ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ


คนชอบจับผิดผู้อื่นไม่เจริญในธรรม

อรรถกถาธรรมบท : มลวรรควรรณนา
เรื่องพระอุชฌานสัญญีเถระ

ข้อความเบื้องต้น

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระเถระรูปหนึ่งชื่อ อุชฌานสัญญี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ว่า "ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส" เป็นต้น.

คุณวิเศษให้เกิดแก่ผู้เพ่งโทษผู้อื่น
(น่าจะเป็น "คุณวิเศษไม่เกิดแก่ผู้เพ่งโทษผู้อื่น " มากกว่านะครับ - ธัมมโชติ)

ได้ยินว่า พระเถระนั้นเที่ยวแส่หาแต่โทษของภิกษุทั้งหลายเท่านั้น ว่า " ภิกษุนี้ ย่อมนุ่งอย่างนี้, ภิกษุนี้ ย่อมห่มอย่างนี้." (คือคอยจับผิด และกล่าวติเตียนผู้อื่น - ธัมมโชติ) พวกภิกษุกราบทูลแด่พระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเถระชื่อโน้น ย่อมกระทำอย่างนี้."

พระศาสดาตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ตั้งอยู่ในข้อวัตร กล่าวสอนอยู่อย่างนี้ ใครๆ ไม่ควรติเตียน, (หมายถึงผู้ที่กล่าวสอนผู้อื่นด้วยความเมตตา เพื่อให้เขาปฏิบัติตนได้ถูกต้อง เหมาะสม - ธัมมโชติ) ส่วนภิกษุใด แสวงหาโทษของชนเหล่าอื่น เพราะความมุ่งหมายในอันยกโทษ (คำว่า "ยกโทษ" ในสำนวนบาลี หมายถึงการกล่าวโทษ ไม่ได้หมายถึงการให้อภัยอย่างในสำนวนไทย - ธัมมโชติ) กล่าวอย่างนี้แล้วเที่ยวไปอยู่, บรรดาคุณวิเศษมีฌานเป็นต้น คุณวิเศษแม้อย่างหนึ่ง ย่อมไม่เกิดขึ้นแก่ภิกษุนั้น. อาสวะทั้งหลายเท่านั้นย่อมเจริญอย่างเดียว"
(อาสวะ คือกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน - ธัมมโชติ)


ภาพจากวัดทิเบต พุทธคยา


ดังนี้แล้ว จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-

๑๑. ปรวชฺชานุปสฺสิสฺส
นิจฺจํ อุชฺฌานสญฺญิโน
อาสวา ตสฺส วฑฺฒนฺติ
อารา โส อาสวกฺขยา.

"อาสวะทั้งหลายย่อมเจริญแก่บุคคลนั้น
ผู้คอยดูโทษของบุคคลอื่น
ผู้มีความมุ่งหมายในอันยกโทษเป็นนิตย์,
บุคคลนั้นเป็นผู้ไกลจากความสิ้นไปแห่งอาสวะ."

วิเคราะห์เพิ่มเติม

ผู้ที่คอยจ้องจับผิดผู้อื่นนั้น จิตใจจะหยาบกระด้าง จึงเป็นอุปสรรคต่อความเจริญก้าวหน้าในธรรม เพราะผู้ที่มีความเจริญก้าวหน้าในธรรมนั้น จิตใจจะประณีต ละเอียดอ่อนขึ้นไปเรื่อยๆ ตามขั้นของความเจริญก้าวหน้านั้น

ผู้รวบรวม
ธัมมโชติ
31 สิงหาคม 2545

ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ




eXTReMe Tracker