวัตถุ เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นอกุศลโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
โดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดย
อัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
โดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป
โดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นอกุศลและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓
โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์
๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
โดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นอกุศลและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป
โดยอัตถิปัจจัย (๒)

นัตถิปัจจัย
[๔๓๖] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยนัตถิปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ
โดยนัตถิปัจจัย (ย่อ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนอนันตรปัจจัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิคตปัจจัย
[๔๓๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยวิคตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
วิคตปัจจัย (ย่อ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนอนันตรปัจจัย)

อวิคตปัจจัย
[๔๓๘] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอวิคตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอวิคตปัจจัย ขันธ์ ๓ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอวิคตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอวิคตปัจจัย
(ย่อ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนอัตถิปัจจัย)
วิภังค์แห่งปัญหาวาร จบ

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๔๓๙] เหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ

เหตุสภาคนัย

[๔๔๐] อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

สัมปยุตตปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๑)

เหตุสามัญญฆฏนา (๙)
[๔๔๑] ปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓
วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียมัคคฆฏนา (๙)
[๔๔๒] ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๔ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และ อวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอินทรียมัคคฆฏนา (๖)
[๔๔๓] ปัจจัย ๘ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓ )
ปัจจัย ๙ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๑๑ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
เหตุมูลกนัย จบ

อารัมมณสภาคนัย

[๔๔๔] อธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๗)

อารัมมณฆฏนา (๕)
[๔๔๕] ปัจจัย ๓ คือ อารัมมณะ อธิปติ และอุปนิสสยะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อารัมมณะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (๕)
อารัมมณมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อธิปติสภาคนัย

[๔๔๖] เหตุปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๔ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๘ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๘ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๘ วาระ (๑๕)

มิสสกฆฏนา (๓)
[๔๔๗] ปัจจัย ๓ คือ อธิปติ อัตถิ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อธิปติ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อธิปติ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๓)
[๔๔๘] ปัจจัย ๓ คือ อธิปติ อารัมมณะ และอุปนิสสยะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อธิปติ อารัมมณะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ อารัมมณะ นิสสยะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตฉันทาธิปติฆฏนา (๖)
[๔๔๙] ปัจจัย ๕ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗
วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๖ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑
วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

จิตตาธิปติฆฏนา (๖)
[๔๕๐] ปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

วีริยาธิปติฆฏนา (๖)
[๔๕๑] ปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

วีมังสาธิปติฆฏนา (๖)
[๔๕๒] ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๒๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๑๑ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อธิปติมูลกนัย จบ

อนันตรสภาคนัย

[๔๕๓] สมนันตรปัจจัย กับอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๖)

อนันตรฆฏนา (๓)
[๔๕๔] ปัจจัย ๕ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๑ วาระ (๓)
อนันตรมูลกนัย จบ

สมนันตรสภาคนัย

[๔๕๕] อนันตรปัจจัย กับสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

อาเสวนปัจจัย กับสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

สมนันตรฆฏนา (๓)
[๔๕๖] ปัจจัย ๕ คือ สมนันตระ อนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สมนันตระ อนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สมนันตระ อนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๑ วาระ (๓)
สมนันตรมูลกนัย จบ

สหชาตสภาคนัย

[๔๕๗] เหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

วิปปยุตตปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ (๑๔)

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๔๕๘] ปัจจัย ๔ คือ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๙ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)
ปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
สหชาตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัญญมัญญสภาคนัย

[๔๕๙] เหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๔)

อัญญมัญญฆฏนา (๖)
[๔๖๐] ปัจจัย ๕ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๗ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อัญญมัญญมูลกนัย จบ

นิสสยสภาคนัย

[๔๖๑] เหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ (๑๗)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นิสสยมิสสกฆฏนา (๖)
[๔๖๒] ปัจจัย ๓ คือ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑๓ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ อธิปติ อัตถิ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ อธิปติ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๔)
[๔๖๓] ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ อารัมมณะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ นิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๔๖๔] ปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๙ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)
ปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
นิสสยมูลกนัย จบ

อุปนิสสยสภาคนัย

[๔๖๕] อารัมมณปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นัตถิปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (๑๓)

อุปนิสสยฆฏนา (๗)
[๔๖๖] ปัจจัย ๓ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ และอธิปติ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ นัตถิ และวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ อาเสวนะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๒ คือ อุปนิสสยะ และกัมมะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ กัมมะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๑ วาระ
อุปนิสสยมูลกนัย จบ

ปุเรชาตสภาคนัย

[๔๖๗] อารัมมณปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

อัตถิปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๘)

ปุเรชาตฆฏนา (๗)
[๔๖๘] ปัจจัย ๓ คือ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ ปุเรชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปุเรชาตมูลกนัย จบ

ปัจฉาชาตสภาคนัย

[๔๖๙] วิปปยุตตปัจจัย กับปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๓)

ปัจฉาชาตฆฏนา (๑)

[๔๗๐] ปัจจัย ๔ คือ ปัจฉาชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาเสวนสภาคนัย

[๔๗๑] อนันตรปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๕)

อาเสวนฆฏนา (๑)
[๔๗๒] ปัจจัย ๖ คือ อาเสวนะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ
และวิคตะ มี ๓ วาระ
อาเสวนมูลกนัย จบ

กัมมสภาคนัย

[๔๗๓] อนันตรปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปกิณณกฆฏนา (๒)
[๔๗๔] ปัจจัย ๒ คือ กัมมะ และอุปนิสสยะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ กัมมะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๙)
[๔๗๕] ปัจจัย ๖ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
กัมมมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปากสภาคนัย

[๔๗๖] เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (๑๔)

วิปากฆฏนา (๕)
[๔๗๗] ปัจจัย ๕ คือ วิปากะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิปากะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
วิปากมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารสภาคนัย

[๔๗๘] อธิปติปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๑)

อาหารมิสสกฆฏนา (๑)
[๔๗๙] ปัจจัย ๓ คือ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ

สหชาตสามัญญฆฏนา (๙)
[๔๘๐] ปัจจัย ๕ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑
วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สกัมมฆฏนา (๙)
[๔๘๑] ปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฆฏนา (๙)
[๔๘๒] ปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๔๘๓] ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อาหารมูลกนัย จบ

อินทรียสภาคนัย

[๔๘๔] เหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๔ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

ฌานปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๔)

อินทรียมิสสกฆฏนา (๓)
[๔๘๕] ปัจจัย ๓ คือ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อินทรียะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อินทรียะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๑)
[๔๘๖] ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ

สหชาตสามัญญฆฏนา (๙)
[๔๘๗] ปัจจัย ๕ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี
๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑
วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สมัคคฆฏนา (๙)
[๔๘๘] ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานฆฏนา (๙)
[๔๘๙] ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานมัคคฆฏนา (๙)
[๔๙๐] ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาหารฆฏนา (๙)
[๔๙๑] ปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอาหารฆฏนา (๖)
[๔๙๒] ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สาธิปติมัคคฆฏนา (๖)
[๔๙๓] ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

สเหตุมัคคฆฏนา (๙)
[๔๙๔] ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สเหตุอธิปติมัคคฆฏนา (๖)
[๔๙๕] ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๑ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อินทรียมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฌานสภาคนัย

[๔๙๖] สหชาตปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๐)

สามัญญฆฏนา (๙)
[๔๙๗] ปัจจัย ๕ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑
วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฆฏนา (๙)
[๔๙๘] ปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมัคคฆฏนา (๙)
[๔๙๙] ปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียมัคคฆฏนา (๙)
[๕๐๐] ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
ฌานมูลกนัย จบ

มัคคสภาคนัย

[๕๐๑] เหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๔ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัมปยุตตปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๒)

มัคคสามัญญฆฏนา (๙)
[๕๐๒] ปัจจัย ๕ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗
วาระ
ปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑
วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สอินทรียฆฏนา (๙)
[๕๐๓] ปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานฆฏนา (๙)
[๕๐๔] ปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฌานฆฏนา (๙)
[๕๐๕] ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ ฌานะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๕๐๖] ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

สเหตุอินทรียฆฏนา (๙)
[๕๐๗] ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๔ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สเหตาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๕๐๘] ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๑๑ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
มัคคมูลกนัย จบ

สัมปยุตตสภาคนัย

[๕๐๙] เหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๓)

สัมปยุตตฆฏนา (๒)
[๕๑๐] ปัจจัย ๖ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๑)
ปัจจัย ๗ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๑)
สัมปยุตตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปปยุตตสภาคนัย

[๕๑๑] เหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ (๑๗)

วิปปยุตตมิสสกฆฏนา (๔)
[๕๑๒] ปัจจัย ๓ คือ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ อธิปติ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔
วาระ
ปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓
วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปกิณณกฆฏนา (๕)
[๕๑๓] ปัจจัย ๔ คือ วิปปยุตตะ ปัจฉาชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ วิปปยุตตะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๔)
[๕๑๔] ปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๒)
ปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๒)
วิปปยุตตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัตถิสภาคนัย

[๕๑๕] เหตุปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ (๑๘)

อัตถิมิสสกฆฏนา (๑๑)
[๕๑๖] ปัจจัย ๒ คือ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑๓ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๑๓ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อธิปติ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ อธิปติ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อาหาระ และอวิคตะ มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อินทรียะ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ นิสสยะ อินทรียะ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ อธิปติ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๘)
[๕๑๗] ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ ปัจฉาชาตะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อัตถิ ปุเรชาตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ อารัมมณะ ปุเรชาตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อัตถิ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ
วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๕๑๘] ปัจจัย ๔ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๙ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๓
วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)
ปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
อัตถิมูลกนัย จบ

นัตถิสภาคนัย

[๕๑๙] อนันตรปัจจัย กับนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๖)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นัตถิฆฏนา (๓)
[๕๒๐] ปัจจัย ๕ คือ นัตถิ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ และวิคตะ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นัตถิ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ นัตถิ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ และวิคตะ
มี ๑ วาระ
นัตถิมูลกนัย จบ

วิคตสภาคนัย

[๕๒๑] อนันตรปัจจัย กับวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ (๖)

วิคตฆฏนา (๓)
[๕๒๒] ปัจจัย ๕ คือ วิคตะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ และนัตถิ
มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิคตะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ และ
นัตถิ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ วิคตะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ และนัตถิ
มี ๑ วาระ
วิคตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อวิคตสภาคนัย

[๕๒๓] เหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ (๑๘)

อวิคตมิสสกฆฏนา (๑๑)
[๕๒๔] ปัจจัย ๒ คือ อวิคตะ และอัตถิ มี ๑๓ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ นิสสยะ และอัตถิ มี ๑๓ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ อธิปติ และอัตถิ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ อธิปติ นิสสยะ และอัตถิ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ อาหาระ และอัตถิ มี ๗ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ อินทรียะ และอัตถิ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ นิสสยะ อินทรียะ และอัตถิ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๕ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ อธิปติ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๘)
[๕๒๕] ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ ปัจฉาชาตะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๓ คือ อวิคตะ ปุเรชาตะ และอัตถิ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ อารัมมณะ ปุเรชาตะ และอัตถิ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และ
อัตถิ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ และ
อัตถิ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อวิคตะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ
วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ วิปปยุตตะ และอัตถิ
มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๕๒๖] ปัจจัย ๔ คือ อวิคตะ สหชาตะ นิสสยะ และอัตถิ มี ๙ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ และอัตถิ มี ๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ และ
อัตถิ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอัตถิ มี ๓
วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และ
อัตถิ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)
ปัจจัย ๕ คือ อวิคตะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ และอัตถิ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ และอัตถิ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
และอัตถิ มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อวิคตะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ และอัตถิ
มี ๑ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อวิคตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
และอัตถิ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
อวิคตมูลกนัย จบ
การนับอนุโลมแห่งปัญหาวาร จบ

๒. ปัจจนียุทธาร
[๕๒๗] สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอารัมมณ-
ปัจจัย สหชาตปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอารัมมณปัจจัย
และอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอารัมมณ-
ปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และกัมมปัจจัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยสหชาตปัจจัย (๔)
[๕๒๘] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดย
อารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอารัมมณปัจจัย
และอุปนิสสยปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตโดยอารัมมณ-
ปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และกัมมปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤต
โดยสหชาตปัจจัย (๔)
[๕๒๙] สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
โดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย
อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลโดยอารัมมณ-
ปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศลโดยอารัมมณ-
ปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๓)
[๕๓๐] สภาวธรรมที่เป็นกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นกุศล มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สภาวธรรมที่เป็นกุศลและอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (๒)
[๕๓๑] สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นอกุศล มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลและที่เป็นอัพยากฤตเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤต มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (๒)
ปัจจนียุทธารแห่งปัญหาวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย

[๕๓๒] นเหตุปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุทุกนัย

[๕๓๓] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ

ติกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสมนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " " มี ๙ วาระ ฯลฯ

ฉักกนัย

นสหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
และนสมนันตรปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

สัตตกนัย
นอัญญมัญญปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯ ลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

อัฏฐกนัย

นนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย

มี ๑๑ วาระ

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

นวกนัย

นอุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ
นนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ


นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

ทสกนัย

นปุเรชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย
นนิสสยปัจจัย และนอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

เอกาทสกนัย

นปัจฉาชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย นนิสสย-
ปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

ทวาทสกนัย

นอาเสวนปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย ฯลฯ นปุเรชาตปัจจัย และนปัจฉาชาตปัจจัย

มี ๓ วาระ

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

จุททสกนัย

นวิปากปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นปัจฉาชาตปัจจัย
นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

สัตตรสกนัย

นมัคคปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย นอาหารปัจจัย และนฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย

โนวิคตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นอาหารปัจจัย
นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย
และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ

โสฬสกนัย (สอินทรียะ)

นฌานปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย และนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุนเอกวีสกนัย
โนวิคตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย
นวิปปยุตตปัจจัย และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ
นเหตุมูลกนัย จบ

นอารัมมณทุกนัย

[๕๓๔] นเหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนอัตถิปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
นอัญญมัญญปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ

นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นอารัมมณมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัยเป็นต้น
[๕๓๕] ... กับนอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย และนสมนันตรปัจจัย ...
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)

นสหชาตทุกนัย

[๕๓๖] นเหตุปัจจัย กับนสหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
จตุกกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนสหชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑๑ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

... กับนสหชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย (ย่อ)
นสหชาตมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอัญญมัญญทุกนัย

[๕๓๗] นเหตุปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑๑ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย

นนิสสยปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย

มี ๑๑ วาระ

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ (ย่อ)

นอัญญมัญญมูลกนัย จบ

นนิสสยทุกนัย

[๕๓๘] นเหตุปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑๑ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)

นนิสสยมูลกนัย จบ

นอุปนิสสยทุกนัย

[๕๓๙] นเหตุปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑๓ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัฏฐกนัย

นอัญญมัญญปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย

มี ๗ วาระ

นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นวกนัย

นนิสสยปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ


นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

ทสกนัย

นปุเรชาตปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ


นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)

นอุปนิสสยมูลกนัย จบ

นปุเรชาตทุกนัย

[๕๔๐] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑๓ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย

นอัญญมัญญปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย

มี ๑๑ วาระ

นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทสกนัย

นอุปนิสสยปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญมัญญ-
ปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ


นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย

นปัจฉาชาตปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ
นนิสสยปัจจัย และนอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)

นปุเรชาตมูลกนัย จบ

นปัจฉาชาตทุกนัย

[๕๔๑] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชา มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย

นอธิปติปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑๕ วาระ

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย
นอัญญมัญญปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย
มี ๙ วาระ

นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทสกนัย
นอุปนิสสยปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย และ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)

นปัจฉาชาตมูลกนัย จบ
... กับนอาเสวนปัจจัย ... (พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุปัจจัย)

นกัมมทุกนัย

[๕๔๒] นเหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอินทรียปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑๕ วาระ ฯลฯ

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๕ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
นอุปนิสสยปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย
มี ๕ วาระ

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
เอกาทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย
มี ๕ วาระ

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ ฯลฯ

เตรสกนัย
นอาเสวนปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นปุเรชาตปัจจัย และ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑ วาระ

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

... กับนวิปากปัจจัย ... (พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาหารทุกนัย

[๕๔๓] นเหตุปัจจัย กับนอาหารปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๑๕ วาระ ฯลฯ

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย
นอัญญมัญญปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นสหชาตปัจจัย
มี ๑๑ วาระ

นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
นอุปนิสสยปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย

มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย

มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯล มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

เตรสกนัย
นอาเสวนปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นปุเรชาตปัจจัย และ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

ปัณณรสกนัย
นวิปากปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นปัจฉาชาตปัจจัย
นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯล มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

อัฏฐารสกนัย
นสัมปยุตตปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
นฌานปัจจัย และนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียทุกนัย

[๕๔๔] นเหตุปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๑๕ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๑๕ วาระ ฯลฯ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย
นอัญญมัญญปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นสหชาตปัจจัย

มี ๑๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
นอุปนิสสยปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย

มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย

มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (พึงนับอย่างนี้)

เตรสกนัย
นอาเสวนปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นปุเรชาตปัจจัย และ

นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

ปัณณรสกนัย
นวิปากปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย

มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย
โนวิคตปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย
นวิปากปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย
และโนนัตถิปัจจัย มี ๑ วาระ (ย่อ)
... กับนฌานปัจจัย ... มัคคปัจจัย ... (พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
... กับนสัมปยุตตปัจจัย ... (พึงขยายให้พิสดารเหมือนนอัญญมัญญมูลกนัย)

นวิปปยุตตทุกนัย

[๕๔๕] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย

นอุปนิสสยปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย

นปุเรชาตปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัย
ที่เป็นมูล) นนิสสยปัจจัย และนอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

อัฏฐารสกนัย

นฌานปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อ
ปัจจัยที่เป็นมูล) นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย และนอินทรียปัจจัย


มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

โนอัตถิทุกนัย

[๕๔๖] นเหตุปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นมัคคปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาร
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นอธิปติปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย

มี ๙ วาระ ฯลฯ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
นอุปนิสสยปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย

นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

เอกาทสกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่

เป็นมูล )และนอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

สัตตรสกนัย
นฌานปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่

เป็นมูล) นอาเสวนปัจจัย นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย และ
นอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย
โนนัตถิปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย นปุเร-
ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นวิปากปัจจัย
นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย ฯลฯ นวิปปยุตตปัจจัย

มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

เตวีสกนัย (สอุปนิสสยะ)
โนอวิคตปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ โนวิคตปัจจัย มี ๒ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
เตวีสกนัย (สกัมมะ)
โนอวิคตปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นนิสสยปัจจัย
นปุเรชาตปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นกัมมปัจจัย ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

โนนัตถิทุกนัย

[๕๔๗] นเหตุปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัย มี ๑๕ วาระ (ย่อ)
โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนเหตุปัจจัย)

โนวิคตทุกนัย
[๕๔๘] นเหตุปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย มี ๑๕ วาระ (ย่อ)

โนอวิคตทุกนัย

[๕๔๙] นเหตุปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ

...กับโนอวิคตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับโนอัตถิปัจจัย)
การนับปัจจนียะแห่งปัญหาวาร จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย

[๕๕๐] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ

เหตุสามัญญฆฏนา (๙)

[๕๕๑] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สอินทรียมัคคฆฏนา (๙)

[๕๕๒] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ

มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ

มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ

วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ

อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๓๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ

มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอินทรียมัคคฆฏนา (๖)

[๕๕๓] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ

อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ

วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๑ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ

มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

เหตุมูลกนัย จบ

อารัมมณทุกนัย

[๕๕๔] นเหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปากปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ

อารัมมณฆฏนา (๕)

[๕๕๕] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อารัมมณะ อธิปติ และ
อุปนิสสยะ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อารัมมณะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ

มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ

ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

อารัมมณมูลกนัย จบ

อธิปติทุกนัย

[๕๕๖] นเหตุปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๘ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นมัคคปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๘ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย ” มี ๗ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๑๐ วาระ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ

อธิปติมิสสกฆฏนา (๓)
[๕๕๗] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อธิปติ อัตถิ และอวิคตะ

มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อธิปติ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อธิปติ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ

มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๓)
[๕๕๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อธิปติ อารัมมณะ และ

อุปนิสสยะ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อธิปติ อารัมมณะ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ อารัมมณะ นิสสยะ อุปนิสสยะ

ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตฉันทาธิปติฆฏนา (๖)

[๕๕๙] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ

สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ

อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ๑

จิตตาธิปติฆฏนา (๖)

[๕๖๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ
อาหาระ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


เชิงอรรถ :
๑ ข้อความใน [ ] ไม่ปรากฏในฉบับฉัฏฐสังคีติ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ

อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ อินทรียะ

วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ

อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

อาหาระ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ

อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

วีริยาธิปติฆฏนา (๖)

[๕๖๑] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ


นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ

อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ

วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ

มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ


มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ

มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

วีมังสาธิปติฆฏนา (๖)

[๕๖๒] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ


นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ

อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ

มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๑ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ


มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ

อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

อธิปติมูลกนัย จบ

อนันตรทุกนัย

[๕๖๓] นเหตุปัจจัย กับอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย ” มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรฆฏนา (๓)

[๕๖๔] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อนันตระ สมนันตระ
อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ

นัตถิ และวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ นัตถิ

และวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

อนันตรมูลกนัย จบ

สมนันตรทุกนัย

[๕๖๕] นเหตุปัจจัย กับสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

โนอัตถิปัจจัย กับสมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย ” มี ๗ วาระ (๑๙)

สมนันตรฆฏนา (๓)

[๕๖๖] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ สมนันตระ อนันตระ อุป-
นิสสยะ นัตถิ และวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สมนันตระ อนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ

นัตถิ และวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สมนันตระ อนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ นัตถิ

และวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สมนันตรมูลกนัย จบ

สหชาตทุกนัย

[๕๖๗] นเหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นมัคคปัจจัย กับสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๙ วาระ (๒๐)

สหชาตฆฏนา (๑๐)

[๕๖๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ

อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปปยุตตะ

อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ

และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ

วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สหชาตมูลกนัย จบ

อัญญมัญญทุกนัย

[๕๖๙] นเหตุปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย ” มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอาเสวนปัจจัย กับอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย ” มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย ” มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย ” มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย ” มี ๓ วาระ (๑๙)

อัญญมัญญฆฏนา (๖)

[๕๗๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อัญญมัญญะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อัญญมัญญมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นิสสยทุกนัย
[๕๗๑] นเหตุปัจจัย กับนิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ (๒๑)

นิสสยมิสสกฆฏนา (๖)
[๕๗๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ อธิปติ อัตถิ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ อธิปติ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๔)
[๕๗๓] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ อารัมมณะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ นิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ
ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๕๗๔] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
นิสสยมูลกนัย จบ

อุปนิสสยทุกนัย
[๕๗๕] นเหตุปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนนัตถิปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ (๒๓)

อุปนิสสยฆฏนา (๗)
[๕๗๖] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ และ
อธิปติ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ ปุเรชาตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ
ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ นัตถิ
และวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ อาเสวนะ
นัตถิ และวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๒ คือ อุปนิสสยะและกัมมะ มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับปัจจัย ๒ คือ อุปนิสสยะและกัมมะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสหชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นนิสสยปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ กัมมะ นัตถิ
และวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยมูลกนัย จบ

ปุเรชาตทุกนัย
[๕๗๗] นเหตุปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาเสวนปัจจัย กับปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๒๑)

ปุเรชาตฆฏนา (๗)
[๕๗๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ ปุเรชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ปุเรชาตะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ
อุปนิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ปุเรชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ปุเรชาตมูลกนัย จบ

ปัจฉาชาตทุกนัย
[๕๗๙] นเหตุปัจจัย กับปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๒๐)

ปัจฉาชาตฆฏนา (๑)
[๕๘๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ ปัจฉาชาตะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตมูลกนัย จบ

อาเสวนทุกนัย
[๕๘๑] นเหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาหารปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๘)

อาเสวนฆฏนา (๑)
[๕๘๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาเสวนะ อนันตระ สมนันตระ
อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนมูลกนัย จบ

กัมมทุกนัย
[๕๘๓] นเหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนวิคตปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ (๒๓)

กัมมปกิณณกฆฏนา (๒)
[๕๘๔] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๒ คือ กัมมะและอุปนิสสยะ มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสหชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นนิสสยปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนอัตถิปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ
โนอวิคตปัจจัย " " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ กัมมะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนอวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๙)
[๕๘๕] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ
อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ วิปปยุตตะ
อัตถิ และ อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร

นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
กัมมมูลกนัย จบ

วิปากทุกนัย
[๕๘๖] นเหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑ วาระ (๑๙)

วิปากฆฏนา (๕)
[๕๘๗] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ วิปากะ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปากะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากมูลกนัย จบ

อาหารทุกนัย
[๕๘๘] นเหตุปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๒๑)

อาหารมิสสกฆฏนา (๑)
[๕๘๙] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๔๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

สหชาตสามัญญฆฏนา (๙)
[๕๙๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สกัมมฆฏนา (๙)
[๕๙๑] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ
กัมมะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ
วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
กัมมะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฆฏนา (๙)
[๕๙๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และ อวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๕๙๓] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อาหารมูลกนัย จบ

อินทรียทุกนัย
[๕๙๔] นเหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๒๑)

อินทรียมิสสกฆฏนา (๓)
[๕๙๕] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อินทรียะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อินทรียะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๑)
[๕๙๖] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ นิสสยะ ปุเรชาตะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตสามัญญฆฏนา (๙)
[๕๙๗] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมัคคฆฏนา (๙)
[๕๙๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานฆฏนา (๙)
[๕๙๙] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ
ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานมัคคฆฏนา (๙)
[๖๐๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ
ฌานะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สาหารฆฏนา (๙)
[๖๐๑] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ
อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สาธิปติอาหารฆฏนา (๖)
[๖๐๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ
นิสสยะ อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อาหาระ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

สาธิปติมัคคฆฏนา (๖)
[๖๐๓] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ
นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สเหตุมัคคฆฏนา (๙)
[๖๐๔] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ
นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๔ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สเหตาธิปติมัคคฆฏนา (๖)
[๖๐๕] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ
นิสสยะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๑ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
อินทรียมูลกนัย จบ

ฌานทุกนัย
[๖๐๖] นเหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๒๐)

ฌานสามัญญฆฏนา (๙)
[๖๐๗] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฆฏนา (๙)
[๖๐๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สมัคคฆฏนา (๙)
[๖๐๙] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ มัคคะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สอินทรียมัคคฆฏนา (๙)
[๖๑๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ มัคคะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ มัคคะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
ฌานมูลกนัย จบ

มัคคทุกนัย
[๖๑๑] นเหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

มัคคสามัญญฆฏนา (๙)
[๖๑๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฆฏนา (๙)
[๖๑๓] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และ อวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สฌานฆฏนา (๙)
[๖๑๔] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ
ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ อัตถิ และ อวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ ฌานะ วิปปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สอินทรียฌานฆฏนา (๙)
[๖๑๕] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๔)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ ฌานะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ ฌานะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๖๑๖] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ
นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๓)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)

สเหตุอินทรียฆฏนา (๙)
[๖๑๗] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)

สเหตาธิปติอินทรียฆฏนา (๖)
[๖๑๘] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ
นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๔ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ อินทรียะ
วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (อวิปากะ ๓)

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๑ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๓)
มัคคมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัมปยุตตทุกนัย
[๖๑๙] นเหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

สัมปยุตตฆฏนา (๒)
[๖๒๐] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ
อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (อวิปากะ ๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๑)
สัมปยุตตมูลกนัย จบ

วิปปยุตตทุกนัย
[๖๒๑] นเหตุปัจจัย กับวิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปปยุตตมิสสกฆฏนา (๔)
[๖๒๒] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ อธิปติ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ อินทรียะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๕)
[๖๒๓] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ วิปปยุตตะ ปัจฉาชาตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ วิปปยุตตะ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ
อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๔)
[๖๒๔] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๒)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ วิปปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๒)
วิปปยุตตมูลกนัย จบ

อัตถิทุกนัย
[๖๒๕] นเหตุปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับอัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ

อัตถิมิสสกฆฏนา (๑๑)
[๖๒๖] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๒ คือ อัตถิ และอวิคตะ มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสหชาตปัจจัย กับปัจจัย ๒ คือ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " " " มี ๗ วาระ
นนิสสยปัจจัย " " " มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " " มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " " " มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " " มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " " มี ๑๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๑๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อธิปติ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ อธิปติ นิสสยะ และอวิคตะ มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อาหาระ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ อินทรียะ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ นิสสยะ อินทรียะ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ
มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ อธิปติ นิสสยะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ
มี ๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ นิสสยะ อินทรียะ วิปปยุตตะ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ปกิณณกฆฏนา (๘)
[๖๒๗] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ ปัจฉาชาตะ วิปปยุตตะ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๓ คือ อัตถิ ปุเรชาตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ นิสสยะ ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ อารัมมณะ ปุเรชาตะ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาร
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ อารัมมณะ นิสสยะ ปุเรชาตะ
วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ อารัมมณะ อธิปติ อุปนิสสยะ ปุเรชาตะ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๘ คือ อัตถิ อารัมมณะ อธิปติ นิสสยะ อุปนิสสยะ
ปุเรชาตะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ นิสสยะ ปุเรชาตะ อินทรียะ วิปปยุตตะ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สหชาตฆฏนา (๑๐)
[๖๒๘] นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๔ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ
และอวิคตะ มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
สัมปยุตตะ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ และ
อวิคตะ มี ๓ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (อวิปากะ ๕)

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ และ
อวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
สัมปยุตตะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๖ คือ อัตถิ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๕๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

นเหตุปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ อัตถิ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ วิปปยุตตะ และอวิคตะ มี ๑ วาระ
นอารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นสมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕)
อัตถิมูลกนัย จบ

นัตถิทุกนัย
[๖๒๙] นเหตุปัจจัย กับนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
นเหตุปัจจัย กับวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
(นัตถิปัจจัย และวิคตปัจจัยเหมือนกับอนันตรปัจจัย)

อวิคตทุกนัย
[๖๓๐] นเหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายอวิคตปัจจัยให้พิสดารเหมือนอัตถิปัจจัย)
อนุโลมปัจจนียะแห่งปัญหาวาร จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๖๓๑] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ

ติกนัย
อธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑๓ วาระ

จตุกกนัย
อนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย และนอธิปติปัจจัย
มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย
สมนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนอนันตร-
ปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ

ฉักกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
และนสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัตตกนัย
อัญญมัญญปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตร-
ปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย (มี ๓ วาระ)
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

อัฏฐกนัย
นิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสหชาตปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นอัญญมัญญปัจจัย
และนนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ ฯลฯ

เอกาทสกนัย
ปัจฉาชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นนิสสย-
ปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ

ทวาทสกนัย
กัมมปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นอุปนิสสย-
ปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย และนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

โสฬสกนัย (สาหาระ)
อินทรียปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นปัจฉา-
ชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย และ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

พาวีสกนัย (สาหาระ)
อินทรียปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นอาหาร-
ปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตต-
ปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

โสฬสกนัย (สอินทรียะ)
อาหารปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นวิปาก-
ปัจจัย และนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
พาวีสกนัย (สอินทรียะ)
อาหารปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นอินทรีย-
ปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตต-
ปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นเหตุมูลกนัย จบ

นอารัมมณทุกนัย
[๖๓๒] เหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัมปยุตตปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย
นิสสยปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย
มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอารัมมณมูลกนัย จบ

นอธิปติทุกนัย
[๖๓๓] เหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นอธิปติมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอนันตระและนสมนันตรทุกนัย
[๖๓๔] เหตุปัจจัย กับนอนันตรปัจจัย ฯลฯ นสมนันตรปัจจัย
มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๐ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

อัฏฐกนัย
นิสสยปัจจัย กับนสมนันตรปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย
มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
นสมนันตรมูลกนัย จบ

นสหชาตทุกนัย
[๖๓๕] อารัมมณปัจจัย กับนสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย
อนันตรปัจจัย กับนสหชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย และนอธิปติ-
ปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนสหชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และ
นนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ (ย่อ)
นสหชาตมูลกนัย จบ

นอัญญมัญญทุกนัย
[๖๓๖] เหตุปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัตถิปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อธิปติปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัฏฐกนัย
นิสสยปัจจัย กับนอัญญมัญญปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย
มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
นอัญญมัญญมูลกนัย จบ

นนิสสยทุกนัย
[๖๓๗] อารัมมณปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย
อนันตรปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย และนอธิปติ-
ปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ (ย่อ)
นนิสสยมูลกนัย จบ

นอุปนิสสยทุกนัย
[๖๓๘] เหตุปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัฏฐกนัย
นิสสยปัจจัย กับนอุปนิสสยปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย และนสหชาตปัจจัย
มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
นอุปนิสสยมูลกนัย จบ

นปุเรชาตทุกนัย
[๖๓๙] เหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นิสสยปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และ
นอัญญมัญญปัจจัย (มี ๙ วาระ)
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ (ย่อ)
นปุเรชาตมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นปัจฉาชาตทุกนัย
[๖๔๐] เหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวกนัย
นิสสยปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ

ทสกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)
นปัจฉาชาตมูลกนัย จบ

นอาเสวนทุกนัย
[๖๔๑] เหตุปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อธิปติปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นิสสยปัจจัย กับนอาเสวนปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
นอาเสวนมูลกนัย จบ

นกัมมทุกนัย
[๖๔๒] เหตุปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
มัคคปัจจัย กับนกัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นิสสยปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย และ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
นกัมมมูลกนัย จบ

นวิปากทุกนัย
[๖๔๓] เหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นวิปากมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาหารทุกนัย
[๖๔๔] เหตุปัจจัย กับนอาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
จตุกกนัย

อธิปติปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
พาวีสกนัย

อินทรียปัจจัย กับนอาหารปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตต-
ปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)
นอาหารมูลกนัย จบ

นอินทรียทุกนัย
[๖๔๕] เหตุปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
(กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ)

พาวีสกนัย
อาหารปัจจัย กับนอินทรียปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่
เป็นมูล) นวิปากปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตต-
ปัจจัย นวิปปยุตต ปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และโนวิคตปัจจัย
มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
(ย่อเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นอินทรียมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นฌานทุกนัย
[๖๔๖] เหตุปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายนฌานมูลกนัยให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นฌานมูลกนัย จบ

นมัคคทุกนัย
[๖๔๗] เหตุปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
นมัคคมูลกนัย จบ

นสัมปยุตตทุกนัย
[๖๔๘] เหตุปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อธิปติปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นิสสยปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ

ทสกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นสหชาต-
ปัจจัย นอัญญมัญญปัจจัย และนนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ ฯลฯ

ทวาทสกนัย
ปัจฉาชาตปัจจัย กับนสัมปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นนิสสย-
ปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ (ย่อ)
นสัมปยุตตมูลกนัย จบ

นวิปปยุตตทุกนัย
[๖๔๙] เหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นิสสยปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
สหชาตปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย และนสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๕ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
นวกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

เอกาทสกนัย
กัมมปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติ-
ปัจจัย นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย
นอัญญมัญญปัจจัย นนิสสยปัจจัย และ นอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

ปันนรสกนัย
อาหารปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) และ
นกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัตตรสกนัย (สาหาระ)
อินทรียปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย และนอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

พาวีสกนัย
อินทรียปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นอาหาร-
ปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย โนนัตถิ-
ปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

สัตตรสกนัย (สอินทรียะ)
อาหารปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นวิปาก-
ปัจจัย และนอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ

พาวีสกนัย
อาหารปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) นอินทรีย-
ปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย โนนัตถิ-
ปัจจัย และโนวิคตปัจจัย มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนอัตถิทุกนัย
[๖๕๐] อารัมมณปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อนันตรปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย และนสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
จตุวีสกนัย (สอุปนิสสยะ)
กัมมปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญ-
มัญญปัจจัย นนิสสยปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย
นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย
นวิปปยุตตปัจจัย โนนัตถิปัจจัย โนวิคตปัจจัย และโนอวิคตปัจจัย
มี ๒ วาระ ฯลฯ

จตุวีสกนัย (สกัมมะ)
อุปนิสสยปัจจัย กับโนอัตถิปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญ-
มัญญปัจจัย นนิสสยปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย
นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย นอาหารปัจจัย
นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย
นวิปปยุตตปัจจัย โนนัตถิปัจจัย โนวิคตปัจจัย และโนอวิคตปัจจัย
มี ๙ วาระ
โนอัตถิมูลกนัย จบ

โนนัตถิทุกนัย
[๖๕๑] เหตุปัจจัย กับโนนัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
โนนัตถิมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๑. กุสลติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนวิคตทุกนัย
[๖๕๒] เหตุปัจจัย กับโนวิคตปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนนเหตุมูลกนัย)
โนวิคตมูลกนัย จบ

โนอวิคตทุกนัย
[๖๕๓] อารัมมณปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนโนอัตถิมูลกนัย)
โนอวิคตมูลกนัย จบ
ปัจจนียานุโลมแห่งปัญหาวาร จบ
กุสลติกะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์
๒ เกิดขึ้น

อารัมมณปัจจัยเป็นต้น
[๒] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย เพราะอธิปติปัจจัย (อธิปติปัจจัยไม่มีปฏิสนธิ)
เพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะสหชาตปัจจัย เพราะอัญญมัญญปัจจัย
เพราะนิสสยปัจจัย เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อาเสวนปัจจัยเป็นต้น
[๓] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย เพราะกัมมปัจจัย เพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์
๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยทุกข์และ
กายวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น

อาหารปัจจัยเป็นต้น
[๔] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะ
มัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น
เพราะวิปปยุตตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์อาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑
ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ขันธ์
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้นเพราะวิปปยุตตปัจจัย (ย่อ)

อัตถิปัจจัยเป็นต้น
[๕] ... เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคต-
ปัจจัย

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๖] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ

เหตุทุกนัยเป็นต้น
[๗] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
เหตุปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย และอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

เหตุปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

เหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

เหตุปัจจัย กับอวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับปัจจัยแห่งกุสลติกะ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๘] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่ง
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยทุกข์และ
กายวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและอุทธัจจะ
อาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและอุทธัจจะเกิดขึ้น

นอธิปติปัจจัย
[๙] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย (ปฏิสนธิมีนอธิปติปัจจัยบริบูรณ์)

นปุเรชาตปัจจัย
[๑๐] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิด
ขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น

นปัจฉาชาตปัจจัยและนอาเสวนปัจจัย
[๑๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย (นปัจฉาชาตปัจจัย
และนอาเสวนปัจจัยต่างก็มีปฏิสนธิบริบูรณ์)

นกัมมปัจจัย
[๑๒] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยขันธ์
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยขันธ์ที่
สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุข-
เวทนาอาศัยขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น

นวิปากปัจจัยและนฌานปัจจัย
[๑๓] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย เพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์
๑ ที่สหรคตด้วยสุขและกายวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยทุกข์และ
กายวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
สหรคตด้วยจตุวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น

นมัคคปัจจัย
[๑๔] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยทุกข์และ
กายวิญญาณเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
เกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น

นวิปปยุตตปัจจัย
[๑๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุข-
เวทนาเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๑
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๑๖] นเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ

นเหตุทุกนัย
[๑๗] นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นวิปปยุตตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาต-
ปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย และ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ (ย่อ)

นอธิปติทุกนัย
[๑๘] นเหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ (ย่อ)

นปุเรชาตทุกนัย
[๑๙] นเหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปากปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ (ย่อ)

ทุกนัยมีนปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[๒๐] นเหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย ... นอาเสวนปัจจัย ... และ
นกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ปัญจกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนกัมมปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย
มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปากทุกนัย
[๒๑] นเหตุปัจจัย กับนวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
... กับนวิปากปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนกัมมปัจจัย)

นฌานทุกนัย
[๒๒] นเหตุปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

ฉักกนัย
นมัคคปัจจัย กับนฌานปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย
และนอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)

นมัคคทุกนัย
[๒๓] นเหตุปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนมัคคปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ปัญจกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับนมัคคปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย
มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)

นวิปปยุตตทุกนัย
[๒๔] นเหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวกนัย
นมัคคปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย และนวิปาก-
ปัจจัย มี ๑ วาระ (ย่อ)
การนับปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๒๕] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๒ วาระ
(พึงนับเหมือนกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๒๖] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สมนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

จตุกกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย และนปุเรชาตปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาต-
ปัจจัย นอาเสวนปัจจัย และนกัมมปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
นมัคคปัจจัย และนวิปปยุตตปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ (ย่อ)
นเหตุมูลกนัย จบ

นอธิปติทุกนัย
[๒๗] เหตุปัจจัย กับนอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นปุเรชาตทุกนัย
[๒๘] เหตุปัจจัย กับนปุเรชาตปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ (ย่อ)

ทุกนัยมีนปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[๒๙] เหตุปัจจัย กับนปัจฉาชาตปัจจัย ... กับนอาเสวนปัจจัย ... กับ
นกัมมปัจจัย ... กับนวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
ฯลฯ อวิคตปัจจัย ... มี ๓ วาระ (ย่อ)

นฌานทุกนัย
[๓๐] อารัมมณปัจจัย กับนฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นมัคคทุกนัย
[๓๑] อารัมมณปัจจัย กับนมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
อาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (ย่อ)

นวิปปยุตตทุกนัย
[๓๒] เหตุปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๒ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นัตถิปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ

ติกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัยและนเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สมนันตรปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาเสวนปัจจัย " " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
มัคคปัจจัย " " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย " " มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๑ วาระ ฯลฯ

ทสกนัย
อารัมมณปัจจัย กับนวิปปยุตตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอธิปติปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย นวิปากปัจจัย
และนมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
อนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๔. นิสสยวาร
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑ วาระ
ปัจจนียานุโลม จบ
ปฏิจจวาร จบ

๒. เวทนาติกะ ๒. สหชาตวาร
[๓๓] สภาวธรรมที่เกิดร่วมกับสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ฯลฯ

๓. ปัจจยวาร
[๓๔] ... ทำสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาให้เป็นปัจจัย ฯลฯ

๔. นิสสยวาร
[๓๕] ...อิงอาศัยสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
๕. สังสัฏฐวาร
[๓๖] สภาวธรรมที่เกิดระคนกับสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ฯลฯ

๖. สัมปยุตตวาร
[๓๗] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งสัมปยุตกับสภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ สัมปยุตกับขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (ย่อ)
สัมปยุตตวาร จบ

๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๓๘] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณปัจจัย
[๓๙] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถ แล้วพิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจาก
ฌานที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาด้วยจิตที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนา พระอริยะมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ละได้
แล้ว ซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น
บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนาเห็นแจ้งขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น เพราะ
ปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว กลับมีวิปฏิสาร โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อฌานที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเสื่อมไปแล้ว กลับมีวิปฏิสาร โทมนัสจึงเกิดขึ้น เพราะ
ปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ให้
ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ แล้วพิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุข-
เวทนา ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผลแล้ว
พิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พระอริยะมีจิตสัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว ซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนา พิจารณา
กิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
เห็นแจ้งขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
พระอริยะรู้จิตของบุคคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาด้วย
เจโตปริยญาณ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพ-
นิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณและอาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย เพราะปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๓)
[๔๐] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ เพราะปรารภโทสะ โทสะจึงเกิดขึ้น
โมหะจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภโมหะที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา โมหะจึงเกิดขึ้น
โทสะจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภกายวิญญาณ ที่สหรคตด้วยทุกข์ โทสะจึงเกิดขึ้น
โมหะจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วสุข-
เวทนา โดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา พิจารณา
กิเลสที่ละได้แล้ว ซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่
เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนาเห็นแจ้งขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เพราะปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขม-
สุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว ซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา พิจารณากิเลสที่
ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเห็นแจ้งขันธ์
ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา พระอริยะ
รู้จิตของบุคคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาด้วยเจโตปริยญาณ
ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณและอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย เพราะปรารภ
ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๔๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนา ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณาด้วยจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ออก
จากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พระ
อริยะมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว ซึ่งสัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิต
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา เห็นแจ้งขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น พระอริยะรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อม
ด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะ
เป็นปัจจัยแก่วิญญานัญจายตนะโดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัย
แก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขม-
สุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย เพราะ
ปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาจึง
เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผลแล้ว
พิจารณาด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา พระอริยะมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา
พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว ซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พิจารณากิเลสที่ข่มได้
แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนาเห็นแจ้งขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น เพราะปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว กลับมีวิปฏิสาร โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อ
ฌานที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเสื่อมแล้ว กลับมีวิปฏิสาร โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เพราะปรารภขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาจึง
เกิดขึ้น (๓)

อธิปติปัจจัย
[๔๒] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ให้ทาน สมาทาน
ศีล รักษาอุโบสถ แล้วพิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจากมรรค
ออกจากผลแล้วพิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่
บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ แล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผล แล้วพิจารณา


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
กุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ยินดี
เพลิดเพลินขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนา เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น ราคะที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๒)
[๔๓] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรม
ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
[๔๔] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ
และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลมีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถ แล้วพิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วย
จิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ออกจากฌานที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ออกจากมรรค ออกจากผลแล้วพิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วย
จิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุข-
เวทนาให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา เพราะ
ทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลมี
จิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ออก
จากฌานที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ออกจากมรรค ออกจากผล แล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่นด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ด้วยจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๒)

อนันตรปัจจัย
[๔๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลม
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่โคตรภูโดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่
โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล
ผลเป็นปัจจัยแก่ผล อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดย
อนันตรปัจจัย ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัย
แก่อุปปัตติจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิตที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิตโดยอนันตรปัจจัย กายวิญญาณที่สหรคตด้วย
สุขเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุที่เป็นวิบากโดยอนันตรปัจจัย มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบาก
ซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกิริยาโดยอนันตรปัจจัย
ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
โดยอนันตรปัจจัย กุศลและอกุศลที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา กิริยาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ผลเป็นปัจจัยแก่
วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (๒)
[๔๖] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุที่เป็นวิบากโดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัย
แก่วุฏฐานะที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย (๒)
[๔๗] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขม-
สุขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
โคตรภูที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล ผลเป็น
ปัจจัยแก่ผล อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่าน
ผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตร-
ปัจจัย ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ จุติจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็น
ปัจจัยแก่อุปปัตติจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย อาวัชชนจิตเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย มโนธาตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ภวังคจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ภวังคจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดย
อนันตรปัจจัย กุศลและอกุศลที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา กิริยาเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ ผลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ
เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอนันตรปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมนันตรปัจจัย
[๔๘] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอนันตรปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[๔๙] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัย แก่
ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาต-
ปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย (๑)
[๕๐] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย
(ไม่มีปฏิสนธิที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา) (๑)
[๕๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๑ โดยสหชาตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุข-
เวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑
โดยสหชาตปัจจัย (๑)

อัญญมัญญปัจจัยและนิสสยปัจจัย
[๕๒] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอัญญมัญญปัจจัยเป็นปัจจัยโดยนิสสยปัจจัย (อัญญมัญญปัจจัย
และนิสสยปัจจัยเหมือนสหชาตปัจจัย)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อุปนิสสยปัจจัย
[๕๓] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูป-
นิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลมีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาอาศัยศรัทธาที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาแล้วจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌานที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น (ทำอภิญญา
ให้เกิดขึ้น) ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ บุคคลอาศัยศีลที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ
... ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข จึงให้ทานด้วยจิตที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น (ในศีล สุตะ จาคะ และปัญญาซึ่งมี
ศรัทธาเป็นที่ ๕ พึงเพิ่มคำว่า มีมานะ ถือทิฏฐิ เข้าด้วย ในหมวดธรรมที่เหลือ
ไม่ต้องเพิ่มเข้า) บุคคลมีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ลักทรัพย์ พูดเท็จ พูดส่อเสียด
พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้นเรือนหลังเดียว ดักจี้ที่
ทางเปลี่ยว ผิดภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม ศรัทธาที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ
... ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ
... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข ขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคล
อาศัยศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน เสวยทุกข์มี
การ แสวงหาเป็นมูลอาศัยศีลที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา
ทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูลอาศัยราคะที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ...


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข จึงฆ่าสัตว์ มีจิตสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ลักทรัพย์
พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้น
เรือนหลังเดียว ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ผิดภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน ฆ่าชาวนิคม ฆ่า
มารดา ฆ่าบิดา ฆ่าพระอรหันต์ มีจิตประทุษร้ายทำพระโลหิตของพระตถาคต
ให้ห้อ ทำลายสงฆ์ ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ...
ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ...
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์และขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลมีจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาอาศัย
ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาแล้วจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ทำฌาน
ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำมรรคให้เกิดขึ้น
ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิอาศัยศีลที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ...
ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข จึงให้ทานด้วยจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ลักทรัพย์ มีจิตที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ งัดแงะ
ปล้นไม่ให้เหลือ ปล้นเรือนหลังเดียว ดักจี้ที่ทางเปลี่ยว ผิดภรรยาผู้อื่น ฆ่าชาวบ้าน
ฆ่าชาวนิคม ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา
... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... กายวิญญาณ
ที่สหรคตด้วยสุข และขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๕๔] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ

 

 

 

 


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ จึงฆ่าสัตว์ มีจิตที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์ จึงฆ่าสัตว์ มีจิตที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ
ทำลายสงฆ์ โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่โทสะ
... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์ ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
โดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ
มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีจิตสัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ฆ่าชาวบ้าน อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่
สหรคตด้วยทุกข์ มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม
โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนา ฯลฯ กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
โดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยโทสะ มีจิตที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม อาศัยโมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์
มีจิตที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ฆ่าชาวนิคม โทสะ ... โมหะ ...
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยทุกข์เป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ฯลฯ ความปรารถนา ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๕๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
มีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนา ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โมหะ ... มานะ
... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา มีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ
ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีจิตสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ฆ่าชาว
นิคม ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา
... ราคะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่
ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ความปรารถนา และขันธ์ที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูป-
นิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
มีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน ฯลฯ ถือทิฏฐิอาศัยศีลที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ความปรารถนา มีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา จึงให้ทาน
ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีจิตสัมปยุตด้วยสุขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ฆ่าชาว
นิคม ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ความปรารถนา และ
กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุขเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา ฯลฯ
ความปรารถนา ... กายวิญญาณที่สหรคตด้วยสุข ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนา
โดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาจึง
ทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน เสวยทุกข์ มีการแสวงหาเป็นมูลอาศัยศีลที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ความปรารถนา แล้วฆ่าสัตว์ มีจิตสัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนา ลักทรัพย์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่โทสะ ... โมหะ ... กายวิญญาณที่สหรคต
ด้วยทุกข์ ... ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)

อาเสวนปัจจัย
[๕๖] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย อนุโลม
ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภู
เป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
ซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อาเสวนปัจจัย อนุโลมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลม
เป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดย
อาเสวนปัจจัย (๑)

กัมมปัจจัย
[๕๗] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดย
กัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (๓)
[๕๘] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
วิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (๒)
[๕๙] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
นานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
โดยกัมมปัจจัย (๓)

วิปากปัจจัย
[๖๐] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยสุขเวทนา
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดย
วิปากปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
โดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งสัมปยุตด้วยทุกขเวทนา
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยวิปากปัจจัย ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนา ฯลฯ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ซึ่ง
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)

อาหารปัจจัยเป็นต้น
[๖๑] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอาหารปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยอินทรียปัจจัย ฯลฯ เป็น
ปัจจัยโดยฌานปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยมัคคปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดย
สัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยนัตถิปัจจัย
ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยวิคตปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยโดยอวิคตปัจจัย ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๖๒] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ

เหตุสภาคนัย
[๖๓] อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัญญมัญญปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

สามัญญฆฏนา (๒)
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๒ วาระ

สอินทรียมัคคฆฏนา (๒)
[๖๔] ปัจจัย ๙ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

สาธิปติอินทรียมัคคฆฏนา (๒)
[๖๕] ปัจจัย ๑๐ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๑ คือ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณสภาคนัย
[๖๖] อธิปติปัจจัย กับอารัมมณปัจจัย มี ๔ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ

อารัมมณฆฏนา (๑)
[๖๗] ปัจจัย ๓ คือ อารัมมณะ อธิปติ และอุปนิสสยะ มี ๔ วาระ

อธิปติสภาคนัย
[๖๘] เหตุปัจจัย กับอธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๔ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๓)

อธิปติฆฏนา (๙)
[๖๙] ปัจจัย ๓ คือ อธิปติ อารัมมณะ และอุปนิสสยะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๑ คือ อธิปติ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

อนันตรสภาคนัย
[๗๐] สมนันตรปัจจัย กับอนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๖)

ฆฏนา (๓)
[๗๑] ปัจจัย ๕ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ อาเสวนะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ กัมมะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๒ วาระ
... กับสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอนันตรปัจจัย)

สภาคนัยมีสหชาตปัจจัยเป็นต้น
[๗๒] เหตุปัจจัย กับสหชาตปัจจัย อัญญมัญญปัจจัย และ
นิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ (๑๓)

ฆฏนา (๒)
ปัจจัย ๖ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ นิสสยะ สหชาตะ อัญญมัญญะ วิปากะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อุปนิสสยสภาคนัย
[๗๓] อารัมมณปัจจัย กับอุปนิสสยปัจจัย มี ๔ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๘ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๘)

ฆฏนา (๕)
[๗๔] ปัจจัย ๓ คือ อุปนิสสยะ อารัมมณะ และอธิปติ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๕ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ นัตถิ และวิคตะ มี ๗
วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ อาเสวนะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๒ คือ อุปนิสสยะ และกัมมะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ อุปนิสสยะ อนันตระ สมนันตระ กัมมะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๒ วาระ

อาเสวนสภาคนัย
[๗๕] อนันตรปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๕)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฆฏนา (๑)
ปัจจัย ๖ คือ อาเสวนะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และวิคตะ
มี ๓ วาระ

กัมมสภาคนัย
[๗๖] อนันตรปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๓)

ฆฏนา (๔)
ปัจจัย ๒ คือ กัมมะ และอุปนิสสยะ มี ๘ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ กัมมะ อนันตระ สมนันตระ อุปนิสสยะ นัตถิ และอวิคตะ
มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ กัมมะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปากสภาคนัย
[๗๗] เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๓)

ฆฏนา (๑)
ปัจจัย ๗ คือ วิปากะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ

อาหารสภาคนัย
[๗๘] อธิปติปัจจัย กับอาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๐)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฆฏนา (๘)
ปัจจัย ๗ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ กัมมะ วิปากะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อาหาระ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

อินทรียสภาคนัย
[๗๙] เหตุปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารปัจจัย กับอินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๒)

ฆฏนา (๑๖)
ปัจจัย ๗ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อาหาระ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อาหาระ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๑ คือ อินทรียะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

ฌานสภาคนัย
[๘๐] สหชาตปัจจัย กับฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๙)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฆฏนา (๖)
ปัจจัย ๗ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ มัคคะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ มัคคะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ ฌานะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
มัคคะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

มัคคสภาคนัย
[๘๑] เหตุปัจจัย กับมัคคปัจจัย มี ๒ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฆฏนา (๑๔)
ปัจจัย ๗ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ ฌานะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ ฌานะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อินทรียะ
ฌานะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๙ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อินทรียะ
สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๑๐ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๑๑ คือ มัคคะ เหตุ อธิปติ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ
วิปากะ อินทรียะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ

สัมปยุตตสภาคนัย
[๘๒] เหตุปัจจัย กับสัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ (๑๓)

ฆฏนา (๒)
ปัจจัย ๖ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ สัมปยุตตะ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
(... กับอัตถิปัจจัย นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย อวิคตปัจจัย ฯลฯ)
อนุโลมแห่งปัญหาวาร จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัญหาวาร - ปัจจนียุทธาร
[๘๓] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๓)
[๘๔] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
ทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
สุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยทุกขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
อทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๓)
[๘๕] สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
และกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยสุขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยอทุกขมสุขเวทนาเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่สัมปยุต
ด้วยทุกขเวทนาโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๓)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๘๖] นเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๙ วาระ
นสหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ
นนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๙ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๙ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
โนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
โนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

นเหตุทุกนัย
[๘๗] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
นอุปนิสสยปัจจัย " " มี ๘ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย " " มี ๙ วาระ ฯลฯ

เอกวีสกนัย
โนอวิคตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย
นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย และนอาหารปัจจัย ฯลฯ มี ๘ วาระ
นเหตุมูลกนัย จบ
(ผู้รู้พึงนับให้เป็นมูลกนัยทั้งหมด เหมือนการนับจำนวนปัจจนียะแห่งกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุสภาคนัย
[๘๘] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

สามัญญฆฏนา
[๘๙] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ
นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับจำนวนอนุโลมปัจจนียะแห่งกุสลติกะที่ท่านได้นับไว้ตามแนว
แห่งการสาธยาย)
นเหตุปัจจัย กับกัมมปัจจัย มี ๘ วาระ
นอารัมมณปัจจัย " มี ๘ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๘ วาระ (ย่อ)
การนับอนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๙๐] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย " " มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ ฯลฯ

ฉักกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
และนสมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
อุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย (ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) และ
นนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ ฯลฯ

จตุวีสกนัย (สอุปนิสสยะ)
กัมมปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นอุปนิสสยปัจจัย
นปุเรชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นวิปาก-
ปัจจัย นอาหารปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคค-
ปัจจัย นสัมปยุตตปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย โนอัตถิปัจจัย
โนนัตถิปัจจัย โนวิคตปัจจัย และโนอวิคตปัจจัย มี ๘ วาระ

จตุวีสกนัย (สกัมมะ)
อุปนิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย นปุเร-
ชาตปัจจัย นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นกัมมปัจจัย
ฯลฯ โนวิคตปัจจัย และโนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
นเหตุมูลกนัย จบ

นอารัมมณทุกนัย
[๙๑] เหตุปัจจัย กับนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
กัมมปัจจัย " มี ๘ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนอวิคตทุกนัย
[๙๒] อารัมมณปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๔ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๘ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ ฯลฯ

จตุกกนัย
อนันตรปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย
มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๘ วาระ
นัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ

จตุวีสกนัย (สอุปนิสสยะ)
กัมมปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย
นอนันตรปัจจัย นสมนันตรปัจจัย นสหชาตปัจจัย นอัญญ-
มัญญปัจจัย นนิสสยปัจจัย นอุปนิสสยปัจจัย นปุเรชาตปัจจัย
นปัจฉาชาตปัจจัย นอาเสวนปัจจัย นวิปากปัจจัย นอาหาร-

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๖๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๒. เวทนาติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย นอินทรียปัจจัย นฌานปัจจัย นมัคคปัจจัย นสัมปยุตต-
ปัจจัย นวิปปยุตตปัจจัย โนอัตถิปัจจัย โนนัตถิปัจจัย และ
โนวิคตปัจจัย มี ๘ วาระ

จตุวีสกนัย (สกัมมะ)
อุปนิสสยปัจจัย กับโนอวิคตปัจจัย นเหตุปัจจัย ฯลฯ นนิสสยปัจจัย นปุเรชาต-
ปัจจัย ฯลฯ นกัมมปัจจัย ฯลฯ โนวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ
(พึงนับเวทนาติกะนี้ เหมือนการนับจำนวนปัจจนียานุโลมแห่งกุสลติกะที่ได้นับไว้แล้ว
ตามแนวทางแห่งการสาธยาย)

ปัจจนียานุโลม จบ
เวทนาติกะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
[๒] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัย
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๓] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป
๑ เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
และกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัยหทัยวัตถุ
เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
[๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากและที่ไม่เป็นวิบาก ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

อารัมมณปัจจัย
[๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
[๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
[๘] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
[๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก ไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อธิปติปัจจัย
[๑๐] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น (๓)
... อาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... มี ๓ วาระ

[๑๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น

[๑๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๑๓] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอนันตร-
ปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอารัมมณปัจจัย) เพราะสหชาตปัจจัย
(สหชาตปัจจัยเหมือนกับเหตุปัจจัยทั้งหมด)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ฯลฯ ที่เป็นภายนอก
... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
(สหชาตปัจจัยมีข้อต่างกันเท่านี้)

อัญญมัญญปัจจัย
[๑๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอัญญ-
มัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์ที่เป็น
วิบากเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และ
หทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์
๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
เพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๑๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)

นิสสยปัจจัยเป็นต้น
[๑๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนิสสย-
ปัจจัย (ย่อ) เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย

อาเสวนปัจจัย
[๑๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิด
ขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
กัมมปัจจัยและวิปากปัจจัย
[๑๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะกัมม-
ปัจจัย (ย่อ) เพราะวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ฯลฯ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... เกิดขึ้นเพราะ
วิปากปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... เกิดขึ้น
เพราะวิปากปัจจัย ฯลฯ

อาหารปัจจัยเป็นต้น
[๑๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะอาหาร-
ปัจจัย (ย่อ) เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย เพราะ
สัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย เพราะนัตถิปัจจัย
เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๒๐] เหตุปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๓ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๓ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๓ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๑๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เหตุทุกนัย
[๒๑] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
(พึงนับเหมือนการนับกุสลติกะ)

อาเสวนทุกนัย
[๒๒] เหตุปัจจัย กับอาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๒ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๒ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๒ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๒ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๒ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
วิปากทุกนัย
[๒๓] เหตุปัจจัย กับวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย " มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๖ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ (ย่อ)
การนับอนุโลม จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๒๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ อาศัยขันธ์ ๓ เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่ง
เป็นวิบากเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น (๓)
[๒๕] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วย
อุทธัจจะอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
จิตตสมุฏฐานรูปและกฎัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฎัตตารูป
ที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่เป็นวิบาก
อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฎัตตารูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)
[๒๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็น
อเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบากและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ กฎัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิด
ขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฎัตตารูปอาศัยขันธ์ที่
เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอารัมมณปัจจัย
[๒๗] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็น
วิบากเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฎัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น หทัยวัตถุ
อาศัยขันธ์เกิดขึ้น (๑)
[๒๘] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น (๑)
[๒๙] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น มหา-
ภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฎัตตารูปที่
เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น กฎัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
[๓๐] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
[๓๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะ
นอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอธิปติปัจจัย
[๓๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนอธิปติ-
ปัจจัย (ย่อ) (นอธิปติปัจจัยเหมือนกับสหชาตปัจจัยที่เป็นฝ่ายอนุโลม)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๓๓] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย เพราะ
นอัญญมัญญปัจจัย ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุ
เป็นสมุฏฐาน... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (นี้เป็นความต่างกัน) เพราะนอัญญมัญญปัจจัย เพราะ
นอุปนิสสยปัจจัย (ย่อ)

นปุเรชาตปัจจัย
[๓๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเร-
ชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น วิบาก ...
(ย่อ) (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบาก
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ (ย่อ)(๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบาก เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
เพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็น
วิบากเกิดขึ้น (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๓๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ใน
อรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่ไม่
เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัย
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก เกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากอาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น (๓)
[๓๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
และที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่ จิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูป
อาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาตปัจจัย ได้แก่
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเกิดขึ้น กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่เป็นวิบากและ
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๓๗] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนปุเรชาต-
ปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น

นปัจฉาชาตปัจจัยเป็นต้น
[๓๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนปัจฉา-
ชาตปัจจัย ฯลฯ เพราะนอาเสวนปัจจัย (ย่อ)

นกัมมปัจจัย
[๓๙] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน... มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ อุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น

นวิปากปัจจัย
[๔๐] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
อาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
[๔๑] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น ...ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเกิดขึ้น

นอาหารปัจจัย
[๔๒] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูป
เกิดขึ้น

นอินทรียปัจจัย
[๔๓] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐานเกิดขึ้น ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม รูปชีวิตินทรีย์
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น

นฌานปัจจัย
[๔๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนฌาน-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยปัญจวิญญาณเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก
... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ

นมัคคปัจจัย
[๔๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนมัคค-
ปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบาก ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ... อาศัย
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุ ... มี ๓ วาระ

นสัมปยุตตปัจจัย
[๔๖] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะนสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนสัมปยุตตปัจจัย มี ๒ วาระ
... อาศัยสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... มี ๑ วาระ

นวิปปยุตตปัจจัย
[๔๗] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะ
นวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิด
ขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
เพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรมที่ไม่
เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ใน
อรูปวาจรภูมิ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิด
ขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็น
สมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓
อาศัยมหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น

โนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย
[๔๘] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากอาศัยสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจัย (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๔๙] นเหตุปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๕ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

นเหตุทุกนัย
[๕๐] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " ม ี ๑๐ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ

ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " " มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " " มี ๓ วาระ ฯลฯ
นกัมมปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอาหารปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " " มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย " " มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นสัมปยุตตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๑ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ (ย่อ)
นเหตุมูลกนัย จบ
(แม้ในวิปากติกะนี้ก็พึงนับเหมือนที่นับไว้แล้วในกุสลติกะตามแนวแห่งการสาธยาย)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๕๑] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
ติกนัย
นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัยและอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " " มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " " มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ

จตุกกนัย
นปุเรชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย และอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ

นวกนัย
นปัจฉาชาตปัจจัย กับเหตุปัจจัย อารัมมณปัจจัย อธิปติปัจจัย อนันตรปัจจัย
(ย่อปัจจัยที่เป็นมูล) และปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๒ วาระ (ย่อ)
(พึงนับเหมือนการนับอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๕๒] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๕ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ

ติกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นิสสยปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " " มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย " " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " " มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ ฯลฯ

สัตตกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย นอารัมมณปัจจัย นอธิปติปัจจัย นอนันตรปัจจัย
นสมนันตรปัจจัย และนอัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนนเหตุมูลกนัยในกุสลติกะ ข้อความนี้พึงให้พิสดารเหมือนปัจจนียานุโลม
ในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ
ปฏิจจวาร จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๒. สหชาตวาร
๓. วิปากติกะ ๒. สหชาตวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
[๕๓] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดร่วมกับสภาวธรรมที่เป็นวิบากเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดร่วมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ขันธ์ ๑ เกิดร่วมกับขันธ์ ๓
ขันธ์ ๒ เกิดร่วมกับขันธ์ ๒ (ย่อ)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
[๕๔] เหตุปัจจัย มี ๑๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ ฯลฯ

๒. ปัจจยปัจจนียะ
[๕๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดร่วมกับสภาวธรรมที่เป็นวิบากเพราะนเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดร่วมกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะ ซึ่งเป็นวิบาก ขันธ์ ๑
เกิดร่วมกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดร่วมกับขันธ์ ๒ (ย่อ)

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๕๖] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๕๗] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ ฯลฯ
สหชาตวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๕๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์
๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
และ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ทำ
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
กฏัตตารูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๕)
[๕๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
และที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ กฏัตตารูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น กฏัตตารูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๖๐] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและ
ที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
อารัมมณปัจจัย
[๖๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น
เพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โสตวิญญาณทำโสตายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฆานวิญญาณทำ
ฆานายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ชิวหาวิญญาณทำชิวหายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
ทำขันธ์ ๒ และจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย
... ขันธ์ ๓ ทำ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์
๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่
เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

อธิปติปัจจัย
[๖๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อธิปติปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ... มี ๓ วาระ (อธิปติปัจจัย
ไม่มีในปฏิสนธิขณะ)
... ทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็น
อุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๔)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตต-
สมุฏฐานรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๕)
[๖๓] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
และที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ที่เป็นวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๖๔] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและ
ที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย
ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำมหาภูตรูปให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)

อนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย
[๖๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
อนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอารัมมณปัจจัย)

อัญญมัญญปัจจัย
[๖๖] ... เพราะสหชาตปัจจัย ฯลฯ เพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุทำ
ขันธ์ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์
๓ และหทัยวัตถุทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
[๖๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์
๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็น
สมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ ทำมหาภูตรูป ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้ เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่
เป็นวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒
ทำขันธ์ ๒ และจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย
ฯลฯ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำ
ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่
เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
นิสสยปัจจัย
[๖๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นิสสยปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับสหชาตปัจจัย)

อุปนิสสยปัจจัยและปุเรชาตปัจจัย
[๖๙] ... เพราะอุปนิสสยปัจจัย เพราะปุเรชาตปัจจัย ... ได้แก่ ขันธ์ ๓
ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย (ปัจจัยนี้
เหมือนกับอนันตรปัจจัย) (ย่อ)

อาเสวนปัจจัย
[๗๐] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำ
ขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ...
ทำขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่
เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ ๑ ทำขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒
และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
กัมมปัจจัย
[๗๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ (ปัจจัยนี้เหมือนกับสหชาตปัจจัย)

วิปากปัจจัย
[๗๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
วิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่
มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ มหาภูตรูป ๒
ทำมหาภูตรูป ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็น
อุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นวิบากและ
สภาวธรรมทั้ง ๒ มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ... มี
๓ วาระ

อาหารปัจจัยเป็นต้น
... เพราะอาหารปัจจัย เพราะอินทรียปัจจัย เพราะฌานปัจจัย เพราะ
มัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย
เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๗๓] เหตุปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๙ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๑๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๗ วาระ

เหตุทุกนัย
[๗๔] อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๗ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับในกุสลติกะ)
อนุโลม จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๗๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะ
นเหตุปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบาก ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต
ด้วยอุทธัจจะ ทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ... ทำ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะที่สหรคตด้วย
วิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเป็นอเหตุกะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จิตตสมุฏฐานรูป
ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นในปฏิสนธิขณะซึ่งเป็นอเหตุกะ ฯลฯ (๔)
[๗๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบาก ... ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็น
วิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่
เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ โมหะ
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น

นอารัมมณปัจจัย
[๗๗] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากทำสภาวธรรมที่เป็น
วิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย (ย่อ พึงขยายทุกบทให้พิสดาร)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๗๘] นเหตุปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๕ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๗ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๔ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
นฌานปัจจัย มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

นเหตุทุกนัย
[๗๙] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๑ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๑ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๔ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๓. ปัจจยวาร
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๘๐] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๑๗ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๘๑] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๙ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๔ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๑๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๔. นิสสยวาร
ฌานปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๒ วาระ

ติกนัย
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัยและนอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " " มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " " มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ
ปัจจยวาร จบ

๓. วิปากติกะ ๔. นิสสยวาร
๑-๔. ปัจจยจตุกกนัย
[๘๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากอิงอาศัยสภาวธรรมที่เป็นวิบากให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อิงอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
เหตุปัจจัย มี ๑๗ วาระ ฯลฯ
นเหตุปัจจัย มี ๑๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
นิสสยวาร จบ

๓. วิปากติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๘๓] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นวิบากเพราะเหตุปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก (ย่อ พึงขยายทุกบทให้พิสดาร)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๘๔] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
(ย่อ พึงนับเหมือนการนับในกุสลติกะ)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
[๘๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดระคนกับสภาวธรรมที่เป็นวิบากเพราะนเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งเป็นวิบาก ฯลฯ ขันธ์ ๒
เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (พึงจำแนกทุกบท)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
[๘๖] นเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๘๗] นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๘๘] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ
สังสัฏฐวาร จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
๓. วิปากติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
๑-๔. ปัจจยจตุกกนัย
[๘๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากสัมปยุตกับสภาวธรรมที่เป็นวิบากเกิดขึ้นเพราะ
เหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ สัมปยุตกับขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเกิดขึ้น ฯลฯ
เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
สัมปยุตตวาร จบ

๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๙๐] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยเหตุปัจจัย
ได้แก่ เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ
เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยเหตุ-
ปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๓)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๙๑] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัย
แก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
เหตุปัจจัย

อารัมมณปัจจัย
[๙๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอารัมมณ-
ปัจจัย ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศล
และอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผล เห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นวิบากโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
ขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อม
ด้วยจิตที่เป็นวิบากด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๒)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณาผล เห็นแจ้งขันธ์ที่เป็น
วิบาก โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคลผู้มีความ
พรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิบากด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย (๓)
[๙๓] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้น พิจารณากุศลที่สั่งสมไว้ดีแล้ว ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌาน
พระเสขะพิจารณาโคตรภู พิจารณาโวทาน ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรค พิจารณา
กิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากด้วยเจโตปริยญาณ
อากาสานัญจายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกุศลโดยอารัมมณปัจจัย
อากิญจัญญายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกุศลโดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสา-
นุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดย
อารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่
เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
ขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับไปแล้ว
จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ อากาสานัญจายตนกุศลเป็น
ปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ฯลฯ อากิญจัญญายตนกุศล
เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนวิบากโดยอารัมมณปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์ออกจากมรรคแล้ว


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
พิจารณามรรค พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว รู้กิเลส
ที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้งขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่เป็นวิบากด้วยเจโตปริยญาณ
อากาสานัญจายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
อากิญจัญญายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๓)
[๙๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอรหันต์
พิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระอรหันต์
เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ
... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ
... ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มี
ความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากด้วยเจโตปริยญาณ
อากาสานัญจายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนกิริยาโดยอารัมมณปัจจัย
อากิญจัญญายตนกิริยาเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยา โดยอารัมมณปัจจัย
ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม ที่
เป็นวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่ผลโดยอารัมมณปัจจัย
พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้น
โดยเป็นตทารมณ์ เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง
... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ
โดยอารัมมณปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะพิจารณานิพพาน
นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทานและมรรคโดยอารัมมณปัจจัย พระเสขะหรือ
ปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
และอนาคตังสญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๓)

อธิปติปัจจัย
[๙๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอธิปติ-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติ-
ปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระเสขะพิจารณาผลให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่เป็นวิบากให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอธิปติปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว ได้แก่ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติ-
ปัจจัย (๔)
[๙๖] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พระเสขะพิจารณาโคตรภูให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาโวทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะ
จึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและ
สหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอรหันต์ออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ
อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอรหันต์พิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ นิพพาน
เป็นปัจจัยแก่ผลโดยอธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระ
เสขะพิจารณานิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู
โวทานและมรรคโดยอธิปติปัจจัย บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินโสตะ ฯลฯ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดี
เพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึง
เกิดขึ้น (๓)

อนันตรปัจจัย
[๙๗] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอนันตร-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเกิด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
หลังๆ โดยอนันตรปัจจัย ปัญจวิญญาณเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุที่เป็นวิบากโดย
อนันตรปัจจัย มโนธาตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบากโดย
อนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ภวังคจิตเป็นปัจจัยแก่อาวัชชนจิตโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกิริยาโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็น
ปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทาน
เป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดย
อนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ มรรคเป็น
ปัจจัยแก่ผล อนุโลมของพระเสขะเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญา-
ยตนกุศลของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ ๕ โดย
อนันตรปัจจัย ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะ
อนุโลมของพระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนกิริยาของ
ท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากโดยอนันตรปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สมนันตรปัจจัย
[๙๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยสมนันตร-
ปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอนันตรปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[๙๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยสหชาต-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ฯลฯ มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยสหชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ...
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
เป็นวิบากโดยสหชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็น
วิบากและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์
ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์
ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยสหชาตปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสหชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาต-
ปัจจัย (๑)

อัญญมัญญปัจจัย
[๑๐๐] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอัญญ-
มัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบาก ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็น
ปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยอัญญมัญญปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่
เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุโดยอัญญมัญญปัจจัย ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่เป็นวิบากฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นวิบาก ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุ
ฯลฯ (๑) (มี ๗ วาระ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
นิสสยปัจจัย
[๑๐๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยนิสสย-
ปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบาก ฯลฯ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยนิสสยปัจจัย ฯลฯ
กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบาก ฯลฯ
ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบาก ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณ
และจักขายตนะ ฯลฯ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณและกายายตนะ ฯลฯ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากและหทัยวัตถุ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยนิสสยปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ที่
เป็นวิบากและมหาภูตรูป ฯลฯ (ย่อ) ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากและหทัยวัตถุ ฯลฯ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป (๒) (มี ๑๓
วาระ)

อุปนิสสยปัจจัย
[๑๐๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ สุขทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย ทุกข์ทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์
ทางกายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย ผลสมาบัติเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายโดย
อุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
อุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลทำสุขทางกายแล้วจึงให้ทาน สมาทานศีล
ฯลฯ ทำลายสงฆ์ทำทุกข์ทางกายแล้วจึงให้ทาน สมาทานศีล ฯลฯ ทำลายสงฆ์
สุขทางกาย ทุกข์ทางกายเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ความปรารถนาโดย
อุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ พระอรหันต์ทำสุขทางกายแล้วทำกิริยาสมาบัติที่ยังไม่
เกิดให้เกิดขึ้น เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทำทุกข์ทางกายแล้ว ทำกิริยาสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๑๐๓] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลทำศรัทธาแล้วจึงให้ทาน ฯลฯ มีมานะ ถือทิฏฐิ
ทำศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญาจึงให้ทาน ฯลฯ ถือทิฏฐิอาศัยราคะ ... โทสะ
... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนาแล้วจึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติ
ให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ ความปรารถนาเป็น
ปัจจัยแก่ศรัทธา ... ศีล ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรม
ปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ปฐมฌาน ฯลฯ บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็น
ปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ ปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน ฯลฯ
อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ
บริกรรมปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ปฐมมรรค ฯลฯ บริกรรมจตุตถมรรคเป็นปัจจัยแก่
จตุตถมรรค ฯลฯ ปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ฯลฯ ทุติยมรรคเป็นปัจจัยแก่
ตติยมรรค ตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย พระเสขะทำ
มรรคจึงทำกุศลสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ฯลฯ มรรคของพระเสขะเป็นปัจจัยแก่
อัตถปฏิสัมภิทา ฯลฯ ความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย
ปาณาติบาตเป็นปัจจัยแก่ปาณาติบาต ฯลฯ มิจฉาทิฏฐิโดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ
มิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่มิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ พยาบาท ฯลฯ มาตุฆาตกรรมเป็น
ปัจจัยแก่มาตุฆาตกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ เป็นปัจจัยแก่นิยตมิจฉาทิฏฐิโดย
อุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ นิยตมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่นิยตมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ
สังฆเภทกกรรมโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอุป-
นิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลทำศรัทธาแล้วทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน
เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล ฯลฯ ทำความปรารถนาแล้วทำตนให้เดือดร้อน ให้
ร้อนรน ฯลฯ ศรัทธา ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย ทุกข์ทางกาย
และผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นปัจจัยแก่วิบาก
โดยอุปนิสสยปัจจัย มรรคเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ
ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ พระอรหันต์ทำมรรคแล้วทำกิริยาสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้
เกิดขึ้น เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็น
ทุกข์ เป็นอนัตตา มรรคของพระอรหันต์เป็นปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ฯลฯ
ความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๑๐๔] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง
คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ พระอรหันต์ทำอุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วทำ
กิริยาสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น เข้ากิริยาสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย
ทุกข์ทางกายและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลทำอุตุแล้วจึงให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ทำโภชนะ
... เสนาสนะแล้วจึงให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะ
เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุเรชาตปัจจัย
[๑๐๕] สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง
คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
ฯลฯ กาย ... รูป ฯลฯ โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ
เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุ-
ปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
จักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว
จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ หทัยวัตถุ
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์
รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายา-
ยตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดย
ปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ
และวัตถุปุเรชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุ ฯลฯ เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ และหทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ ฯลฯ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
ปุเรชาตปัจจัย (๓)

ปัจฉาชาตปัจจัย
[๑๐๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเกิดภายหลัง
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๑๐๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดหลัง ๆ ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่
โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัย
แก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบาก
และไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัย ฯลฯ โดยอาเสวนปัจจัย
ฯลฯ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย
[๑๐๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยกัมม-
ปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ เจตนาที่เป็นวิบาก ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เจตนาที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูป ฯลฯ
เจตนาเป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เจตนาที่เป็น
วิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดย
กัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง ได้แก่ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
กัมมปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่
ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ
ได้แก่ เจตนาที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและกฏัตตารูปโดย
กัมมปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็น
เหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยกัมมปัจจัย (๑)

วิปากปัจจัย
[๑๐๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยวิปาก
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยวิปากปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยวิปากปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
วิปากปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็น
วิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารปัจจัย
[๑๑๐] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอาหาร-
ปัจจัย ได้แก่ อาหารที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์ มี ๓ วาระ (พึงทำ
แม้ปฏิสนธิให้เป็น ๓ วาระ)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยอาหารปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
อาหารปัจจัย กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหารปัจจัย (๑)

อินทรียปัจจัย
[๑๑๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอินทรีย-
ปัจจัย มี ๓ วาระ (พึงเพิ่มปฏิสนธิ)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยอินทรียปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยอินทรียปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ จักขุนทรีย์เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดย
อินทรียปัจจัย กายินทรีย์ ฯลฯ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ จักขุนทรีย์และจักขุวิญญาณเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย กายินทรีย์และกาย-
วิญญาณเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณโดยอินทรียปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฌานปัจจัย
[๑๑๒] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยฌาน-
ปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยฌานปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยฌานปัจจัย

มัคคปัจจัย
[๑๑๓] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยมัคค-
ปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยมัคคปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่ไม่เป็น
วิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยมัคคปัจจัย

สัมปยุตตปัจจัย
[๑๑๔] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยสัมป-
ยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ขันธ์ ๒
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยสัมปยุตตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ขันธ์ ๒ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสัมปยุตตปัจจัย

วิปปยุตตปัจจัย
[๑๑๕] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตต-
ปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดย
วิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
วิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน
โดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ
สหชาตะ ปุเรชาตะ และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดย
วิปปยุตตปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะ
เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดย
วิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)

อัตถิปัจจัย
[๑๑๖] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอัตถิ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิ-
ปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๑๑๗] สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้
เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อน
โดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่
เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก ฯลฯ มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก
...ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ... สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
ปุเรชาตะ ได้แก่ พระอรหันต์เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุ
ให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอัตถิปัจจัย
รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดย
อัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
ฯลฯ ยินดี เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น ฯลฯ เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบาก จึง
เกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ ฯลฯ เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ หทัยวัตถุ ฯลฯ จิตตุปบาท
ที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ ฯลฯ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ
ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่
จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะ
หรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ ยินดี ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นแจ้งโสตะ ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
อัตถิปัจจัย (๓)
[๑๑๘] สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
ปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่สหรคตด้วยจักขุวิญญาณและจักขายตนะเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ที่สหรคตด้วยกายวิญญาณ ฯลฯ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากและ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ
สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระและอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่เป็นวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นวิบากและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
ฯลฯ ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งเกิดภายหลังและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
อัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ
สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
๓ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอัตถิปัจจัย มี
๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระและอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากซึ่งเกิดภายหลังและ
รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๒)

นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคตปัจจัย
[๑๑๙] สภาวธรรมที่เป็นวิบาก (นัตถิปัจจัยและวิคตปัจจัยเหมือนกับอนันตร-
ปัจจัย อวิคตปัจจัยเหมือนกับอัตถิปัจจัย)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๑๒๐] เหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาคนัย
อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๕ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับอนุโลมแห่งปัญหาวารในกุสลติกะที่นับไว้แล้ว)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจนียุทธาร
[๑๒๑] สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดย
อารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดย
อารัมมณปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิด
วิบากโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปัจฉาชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบาก
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสหชาตปัจจัย (๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
โดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากโดย
อารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและ
ไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปัจฉา-
ชาตปัจจัย และกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่
เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยกัมมปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
และที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยสหชาตปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุป-
นิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่
เป็นวิบากโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรม
ที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัยและปุเรชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่เป็นวิบาก มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ (๑)
สภาวธรรมที่เป็นวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระและอินทรียะ (๒)
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
ปุเรชาตะ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่เป็นเหตุให้เกิดวิบากและที่ไม่เป็นวิบากไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบากเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่ไม่เป็นวิบากและไม่เป็นเหตุให้เกิดวิบาก มี ๔ อย่าง คือ
สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (๒)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๑๒๒] นเหตุปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นสหชาตปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นนิสสยปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๑๕ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑๖ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๐ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
โนอัตถิปัจจัย มี ๑๐ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๑๖ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๑๖ วาระ
โนอวิคตปัจจัย มี ๑๐ วาระ

สภาคนัย
นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๖ วาระ ฯลฯ
โนอวิคตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุสภาคนัย
[๑๒๓] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
นอินทรียปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (๑๙)

ฆฏนา
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ ผู้รู้พึงสาธยายมัคค-
ปัจจัยนี้)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๑๒๔] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๓. วิปากติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ

ติกนัย
อธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๑๓ วาระ
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ
วิปากติกะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์
เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ
มหาภูตรูป ๒ อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถึอและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน เกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น
มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กรรมประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น

อารัมมณปัจจัย
[๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของ อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ เพราะอารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ

ธิปติปัจจัย
[๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
อาศัยมหาภูตรูป เกิดขึ้น

อนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของ อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอนันตรปัจจัย เพราะสมนันตรปัจจัย เพราะ
สหชาตปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป
๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จิตต-
สมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มี
อาหารเป็นสมุฏฐาน .... ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ (๑)

อัญญมัญญปัจจัย
[๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุอาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิด
ขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒
อาศัยมหาภูตรูป ๒ เกิดขึ้น สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป
๑ ฯลฯ (๑)
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ที่มี
อุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๑)
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นิสสยปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัย
[๖] ... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... เพราะนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ ... เพราะอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ วาระ

ปุเรชาตปัจจัย
[๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ

อาเสวนปัจจัย
[๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ แต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ (๑)

กัมมปัจจัย
[๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะกัมมปัจจัย (มี ๙ วาระ เหมือนกับเหตุปัจจัย)

วิปากปัจจัย
[๑๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน เกิดขึ้น ฯลฯ มี ๙ วาระ

อาหารปัจจัยเป็นต้น
[๑๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะอาหารปัจจัย ฯลฯ เพราะอินทรียปัจจัย เพราะ
ฌานปัจจัย เพราะมัคคปัจจัย เพราะสัมปยุตตปัจจัย เพราะวิปปยุตตปัจจัย เพราะอัตถิปัจจัย
เพราะนัตถิปัจจัย เพราะวิคตปัจจัย เพราะอวิคตปัจจัย
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนปฏิจจวารแห่งกุสลติกะที่ท่านขยายให้พิสดารตาม
แนวทางแห่งการสาธยาย)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๑๒] เหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๙ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๙ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๙ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๓ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

เหตุทุกนัย
อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๙ วาระ
(พึงนับเหมือนการนับปฏิจจะในกุสลติกะที่นับไว้ตามแนวทางแห่งการสาธยาย)
อนุโลม จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๑๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ขันธ์ ๓ และ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น หทัยวัตถุ
อาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัยมหาภูตรูป ๑
เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของ อุปาทานเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน
รูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของ อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒
เกิดขึ้น (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์อุปาทานเกิดขึ้น ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ...
อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ... ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
ฯลฯ อุปาทายรูปอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคต
ด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่เป็นอเหตุกะ
ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอารัมมณปัจจัย
[๑๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ
กฏัตตารูปอาศัยขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ
สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น
... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ...
อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของ อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัย
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอธิปติปัจจัย
[๑๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย (ปฏิสนธิบริบูรณ์แล้ว) มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
... อาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๑๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอนันตรปัจจัย ฯลฯ เพราะนสมนันตรปัจจัย
เพราะนอัญญมัญญปัจจัย เพราะนอุปนิสสยปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย เพราะ
นปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย ฯลฯ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นวิบากซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นกัมมปัจจัย
[๑๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ... ที่เป็น
ภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานอาศัยขันธ์ที่เป็นกุศล
ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น (๑)

นวิปากปัจจัย
[๑๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ สำหรับเหล่าอสัญญ-
สัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปอาศัย
มหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑
ที่เป็นกุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์
ที่เป็นกุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและอาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)

นอาหารปัจจัย
[๑๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ สำหรับเหล่าอสัญญสัตต-
พรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ...
อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ

นอินทรียปัจจัย
[๒๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ สำหรับเหล่าอสัญญ-
สัตตพรหม รูปชีวิตินทรีย์อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนอินทรียปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ...
ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ

นฌานปัจจัย
[๒๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
สหรคตด้วยปัญจวิญญาณเกิดขึ้น ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ...
อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนฌานปัจจัย ได้แก่ ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มี
อาหารเป็นสมุฏฐาน ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ

นมัคคปัจจัย
[๒๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนมัคคปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็น
อเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เกิดขึ้น มี ๕ วาระ

นสัมปยุตตปัจจัย
[๒๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนสัมปยุตตปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับนอารัมมณ-
ปัจจัย)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นวิปปยุตตปัจจัย
[๒๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑
ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ ขันธ์ ๓
อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... อาศัย
มหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของ อุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะนวิปปยุตตปัจจัย ได้แก่ ในอรูปาวจรภูมิ
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)

โนนัตถิปัจจัยและโนวิคตปัจจัย
[๒๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนปัจจนียวารในกุสลติกะ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๒๖] นเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๖ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๖ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๖ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๖ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๒ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๖ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๖ วาระ

นเหตุทุกนัย
นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๑. ปฏิจจวาร
นอนันตรปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ ฯลฯ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๕ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๑ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
นฌานปัจจัย " มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย " มี ๔ วาระ
(พึงนับเหมือนในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๒๗] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ ฯลฯ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๒ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๖ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๖ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย " มี ๖ วาระ
(พึงนับเหมือนอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๒. สหชาตวาร
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๒๘] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
สหชาตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๒ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๕ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๒ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๒ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๑ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ
ฌานปัจจัย " มี ๕ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๒ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ
(พึงนับเหมือนปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ ปฏิจจวาร จบ

๔. อุปาทินนติกะ ๒. สหชาตวาร
๑-๔. ปัจจยจตุกกนัย
[๒๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดร่วมกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเพราะเหตุปัจจัย (ปฏิจจวารและสหชาตวารเหมือนกัน)
สหชาตวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๓๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ หทัยวัตถุทำขันธ์ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็น ปัจจัยเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ ทำมหาภูตรูป ๑ ให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ฯลฯ กฏัตตารูป ที่เป็นอุปาทายรูปทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๔)
[๓๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน และทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูป
ทำขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อุปาทาน ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำมหาภูตรูป
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์
๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

อารัมมณปัจจัย
[๓๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำ
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
ขันธ์ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น ฯลฯ กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๗๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำ
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำ
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอารัมมณปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อธิปติปัจจัย
[๓๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย มี ๑ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ฯลฯ เพราะอธิปติปัจจัย ฯลฯ (๑)
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ฯลฯ เพราะอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น

อนันตรปัจจัย
[๓๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะอนันตรปัจจัย
(พึงขยายปัจจัย ๒๔ ให้พิสดาร) ... เพราะอวิคตปัจจัย

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๓๕] เหตุปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๗ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๗ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๖ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๑๑ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อาหารปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๑๑ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๑๑ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๑๑ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๑ วาระ

เหตุทุกนัย
อารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
(พึงนับเหมือนในกุสลติกะ)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๑. วิภังควาร
นเหตุปัจจัย
[๓๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑ ที่
เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จักขุวิญญาณทำจักขายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
กายวิญญาณทำกายายตนะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น โมหะที่
สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏ-
ฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มี
อาหารเป็นสมุฏฐาน ... ทำมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ รูป ... โมหะ
ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
ทำมหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุให้
เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะทำขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและ
ที่สหรคตด้วยอุทธัจจะและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

นอารัมมณปัจจัย
[๓๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอารัมมณปัจจัย (ย่อ)

นอธิปติปัจจัย
[๓๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ... ทำขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็น
ปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ (๔)
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ... (มี ๑ วาระ)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรม
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำ
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ อธิบดีธรรมที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอธิปติปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปทำขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำ
มหาภูตรูปให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)

นอนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๓๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอนันตรปัจจัย เพราะนสมนันตรปัจจัย
เพราะนอัญญมัญญปัจจัย เพราะนอุปนิสสยปัจจัย เพราะนปุเรชาตปัจจัย เพราะ
นปัจฉาชาตปัจจัย เพราะนอาเสวนปัจจัย ฯลฯ

นกัมมปัจจัย
[๔๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศล
ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำ
หทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำขันธ์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ... ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... ทำมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำขันธ์ที่เป็น
กุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศล
ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำ
ขันธ์ที่เป็นกุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
นวิปากปัจจัย
[๔๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม ... ทำมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เป็น
กุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
ทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น (๓)
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๑ วาระ
... ทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของ อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย (ย่อ)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ ทำขันธ์ ๑ ที่ กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและทำหทัยวัตถุ
ให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ ทำขันธ์ ๒ และทำหทัยวัตถุให้เป็นปัจจัย
เกิดขึ้น

นอาหารปัจจัยเป็นต้น
[๔๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานทำสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานให้เป็นปัจจัยเกิดขึ้นเพราะนอาหารปัจจัย เพราะนอินทรียปัจจัย
เพราะนฌานปัจจัย เพราะนมัคคปัจจัย เพราะนสัมปยุตตปัจจัย เพราะนวิปปยุตต-
ปัจจัย เพราะโนนัตถิปัจจัย เพราะโนวิคตปัจจัย (ย่อ)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
[๔๓] นเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๘ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๖ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๖ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๖ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๑ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๓. ปัจจยวาร
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๑ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๖ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๒ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๒ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๒ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๕ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๖ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๖ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๖ วาระ
(พึงนับโดยพิสดาร)

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
[๔๔] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย " มี ๖ วาระ
(พึงนับโดยพิสดาร)

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
[๔๕] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ
ปัจจยวาร จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๔. อุปาทินนติกะ ๔. นิสสยวาร
[๔๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานอาศัยสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้น ...
อาศัยขันธ์ ๓ (ย่อ)
(ปัจจยวารและนิสสยวารเหมือนกัน)
นิสสยวาร จบ

๔. อุปาทินนติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
๑. ปัจจยานุโลม
เหตุปัจจัย
[๔๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดระคนกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทาน เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ขันธ์ ๑
เกิดระคนกับขันธ์ ๓ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓
เกิดระคนกับขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดระคนกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดระคนกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน เพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับ
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ (๑) (ย่อ)

สังขยาวาร
[๔๘] เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อธิปติปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
(พึงนับเหมือนในกุสลติกะ)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจยปัจจนียะ
นเหตุปัจจัย
[๔๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเกิดระคนกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทาน เพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับ
ขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ
ฯลฯ (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๕. สังสัฏฐวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเกิดระคนกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ เกิดระคนกับขันธ์ ๑
ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน ฯลฯ ขันธ์ ๒ เกิดระคนกับขันธ์ ๒ โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่
สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดระคนกับขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะ
(๑) (ย่อ)
นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ (ย่อ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจนียานุโลมปัจจนียะ
นอธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๒ วาระ
สังสัฏฐวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
๔. อุปาทินนติกะ ๖. สัมปยุตตวาร
[๕๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานสัมปยุตกับสภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย (ย่อ)
เหตุปัจจัย มี ๓ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี ๓ วาระ
(สังสัฏฐวารและสัมปยุตตวารเหมือนกัน)
สัมปยุตตวาร จบ

๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๕๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยเหตุปัจจัย
ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
เหตุปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
เหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณปัจจัย
[๕๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็น
แจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อ
กุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ เห็นแจ้ง
โสตะ .... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... กลิ่น... รส... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ...
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
เป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความ
ยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศล
และอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ รูปายตนะที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
จักขุวิญญาณ ฯลฯ คันธายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... รสายตนะ ... โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กาย-
วิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ
... ชิวหา ... กาย ... รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทาน กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
เพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็น
รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานด้วย
ทิพพจักขุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ อุปาทานด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังสญาณ และ
อาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๒)
[๕๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ บุคคลให้ทาน
สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว
ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌาน พระอริยะพิจารณาโคตรภู พิจารณาโวทาน
พิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น เห็นแจ้ง
รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน...
เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น
ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เห็นรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้
มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ
โดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะโดย
อารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ
ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้ง
รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ...
เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้น ราคะ
จึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่
เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ อากาสานัญจายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่
วิญญาณัญจายตนวิบากโดยอารัมมณปัจจัย อากิญจัญญายตนกุศลเป็นปัจจัยแก่
เนวสัญญานาสัญญายตนวิบากโดยอารัมมณปัจจัย รูปายตนะที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ
ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย (๒)
[๕๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ นิพพานเป็น
ปัจจัยแก่มรรคและผลโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรค
แล้วพิจารณามรรค พิจารณาผล พิจารณานิพพาน นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู
โวทาน และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระอริยะรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่ง
พร้อมด้วยจิตที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติ-
ญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อธิปติปัจจัย
[๕๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่
บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดี
เพลิดเพลินจักษุนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
ยินดีเพลิดเพลินโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูปที่กรรมอันประกอบ ด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ...
หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้น
นั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง ได้แก่ อารัมมณาธิปติ
และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถและ
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พระเสขะพิจารณาโคตรภูให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาโวทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ
... ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้นให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดย
อธิปติปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติ
และสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ นิพพาน เป็นปัจจัยแก่มรรคและผลโดยอธิปติปัจจัย
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของ อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอธิปติปัจจัย มี ๒ อย่าง คืออารัมมณาธิปติและ
สหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้วพิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณา
นิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภูและโวทานโดย
อธิปติปัจจัย
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยเป็นอธิปติ-
ปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย
[๕๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย ปัญจวิญญาณเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุที่เป็นวิบากโดย
อนันตรปัจจัย มโนธาตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบากโดย
อนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ภวังคจิตเป็นปัจจัยแก่
อาวัชชนจิต มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบากเป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกิริยา
โดยอนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานซึ่งเกิด
หลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่วิญญาณ
๕ โดยอนันตรปัจจัย ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค
โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค อนุโลมเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญา-
ยตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของ อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานซึ่งเกิดก่อน ๆ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล ผลเป็นปัจจัย
แก่ผลโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอนันตรปัจจัย ผลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตร-
ปัจจัย (๒)

สมนันตรปัจจัย
[๕๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสมนันตรปัจจัย (ปัจจัยนี้เหมือนกับอนันตรปัจจัย)

สหชาตปัจจัย
[๕๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยสหชาต-
ปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยสหชาตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
และกฏัตตารูป ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ ฯลฯ มหาภูตรูป ๓ เป็นปัจจัย
แก่มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ ฯลฯ มหา-
ภูตรูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดย
สหชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือ และเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยสหชาตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยสหชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย มหาภูตรูป ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูป ฯลฯ ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๑
ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่อุปาทายรูปโดยสหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยสหชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยสหชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยสหชาตปัจจัย (๒)

อัญญมัญญปัจจัย
[๕๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓
โดยอัญญมัญญปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และหทัยวัตถุ ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ หทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ ฯลฯ
มหาภูตรูป ๒ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๒ ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม
... มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัญญมัญญปัจจัย มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ ที่
เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ... มหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน
ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัญญมัญญปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๓ ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)

นิสสยปัจจัย
[๖๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดย
นิสสยปัจจัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ ฯลฯ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ
ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสย-
ปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยนิสสยปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
นิสสยปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยนิสสยปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยนิสสยปัจจัย (๔)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๑ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทาน ... มี ๓ วาระ
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓
โดยนิสสยปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยนิสสย-
ปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึด ถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนิสสยปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยนิสสยปัจจัย ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยนิสสยปัจจัย
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยนิสสยปัจจัย (๑)

อุปนิสสยปัจจัย
[๖๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ สุขทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายและทุกข์ทางกาย
โดยอุปนิสสยปัจจัย ทุกข์ทางกายเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายและทุกข์ทางกาย ฯลฯ
อุตุเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายและทุกข์ทางกาย ฯลฯ โภชนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกาย
และทุกข์ทางกาย ฯลฯ สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะเป็นปัจจัย
แก่สุขทางกายและทุกข์ทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยสุขทางกายแล้วให้ทาน สมาทานศีล
รักษาอุโบสถ ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น
ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ อาศัยทุกข์ทางกาย ... อุตุ ...
โภชนะแล้วให้ทาน ฯลฯ ทำลายสงฆ์ สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย ... อุตุ
... โภชนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โทสะ
... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา โดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ
ได้แก่ บุคคลอาศัยสุขทางกายแล้วทำมรรคให้เกิดขึ้น เข้าผลสมาบัติอาศัยทุกข์ทาง
กาย ... อุตุ ... โภชนะแล้วทำมรรคให้เกิดขึ้น เข้าผลสมาบัติ สุขทางกาย ...
ทุกข์ทางกาย ... อุตุ ... โภชนะเป็นปัจจัยแก่มรรคและผลสมาบัติโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย (๓)
[๖๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ
อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานแล้วให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ
ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น
มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีลที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โทสะ ... โมหะ
... มานะ ... ทิฏฐิ ... ความปรารถนา ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะแล้วให้ทาน
ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น มีมานะ ถือทิฏฐิ ฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธาที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ...
ศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ...ทิฏฐิ
...ความปรารถนา ... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธาที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... ศีล ... สุตะ
... จาคะ ... ปัญญา ... ราคะ ... โทสะ ... โมหะ ... มานะ ... ทิฏฐิ ...
ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรมปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ปฐมฌาน ฯลฯ
บริกรรมเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ
ปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ทุติยฌาน ฯลฯ อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญา-
นาสัญญายตนะ ฯลฯ ปาณาติบาตเป็นปัจจัยแก่ปาณาติปาต ฯลฯ นิยตมิจฉาทิฏฐิ
เป็นปัจจัยแก่นิยตมิจฉาทิฏฐิ ฯลฯ (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน เสวย
ทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล อาศัยศีลที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ เสนาสนะ จึงทำตนให้เดือดร้อน ให้ร้อนรน
เสวยทุกข์มีการแสวงหาเป็นมูล ศรัทธาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายและ
ทุกข์ทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย กรรมที่เป็นกุศลและอกุศลเป็นปัจจัยแก่วิบากโดย
อุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บริกรรมปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ปฐมมรรคโดยอุป-
นิสสยปัจจัย บริกรรมทุติยมรรค ฯลฯ ตติยมรรค ฯลฯ บริกรรมจตุตถมรรค
เป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๖๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ
อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย
ทุติยมรรคเป็นปัจจัยแก่ตติยมรรค ฯลฯ ตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค
มรรคเป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ
และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ผลสมาบัติเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย
(๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณูป-
นิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะอาศัยมรรคแล้วทำสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิด
ขึ้น เข้าสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา มรรคของพระอริยะ เป็นปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ธัมมปฏิสัมภิทา
นิรุตติปฏิสัมภิทา ปฏิภาณปฏิสัมภิทา และความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและมิใช่ฐานะ
โดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)

ปุเรชาตปัจจัย
[๖๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณ-
ปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศล
ดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ พระเสขะหรือปุถุชน
เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ...
หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิด
ขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์
รูปายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ คันธายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... รสายตนะ ... โผฏฐัพพายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายา-
ยตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ
และวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะ
ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลิน
จักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งโสตะ
ฯลฯ หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน
เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัส
จึงเกิดขึ้น เห็นรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานด้วยทิพพจักขุ
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วัตถุปุเรชาตะ
ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย (๓)
[๖๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณ-
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ ไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลเห็นรูป
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานด้วย
ทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ อารัมมณปุเรชาตะ
ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินรูป
เป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว
จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ รูปายตนะที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ
ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
และวัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ รูปายตนะและจักขายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยปุเรชาต-
ปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะและกายายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย
รูปายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
ปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะ
และวัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ รูปายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปุเรชาตปัจจัย (๒)

ปัจฉาชาตปัจจัย
[๖๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ
ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๓)
[๖๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉา-
ชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ
ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาเสวนปัจจัย
[๖๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ
ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่เกิดหลัง ๆ ซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอาเสวนปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู ฯลฯ อนุโลม
เป็นปัจจัยแก่โวทานโดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่ โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค
ฯลฯ โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (๒)

กัมมปัจจัย
[๖๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
กัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย
เจตนาเป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยกัมมปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย มีอย่างเดียว คือ นานาขณิกะ ได้แก่
เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๒)
[๗๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ
สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งกรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมม-
ปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)

วิปากปัจจัย
[๗๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งกรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์
๓ โดย วิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยวิปากปัจจัย ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์เป็นปัจจัยแก่
หทัยวัตถุโดยวิปากปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วิปากะ ได้แก่ ขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วิปากะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วิปากะ ได้แก่
ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒
โดยวิปากปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย มีอย่างเดียว คือ วิปากะ ได้แก่ ขันธ์
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารม์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปากปัจจัย มีอย่างเดียวคือ วิปากะ ได้แก่ ขันธ์ ๑
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารปัจจัย
[๗๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยอาหารปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ อาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดย
อาหารปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน
รูปโดยอาหารปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
[๗๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กาย
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
อาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กาย
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
อาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยอาหารปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ อาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย (๓)
[๗๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอาหารปัจจัย (๓)

อินทรียปัจจัย
[๗๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
อินทรียปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ อินทรีย์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยอินทรีย-
ปัจจัย จักขุนทรีย์ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายินทรีย์เป็นปัจจัยแก่
กายวิญญาณ ฯลฯ รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน
รูปโดยอินทรียปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์โดยอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่ อินทรีย์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฌานปัจจัย
[๗๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยฌานปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดย
ฌานปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยฌานปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๑)
[๗๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่ สัมปยุตตขันธ์โดยฌานปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยฌานปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยฌานปัจจัย ได้แก่ องค์ฌานที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยฌานปัจจัย (๓)

มัคคปัจจัย
[๗๘] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยมัคคปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยมัคคปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน-
รูปโดยมัคคปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยมัคคปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยมัคคปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยมัคคปัจจัย ได้แก่ องค์มรรคที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยมัคคปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สัมปยุตตปัจจัย
[๗๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดย
สัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดย
สัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสัมปยุตตปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ โดยสัมปยุตตปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)

วิปปยุตตปัจจัย
[๘๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยวิปปยุตตปัจจัย ขันธ์
เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์โดยวิปปยุตต-
ปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย
ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
โดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๔)
[๘๑] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ
สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ
และปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็น อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อัตถิปัจจัย
[๘๒] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดย
อัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ฯลฯ มหาภูตรูป ๑
ฯลฯ มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย สำหรับ
เหล่าอสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ ฯลฯ มหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่
กฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็น
ทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น
ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่
เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ...
ชิวหา ... กาย ... รูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น
ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อกุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาท
ที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ รูปายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ
คันธายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน
... รสายตนะ ... โผฏฐัพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ จักขายตนะ
เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
อัตถิปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ และอาหาระ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น
ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูปที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... กลิ่น
... รส ... โผฏฐัพพะและหทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น
ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เห็นรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานด้วยทิพพจักขุ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหาร
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ
และอาหาระ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กาย
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและ
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
อัตถิปัจจัย (๔)
[๘๓] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ
ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ และอาหาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ
ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย มหาภูตรูป ๑
เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓ ฯลฯ มหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปที่เป็น
อุปาทายรูปโดยอัตถิปัจจัย ... ที่เป็นภายนอก ... ที่มีอาหารเป็นสมุฏฐาน ...
อาศัยมหาภูตรูป ๑ ที่มีอุตุเป็นสมุฏฐาน ฯลฯ
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... เสียง ... กลิ่น ... รส... โผฏฐัพพะโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เห็นรูปที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานด้วยทิพพจักขุ
ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ
และอาหาระ
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งรูปที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ... เสียง ... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะโดย
เป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ยินดีเพลิดเพลิน เพราะปรารภความ
ยินดีเพลิดเพลินรูปเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่อ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
กุศลและอกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์ รูปายตนะ
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิ-
ปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหาร
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอาหาระ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๓)
[๘๔] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่
ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
ปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและ เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัย
แก่ขันธ์ ๒ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๒ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๕)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มีอย่างเดียว คือ ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่
กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๖)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๓ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ ๒ และกายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๗)
[๘๕] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและ
อินทรียะ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
ปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๓
และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๑ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ และหทัยวัตถุเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ โดยอัตถิปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอาหาระ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและกวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนซึ่งกรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ
และอาหาระ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูป เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและกวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอาหาระ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและกวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
ไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๓)
[๘๖] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ
อาหาระและอินทรียะ
ปุเรชาตะ ได้แก่ รูปายตนะและจักขายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
ทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะและกายายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย รูปายตนะที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและกวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและ
ทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบ
ด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรม
อันประกอบ ด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ
ปัจฉาชาตะ และอาหาระ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ รูปายตนะที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วย
ตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและหทัยวัตถุ
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทานและกวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่
ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหา
และทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารที่กรรม
อันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอัน
ประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กาย
ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดย
อัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหาระ ได้แก่ กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่กายที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ยึดถือและเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอัตถิปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานโดยอัตถิปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน กวฬิงการาหารที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดย
อัตถิปัจจัย (๑)

นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคตปัจจัย
[๘๗] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยนัตถิปัจจัย เป็นปัจจัยโดยวิคตปัจจัย เป็นปัจจัย
โดยอวิคตปัจจัย (ย่อ)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๘๘] เหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ
อธิปติปัจจัย มี ๕ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๖ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๑๒ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๑๐ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๒๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๒๓ วาระ

สภาคนัย
อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๖ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
อินทรียปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ (ย่อ)
(พึงนับเหมือนกุสลติกะตามแนวการสาธยายการนับในอุปาทินนติกะซึ่งลึกซึ้ง และ
ละเอียดกว่าวิธีนับกุสลติกะ ผู้รู้พึงนับอย่างนี้)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจนียุทธาร
[๘๙] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัยและปุเรชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และอาหารปัจจัย (๔)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และอาหารปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาต-
ปัจจัย กัมมปัจจัย และอาหารปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัยและอาหารปัจจัย (๔)
[๙๐] สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิ
ไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยสหชาตปัจจัยและอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอุปนิสสยปัจจัยและปัจฉาชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยอารัมมณปัจจัย สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย
และปัจฉาชาตปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (๔)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึด
ถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
และไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (๕)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๖)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์
ของอุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือ
และเป็นอารมณ์ของอุปาทาน ที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ (๗)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอินทรียะ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและ
ไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็น
อารมณ์ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอาหาระ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือ
แต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะและอาหาระ (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทาน เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ ของอุปาทาน มี ๒ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะและอาหาระ (๓)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๔ อย่าง คือ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และอินทรียะ (๑)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่
เป็นอารมณ์ของอุปาทาน มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ
และอาหาระ (๒)
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของ
อุปาทานเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและ
เป็นอารมณ์ของอุปาทานและที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็น
อารมณ์ของอุปาทาน มีอย่างเดียว คือ อาหาระ (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์ของ
อุปาทานที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือแต่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
และที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิไม่ยึดถือและไม่เป็นอารมณ์ของอุปาทาน
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กรรมอันประกอบด้วยตัณหาและทิฏฐิยึดถือและเป็นอารมณ์
ของอุปาทาน มี ๓ อย่าง คือ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ (๑)

๒. ปัจจยปัจจนียะ ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๙๑] นเหตุปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย มี ๒๐ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๒๐ วาระ
นนิสสยปัจจัย มี ๒๐ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๒๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๒๓ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๒๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๒๐ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๒๒ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๒๔ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
นมัคคปัจจัย มี ๒๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๒๐ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๑๔ วาระ
โนอัตถิปัจจัย มี ๙ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๒๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๒๔ วาระ
โนอวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ

ทุกนัย
[๙๒] นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒๔ วาระ (ย่อ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)
ปัจจนียะ จบ

๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๙๓] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
นกัมมปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๔ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

เหตุฆฏนา
[๙๔] นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ
อัตถิและอวิคตะ มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นวิปากปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๔ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
(พึงนับเหมือนอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะที่จำแนกไว้)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๔. อุปาทินนติกะ ๗. ปัญหาวาร
๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๙๕] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๕ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๑ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๙ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๒ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๘ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๖ วาระ
อาหารปัจจัย " มี ๑๒ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๑๐ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๒๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๒๓ วาระ (ย่อ)
(พึงนับเหมือนปัจจนียานุโลมในกุสลติกะที่จำแนกไว้)
อุปาทินนติกะ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๑] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาว-
ธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลส เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น ฯลฯ
ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลส เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์
ของกิเลสเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น ใน
ปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปอาศัยศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ และกฏัตตารูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิด
ขึ้น หทัยวัตถุอาศัยขันธ์เกิดขึ้น ขันธ์อาศัยหทัยวัตถุเกิดขึ้น มหาภูตรูป ๓ อาศัย
มหาภูตรูป ๑ เกิดขึ้น ฯลฯ จิตตสมุฏฐานรูปและกฏัตตารูปที่เป็นอุปาทายรูป
อาศัยมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
[๒] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัย
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุ-
ปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ อาศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์
ของกิเลสเกิดขึ้น ฯลฯ ขันธ์ ๒ อาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่
จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิด
ขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
และไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น
ฯลฯ ขันธ์ ๒ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๒ เกิดขึ้น (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่
เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่
กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็น
อารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ได้แก่ จิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ที่กิเลส
ทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสและมหาภูตรูปเกิดขึ้น (ย่อ) (๑)

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
[๓] เหตุปัจจัย มี ๙ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
อธิปติปัจจัย มี ๙ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๓ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๙ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๙ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๕ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
มัคคปัจจัย มี ๙ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๙ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย มี ๙ วาระ (ย่อ)
(พึงจำแนกเหมือนกุสลติกะ)

๒. ปัจจยปัจจนียะ
นเหตุปัจจัย
[๔] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาว-
ธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
โมหะที่สหรคตด้วยวิจิกจฉาและที่สหรคตด้วยอุทธัจจะอาศัยขันธ์ที่สหรคตด้วยวิจิกิจฉา
และที่สหรคตด้วยอุทธัจจะเกิดขึ้น (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสอาศัยสภาวธรรม
ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้นเพราะนเหตุปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปอาศัยขันธ์ ๑ ที่เป็นอเหตุกะซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเกิดขึ้น ในปฏิสนธิขณะที่เป็นอเหตุกะ ฯลฯ สำหรับเหล่า
อสัญญสัตตพรหม ... อาศัยมหาภูตรูป ๑ (ย่อ)
(พึงจำแนกเหมือนในกุสลติกะ)

สุทธนัย
[๕] นเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๖ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๕ วาระ ฯลฯ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๕ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๙ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑ วาระ ฯลฯ
นมัคคปัจจัย มี ๑ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๕ วาระ (ย่อ)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๑. ปฏิจจวาร
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๖] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๕ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๖ วาระ ฯลฯ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๙ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๙ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๕ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๕ วาระ (ย่อ)

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๗] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๒ วาระ ฯลฯ
วิปากปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ
มัคคปัจจัย " มี ๑ วาระ ฯลฯ
อวิคตปัจจัย " มี ๒๒ วาระ (ย่อ)
ปฏิจจวาร จบ
(พึงขยายสหชาตวาร ปัจจยวาร นิสสยวาร สังสัฏฐวารและสัมปยุตตวารให้
พิสดาร)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
๑. ปัจจยานุโลม ๑. วิภังควาร
เหตุปัจจัย
[๘] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่
เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดย
เหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่
เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูป
โดยเหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็น
อารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่
เหตุที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ เหตุที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และกฏัตตารูปโดยเหตุปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่
เหตุที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยเหตุปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่
เหตุที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่จิตต-
สมุฏฐานรูปโดยเหตุปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเหตุปัจจัย ได้แก่ เหตุที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐาน
รูปโดยเหตุปัจจัย (๓)

อารัมมณปัจจัย
[๙] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่
บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะ เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้น ราคะจึง
เกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น วิจิกิจฉาจึงเกิดขึ้น อุทธัจจะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น
บุคคลยินดีทิฏฐิ ฯลฯ เพราะปรารภวิจิกิจฉา ฯลฯ เพราะปรารภอุทธัจจะ ฯลฯ
เพราะปรารภโทมนัส ฯลฯ (๑)
(พึงจำแนกเหมือนในกุสลติกะ)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ สภาว-
ธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่
พระอริยะพิจารณากิเลสที่ละได้แล้ว พิจารณากิเลสที่ข่มได้แล้ว รู้กิเลสที่เคยเกิดขึ้น
เห็นแจ้งขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา รู้จิตของบุคคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่กิเลสทำให้เศร้า
หมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสด้วยเจโตปริยญาณ พระเสขะหรือปุถุชนเห็นแจ้งขันธ์
ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา เมื่อกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็นตทารมณ์


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
บุคคลยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลส ฯลฯ
โทมนัสจึงเกิดขึ้น เมื่ออกุศลดับแล้ว จิตตุปบาทที่เป็นวิบากจึงเกิดขึ้นโดยเป็น
ตทารมณ์ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่เจโต-
ปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และ
อาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๒)
[๑๐] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้วพิจารณากุศลนั้น พิจารณา
กุศลที่สั่งสมไว้ดีแล้ว ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌาน พระอริยะพิจารณาโคตรภู
พิจารณาโวทาน เห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็น
แจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย ... รูป ... เสียง ... กลิ่น ... รส ...
โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
โดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสด้วยเจโตปริยญาณ อากาสานัญจายตนะเป็นปัจจัยแก่
วิญญานัญจายตนะ ฯลฯ อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ
โดยอารัมมณปัจจัย รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย ฯลฯ
โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอารัมมณปัจจัย ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณเจโตปริยญาณ
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ยถากัมมูปคญาณ อนาคตังสญาณ และอาวัชชนจิตโดย
อารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย ได้แก่
บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น เพราะ
ปรารภความยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัส
จึงเกิดขึ้น ยินดีกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้ว ฯลฯ ออกจากฌานแล้ว ยินดีฌาน ฯลฯ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ยินดีจักษุ ... ยินดีเพลิดเพลินโผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ ... ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินจักษุเป็นต้น
นั้น ราคะจึงเกิดขึ้น โทมนัสจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรคและผลโดยอารัมมณปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้ว พิจารณามรรค พิจารณาผล พิจารณานิพพาน
นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภู โวทาน และอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย พระ
อริยะรู้จิตของบุคคลผู้มีความพรั่งพร้อมด้วยจิตที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็น
อารมณ์ของกิเลสด้วยเจโตปริยญาณ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็น
อารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ อนาคตังส-
ญาณและอาวัชชนจิตโดยอารัมมณปัจจัย (๒)

อธิปติปัจจัย
[๑๑] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มี ๒
อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินราคะให้เป็นอารมณ์อย่างหนัก
แน่น เพราะทำความยินดีเพลิดเพลินราคะนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึง
เกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น ยินดีเพลิดเพลินทิฏฐิให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะ
ทำความยินดีเพลิดเพลินทิฏฐินั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น
ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของ
กิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว
คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของ
กิเลสเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่
เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ ได้แก่
อธิบดีธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)
[๑๒] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถแล้ว
พิจารณากุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณากุศลที่สั่งสมไว้ดีแล้วให้
เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ออกจากฌานแล้วพิจารณาฌานให้เป็นอารมณ์อย่าง
หนักแน่น พระเสขะพิจารณาโคตรภูให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาโวทาน
ให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของ
กิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มี
อย่างเดียว คือ อารัมมณาธิปติ ได้แก่ บุคคลให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ
แล้ว ยินดีเพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น เพราะทำความยินดี
เพลิดเพลินกุศลนั้นให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น
ยินดีเพลิดเพลินกุศลที่เคยสั่งสมไว้ดีแล้วให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ฯลฯ ออก
จากฌานแล้ว ยินดีเพลิดเพลินฌานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลิน


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
จักษุให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น ยินดีเพลิดเพลินโผฏฐัพพะ ฯลฯ หทัยวัตถุ
ยินดีเพลิดเพลินขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น เพราะปรารภความยินดีเพลิดเพลินขันธ์เป็นต้นนั้นให้เป็นอารมณ์
อย่างหนักแน่น ราคะจึงเกิดขึ้น ทิฏฐิจึงเกิดขึ้น (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มี
๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ นิพพานเป็นปัจจัยแก่มรรคและผลโดยอธิปติปัจจัย
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์
ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยอธิปติปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มี
๒ อย่าง คือ อารัมมณาธิปติและสหชาตาธิปติ
อารัมมณาธิปติ ได้แก่ พระอริยะออกจากมรรคแล้ว พิจารณามรรคให้เป็น
อารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณาผลให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น พิจารณา
นิพพานให้เป็นอารมณ์อย่างหนักแน่น นิพพานเป็นปัจจัยแก่โคตรภูและโวทานโดย
อธิปติปัจจัย
สหชาตาธิปติ ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์
ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอธิปติปัจจัย มีอย่างเดียว คือ สหชาตาธิปติ
ได้แก่ อธิบดีธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอธิปติปัจจัย (๓)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
อนันตรปัจจัย
[๑๓] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์
ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดย
อนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอนันตร-
ปัจจัย อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน อาวัชชนจิตเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย ได้แก่
อาวัชชนจิตเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดย
อนันตรปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรค อนุโลมเป็นปัจจัย
แก่ผลสมาบัติ เนวสัญญานาสัญญายตนะของท่านผู้ออกจากนิโรธเป็นปัจจัยแก่
ผลสมาบัติโดยอนันตรปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดย
อนันตรปัจจัย มรรคเป็นปัจจัยแก่ผล ผลเป็นปัจจัยแก่ผลโดยอนันตรปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอนันตรปัจจัย
ได้แก่ ผลเป็นปัจจัยแก่วุฏฐานะโดยอนันตรปัจจัย (๒)

สมนันตรปัจจัยเป็นต้น
[๑๔] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยสมนันตรปัจจัย ฯลฯ
เป็นปัจจัยโดยสหชาตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอัญญมัญญปัจจัย เป็นปัจจัยโดยนิสสย-
ปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ
อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะจึงฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ฯลฯ
อาศัยโทสะ จึงฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ราคะ ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัย
แก่ราคะ ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย ปาณาติบาตเป็นปัจจัยแก่
ปาณาติบาตโดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ นิยตมิจฉาทิฏฐิเป็นปัจจัยแก่นิยตมิจฉาทิฏฐิ
โดยอุปนิสสยปัจจัย ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะและปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ
ทำฌาน ... วิปัสสนา ... ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ฯลฯ อาศัย
ความปรารถนาจึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ราคะ ฯลฯ ความปรารถนา
เป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ สุขทางกายและทุกข์ทางกายโดยอุปนิสสยปัจจัย บุคคล
ฆ่าสัตว์แล้ว ประสงค์จะลบล้างกรรมชั่วนั้นจึงให้ทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทำฌานให้เกิดขึ้น ทำวิปัสสนาให้เกิดขึ้น ทำอภิญญาให้เกิดขึ้น ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น
ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ประสงค์จะลบล้างกรรมชั่วนั้น จึงให้ทาน สมาทานศีล รักษา
อุโบสถ กรรมที่เป็นอกุศลเป็นปัจจัยแก่วิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย มี
อย่างเดียว คือ ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยราคะจึงทำมรรคให้เกิดขึ้น เข้า
ผลสมาบัติ อาศัยโทสะ ฯลฯ ความปรารถนาจึงทำมรรคให้เกิดขึ้น เข้าผลสมาบัติ
ราคะ ฯลฯ ความปรารถนาเป็นปัจจัยแก่มรรคและผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๑๕] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธาจึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้
เกิดขึ้น อาศัยศีล ... สุตะ ... จาคะ ... ปัญญา ... สุขทางกาย ... ทุกข์ทางกาย
... อุตุ ... โภชนะ ... เสนาสนะ จึงให้ทาน ฯลฯ ทำสมาบัติให้เกิดขึ้น ศรัทธา
ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่ศรัทธา ฯลฯ สุขทางกายและทุกข์ทางกายโดย
อุปนิสสยปัจจัย กรรมที่เป็นกุศลเป็นปัจจัยแก่วิบากโดยอุปนิสสยปัจจัย บริกรรม-
ปฐมฌานเป็นปัจจัยแก่ปฐมฌาน ฯลฯ อากิญจัญญายตนะเป็นปัจจัยแก่เนวสัญญา-
นาสัญญายตนะ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย มี
๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บุคคลอาศัยศรัทธา มีมานะ ถือทิฏฐิ อาศัยศีล ฯลฯ
เสนาสนะ จึงฆ่าสัตว์ ฯลฯ ทำลายสงฆ์ ศรัทธา ฯลฯ เสนาสนะเป็นปัจจัยแก่
ราคะ ฯลฯ ความปรารถนาโดยอุปนิสสยปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ บริกรรมปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ปฐมมรรค ฯลฯ
ทุติยมรรค ฯลฯ ตติยมรรค ฯลฯ จตุตถมรรคโดยอุปนิสสยปัจจัย (๓)
[๑๖] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดย
อุปนิสสยปัจจัย มี ๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และ
ปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ ปฐมมรรคเป็นปัจจัยแก่ทุติยมรรค ฯลฯ ทุติยมรรค
เป็นปัจจัยแก่ตติยมรรค ฯลฯ ตติยมรรคเป็นปัจจัยแก่จตุตถมรรค ฯลฯ มรรค
เป็นปัจจัยแก่ผลสมาบัติโดยอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัย มี
๓ อย่าง คือ อารัมมณูปนิสสยะ อนันตรูปนิสสยะ และปกตูปนิสสยะ ฯลฯ
ปกตูปนิสสยะ ได้แก่ พระอริยะอาศัยมรรคจึงทำสมาบัติที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น
เข้าสมาบัติที่เกิดขึ้นแล้วเห็นแจ้งสังขารโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา
มรรคของพระอริยะเป็นปัจจัยแก่อัตถปฏิสัมภิทา ฯลฯ ความเป็นผู้ฉลาดในฐานะและ
มิใช่ฐานะโดยอุปนิสสยปัจจัย ผลสมาบัติเป็นปัจจัยแก่สุขทางกายโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย (๒)

ปุเรชาตปัจจัย
[๑๗] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย มี
๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็น
ทุกข์ เป็นอนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... ฆานะ ... ชิวหา ... กาย .. รูป ... เสียง
... กลิ่น ... รส ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์
เป็นอนัตตา บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วยทิพพโสตธาตุ รูปายตนะ
เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดย
ปุเรชาตปัจจัย
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ
กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยปุเรชาตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย มี
๒ อย่าง คือ อารัมมณปุเรชาตะและวัตถุปุเรชาตะ
อารัมมณปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ เพราะปรารภความ
ยินดีเพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น บุคคลยินดี
เพลิดเพลินโสตะ ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุ เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินโสตะเป็นต้นนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น
วัตถุปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย
ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของ
กิเลสโดยปุเรชาตปัจจัย (๓)

ปัจฉาชาตปัจจัย
[๑๘] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปัจฉาชาตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดภายหลัง เป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปัจฉาชาตปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดภายหลัง เป็นปัจจัย
แก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยปัจฉาชาตปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดภายหลัง
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยปัจฉาชาตปัจจัย (๑)

อาเสวนปัจจัย
[๑๙] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดก่อน ๆ เป็นปัจจัยแก่
ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดหลัง ๆ โดยอาเสวน-
ปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาเสวนปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เกิดก่อน ๆ ฯลฯ อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โคตรภู อนุโลมเป็นปัจจัยแก่โวทาน
โดยอาเสวนปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาเสวนปัจจัย
ได้แก่ โคตรภูเป็นปัจจัยแก่มรรค โวทานเป็นปัจจัยแก่มรรคโดยอาเสวนปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
กัมมปัจจัย
[๒๐] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย ได้แก่
เจตนาที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์
โดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย มี ๒
อย่าง คือ สหชาตะ และนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและ
ป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย มี ๒
อย่าง คือ สหชาตะ และนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากและกฏัตตารูปโดยกัมมปัจจัย (๑)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและนานาขณิกะ
สหชาตะ ได้แก่ เจตนาที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์โดยกัมมปัจจัย
นานาขณิกะ ได้แก่ เจตนาที่เป็นกุศลซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็น
อารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่
เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย ได้แก่
เจตนาที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดร่วมกันเป็นปัจจัย
แก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยกัมมปัจจัย ได้แก่ เจตนาที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสซึ่งเกิดร่วมกันเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตตขันธ์และ
จิตตสมุฏฐานรูปโดยกัมมปัจจัย (๓)

วิปากปัจจัย
[๒๑] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปากปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์ ๒ เป็น
ปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่
เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และกฏัตตารูปโดยวิปากปัจจัย ฯลฯ ขันธ์
๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ ขันธ์เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุโดยวิปากปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปากปัจจัย
ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปากปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ที่เป็นวิบากซึ่งกิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปากปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่เป็นวิบากซึ่ง
กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตต-
สมุฏฐานรูปโดยวิปากปัจจัย ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๓)

อาหารปัจจัย
[๒๒] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาหารปัจจัย มี
๓ วาระ
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาหารปัจจัย
ได้แก่ อาหารที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สัมปยุตตขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอาหารปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ
กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอาหารปัจจัย
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอาหารปัจจัย
มี ๓ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
อินทรียปัจจัย
[๒๓] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอินทรียปัจจัย มี
๓ วาระ
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอินทรียปัจจัย ได้แก่
อินทรีย์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สัมปยุตต-
ขันธ์และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอินทรียปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ฯลฯ จักขุนทรีย์เป็น
ปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอินทรีย-
ปัจจัย รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอินทรียปัจจัย
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส ... มี ๓
วาระ

ฌานปัจจัยเป็นต้น
[๒๔] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยฌานปัจจัย เป็น
ปัจจัยโดยมัคคปัจจัย เป็นปัจจัยโดยสัมปยุตตปัจจัย

วิปปยุตตปัจจัย
[๒๕] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย มี
๓ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย ในปฏิสนธิขณะ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยวิปปยุตตปัจจัย ขันธ์
เป็นปัจจัยแก่หทัยวัตถุ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์โดยวิปปยุตตปัจจัย
ปุเรชาตะ ได้แก่ จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ กายายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยวิปปยุตตปัจจัย หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองแแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย
มีอย่างเดียวคือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย
มีอย่างเดียวคือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้า
หมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยวิปปยุตตปัจจัย
มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยวิปปยุตตปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของ
กิเลสเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยวิปปยุตตปัจจัย (๑)

อัตถิปัจจัย
[๒๖] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่
ขันธ์ ๑ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดย
อัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๒
อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็น
ปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๓)
[๒๗] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี
๕ อย่าง คือ สหชาตะ ปุเรชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย ฯลฯ ในปฏิสนธิขณะ
ฯลฯ สำหรับเหล่าอสัญญสัตตพรหม มหาภูตรูป ๑ เป็นปัจจัยแก่มหาภูตรูป ๓
โดยอัตถิปัจจัย


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลเห็นแจ้งจักษุโดยเป็นสภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็น
อนัตตา เห็นแจ้งโสตะ ... กาย ... รูป ... โผฏฐัพพะ ... หทัยวัตถุโดยเป็น
สภาวะไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา บุคคลเห็นรูปด้วยทิพพจักขุ ฟังเสียงด้วย
ทิพพโสตธาตุ รูปายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะเป็น
ปัจจัยแก่กายวิญญาณโดยอัตถิปัจจัย จักขายตนะเป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ
กายายตนะเป็นปัจจัยแก่กายวิญญาณ ฯลฯ หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้
ฯลฯ รูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มีอย่าง
เดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ บุคคลยินดีเพลิดเพลินจักษุ เพราะปรารภความยินดี
เพลิดเพลินจักษุนั้น ราคะจึงเกิดขึ้น ฯลฯ โทมนัสจึงเกิดขึ้น ยินดีหทัยวัตถุ ฯลฯ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดย
อัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี
อย่างเดียว คือ ปุเรชาตะ ได้แก่ หทัยวัตถุ เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย (๓)
[๒๘] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดย
อัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๒
อย่าง คือ สหชาตะและปัจฉาชาตะ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
เป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของ
กิเลสเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ และจิตตสมุฏฐานรูป
โดยอัตถิปัจจัย (๓)
[๒๙] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลส
ไม่ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ
ปัจฉาชาตะ อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
และมหาภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของ
กิเลสและกวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้โดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส
และรูปชีวิตินทรีย์เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำ
ให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
และไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและ
ปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส
และหทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย (๑)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๘๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ ๑ ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและ
หทัยวัตถุเป็นปัจจัยแก่ขันธ์ ๓ โดยอัตถิปัจจัย ขันธ์ ๒ ฯลฯ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอัตถิปัจจัย มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ
อาหาระ และอินทรียะ
สหชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและมหา-
ภูตรูปเป็นปัจจัยแก่จิตตสมุฏฐานรูปโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและ
กวฬิงการาหารเป็นปัจจัยแก่กายนี้ที่เกิดก่อนโดยอัตถิปัจจัย
ปัจฉาชาตะ ได้แก่ ขันธ์ที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและ
รูปชีวิตินทรีย์ เป็นปัจจัยแก่กฏัตตารูปโดยอัตถิปัจจัย (๒)

นัตถิปัจจัย วิคตปัจจัย และอวิคตปัจจัย
[๓๐] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยนัตถิปัจจัย เป็น
ปัจจัยโดยวิคตปัจจัย เป็นปัจจัยโดยอวิคตปัจจัย

๑. ปัจจยานุโลม ๒. สังขยาวาร
สุทธนัย
[๓๑] เหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อารัมมณปัจจัย มี ๖ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
อธิปติปัจจัย มี ๘ วาระ
อนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย มี ๘ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย มี ๔ วาระ
อาหารปัจจัย มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย มี ๑๓ วาระ

เหตุสภาคนัย
อธิปติปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
วิปากปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๔ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๔ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๔ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ

เหตุฆฏนา (๙)
[๓๒] ปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ มี ๗ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ สัมปยุตตะ อัตถิ
และอวิคตะ มี ๓ วาระ
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปปยุตตะ อัตถิและอวิคตะ มี ๓
วาระ

อวิปากะ ๔
ปัจจัย ๖ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิและอวิคตะ มี ๔ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ อัตถิ และ
อวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ สัมปยุตตะ
อัตถิ และอวิคตะ มี ๒ วาระ
ปัจจัย ๗ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ อัตถิ และอวิคตะ
มี ๒ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจัย ๘ คือ เหตุ สหชาตะ อัญญมัญญะ นิสสยะ วิปากะ วิปปยุตตะ
อัตถิและอวิคตะ มี ๑ วาระ (สวิปากะ ๕ ) (ย่อ)
(พึงขยายให้พิสดารเหมือนในกุสลติกะ)
อนุโลม จบ

๒. ปัจจนียุทธาร
[๓๓] สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
สหชาตปัจจัย และอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย และกัมมปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสย-
ปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยสหชาตปัจจัย (๔)
[๓๔] สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย ปุเรชาตปัจจัย ปัจฉาชาตปัจจัย กัมมปัจจัย
อาหารปัจจัย และอินทรียปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองและเป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
อุปนิสสยปัจจัย และปุเรชาตปัจจัย (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาว-
ธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอุปนิสสยปัจจัยและ
ปุเรชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยสหชาตปัจจัย
และอุปนิสสยปัจจัย (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยอารัมมณปัจจัย
สหชาตปัจจัย อุปนิสสยปัจจัย และปัจฉาชาตปัจจัย (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองและไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัย
แก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสโดยสหชาตปัจจัย (๓)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่
ทำให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลส มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ
และอินทรียะ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำ
ให้เศร้าหมองไม่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
และไม่เป็นอารมณ์ของกิเลส มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะ และปุเรชาตะ (๒)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมอง
และเป็นอารมณ์ของกิเลส มี ๒ อย่าง คือ สหชาตะและปุเรชาตะ (๑)
สภาวธรรมที่กิเลสทำให้เศร้าหมองเป็นอารมณ์ของกิเลสและที่กิเลสไม่ทำให้
เศร้าหมองแต่เป็นอารมณ์ของกิเลสเป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่กิเลสไม่ทำให้เศร้าหมอง
แต่เป็นอารมณ์ของกิเลส มี ๔ อย่าง คือ สหชาตะ ปัจฉาชาตะ อาหาระ และ
อินทรียะ (๒)


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ปัจจนียะ - สุทธนัย
[๓๕] นเหตุปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอารัมมณปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอธิปติปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอนันตรปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นสมนันตรปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นสหชาตปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นนิสสยปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย มี ๑๓ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย มี ๑๒ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอาเสวนปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นกัมมปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นวิปากปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอาหารปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นอินทรียปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นฌานปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นมัคคปัจจัย มี ๑๔ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย มี ๑๐ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย มี ๘ วาระ
โนอัตถิปัจจัย มี ๘ วาระ
โนนัตถิปัจจัย มี ๑๔ วาระ
โนวิคตปัจจัย มี ๑๔ วาระ
โนอวิคตปัจจัย มี ๘ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ทุกนัย
นอารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๑๔ วาระ (ย่อ)
(พึงนับเหมือนการนับปัจจนียะในกุสลติกะ)

ปัจจนียะ จบ
๓. ปัจจยานุโลมปัจจนียะ
เหตุทุกนัย
[๓๖] นอารัมมณปัจจัย กับเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
นอธิปติปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นอุปนิสสยปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปุเรชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาเสวนปัจจัย " มี ๗ วาระ
นกัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
นวิปากปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอาหารปัจจัย " มี ๗ วาระ
นอินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
นฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
นมัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
นสัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
โนนัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
โนวิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
ฆฏนา
นอารัมมณปัจจัย กับปัจจัย ๕ คือ เหตุ สหชาตะ นิสสยะ อัตถิและอวิคตะ
มี ๗ วาระ ฯลฯ
นอัญญมัญญปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
นสัมปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ
นวิปปยุตตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๓ วาระ ฯลฯ
โนวิคตปัจจัย กับ ฯลฯ มี ๗ วาระ (ย่อ)
(พึงจำแนกเหมือนการนับอนุโลมปัจจนียะในกุสลติกะ)
อนุโลมปัจจนียะ จบ

๔. ปัจจยปัจจนียานุโลม
นเหตุทุกนัย
[๓๗] อารัมมณปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๖ วาระ
อธิปติปัจจัย " มี ๘ วาระ
อนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สมนันตรปัจจัย " มี ๗ วาระ
สหชาตปัจจัย " มี ๙ วาระ
อัญญมัญญปัจจัย " มี ๓ วาระ
นิสสยปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
อุปนิสสยปัจจัย " มี ๘ วาระ
ปุเรชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
ปัจฉาชาตปัจจัย " มี ๓ วาระ
อาเสวนปัจจัย " มี ๓ วาระ
กัมมปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิปากปัจจัย " มี ๔ วาระ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ธัมมานุโลม [ติกปัฏฐาน] ๕. สังกิลิฏฐติกะ ๗. ปัญหาวาร
อาหารปัจจัย กับนเหตุปัจจัย มี ๗ วาระ
อินทรียปัจจัย " มี ๗ วาระ
ฌานปัจจัย " มี ๗ วาระ
มัคคปัจจัย " มี ๗ วาระ
สัมปยุตตปัจจัย " มี ๓ วาระ
วิปปยุตตปัจจัย " มี ๕ วาระ
อัตถิปัจจัย " มี ๑๓ วาระ
นัตถิปัจจัย " มี ๗ วาระ
วิคตปัจจัย " มี ๗ วาระ
อวิคตปัจจัย " มี ๑๓ วาระ

ติกนัย
อธิปติปัจจัย กับนเหตุปัจจัย และนอารัมมณปัจจัย มี ๗ วาระ (ย่อ)
(พึงจำแนกเหมือนการนับปัจจนียานุโลมในกุสลติกะ)
ปัจจนียานุโลม จบ

สังกิลิฏฐติกะ จบ

อนุโลมติกปัฏฐานภาคต้น จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า :๙๐๘ }


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๗ ปัฏฐาน ภาค ๑ จบ





eXTReMe Tracker