ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ



จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อความสะดวก และสวยงาม
(เฉพาะหน้าจอใหญ่ เช่น คอมพิวเตอร์)
กรุณาคลิก จัดรูปหน้าใหม่
เพื่อให้กรอบ
ค้นข้อความ ปรากฎที่ด้านซ้ายของหน้า

พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ๔๕ เล่ม (ปกสีฟ้า)
ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
ที่มาของข้อมูล : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับ มจร.
MCUTRAI Version 1.0

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘-๕ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๕ ยมก ภาค ๑

พระอภิธรรมปิฎก
ยมก ภาค ๑
_____________
ขอนอบน้อมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ทุกมูลกนัย
[๑๗๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่ละมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่ละกามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรค
แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละมานานุสัย แต่มิใช่ไม่
ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละมานานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่ละ
วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย แต่มิใช่
ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและ
บุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆา-
นุสัย แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละอวิชชานุสัย แต่มิใช่ไม่
ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละอวิชชานุสัย และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๑๗๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย แต่
มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘
แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย และ
มานานุสัย แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อรหัตตมรรคไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่ละ
มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคล
ที่เหลือไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและมานานุสัย
แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละอวิชชานุสัย และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๑๗๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัย แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย
แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย ฯลฯ
ปัญจกมูลกนัย
[๑๗๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัย
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและ
มานานุสัย แต่มิใช่ไม่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรคไม่ใช่ละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่มิ
ใช่ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรค
และบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละอวิชชานุสัย และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๑๗๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
และภวราคานุสัย แต่มิใช่ไม่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่ละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัย แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้
พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
ภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิโลมโอกาส
เอกมูลกนัย
[๑๗๖] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่ละปฏิฆานุสัย ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๗๗] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
ละปฏิฆานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๗๘] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
ละวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
อวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๗๙] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๑๘๐] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
[๑๘๑] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๑๘๒] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
ก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละมานานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่
ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น และก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย ใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ติกมูลกนัย
[๑๘๓] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
ไม่ใช่ละภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย
และมานานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ติกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
จตุกกมูลกนัย
[๑๘๔] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
ปัญจกมูลกนัย
[๑๘๕] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ฉักกมูลกนัย
[๑๘๖] อนุ. บุคคลไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ฉักกมูลกนัย จบ

ปฏิโลมปุคคโลกาส
เอกมูลกนัย
[๑๘๗] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและก็ไม่ใช่
ละปฏิฆานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
นั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย เว้นบุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิ
ใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่ ละกามราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่
ใช่ละมานานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค
และบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและก็ไม่ใช่
ละวิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
ละกามราคานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย เว้นบุคคล
๒ จำพวก ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
ละกามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๖๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคา-
นุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือ
ในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
[๑๘๘] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
และก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่
ใช่ละมานานุสัยและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค
และบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย เว้น
บุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่
ใช่ละภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ ใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก
ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยและก็
ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่
ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
[๑๘๙] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละมานานุสัยและก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิ
ใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่
ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอรหัตตมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคานุสัยและก็
ไม่ใช่ละมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละมานานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๑๙๐] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๑๙๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละภวราคานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย เว้น
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิ
ทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคา-
นุสัยและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ ละ
วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค
และบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย
[๑๙๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๑๙๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละมานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียง
ด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
และก็ไม่ใช่ละมานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละมานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละกาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละมานานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละมานานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล
๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละมานานุสัย
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้น
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิ
ทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละวิจิกิจฉานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิ
ทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละภวราคา-
นุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและ
ก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละภวราคานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เว้น
บุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
ละภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่
ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละอวิชชานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชา-
นุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ติกมูลกนัย
[๑๙๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่ละวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคล
ที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานา-
นุสัยและก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคา-
นุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
ทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย เว้น
บุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย และ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกข-
เวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคานุสัย
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชา-
นุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละ
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือ
ในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๑๙๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่
ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
นั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย เว้นบุคคล
๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้ง
หมดไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัย ฯลฯ
[๑๙๖] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-
นุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่ละภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัย
กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่
ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉา-
นุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก
ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่
ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่
ใช่ละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ
และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-
นุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๑๙๗] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละอวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๓. ปชหนวาร
ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘
แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ใน
ทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่ละกามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุและ
ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่ละอวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉา-
นุสัย และภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่ละอวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ
ปฏิโลมในปชหนวาร จบ
ปชหนวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
๔. ปริญญาวาร
อนุโลมบุคคล
เอกมูลกนัย
[๑๙๘] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ปฏิฆา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
[๑๙๙] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้มานานุสัย
ใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับปฏิฆานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับปฏิฆานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๒๐๐] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
[๒๐๑] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๐๒] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคา-
นุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๒๐๓] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๒๐๔] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัย
เป็นต้นนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัย
เป็นต้นนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๐๕] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล
นั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะมานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๐๖] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้ทิฏฐานุสัย กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น ฯลฯ
[๒๐๗] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชา-
นุสัยมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะมานานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๐๘] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะมานานุสัยและภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
เอกมูลกนัย
[๒๐๙] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
[๒๑๐] อนุ. บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคล
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
[๒๑๑] อนุ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ทิฏฐา-
นุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้มานานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น และก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้มานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้มานานุสัย
[๒๑๒] อนุ. บุคคลกำหนดรู้ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๑๓] อนุ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๑๔] อนุ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
เอกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ทุกมูลกนัย
[๒๑๕] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
ก็กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนด
รู้มานานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนด
รู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไมใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนด
รู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนด
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
กำหนดรู้อวิชชานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆา-
นุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๑๖] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยและมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยและมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๑๗] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา
บุคคลกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย ฯลฯ
[๒๑๘] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้ภวราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ฉักกมูลกนัย
[๒๑๙] อนุ. บุคคลกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลกำหนดรู้อวิชชานุสัย
กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัย ในทุกขเวทนา บุคคลกำหนดรู้
อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ

อนุโลมปุคคโลกาส
เอกมูลกนัย
[๒๒๐] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนด
รู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนด
รู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนด
รู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนด
รู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนด
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับกามราคานุสัยนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๒๒๑] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้น กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่อยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับปฏิฆานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๒๒๒] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้น กำหนดรู้มานานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันนั้น
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้มานานุสัย
[๒๒๓] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๒๔] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ
และอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้
ภวราคานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
[๒๒๕] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๒๒๖] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉา-
นุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะ
อนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ใช่
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ติกมูลกนัย
[๒๒๗] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้มานานุสัย และก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่
เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้กามราคานุสัย มานานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่
ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น กำหนด
รู้ปฏิฆานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่อยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นกำหนดรู้อวิชชานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๒๘] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
มีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้มานานุสัย และก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัย
ที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับวิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัยและก็กำหนดรู้
เฉพาะอนุสัยที่ตั้งอยู่ในที่เดียวกันกับอนุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นกำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและทิฏฐานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็กำหนดรู้เฉพาะอนุสัยที่อยู่ในเดียวกันกับ
วิจิกิจฉานุสัยนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย ฯลฯ
[๒๒๙] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นกำหนดรู้เฉพาะมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกาม-
ธาตุ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้อวิชชานุสัยและมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๓๐] อนุ. บุคคลใดกำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนด
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดกำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นกำหนด
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้อวิชชานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นกำหนดรู้
อวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ
อนุโลมในปริญญาวาร จบ

๔. ปริญญาวาร
ปฏิโลมบุคคล
เอกมูลกนัย
[๒๓๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนด
รู้ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-
นุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่
เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและ
บุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
[๒๓๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
ใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่
ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคล
ที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคา-
นุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรูปฏิฆา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
[๒๓๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคา-
นุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
[๒๓๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๓๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่
ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
[๒๓๖] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ทุกมูลกนัย
[๒๓๗] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย แต่มิ
ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘
แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและ
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียง
ด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อม
เพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๓๘] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและ
บุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและ
มานานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัย แต่มิใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและ
มานานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก
ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๓๙] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก
ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉา-
นุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
[๒๔๐] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชา-
นุสัยใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และ
มานานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-
นุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้
พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๔๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย และภวราคานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคล
ผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือ
ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ

ปฏิโลมโอกาส
เอกมูลกนัย
[๒๔๒] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนด
รู้ปฏิฆานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่
ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่อง
ในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๔๓] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิ
ใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนด
รู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่
ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่
ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในสภาว-
ธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๔๔] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๔๕] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
[๒๔๖] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๔๗] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ทุกมูลกนัย
[๒๔๘] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและ
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและกามราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็
ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๔๙] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นใช่ไหม
วิ. ใช่


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิ
ใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัยและมานานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลนัย
[๒๕๐] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๕๑] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ในทุกขเวทนา บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และ
มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัย ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ฉักกมูลกนัย
[๒๕๒] อนุ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด ก็ไม่ใช่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ฉักกมูลกนัย จบ

ปฏิโลมปุคคโลกาส
เอกมูลกนัย
[๒๕๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๕๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น และก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่ มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและ
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่
ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมด
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิ-
มรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียง
ด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และ
ในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาว-
ธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย
มรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนด
รู้กามราคานุสัย
[๒๕๔] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่
๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือ
ในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็
ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย
[๒๕๕] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้น
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และ
ในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่
ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคล
ที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนด
รู้มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย เว้น
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิ
ทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในสภาวธรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อรหัตตมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๕๖] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็
ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๕๗] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘
แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมด
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียง
ด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิ ทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอรหัตตมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
[๒๕๘] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคล
นั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อม
เพรียงด้วยอรหัตตมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๒๕๙] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และใน
รูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวก
ผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้มานานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้มานานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคลที่ ๘
แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและก็ไม่
ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้วิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๖๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น และก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรคและบุคคล
ที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนด
รู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
นั้น ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้ภวราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุและ
ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้ภวราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กาม-
ราคานุสัย ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคล
ที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุใด
บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่
ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียง
ด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยและกามราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้อวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่
เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย และก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๖๐] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องใน
วัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียง
ด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคา-
นุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุและใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาว-
ธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เว้น
บุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือใน
ภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้น
ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย บุคคลผู้
พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับ
เนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้
พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอัน
เกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น
และก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่
ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่
ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และใน
สภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคแล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๖๑] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่
ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุ
นั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ
อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัยและทิฏฐานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนาและในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏ-
ทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้
พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ
[๒๖๒] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่น
แหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้
กามราคานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่
นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้ภวราคานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้มานานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา
และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัย
อันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและ
บุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย
อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐา-
นุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรม
ที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้
อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว
บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอัน
เกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยอันเกิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
จากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิด
จากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-
นุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้
พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๖๓] อนุ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยอรหัตตมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้อวิชชานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจาก
ธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย เว้นบุคคล ๒ จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๔. ปริญญาวาร
มรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมดไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนด
รู้อวิชชานุสัย
ปฏิ. บุคคลใดไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุใด บุคคลนั้นก็ไม่ใช่
กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นใช่ไหม
วิ. บุคคลที่ ๘ ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์ บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนด
รู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย บุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วย
อนาคามิมรรค ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย กามราคานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่
มิใช่ไม่กำหนดรู้ปฏิฆานุสัย บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
และภวราคานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้น แต่มิใช่ไม่กำหนดรู้กามราคานุสัย บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในรูปธาตุ อรูปธาตุ และในสภาวธรรมที่ไม่นับเนื่องในวัฏฏทุกข์
บุคคลนั้นไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยอันเกิดจากธาตุนั้นและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัย เว้นบุคคล ๒
จำพวกผู้พร้อมเพรียงด้วยมรรคและบุคคลที่ ๘ แล้ว บุคคลที่เหลือในภูมิทั้งหมด
ไม่ใช่กำหนดรู้อวิชชานุสัยและก็ไม่ใช่กำหนดรู้กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย ภวราคานุสัย
ฉักกมูลกนัย จบ
ปฏิโลมในปริญญาวาร จบ
ปริญญาวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
๕. ปหีนวาร
อนุโลมบุคคล
เอกมูลกนัย
[๒๖๔] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละกามราคานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละกามราคานุสัยได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยได้
แล้ว บุคคลอีก ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละกามราคานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละกามราคานุสัยได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๗๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๖๕] อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละปฏิฆานุสัยได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-
นุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
บุคคลอีก ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละปฏิฆานุสัยได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๖๖] อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๖๗] อนุ. บุคคลใดละทิฏฐานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๖๘] อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย
ฯลฯ อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๖๙] อนุ. บุคคลใดละภวราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ทุกมูลกนัย
[๒๗๐] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
มานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
มานานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยได้แล้วและก็ละ
มานานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆา-
นุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลอีก ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
อวิชชานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยได้แล้วและก็ละ
อวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ติกมูลกนัย
[๒๗๑] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยได้แล้ว อนาคามีบุคคลละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้น
ก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๗๒] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัยได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละวิจิกิจฉานุสัยและทิฏฐานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยได้แล้ว อนาคามีบุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว
อรหันตบุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัยได้แล้ว
ฯลฯ
ปัญจกมูลกนัย
[๒๗๓] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๗๔] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ฉักกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุโลมโอกาส
เอกมูลกนัย
[๒๗๕] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา
๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้
คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละกามราคานุสัย
ได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย
ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้
คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้วและก็ละกามราคานุสัย
ได้แล้ว
[๒๗๖] อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละ
วิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละ
อวิชชานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
[๒๗๗] อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่มานานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยได้แล้ว แต่
ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้ว แต่มานานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
[๒๗๘] อนุ. บุคคลละทิฏฐานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๗๙] อนุ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว
แต่ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
[๒๘๐] อนุ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้ว แต่
ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๒๘๑] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละ
มานานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยและกามราคานุสัยได้แล้ว
แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๘๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและกามราคานุสัยได้แล้ว
แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
ทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยและกามราคานุสัยได้แล้ว
แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
ทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ติกมูลกนัย
[๒๘๒] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว
ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและมานานุสัย
ในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
กามราคานุสัย และมานานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็
ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นละเฉพาะมานานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยและมานานุสัย
ในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย
กามราคานุสัย และมานานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยได้แล้ว
แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๘๓] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่ใดได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ฯลฯ
[๒๘๔] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละภวราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละ
อวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกข-
เวทนา บุคคลละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว
แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๘๕] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา
๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ฉักกมูลกนัย จบ

อนุโลมปุคคโลกาส
เอกมูลกนัย
[๒๘๖] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละกามราคา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคล ในเวทนา ๒ ใน
กามธาตุ บุคคลนั้นละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่นั้น
ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วและ
ก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละทิฏฐานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล
เหล่านั้นละทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
เหล่านั้นละทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคล ๒
จำพวก ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละทิฏฐานุสัยในที่
นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละทิฏฐานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่า
นั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
เหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยได้แล้ว บุคคล ๒
จำพวก ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยใน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละกามราคานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นละกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยได้แล้ว
[๒๘๗] อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่า
นั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว บุคคล ๒ จำพวก
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้
แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยแล้วได้ อรหันตบุคคล ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. อรหันตบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว
[๒๘๘] อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้ว แต่มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
เหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคล
ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วและก็ละมานานุสัย
ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่
นั้นได้แล้ว แต่ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
และก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
แต่มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่น
แหละในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละมานานุสัยได้แล้ว
[๒๘๙] อนุ. บุคคลใดละทิฏฐานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัยในที่นั้น
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๒๙๐] อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น
ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละภวราคานุสัยได้แล้ว อรหันตบุคคล ใน
เวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ภวราคานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุ
และอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๗๙๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละอวิชชานุสัยได้แล้ว อรหันต-
บุคคล ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นได้แล้วและก็ละอวิชชานุสัยได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
[๒๙๑] อนุ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่
นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยใน
ที่นั้นได้แล้ว แต่ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
และก็ละภวราคานุสัยได้แล้ว
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๒๙๒] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคล
นั้นก็ละมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่นั้น
ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัย
และกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละ
ได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล ๒
จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัย
และกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละ ไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัย และปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่
นั้นได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
และกามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว”
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๒๙๓] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใด
ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ใน
เวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัยและมานานุสัยได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุ
และอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยและ
กามราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
ละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและ
อรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และ
มานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่
ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆา-
นุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นละเฉพาะมานานุสัยได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและ
มานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าว
ว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
ละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๒๙๔] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละวิจิกิจฉานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและมานานุสัยได้แล้วปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละ
วิจิกิจฉานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยได้แล้ว กามราคา-
นุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” อนาคามีบุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่
ไม่ใช่ละมานานุสัยได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละ
วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละมานานุสัย
ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่นั้นได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ฯลฯ
[๒๙๕] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นละเฉพาะมานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย แต่กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคา-
นุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๒๙๖] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นได้
แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. อรหันตบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย มานา-
นุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่กามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ ”ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา
บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นได้แล้ว
แต่กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว”
ฉักกมูลกนัย จบ
อนุโลมในปหีนวาร จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
๕. ปหีนวาร
ปฏิโลมบุคคล
เอกมูลกนัย
[๒๙๗] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัย
ไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่มิใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้
แล้ว บุคคล ๓ จำพวกละกามราคานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว แต่มิใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละกามราคานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่
ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้
แล้ว บุคคล ๓ จำพวกละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
[๒๙๘] อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัย
ไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคล ๓ จำพวกละมานานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคล ๓ จำพวกละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
[๒๙๙] อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกละมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่
ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละมานานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ
อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
[๓๐๐] อนุ. บุคคลใดละทิฏฐานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๓๐๑] อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย
ฯลฯ อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๐๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวกละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่
ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๐๒] อนุ. บุคคลใดละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยไม่
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๓๐๓] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็
ละมานานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวกละมานานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละกามราคา-
นุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่
ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้
แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวกละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละกามราคา-
นุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๓๐๔] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวกละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยไม่ได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆา-
นุสัยและมานานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัยและมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไมใช่ละ
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวกละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว
และก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยไม่ได้แล้ว
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๓๐๕] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัยและทิฏฐานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
ปัญจกมูลกนัย
[๓๐๖] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย ฯลฯ อวิชชานุสัยไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัยและมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๒ จำพวก
ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและ
ก็ละ กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ฉักกมูลกนัย
[๓๐๗] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล
๒ จำพวก ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
ไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชนละ
อวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ฉักกมูลกนัย จบ

อนุโลมโอกาส
เอกมูลกนัย
[๓๐๘] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือ ในเวทนา
๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
และก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชา-
นุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละ
กามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๐๙] อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่
ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉา-
นุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลไม่ได้ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ได้ละแล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละ
อวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๑๐] อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว มานานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว มานานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๑๑] อนุ. บุคคลละทิฏฐานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยใน
ธาตุที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๓๑๒] อนุ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยใน
ธาตุนั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้น
ไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
[๓๑๓] อนุ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้น
ไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว
ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๓๑๔] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละมานานุสัยและกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆา-
นุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและกามราคานุสัยไม่
ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือ
ในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วแล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยและกามราคานุสัยไม่ได้
แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือใน
ทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ทุกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๑๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ติกมูลกนัย
[๓๑๕] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดไม่
ได้แล้ว ก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและมานานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย กาม-
ราคานุสัย และมานานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่
ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้
แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็
ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละภวราคานุสัยและมานานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัยและมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัยและมานานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย
กามราคานุสัย และมานานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ได้
แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ติกมูลกนัย จบ

จตุกกมูลกนัย
[๓๑๖] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละวิจิกิจฉานุสัย มานานุสัย
และทิฏฐานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลละ
วิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคล
ละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และทิฏฐานุสัยในไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานา-
นุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ฯลฯ
[๓๑๗] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นละได้เฉพาะมานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัย กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
ละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา
บุคคลละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคา-
นุสัย และมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปัญจกมูลกนัย จบ

ฉักกมูลกนัย
[๓๑๘] อนุ. บุคคลละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัยและภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว ก็ละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย
มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. ในที่นี้ คือในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลละอวิชชานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ในที่นี้ คือในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่
ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ในที่นี้ คือในทุกขเวทนา บุคคลละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉา-
นุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ฉักกมูลกนัย จบ

ปฏิโลมปุคคโลกาส
เอกมูลกนัย
[๓๑๙] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละ
ได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
กามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชน
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละ
วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้น
ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวก
ในทุกขเวทนา ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้ว กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
เหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วและก็ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๒๐] อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๒ จำพวก ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในทุกขเวทนา
บุคคลนั้นละปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยใน
ที่นั้นใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละปฏิฆานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคล ๓ จำพวก ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย ในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละปฏิฆานุสัย
ไม่ได้แล้ว
[๓๒๑] อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย
ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้น
ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้น
ไม่ได้แล้ว มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลนั้นละ
วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวก ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวก ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
เหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละมานานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๒๒] อนุ. บุคคลใดละทิฏฐานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉา-
นุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่ ฯลฯ
[๓๒๓] อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
ภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละภวราคา-
นุสัย ในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว บุคคลผู้เป็นปุถุชน ใน
รูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว
อนุ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ และในรูปธาตุ อรูปธาตุ บุคคล
นั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
[๓๒๔] อนุ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ใช่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๔ จำพวก ในเวทนา ๓ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละ
อวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้น
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วและก็ละภวราคานุสัยไม่ได้แล้ว
เอกมูลกนัย จบ

ทุกมูลกนัย
[๓๒๕] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคล
นั้นก็ละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละ
ไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละมานานุสัยใน
ที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒
ใน กามธาตุ บุคคลเหล่านั้น ละมานานุสัยและกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็
ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๒๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัยและกามราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉา-
นุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็
ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
และปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชา-
นุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้น
ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยไม่

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุ
และอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้น
นั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว”
ทุกมูลกนัย จบ

ติกมูลกนัย
[๓๒๖] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใด
ไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละทิฏฐานุสัย ฯลฯ วิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคล
นั้นละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา
บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
มานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลนั้นละมานานุสัยไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่
ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว
บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละ
ได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย
ไม่ได้แล้วปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้น
นั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละ
ปฏิฆานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชา-
นุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ
ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ติกมูลกนัย จบ
[๓๒๗] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ปฏิ. บุคคลใดละวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัยและทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย
มานานุสัย และทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒
ในกามธาตุ บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย และทิฏฐานุสัย
ในที่นั้นไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละวิจิกิจฉานุสัย ปฏิฆานุสัย และ
ทิฏฐานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” ฯลฯ
[๓๒๘] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม
วิ. บุคคล ๓ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละภวราคา-
นุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละภวราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควร
กล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และ
วิจิกิจฉานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้วใช่ไหม

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและ
มานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กาม-
ราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
นั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยและมานานุสัยในที่
นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นไม่ได้ละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล ๒ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐา-
นุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย และปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า
“ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ
บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัยและมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละ
อวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่
ได้แล้ว” บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย มานา-
นุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและ
ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ
ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย กามราคานุสัย มานานุสัย
ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละ
ได้แล้ว” หรือ “ละ ไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละ
อวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่กาม-
ราคานุสัยและมานานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ปัญจกมูลกนัย จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๕. ปหีนวาร
ฉักกมูลกนัย
[๓๒๙] อนุ. บุคคลใดละกามราคานุสัย ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย
วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละอวิชชานุสัยในที่นั้น
ไม่ได้แล้วมีไหม
วิ. ไม่มี
ปฏิ. บุคคลใดละอวิชชานุสัยในที่ใดไม่ได้แล้ว บุคคลนั้นก็ละกามราคานุสัย
ปฏิฆานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้
แล้วใช่ไหม
วิ. อนาคามีบุคคล ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
มานานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่
ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละกามราคานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย
ไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้
แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ละปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย
มานานุสัย และภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคล
๒ จำพวก ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย มานา-
นุสัยและภวราคานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉานุสัยไม่ได้
แล้ว กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลเหล่านั้นละอวิชชานุสัย
กามราคานุสัย และมานานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและ
วิจิกิจฉานุสัยไม่ได้แล้ว ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว”
หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลเหล่านั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลเหล่านั้นละ
อวิชชานุสัยและปฏิฆานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่ไม่ใช่ละทิฏฐานุสัยและวิจิกิจฉา-
นุสัยไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้
แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว” บุคคลผู้เป็นปุถุชน ในรูปธาตุและอรูปธาตุ บุคคล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๖. อุปปัชชหนวาร
นั้นละอวิชชานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย วิจิกิจฉานุสัย และภวราคานุสัยในที่นั้น
ไม่ได้แล้ว แต่กามราคานุสัยและปฏิฆานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ
“ละไม่ได้แล้ว” บุคคลนั้นนั่นแหละ ในเวทนา ๒ ในกามธาตุ บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย
กามราคานุสัย มานานุสัย ทิฏฐานุสัย และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว แต่
ปฏิฆานุสัยและภวราคานุสัยไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
บุคคลนั้นนั่นแหละ ในทุกขเวทนา บุคคลนั้นละอวิชชานุสัย ปฏิฆานุสัย ทิฏฐานุสัย
และวิจิกิจฉานุสัยในที่นั้นไม่ได้แล้ว กามราคานุสัย มานานุสัย และภวราคานุสัย
ไม่ควรกล่าวว่า “ละได้แล้ว” หรือ “ละไม่ได้แล้ว”
ฉักกมูลกนัย จบ
ปฏิโลมในปหีนวาร จบ
ปหีนวาร จบ

๖. อุปปัชชหนวาร
[๓๓๐] อนุ. กามราคานุสัยของบุคคลใดเกิด ปฏิฆานุสัยของบุคคลนั้นก็เกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปฏิฆานุสัยของบุคคลใดเกิด กามราคานุสัยของบุคคลนั้นก็เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กามราคานุสัยของบุคคลใดเกิด มานานุสัยของบุคคลนั้นก็เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. มานานุสัยของบุคคลใดเกิด กามราคานุสัยของบุคคลนั้นก็เกิดใช่ไหม
วิ. มานานุสัยของอนาคามีบุคคลเกิด แต่กามราคานุสัยไม่เกิด มานา-
นุสัยของบุคคล ๓ จำพวกเกิดและกามราคานุสัยก็เกิด
(พึงขยายความให้พิสดาร)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
[๓๓๑] อนุ. กามราคานุสัยของบุคคลใดไม่เกิด ปฏิฆานุสัยของบุคคลนั้นก็ไม่
เกิดใช่ไหม
วิ. ใช่
ปฏิ. ปฏิฆานุสัยของบุคคลใดไม่เกิด กามราคานุสัยของบุคคลนั้นก็ไม่เกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
อนุ. กามราคานุสัยของบุคคลใดไม่เกิด มานานุสัยของบุคคลนั้นก็ไม่เกิด
ใช่ไหม
วิ. กามราคานุสัยของอนาคามีบุคคลไม่เกิด แต่มานานุสัยมิใช่ไม่เกิด
กามราคานุสัยของอรหันตบุคคลไม่เกิดและมานานุสัยก็ไม่เกิด
ปฏิ. ปฏิฆานุสัยของบุคคลใดไม่เกิด กามราคานุสัยของบุคคลนั้นก็ไม่เกิด
ใช่ไหม
วิ. ใช่
(พึงขยายความให้พิสดาร)
อุปปัชชนวาร จบ

๗. ธาตุปุจฉาวาร
กามธาตุมูลกนัย
[๓๓๒] บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะ๑เท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัย
นอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร

เชิงอรรถ :
๑ คำว่า อนุสยภังคะ แปลว่าความแตกดับแห่งอนุสัย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
กามธาตุมูลกนัย จบ

รูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๓] บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติอยู่ในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
รูปธาตุมูลกนัย จบ

อรูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๔] บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๓๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
อรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามธาตุมูลกนัย
[๓๓๕] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่า
ไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นกามธาตุมูลกนัย จบ

นรูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๖] บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นรูปธาตุมูลกนัย จบ


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
นอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๗] บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร
ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามนอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๘] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นกามนอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นรูปนอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๓๙] บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุปุจฉาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้ว ไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้ว ไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้ว ไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นรูปนอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามนรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๐] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
เท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๔ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ มี
อนุสัยนอนเนื่องเท่าไร ไม่มีอนุสัยนอนเนื่องเท่าไร มีอนุสยภังคะเท่าไร
นกามนรูปธาตุมูลกนัย จบ
ธาตุปุจฉาวาร จบ

๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
กามธาตุมูลกนัย
[๓๔๑] บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๕ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัยนอนเนื่อง ๕ บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
กามธาตุมูลกนัย จบ

รูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๒] บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๖ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแต่ไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่อง
ครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย
๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มี
อนุสยภังคะ
รูปธาตุมูลกนัย จบ

อรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๓] บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มี
อนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗
ไม่มีอนุสยภังคะ
การที่บุคคลจุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุย่อมเป็นไปไม่ได้ บุคคลผู้อุบัติ
หลังจากนั้นย่อมเกิดเฉพาะในกามธาตุเท่านั้น จึงมีอนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มี
อนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗
ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๗ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
การที่บุคคลจุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุย่อมเป็นไปไม่ได้
บุคคลผู้อุบัติหลังจากนั้นย่อมเกิดเฉพาะในกามธาตุเท่านั้น จึงมีอนุสัยนอนเนื่องครบ
ทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
อรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามธาตุมูลกนัย
[๓๔๔] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัยนอนเนื่องครบ
ทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๘ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
นกามธาตุมูลกนัย จบ

นรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๕] บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๔๙ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
นรูปธาตุมูลกนัย จบ

นอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๖] บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง
บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗ นอน
เนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย
๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๕๐ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
นอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามนอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๗] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย
๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย
๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ
บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓
นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๕๑ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้ว ไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ
มีอนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ
บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓
นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
นกามนอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นรูปนอรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๘] บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มี
อนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๕๒ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ
บางคนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓
นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ บาง
คนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากรูปธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บาง
คนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
นรูปนอรูปธาตุมูลกนัย จบ

นกามนรูปธาตุมูลกนัย
[๓๔๙] บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในกามธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
การที่บุคคลไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในรูปธาตุย่อมเป็นไปไม่ได้
บุคคลผู้อุบัติหลังจากนั้นย่อมเกิดเฉพาะในกามธาตุเท่านั้น จึงมีอนุสัยนอนเนื่องครบ
ทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วอุบัติในอรูปธาตุ บางคนมีอนุสัย ๗
นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง ไม่มี
อนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุ บางคนมีอนุสัย
๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและอรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุ บางคนมี
อนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๕๓ }


พระอภิธรรมปิฎก ยมก [๗. อนุสยยมก] ๒. มหาวาร ๗. ธาตุวิสัชชนาวาร
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในอรูปธาตุ มีอนุสัยนอน
เนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
การที่บุคคลไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและอรูปธาตุ
ย่อมเป็นไปไม่ได้ บุคคลผู้อุบัติหลังจากนั้นย่อมเกิดเฉพาะในกามธาตุเท่านั้น จึงมี
อนุสัยนอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในรูปธาตุและอรูปธาตุ มีอนุสัย
นอนเนื่องครบทั้ง ๗ ไม่มีอนุสยภังคะ
บุคคลผู้ไม่จุติจากกามธาตุและรูปธาตุแล้วไม่อุบัติในกามธาตุและรูปธาตุ บาง
คนมีอนุสัย ๗ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๕ นอนเนื่อง บางคนมีอนุสัย ๓ นอนเนื่อง
ไม่มีอนุสยภังคะ
นกามนรูปธาตุมูลกนัย จบ
ธาตุวิสัชชนาวาร จบ
อนุสยยมกที่ ๗ จบ
ปุริมยมกปกรณ์ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๓๘ หน้า :๘๕๔ }


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๘ อภิธรรมปิฎกที่ ๐๕ ยมก ภาค ๑ จบ





eXTReMe Tracker