...........  @ ป่าต้นแม่น้ำเพชรบุรี @  .........

 

 

 

ต้นแม่น้ำเพชรบุรี  มีกำเนิดในผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  ที่มีเนื้อที่เกือบสองล้านไร่  จากเทือกเขาตะนาวศรีด้านทิศใต้  ต้นน้ำเริ่มไหลจากทิศใต้แล้วไหลมาทิศเหนือ  ถึงผาน้ำหยดแล้วไหลไปทิศตะวันออกลงเขื่อนแก่งกระจาน  ยังมีลำห้วยอีกหลายที่ไหลลงมารวมกันเป็นแม่น้ำ  เช่น ห้วยแม่ประโดน  ห้วยแม่สะเลียง  แม่น้ำบางกลอย  ห้วยทอธิบ  และห้วยเยกเย เป็นต้น  เป็นผืนป่าแห่งแรกในชีวิตที่ผู้เขียนได้ใช้เป็นประสบการณ์ท่องป่า  จนนับครั้งไม่ถ้วน  จากภาพถ่ายเก่า ๆ ในอดีต  ยังคงจดจำของการท่องป่าในแต่ละครั้งจนถึงปัจจุบัน  ภาพถ่ายมิใช่จะถ่ายให้สวยงามอย่างเดียว  แต่ถ่ายเพื่อแทนความจำช่วงระยะที่ผ่านมา  ภาพหนึ่งภาพ  แทนคำพูดได้เป็นร้อยเป็นพันคำ  

เมื่อเดินทางเข้าไปตามแม่น้ำเพชรบุรี  จะพบกับสภาพที่สมบูรณ์  ต้นไม้ขนาดใหญ่หลายคนโอบมีอยู่ตลอดริมฝั่งแม่น้ำ  ฝูงค่างจำนวนมากมายหากินบนต้นไม้  ชะนีจะร้องก้องป่าตลอดทั้งวันตลอดทาง  หมูป่า  เก้ง  กวาง  มีโอกาสพบเห็นได้ทุกเวลา  หรือสัตว์อย่างอื่น เช่น ช้าง  หมี  หรือสมเสร็จ   ร่อยรอยของเจ้าแมวป่าขนาดใหญ่เดินหากินตลอดริมแม่น้ำ  ถ้าโชคดีอาจจะมีโอกาสได้พบกับมัน  จะพบรอยเจ้าแมวป่ามากช่วงปากห้วยตะเกลโพและห้วยตะเกลพาดู 

ส่วนในน้ำก็คราคร่ำไปด้วยฝูงปลาพลวงจำนวนมหาศาลตลอดทั้งแม่น้ำ  ตัวขนาดครึ่งก..จนถึงขนาด ๕-๖ ก. อยู่รวมกันเป็นฝูงใหญ่แหวกว่ายในน้ำใส  รวมทั้งปลาอย่างอื่น  ฝูงนากกินปลาส่งเสียงร้องไล่ล่าหาปลากินกันอย่างอย่างมีความสุข  ต้นกุ่มน้ำจะออกดอกขาวบานสะพรั่งตลอดริมแม่น้ำทั้งปี  เวลาเช้ามืดจะเซ็งแซ่ไปด้วยเสียงชะนี้และเสียงค่างที่ออกหากิน  เวลาเช้าตรู่เป็นเสียงของนกนานชนิด  ส่วนในแม่น้ำฝูงปลาพลวงจะมาแหวกว่าชูสันกระโดงสลอนไปมา  หรืออาจจะมีโอกาสได้พบจระเข้ก็ได้  แต่ตัวมังกรทองมีมาก  นอนอาบแดดตามขอนไม้หรือตามต้นไม้ริมแม่น้ำ  แต่ละตัวโตขนาดโคนขาทำให้เข้าใจว่าเป็นจระเข้น้ำจืดไปได้เหมือนกัน

สถานที่ท่องเที่ยวที่รู้จักกันดี  คงมีแต่น้ำตกทอธิบเท่านั้น  ซึ่งต้องเดินจากแม่น้ำเข้าอีกประมาณ ๒๐ นาที  ตลอดแม่น้ำจะเป็นพื้นที่ราบเป็นส่วนมาก  มีหาดทรายอยู่ตลอดแต่ก็ไม่แน่เพราะแม่น้ำมีการเปลี่ยนแปลงทุกปี  กลางคืออากาศจะเย็น  การพักค้างแรมในแต่ละคืน  ต้องนอนติดแม่น้ำที่ไหลดังก้องป่า  จนไม่ได้เสียงของสัตว์ป่าที่เข้ามาในยามค่ำคืน  แม้แต่ช้าป่าเข้าจนก็ยังไม่ได้ยิน  มีเส้นทางเดินเฉพาะของทางด่าน  ที่พักจึงมักจะติดกับทางด่านโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้  เพราะถัดเลยจากแม่น้ำไปเป็นเชิงเขา  เว้นแต่จะผูกเปลนอนตามต้นไม้  จึงต้องระวังอันตรายจากสัตว์ป่าในยามค่ำคืน  ในการเดินแต่ละวันต้องเดินข้ามแม่น้ำหลายสิบครั้ง  บางแห่งข้ามได้ยากเพราะก้อนหินในน้ำลื่นมาก  น้ำลึกแค่หัวเข่าจนถึงโคนขา  แต่ใช้เดินได้เฉาพะหน้าแล้งหรือช่วงที่น้ำลดเท่านั้น  ถ้าน้ำสูงมากกว่านี้จะเดินข้ามไม่ได้  หรือข้ามลำบากจากกระน้ำที่ไหลแรง

การเดินเข้าไปในแม่น้ำเพชรในอดีตเมื่อหลายสิบปี  ถ้าพูดเฉพาะการเดินทางเข้าตามลำแม่น้ำ  ก็ต้องนั่งเรือจากเขื่อนแก่งกระจานจนถึงสุดน้ำเอ่อแล้วนำเรือเล็กขึ้นไปอีก  จะไปได้ถึงไหนก็อยู่ที่ความยามของแต่ละบุคคลเป้าหมายที่จะไป  พวกที่หาปลาก็จะเอาเรือไปถึงผาน้อยซึ่งอยู่เลยวังคาขึ้นไป  การหาปลาจะใช้วิธีระเบิดหรือใช้ไฟช๊อต  มาพักค้างแรมเป็นอาทิตย์หรือเกือบเดือนในแต่ละครั้ง  ทำเป็นปลารมควัน  พอได้เต็มลำเรือก็ขนลำเลียงลงมาขาย  ส่วนพวกที่ต้องการอย่างอื่นก็เข็นเรือผ่านแก่งขึ้นถึงใจกลางป่าลึก  เพราะมีสัตว์ป่าชุกชุมมาก  โดยเฉพาะ  เก้ง  กวาง  เมื่อยี่สิบปีก่อนต้องนั่งเรือมากจากเขื่อนแก่งกระจาน  มาลงที่ห้วยแม่ประโดนหรือที่บ้านประตูผี  แล้วหาเรือเล็กมาส่งที่น้ำเอ่อ  จากนั้นเดินไปตามทางสัมปทานป่าไม้ที่รกร้างจนถึงวังคา  ข้ามแม่น้ำไปอีกฟากหนึ่งไปถึงปากแม่น้ำบางกลอย  ผ่านผาน้ำหยด  ซึ่งหน้าผาสูงมีน้ำไหลหยดตลอดปี  บนหน้าสูงมีรังผึ้งหลวงอาศัยอยู่นับสิบรัง

เลยจากผาน้ำหยดไปจะมีทางด่านตลอดจนถึงห้วยทอธิบ  ปัจจุบันไม่ค่อยมีช้างป่ามาเดินจึงทำให้รกและเปลี่ยนเส้นทาง  แต่ก่อนทางด่านจะโล่งเดินสบาย  สามารถใช้เป็นทางปั่นจักรยานได้  เลยจากห้วยทอธิบไปประมาณหนึ่งชั่วโมง  จะเป็นหน้าผาช่องแคบน้ำลึก  ต้องปีนด้านซ้ายมือ(ทิศตะวันออก ถ้าพลาดก็ตกน้ำที่ลึกสีเขียวน่ากลัว  เพราะทางด่านช่วงจะตัดข้ามสันสูงด้านทิศตะวันตก  เลยจากนี้ไปจะมีทางด่านสลับเดินตามแม่น้ำ  แต่ช้างโขลงจะไม่มาหากินคงมีแต่ช้างที่กินตัวเดียว  จึงเป็นป่ารกและเดินลำบาก  ก่อนสุดสายน้ำจะพบไร่เก่าของชาวเขาที่เคยทำไร่  ถ้าเริ่มเดินจากบ้านโป่งลึกจนถึงสุดสายน้ำก็คงใช้เวลาประมาณ ๖ วันอย่างไม่รีบร้อน

ในปัจจุบันการเดินทางเข้าต้นแม่น้ำเพชรบุรีสะดวกกว่าเดิมมาก  เพราะมีถนนที่ตัดไปน้ำตกทอธิบ  เดินจาก ก.. ๓๖ ไปอีกสองชั่วโมงกว่าก็ถึงน้ำตกทอธิบ  ซึ่งอยู่ใจกลางป่าต้นน้ำแม่น้ำเพชรบุรี  ที่อยู่เราว่าจะเดินขึ้นไปยังต้นแม่น้ำ  หรือว่าจะเดินลงมาตามแม่น้ำ  ถ้าเดินทวนกระแสน้ำขึ้นไปจนสุดแม่น้ำเพชรบุรี  ใช้เวลาประมาณ ๓ วัน  ถ้าเดินมาตามแม่น้ำอีก ๒-๓ วันก็จะถึงบ้านโป่งลึก  หรือล่องแพมาก็ได้  จนถึงน้ำเขื่อนแก่งกระจานเอ่อถึง  ใช้เวลาประมาณ ๒ วัน  ล่องได้เฉพาะช่วงตั้งซับชุมเห็ดลงมา  และล่องได้เฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว  เลยจากนั้นก็แล้วแต่ปริมาณของน้ำที่ไหลตลอดทั้งปี  แต่หน้าแล้งน้ำค่อนข้างน้อยมาก

 
   
           
   

     
           
   

เส้นทางไปน้ำตกทอธิบช่วงที่กำลังสร้าง ระหว่าง ก.ม.ที่ 23-24

     
           

           
   

ก.ม.ที่36 ที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ

     
           

           
   

ป่าไม้ด้านที่ดินถูกไถลงมาทับถมจนหมด

     
           
         
           
    ไปสิ้นสุดที่ ก.ม.36 ซึ่งอยู่ใจกลางป่าแก่งกระจาน      
           
         
           
    หุบเขาเบื้องล่างคือต้นแม่น้ำเพชรบุรี ด้านซ้ายมือเป็นเทือกเขาตะนาวศรี      
           
         
           
    สายน้ำไหลจากทิศใต้ไปทิศเหนือ ไปบรรจบกับแม่น้ำบางกลอย      
           
         
           
    ต้นแม่น้ำที่แคบที่สุด ก่อนถึงห้วยเยกเย      
           
         
           
    ป่าต้นน้ำถูกแผ้วถางจุดไฟเผาเพื่อทำไร่ข้าวโพด      
           
         
           
    ชาวเขาเผ่ากระหร่าง      
           
         
           
    ใช้ชีวิตอยู่กลางป่าลึก      
           
         
           
    คนในเมืองใช้ชีวิตอย่างนั้นบ้าง      
           
         
           
    ในน้ำมีปลา ในป่ามีสัตว์      
           
         
           
    ปลาพลวงมีอยู่มากตลอดแม่น้ำ      
           
         
           
    อาหารจึงหาได้โดยไม่ยาก      
           
         
           
    บริเวณที่เป็นหน้าผา      
           
         
           
    ซากกระดูกสัตว์ขนาดใหญ่ ถูกล่าทิ้งไว้ริมฝั่งแม่น้ำ      
           
         
           
    อาจจะเป็นกระดูกของจรเข้น้ำจืดก็ได้      
           
         
           
    ด้านซ้ายมือเป็นแม่น้ำเพชรบุรี      
           
         
           
    ด้านขวามือเป็นแม่น้ำบางกลอย ที่แม่น้ำ๒สายไหลมาบรรจบกัน