|
วิมุติ - วิวาทมูล
วิมุติ ดู
วิมุตติ
วิโมกข์ ความหลุดพ้นจากกิเลส
มี ๓ ประเภทคือ ๑. สุญญตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วยเห็นอนัตตาแล้วถอนความยึดมั่นได้
มองเห็นความว่าง ๒. อนิมิตตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วยเห็นอนิจจัง แล้วถอนนิมิตได้
๓. อัปปณิหิตวิโมกข์ หลุดพ้นด้วย
เห็นทุกข์ แล้วถอนความปรารถนาได้
วิรัติ ความเว้น,
งดเว้น; เจตนาที่งดเว้นจากความชั่ว; วิรัติ ๓ คือ ๑. สัมปัตตวิรัติ เว้นได้ซึ่งสิ่งที่ประจวบเข้า
๒. สมา
ทานวิรัติ เว้นด้วยการสมาทาน ๓. สมุจเฉทวิรัติ เว้นได้โดยเด็ดขาด
วิราคะ ความสิ้นกำหนด,
ธรรมเป็นที่สิ้นราคะ, ความคลายออกได้หายติด เป็นไวพจน์ของนิพพาน
วิราคสัญญา กำหนดหมายธรรมเป็นที่สิ้นราคะ
หรือภาวะปราศจากราคะว่าเป็นธรรมละเอียด (ข้อ ๖ ในสัญญา ๑๐)
วิริยะ ความเพียร,
ความบากบั่น, ความเพียรเพื่อจะละความชั่ว ประพฤติความดี, ความพยายามทำกิจ
ไม่ท้อถอย (ข้อ
๒ ในอิทธิบาท ๔)
วิริยารัมภะ ปรารภความเพียร
คือลงมือทำความเพียรอย่างเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว, ระดมความเพียร (ข้อ ๔ ในเวสารัชชกรณ
ธรรม ๕, ข้อ ๗ ในลักษณะตัดสินธรรมวินัย ๘, ข้อ ๕ ในสัทธรรม ๗, ข้อ ๗ ในนาถกรณธรรม
๑๐)
วิริยารัมภกถา
ถ้อยคำที่ชักนำให้ปรารภความเพียร (ข้อ ๕ ในกถาวัตถุ ๑๐)
วิวัฏฏ์, วิวัฏฏะ
ปราศจากวัฏฏะ, ภาวะพ้นวัฏฏะ ได้แก่ นิพพาน
วิวัฏฏคามีกุศล
บุญกุศลที่ให้ถึงวิวัฏฏ์ คือพระนิพพาน
วิวาท การทะเลาะ,
การโต้แย้งกัน, การ กล่าวเกี่ยงแย่งกัน, กล่าวต่าง คือว่าไปคนละทาง ไม่ลงกันได้
วิวาทมูล รากเหง้าแห่งการเถียงกัน,
เหตุที่ก่อให้เกิดวิวาท กลายเป็นวิวาทาธิกรณ์ขึ้น มี ๒ อย่าง คือ ๑. ก่อวิวาทขึ้น
ด้วยความปรารถนาดี เห็นแก่ธรรมวินัย มีจิตประกอบด้วยอโลภะ อโทสะ อโมหะ ๒.
ก่อวิวาทด้วยความปรารถนา
เลว ทำด้วยทิฏฐิมานะ มีจิตประกอบด้วยโลภะ โทสะ โมหะ