ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ


การกล่าวตู่พระอรหันต์

ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้ ณ ที่นี้ ดังนี้


คำถาม

ได้อ่านมาว่า นกที่ถ่ายอุจจาระรดหลังคาโบสถ์ แม้ทำไปโดยไม่รู้ตามประสาสัตว์ แต่ก็เป็นบาป ต้องรับวิบากกรรมหนักหรือครับ

และหากเราไม่เจตนา แต่เพราะไม่รู้หรือเข้าใจผิด พลั้งสงสัยในพระธรรม หรือในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบ เป็นบาปหนักไหมครับ และมีวิธีแก้บาปอย่างไร

ขอบคุณมากครับ


ตอบ

สวัสดีครับ

ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ

เรื่องนกถ่ายรดหลังคาโบสถ์นี่ผมไม่ทราบนะครับ ไม่ทราบว่ามีที่มายังไง เพราะปรกติกรรมนั้นจะเน้นที่เจตนา ถ้านกมีเจตนาลบหลู่ก็เป็นบาปแน่ครับ แต่ถ้ามันไม่รู้คือมีเจตนาเพียงแค่จะปลดทุกข์ตามธรรมชาติของมัน โดยไม่รู้ว่าโบสถ์คืออะไร อันนี้ก็ไม่ทราบนะครับว่าจะเป็นบาปหรือเปล่า ไม่กล้ายืนยันครับ


วัดไทยพุทธคยา อินเดีย


แต่กรณีที่เราไม่เจตนา แต่เพราะไม่รู้หรือเข้าใจผิด พลั้งสงสัยในพระธรรม หรือในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติชอบ เรื่องนี้มีในพระไตรปิฎกครับ เป็นบาปมากน้อยขึ้นกับผู้ที่ถูกเราสงสัย หรือตู่ด้วยคำไม่จริงนั้น คือถ้าผู้นั้นเป็นพระอรหันต์ หรือพระพุทธเจ้าก็บาปมาก ถ้าเป็นปุถุชนก็บาปน้อยลงไปครับ

ถ้าสงสัยในพระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ก็คงเทียบเท่ากับสงสัยพระพุทธเจ้านะครับ ถ้าแค่สงสัยพระธรรมว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไรกันแน่ (คือไม่เข้าใจ เลยยังไม่รับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ) ไม่ได้คิดว่าสอนผิดก็คงไม่เป็นอะไรมาก ที่เห็นผลได้ชัดเจนก็คือ ทำให้ไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็น

แต่ถ้าถึงขั้นคิดว่าสอนผิดไปเลยก็คงหนักหน่อย (ถ้าเรื่องนั้นเป็นพุทธพจน์จริงๆ ไม่ใช่มีการคลาดเคลื่อน หรือบิดเบือน) ตัวอย่างเช่น

  1. ตอนที่พระสารีบุตรเข้าเฝ้า และฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าครั้งแรกนั้น พอทรงแสดงธรรมเสร็จพระพุทธเจ้าถามว่าเชื่อหรือเปล่า คนอื่นๆ บอกว่าเชื่อกันหมด แต่พระสารีบุตรกลับตอบว่าไม่เชื่อ คนอื่นก็มองพระสารีบุตรในทางที่ไม่ดี พระสารีบุตรให้เหตุผลว่าขอนำไปพิจารณาให้ดีซะก่อน ถ้าเห็นว่าสมควรเชื่อก็ถึงจะเชื่อ พระพุทธเจ้าก็ให้สาธุการในเรื่องนี้ ตรัสทำนองว่าพระสารีบุตรเป็นผู้มีปัญญา ไม่ได้ตรัสว่าเป็นบาปกรรมแต่อย่างใด

  2. ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าพระองค์ที่แล้ว) พระโพธิสัตว์ ซึ่งตอนนั้นมีชื่อว่าโชติปาละ (พระพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน) เคยกล่าวตู่พระกัสสปพุทธเจ้าเอาไว้ ด้วยกรรมนั้น (การกล่าวตู่พระอรหันต์ด้วยคำไม่จริง เป็นกรรมที่ขัดขวางต่อสวรรค์ และมรรคผลนิพพาน) ทำให้เจ้าชายสิทธัตถะต้องทำความเพียรอยู่ถึง 6 ปี ถึงได้ตรัสรู้ ทั้งๆ ที่บารมีเต็มรอบแล้ว ดังความในพระไตรปิฎก พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อปทาน เล่ม ๘ ภาค ๑ - หน้าที่ 214 (ชุด 91 เล่ม ของมหามกุฏฯ) ดังนี้

    ก็ในกาลนั้น เราได้เป็นพราหมณ์ชื่อ โชติปาละ ได้กล่าวกะพระกัสสปสุคตเจ้าว่า การตรัสรู้ของสมณะโล้น (หมายถึงพระกัสสปพุทธเจ้า - ธัมมโชติ) จักมีมาแต่ไหน การตรัสรู้เป็นของได้ยากยิ่ง. เพราะวิบากของกรรมนั้น เราจึงต้องทำทุกรกิริยามากมาย อยู่ที่ตำบลอุรุเวลาถึง ๖ ปี จากนั้นจึงได้บรรลุพระโพธิญาณ.

    เราไม่ได้บรรลุพระโพธิญาณอันสูงสุดโดยหนทางนั้น (หมายถึงไม่ได้บรรลุเพราะการทำทุกรกิริยาอันเป็นทางผิดนั้น - ธัมมโชติ) เราถูกกรรมเก่าห้ามไว้ จึงได้แสวงหาโดยทางผิด.


  3. ทุกกรกิริยา ภาพจากวัดศรีลังกา พุทธคยา

  4. ในพระไตรปิฎก (อาจอยู่ในส่วนของอรรถกถานะครับ) มีกล่าวถึงภิกษุรูปหนึ่งได้คิดในใจถึงพระอรหันต์รูปหนึ่ง (เดินไปด้วยกัน) ทำนองว่าได้ทำอะไรอย่างหนึ่งด้วยอำนาจของกิเลส (ขออภัยที่ผมจำรายละเอียดไม่ได้แล้วครับ) พระอรหันต์รูปนั้นรู้วาระจิต ต้องการจะสงเคราะห์ภิกษุรูปนั้น จึงได้ถามทำนองว่าท่านบวชมานี่มีอะไรเป็นที่พึ่งหรือยัง

    ภิกษุรูปนั้นตอบว่า ผมเป็นโสดาบันครับ พระอรหันต์จึงถามทำนองว่า ท่านไม่ต้องการมรรคผลขั้นสูงขึ้นไปหรือ (โปรดสังเกตว่าแม้ว่าเป็นโสดาบันแล้ว และเพียงแค่คิด ก็ยังเป็นบาปขวางมรรคผลเลยนะครับ) ภิกษุรูปนั้นจึงรู้ได้ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ จึงได้รีบขอขมา และขอให้ท่านยกโทษให้

วิธีแก้ไข

ถ้าท่านผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ ก็ไปสารภาพผิดกับท่าน (ต้องสำนึกผิดด้วยใจจริง) แล้วขอให้ท่านยกโทษให้ เมื่อท่านยกโทษให้แล้วก็พ้นผิด (ถ้าจะยังมีบาปเหลืออยู่ก็น้อยมากครับ) ดังเช่นตัวอย่างข้างต้น

ถ้าท่านผู้นั้นมรณภาพไปแล้ว ขั้นแรกก็ต้องสำนึกผิดจากใจจริงซะก่อน จากนั้นก็อธิษฐานจิตขอขมาท่าน ขอให้ท่านยกโทษให้ ถ้ามีสิ่งแทนท่านอยู่ เช่น อัฐิธาตุ เจดีย์ รูปภาพ ฯลฯ ก็ควรทำต่อหน้าสิ่งเหล่านั้น ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ควรมีดอกไม้ ธูป เทียน ประกอบด้วยครับ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือการสำนึกผิดอย่างแท้จริง

ถ้ายังไม่กระจ่าง หรือมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็เชิญถามมาได้ใหม่นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ

ธัมมโชติ
12 สิงหาคม 2545

ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ




eXTReMe Tracker