เส้นทางกู้ ฮิวอี้ - แบล็กฮอว์ก

 

ผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพชรบุรี  ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศอีกครั้งในช่วงกลางเดือน กรกฎาคม ๒๕๕๔  ในกรณีที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ฮิวอี้และแบล็กฮอว์กตก  ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายคน  ทำให้หลายฝ่ายหลายคนต่างวิจารณ์ไปต่าง ๆ นานาว่า  เกิดจากสภาพอากาศบ้าง  อาถรรพ์ป่าบ้าง  ถูกลอบยิงบ้าง  หรือเกิดจากเครื่องยนต์ขัดข้องบ้าง  แต่สาเหตุที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร  ก็เรื่องของหน่วยราชการที่รับผิดชอบ  พวกเราเป็นเพียงผู้ร่วมติดตามดู

เส้นทางการเดินทางไปกู้เครื่องบินนั้น  ต้องอาศัยเส้นทางรถยนต์ทางไปน้ำตกทออธิบ  ซึ่งเป็นเส้นทางที่แคบและสูงชันระยะทาง ๑๘ ก.ม.  นับจาก ก.ม. ที่ ๑๘ - ๓๖  จุดเดินเท้าเริ่มจากลานจอดรถ ก.ม. ที่ ๓๖ ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดทางรถยนต์  และเป็นจุดที่จะเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ใกล้ที่สุด  โดยใช้เวลา ๒ วันหรือ ๒ วันครึ่ง  ทางเดินจากลานจอดรถไปนั้น  เป็นทางเดินเท้าที่ทำไปยังน้ำตก  แต่พอเลยไปก่อนจะถึงน้ำตก  มีทางแยกตัดลงเขาไปทางซ้ายมือไปแม่น้ำเพชรบุรี  เส้นทางนี้เป็นทางด่านสัตว์(ช้าง)ซึ่งใช้เดินหลบหน้าผาที่แม่น้ำเพชรบุรี  โดยเดินตัดขึ้นเขาเลียบน้ำตกชั้นที่ ๑ ขึ้นมาถึงชั้นสุดท้าย  ถ้าเดินแยกซ้ายไปตามลำห้วยน้ำตกก็จะไปเขาพะเนินทุ่ง  ถ้าแยกมาทางขวาก็จะลงแม่น้ำ  ก็คือเส้นทางที่จะไปกู้ ฮ.

พอถึงแม่น้ำก็ต้องข้ามน้ำไปอีกฟากหนึ่ง  ช่วงหน้าแล้งน้ำลึกเกือบถึงเอว  เมื่อข้ามแม่น้ำเพชรบุรีแล้ว  ก้าวแรกที่ย่างออกไปจากจุดนี้คือความสุดยอดของความลำบากจนถึงจุดหมายในเวลา ๒ ๓ วันนี้  อันดับแรกคือต้องข้ามน้ำที่ลึก  พอขึ้นฝั่งแล้วก็เป็นเส้นทางเดินที่รก  ตามด้วยตัวทากที่เริ่มกัดตั้งแต่ก้าวแรกลงที่ลานจอดรถ  ไม่รวมถึงฝนที่เทกระหน่ำซ้ำเติมลงมาให้บอบช้ำอีก  จะไม่มีโอกาสได้พบกับแสงพระอาทิตย์  เสื้อผ้าเปียกชื้น  ต้องเดินเลียบแม่น้ำ  ลุยน้ำ  ข้ามน้ำตลอดทั้งวัน  โอกาสที่จะได้เดินตามทางด่านที่สะดวกสบายก็หายากเต็ม  มีแต่ทางด่านที่ร้างราไร้สัตว์ป่าใช้เดินมานานนับสิบปี 

เส้นทางด่านมีอยู่ตลอดริมสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี  สลับกับข้ามแม่น้ำไปมา  ลงไปจนถึงห้วยบางยายมู (ห้วยอีโป่ง)  ก่อนถึงผาน้ำหยด  แต่ในปัจจุบันนี้ได้รกร้างไปโดยสิ้นเชิง  เมื่อช่วงปีหลังจากที่สร้างทางไปน้ำตกทออธิบเสร็จสิ้นลง  โขลงช้างป่าได้เปลี่ยนพฤติกรรม  จะไม่มีการเดินติดต่อจากป่าแห่งไปอีกแห่งหนึ่ง  หรือการหากินไปทั่วป่าตามที่เคยทำ  แต่กลับมารวมกลุ่มกันอยู่เป็นจุด ๆ เขตนอกป่าใหญ่  ส่วนที่เดินไปหากินในป่าลึกก็เดินไปตัวเดียวบ้างสองตัวบ้าง  การเปลี่ยนแปลงการหากินช้างป่านั้นก็ยากที่จะเข้าใจได้  เพราะในปัจจุบันช้างป่ามักมาอยู่อาศัยและหากินในถิ่นของคน  ช้างในป่าแก่งกระจานเองก็ไม่ได้อพยพหลบหนีออกไปต่างแดน  ทำไมไม่มาหากินในถิ่นเดิมที่อุดมสมบูรณ์  ไม่มีใครมารบกวน 

ถ้าเป็นช่วงปี ๒๕๓๐  การเดินทางจะสะดวกมาก  ตลอดริมฝั่งแม่น้ำจะเป็นทางด่านโล่งเตียน  บางช่วงสามารถนำจักรยานมาขี่ได้  โขลงช้าง  กระทิง  หรือสัตว์ป่าอื่น ๆ ใช้เดินไป - มาอยู่เป็นประจำ  เส้นทางตัดขึ้นสันเขาเชื่อมไปยังจุดต่าง ๆ มีอยู่ตลอดทาง  ทางด่านบางช่วงเดินได้ไกลโดยไม่ต้องข้ามแม่น้ำ  การเดินลุยน้ำหรือเดินเลียบแม่น้ำจึงแทบไม่มีเลย  เว้นเสียแต่ว่าสภาพภูมิประเทศบังคับ  การเดินทางสามารถเดินในเวลากลางคืนได้ 

แต่เส้นทางเหล่านี้มิได้มีให้เห็นอีกแล้ว  ไม่มีร่องรอยให้เห็นเป็นหลักฐาน  นอกจากรอยถากรอยฟันตามต้นไม้ตามแนวทางด่านยังมีให้เห็น  กลายเป็นอดีตเล่าขานของคนเที่ยวป่ารุ่นก่อน  เส้นทางด่านได้รก  มีต้นไม้ล้มขวาง  หนามหวายขึ้นมาแทนที่  มองไม่รู้ว่าเป็นทางด่านมาก่อน  ถึงแม้ว่าจะพบร่องรอยของเส้นทางเก่าแต่ก็ไปได้ไม่ไกล  สุดท้ายก็ต้องมาเดินลุยไปตามแม่น้ำ  หรือเดินเลียบไปตามแม่น้ำที่คดเคี้ยวไปมาเพิ่มระยะทางให้ไกลขึ้น  ทำให้เสียเวลาบวกกับการเดินที่ลำบาก  ตัวทากจะชุกชุมมาก

แต่พอเดินถึงห้วยเกาหลีแล้ว  ในลำห้วยจะเป็นเส้นทางที่เห็นได้ง่าย  ถึงแม้ว่าไม่มีสัตว์ใช้เดินประจำ  แต่ก็มีคนใช้เดินไปมาอยู่เป็นประจำ  บางช่วงก็เดินลำบากบ้าง  แต่ถือว่าเดินได้ดีกว่าทางแม่น้ำ  แล้วจะเป็นจุดเดินตัดขึ้นสันเขาไปยังเขายอดแม่น้ำเพชร  ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุ  เมื่อมาถึงลานจอด ฮ.แล้ว  มองไปทางทิศตะวันออกจะเห็นภูเขาสูง ๆ ต่ำ ๆ ไกลสุดสายตา  หุบเขาเบื้องล่างคือ ห้วยเกาหลี  จะเห็นยอดเขาพะเนินทุ่งตระหง่านอยู่  หรือถ้ามองมาจากจุดชมวิวเขาพะเนินทุ่งก็มองเห็นบริเวณเทือกเขานี้ได้ชัดเจนเช่นกัน  เมื่อมองมาทางทิศตะวันตก  จะเห็นเทือกเขาตะนาวศรี  อยู่ห่างออกไป ๙๐๐ กว่าเมตร  หุบเขาเบื้องล่างคือ ห้วยเยกเย  เลยไปเบื้องหลังยังมีทิวเขาสลับซับซ้อนในเขตประเทศพม่า  ทิศเหนือด้านขวามือเป็นเทือกเขายอดแม่น้ำเพชร  ทิศใต้ด้านซ้ายมือเป็นแนวสันเขาที่ทอดตัวยาวมาจากปากห้วยเยกเย

ห้วยเยกเย  แยกมาจากแม่น้ำเพชรบุรี  เลยห้วยเกาหลีขึ้นไปประมาณ ๖ ๗ ก.ม.  จากปากลำห้วยเข้าไปไม่ไกลนักจะแยกออกออกเป็น ๒ สาย  สายด้านซ้ายมือจะตรงไปทางทิศใต้จรดเทือกเขาตะนาวศรี  ไหลคู่ขนานมากับแม่น้ำเพชรบุรี  สายด้านขวามือจะตรงไปทางทิศตะวันตกจรดเทือกเขาตะนาวศรี  อยู่ทางทิศตะวันตกของลานจอด ฮ.  จากห้วยเยกเยจะมีทางด่านบนสันเขามาถึงลาน ฮ.  เส้นทางด่านสายนี้เป็นทางรกร้างแล้ว

ลานจอด ฮ. อยู่บนสันเขาที่ยาวมาจากปากลำห้วยเยกเย  จุดที่ต่ำเป็นอานม้า  ในระดับความสูงประมาณ ๙๒๐ เมตรจากระดับน้ำทะเล  บนสันเขากว้างเพียง ๑๐ กว่าเมตร  เลยจากนั้นเป็นเหวลึก  ความกว้างของลานจอดได้ตัดต้นออกไม่กว้างนัก  ต้นไม้ใหญ่อยู่ห่างจากปลายใบพัดใหญ่เพียงไม่กี่เมตร  การลงจอดของ ฮ. ลำใหญ่จึงต้องใช้ฝีมือกับโชคช่วย  กระแสลมแรงจะพัดกระโชกมาทางเทือกเขาตะนาวศรี  ลานจอด ฮ. เป็นช่องเขาจึงรับกระแสลมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  แนวสันเขาตะนาวศรีที่สูงประมาณ ๑๐๒๒ เมตร  อยู่ห่างออกไปไกลตั้งขวางหน้าอยู่  การลงของ ฮ. ลงตามกระแสลม  ต้องบินหลบแนวสันเขาตะนาวศรี  แล้วตั้งลำให้ตรงกับลานจอด

ถ้าอากาศเปิดท้องฟ้าโปร่งคงไม่มีอุปสรรคในการจอด  แต่ในสภาพอากาศที่เลวร้าย  ซึ่งมีกระแสลมแรงและหมอกหนาทึบ  จึงทำให้ไม่เห็นทัศนะวิสัยรอบตัว  เครื่องบินจึงมาปะทะกับต้นไม้  จึงเป็นอุบัติเหตุที่สุดวิสัย  มิใช่เหตุการณ์อย่างอื่น  ส่วนของเครื่องแบล๊กฮอว์กนั้น  เป็นเครื่องบินใหญ่  การตกของเครื่องนั้นไม่เห็นภูมิประเทศ 

สภาพของหมอกบนภูเขาสูงจะขาดหายเป็นช่วง ๆ  มีเวลาพอที่จะนำเครื่องลงจอดได้  จึงต้องบินวนรอเวลาอากาศเปิด  แต่ถ้าเป็นหมอกของทะเลหมอก  เป็นหมอกระดับต่ำปกคลุมป่า  เป็นหมอกที่ลอยตัวอยู่กับที่  อากาศเปิดก็คือหมดหมอกในยามสาย ๆ แต่บนภูเขาสูงกลางป่าลึกหน้าฝนมีอยู่ตลอดวันตลอดคืน

หญ้าและวัชพืชต่าง ๆ ขึ้นเต็มบนลานจอดที่เลิกใช้  ผ้าขาวที่ห่อร่างผู้กล้าออกมายังเห็นแทนเป็นร่างที่ทุกคนต้องนำออกไปให้ได้  ทุกคนเป็นได้เป็นผู้กล้า  กล้าเสี่ยงชีวิตตามหน้าที่และมีความรักนับถือต่อกัน  เจ้าหน้าที่อุทยาน ฯ หรือฝ่ายทหารที่รับผิดชอบทุกคน  ต้องเดินบุกป่า  ตากฝน ฝ่าดงทาก ลุยน้ำ  ขึ้นเขา  ร่างกายต่างก็บอบช้ำกับภารกิจนี้กว่าจะสำเร็จได้ด้วยดี  ส่วนวิญาณของวีรบุรุษผู้กล้าทั้งหมดขอให้ไปสู่สถานที่สุขคติ  ทุกคนถือว่าได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีที่สุดแล้ว  คงไม่มีใครที่อยากจะเอาชีวิตของตนเพื่อแลกกับคนบางคน  พ่อแม่  ลูกเมีย  ญาติพี่น้องของพวกเขา  ต้องใจสลายไปอีกนาน  คนที่เคยไปกู้เคยไปช่วยเหลือ  คงไม่มีใครอยากจะไปย้อนรอยกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก        

 
   
         
         
       
    ยอดเขาพะเนินทุ่ง สูง 1207 เมตร จากระดับน้ำทะเล    
       
    ยอดเขาสูงด้านขวามือ คือเทือกเขาตะนาวศรี    
       
    ที่เป็นยอดแม่น้ำเพชร จุดที่เครื่องบินตก    
       
    จาก กม.ที่36 จุดนี้ไปเป็นจุดเดินเท้าไปตามแนวสันเขา    
       
    มาลงที่แม่น้ำเพชรบุรี จากจุดนี้ไปเป็นสุดยอดของความลำบาก 2 วันเต็มๆ    
       
    น้ำนิ่งแต่ลึก สองฝั่งแม่น้ำก็รก    
       
    น้ำไหลแรง หินลื่น    
       
    ยามหน้าแล้งน้ำไม่มาก เดินข้ามไปมาสบาย    
       
    ฝูงปลาพลวงตัวใหญ่แหวกว่ายในน้ำ    
       
    ลำห้วยเยกเย อยู่ด้านขวามือ    
       
    ไหลลงแม่น้ำเพชรบุรี กลางป่าลึก    
       
    ลำห้วยเยกเยเป็นโตรกผาน้ำลึก ผ่านไปไม่ได้    
       
    ต้นไม้ใหญ่ล้มขวางแม่น้ำ    
       
    เต่า    
       
    อยู่กับสีเขียว    
       
    ค่างและชะนีมีอยู่มากมาย    
       
    หน่อไม้ในป่าหน้าแล้งยังพอหาได้    
       
    อาหารเมนูหน่อไม้    
       
    บนสันเขาใกล้ลานจอด ฮ.    
       
    ลานจอด ฮ.    
       
    หญ้าขันรก    
       
    ผ้าขาวที่ใช้ห่อร่างไร้วิญญาณของทหารกล้า    
       
    มองมาทางทิศตะวันออก เห็นยอดเขาพะเนินทุ่งอยู่ไกลลิบ    
       
    มองมาทางทิศตะวันตก เป็นเทือกเขาตะนาวศรี    
       
    บนสันเขามาจากห้วยเยกเย    
       
    ตกห่างลาน ฮ. ประมาณ 200 เมตร    
       
    ที่พักข้างลาน ฮ.    
       
    ทางเดินค้นหา ฮิวอี้และแบล็กฮอว์ก    
       
    เป็นป่าไผ่รก    
       
    กอไผ่ตายขุยทั้งป่า    
       
    ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความลำบาก    
       
    ระหว่างทางไปแบล็กฮอว์ก    
       
    ต้นน้ำห้วยเยกเย มีสายเดียวที่ใช้ดื่มกิน    
       
    เทือกเขาตะนาวศรียอด1200 เมตร ต้นห้วยเยกเย    
       
    หลังเขาเบื้องหน้าคือจุดของแบล็กฮอว์กตก    
       
    เทือกเขาในเขตประเทศพม่า    
       
    ระหว่างเส้นทางไปค้นหาแบล็กฮอว์ก    
       
    เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นอุปสรรคในการลงจอดของ ฮ.    
       
    เพิงพักของหน่วยสนับสนุนระหว่างเดินทาง    
       
    ห้วยเกาหลี เส้นทางเดินป่ากู้ภัย    
       
    ความสมบูรณ์ของป่าแก่งกระจาน อย่าให้ใครมาทำลาย    
       
    คนเหล่านี้อยู่จังหวัดเชียงใหม่ยังมาป่าแก่งกระจาน    
       
    ขอขอบใจต่อคนเหล่านี้ที่มีน้ำใจต่อพวกเรา

(แถวยืนจากซ้าย)  คุณสุวัฒน์ ทัศนานุตริยกุล จ.เชียงใหม่   คุณวินัย สิทธิจิรพงศ์ จ.เพชรบุรี