!doctype>
!doctype>
คำสอนเซ็นที่น่าสนใจ
(2)
เว่ยหลาง
(ฮุ่ยเน้ง สังฆนายกองค์ที่ 6 แห่งนิกายเซ็นในประเทศจีน)
- เมื่อเราพบเห็นความดีก็ตาม
ความชั่วก็ตามของบุคคลอื่น เราไม่ถูกดึงดูดให้ชอบ หรือไม่ถูกมันผลักให้ชัง หรือเราไม่เกาะเกี่ยวกับมัน
เมื่อนั้นลักษณะแห่งจิตใจของเราเป็นของว่างเท่ากันกับอวกาศ.
- เมื่อใดใจของเราทำหน้าที่ของมันโดยไม่ติดขัด
และเป็นอิสระที่จะไปหรือมา เมื่อนั้นชื่อว่ามันอยู่ในภาวะแห่งปรัชญา. (คือเมื่อใดจิตใจไม่ยึดมั่นผูกพัน
ไม่เกาะเกี่ยวในสิ่งใดๆ เลย เมื่อนั้นได้ชื่อว่าจิตกำลังมีปัญญา - ธัมมโชติ)
- คำว่าปรัชญาหมายถึงปัญญาความรู้รอบแจ้งชัด
คือเมื่อใดเราสามารถรักษาจิตของเรา ไม่ให้ถูกพัวพันด้วยความทะเยอทะยานอันโง่เขลา
ได้ทุกกาละทุกเทศะ ทำอะไรด้วยความฉลาด (คือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งใดๆ เลย -
ธัมมโชติ) ไปทุกโอกาส เมื่อนั้นชื่อว่าเรากำลังประพฤติอบรมปรัชญาอยู่ทีเดียว.
- .....
การมีท่าทีซึ่งไม่เป็นทั้งการผลักดัน หรือการดึงดูดต่อสรรพสิ่งทั้งมวล เหล่านี้คือการรู้แจ้งแทงตลอดซึ่งตัวจิตเดิมแท้
เพื่อการบรรลุถึงพุทธภูมิ.
- เมื่อเราใช้ปรัชญาของเราในการเพ่งพิจารณาในภายใน
เราย่อมมีความสว่างแจ่มแจ้งทั้งภายในและภายนอก และอยู่ในฐานะที่จะรู้จักใจของเราเอง
(การดูจิตตนเองย่อมทำให้รู้จักและเข้าใจ ทั้งจิตของตนเองและจิตผู้อื่น รวมทั้งสิ่งอื่นๆ
ด้วย เพราะมีธรรมชาติคือความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่อยู่ในอำนาจ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้เหมือนกัน-
ธัมมโชติ)
การรู้จักใจของเราเองก็คือการลุถึงวิมุตติ การลุถึงวิมุตติก็คือการลุถึงสมาธิฝ่ายปรัชญา
ซึ่งเป็นความไม่ต้องคิด ความไม่ต้องคิดคือการเห็นและการรู้สิ่งทั้งหลายทั้งปวงด้วยใจที่ไม่มีอะไรห่อหุ้มพัวพัน
เมื่อเราใช้มันมันแทรกเข้าไปได้ในทุกสิ่ง แต่ไม่ติดแจอยู่ในสิ่งใดเลย
สิ่งที่เราจะต้องทำนั้นมีเพียงการชำระจิตให้ใสกระจ่าง เพื่อวิญญาณทั้ง 6 (คือตัวรับรู้ความรู้สึกทางตา
หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามลำดับ - ธัมมโชติ) เมื่อแล่นไปตามอายตนะทั้ง 6 (คืออายตนะภายใน
6 ได้แก่ ประสาทตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อันเป็นฐานให้วิญญาณ 6 เกิดทางทวารนั้นๆ
ตามลำดับ ดูเรื่องอายตนะ 12 ในหมวดธรรมทั่วไป
ประกอบ - ธัมมโชติ) จะไม่ถูกทำให้เศร้าหมองโดยอารมณ์ทั้ง 6 (อารมณ์ 6 คืออายตนะภายนอก
6 ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย ความคิดความรู้สึกต่างๆ ที่มากระทบกับอายตนะภายใน
6 อันทำให้การรับรู้ต่างๆ คือวิญญาณ 6 เกิดขึ้น - ธัมมโชติ)
เมื่อใดใจของเราทำหน้าที่ของมันได้โดยอิสระ ปราศจากอุปสรรค (คือความยึดมั่นถือมั่น
- ธัมมโชติ) และอยู่ในสถานะที่จะมาหรือไปได้โดยอิสระ เมื่อนั้นชื่อว่าเราได้บรรลุสมาธิฝ่ายปรัชญา
หรืออิสรภาพ สถานะเช่นนี้มีนามว่าการทำหน้าที่ของความไม่ต้องคิด
แต่ว่าการหักห้ามความคิดถึงสิ่งใดๆ ให้ความคิดทั้งหมดถูกกดเอาไว้ ย่อมเป็นการกดธรรมะไว้
ข้อนี้ย่อมเป็นความเห็นผิด (คือให้รับรู้สิ่งต่างๆ ได้ตามปรกติ แต่ไม่ยึดมั่นผูกพัน
หรือเกาะเกี่ยวอยู่กับสิ่งใดเลย ทางเถรวาทใช้คำว่าธรรมเครื่องเนิ่นช้า อันได้แก่
ตัณหาความทะยานอยาก และอุปาทานความยึดมั่นถือมั่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้จิตไม่เป็นอิสระ
- ธัมมโชติ)
ผู้รวบรวม
ธัมมโชติ
12 พฤศจิกายน 2544
ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ