...........  @ ป่าต้นแม่น้ำบางกลอย @  .........

 

       
 

 

แม่น้ำบางกลอยเป็นแม่น้ำอีกสายหนึ่งในป่าแก่งกระจาน  ต้นกำเนิดเกิดจากเทือกเขาตะนาวศรีด้านทิศเหนือ  ซึ่งติดกับจังหวัดราชบุรี  ไหลจากทิศเหนือลงมาทางทิศใต้  มารวมกับแม่น้ำเพชรบุรีกลางป่าลึก  แม่น้ำมีความยาวประมาณเกือบ ๕๐ ก. มีลำห้วยที่สำคัญคือห้วยสามแพร่ง  ในอดีตช่วงก่อนปี ๒๕๑๐  ผืนป่าต้นน้ำเป็นหมู่บ้านกระหร่างชื่อ  หมู่บ้านใจแผ่นดิน  ปัจจุบันรกร้างกลับสภาพเป็นป่าเหมือนเดิม  มีต้นขนุน  หมาก  หลงเหลือปะปนกับป่าไม้

ลึกเลยไปติดชายแดนจะมีจุดทำพิธีกรรมของชาวเขา  เรียกว่า  ใจแผ่นดิน  ซึ่งมีลักษณะเป็นโพรงถ้ำลึก...................................

ในปี พ.. ๒๕๓๕  ป่าบางกลอยแห่งนี้ได้เป็นข่าวใหญ่  ในการสู้รบกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย  และได้อพยพชาวเขาทั้งหมดมาอยู่ที่บ้านโป่งลึกในปัจจุบันนี้  การสู้รบครั้งนั้นจึงมีนิยายขึ้นมาเรื่องหนึ่งว่า   ๓๕ วัน  นรกบางกลอย  ได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง  ผืนป่าทางด้านแม่น้ำบางกลอยนี้ถูกทำลายเพื่อทำไร่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำที่เป็นพื้นที่พอทำกินได้  สัตว์ป่าแทบไม่มี  รวมทั้งในน้ำก็แทบไม่มีปลา  ในปัจจุบันก็ยังคนบางกลุ่มยังเข้ามาอยู่  และปลาคงจะมีชุกชุมกว่าเดิม

จุดที่น่าสนใจในป่าแห่งนี้คงเป็นที่เรียกว่า  ใจแผ่นดิน  และยังมีน้ำตกขนาดที่กล่าวขานกัน  ที่ยังไม่มีใครนำมาเปิดเผย  ซึ่งอยู่เลยใจแผ่นดินไปติดกับเทือกเขาตะนาวศรี  เป็นพื้นที่อันตรายจึงไม่มีคนนอกอย่างพวกเรากล้าเข้าไป  สภาพของสองฝั่งแม่น้ำเป็นหน้าผาสูงชัน  แต่ก็มีทางเดินที่ชาวเขาใช้อยู่  จะมีอยู่ช่วงหนึ่งจะปีนป่ายลำบากมาก  เหนือลำห้วยสามแพร่งขึ้นไปตามแม่น้ำเดินได้สะดวก  จะเดินมาออกแม่น้ำเพชรบุรีนั้นลำบากมาก  ต้องล่องแพมาสะดวกกว่า  ใช้เวลาประมาณ ๓-๔ ชั่วโมงก็ถึงแม่น้ำเพชรบุรี

ตลอดริมฝั่งแม่น้ำบางกลอยไม่ค่อยมีหาดทราย  ไม่มีเสียงค่างหรือชะนีร้อง  โอกาสที่จะพบสัตว์ป่าคงสิ้นหวัง  แม้แต่ช้างก็ไม่มี  เพราะโขลงช้างเที่ยวอยู่บริเวณเขตติดต่อกับจังหวัดราชบุรี  และในป่าห้วยแม่ประโดน  ส่วนเหนือห้วยสามแพร่งขึ้นไปติดเทือกเขาตะนาวศรี  ทางด่านรกร้างไม่มีช้างป่ามาเดิน  ในการเดินทางเข้าท่องเที่ยวป่าแม่น้ำบางกลอย  ในอดีตช่วงที่ยังมีการทำสัมปทานป่าไม้ก่อนจะประกาศเป็นอุทยา ฯ  ทางสัมปทานสร้างมาถึงแม่น้ำบางกลอย  เกือบถึงห้วยสามแพร่ง  คงยังมีร่องรอยของทางรถยนต์ให้เห็นอยู่  แต่มีเส้นทางเดินของกระหร่างในอดีต  จากบ้านโป่งลึกตัดขึ้นสันเขาสูงไปลงที่แม่น้ำบางกลอยช่วงระหว่างครึ่งทางของแม่น้ำ  กระหร่างบอกว่า  เดินวันเดียวก็ถึง  อย่างเราก็คงใช้เวลาเดินเกือบ ๒ วัน  ต้องข้ามเขา ๓-๔ ลูก  จะผ่านไร่ร้างบนยอดเขา  เส้นทางแน่นอนชัดเจน

อีกเส้นทางหนึ่งคือเข้ามาทางอำเภอสวนผึ้ง  จังหวัดราชบุรี  ใช้เวลาเดิน ๒ วันจึงถึงป่าต้นน้ำบางกลอย  ช่วงป่าต้นแม่น้ำจนถึงห้วยสามแพร่ง  จะเดินสะดวกเพราะเป็นพื้นที่ราบ  มีทางด่านที่ช้างยังวนเวียนมาหากิน  จะเดินไปยังใจแผ่นดิน  หรือจะเดินไปสำรวจน้ำตกนิรนามก็ได้  ถ้าไม่อยากจะไปก็เดินมาตามแม่น้ำบางกลอย  แล้วล่องแพลงมาเขื่อนแก่งกระจาน  แต่ต้องช่วงครึ่งทางของแม่น้ำ  เพราะช่วงบนขึ้นไปมีแต่โขดหิน  ยามหน้าแล้งก็ล่องแพได้  แต่ให้ดีก็คงเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวจะดีกว่า

การเดินท่องป่ามิใช่ว่าจะต้องไปปีนเขา  หรือพิชิตยอดเขา  หรือไปน้ำตก  ล่องแพ  หน้าผา  หรือถ้ำ  สิ่งเหล่านั้นเป็นส่วนที่เราจะได้พบหรือต้องการไปพบกับมันโดยตรง  ซึ่งขอให้เป็นป่าธรรมชาติ  ก็ให้ความสุขกับคนที่ชอบป่าได้  การเดินป่านอกเส้นทางเดินป่า  หรือการเดินป่าที่ไม่มีใครนิยมมาเดินมาท่องเที่ยว  มันไม่ค่อยสะดวกนักกับเส้นทางเดินที่รกร้างเป็นป่ารก  แต่การได้เข้าไปมาและได้พบได้เห็นสิ่งต่าง ๆ นั่นแหละคือกำไรชีวิตในการท่องป่า 

 

   
           
         
           
   

ป่าที่ถูกแผ้วถางเพื่อทำไร่ข้าว

     
           
         
    ไร่ข้าวของชาวเขา ต้นแม่น้ำบางกลอย      
           
         
    จะปลูกข้าวเป็นหลัก      
           
         
           
    ชาวเขาเผ่ากระหร่าง      
           
         
           
    ใช้ชีวิตอยู่ในป่า      
           
         
           
    ปัจจุบันได้ย้ายออกมาอยู่รวมกันที่บ้านโป่งลึก      
           
         
           
    ที่อยู่ในปัจจุบัน      
           
         
           
    เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า บ้านบางกลอย      
           
         
           
    บ้านโป่งลึก ในอดีต      
           
         
           
    แต่พวกยังมีความพอใจในการใช้ชีวิตอยู่ในป่า      
           
         
           
    แม่น้ำบางกลอยยังล่องแพได้เช่นกัน