|
การจองเวร
(พระเทวทัต-พระพุทธเจ้า)
ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้
ณ ที่นี้ ดังนี้
คำถาม
มีคำถามเรื่องการผูกเวร อย่างกรณีของพระเทวทัตกับพระพุทธเจ้า (พระพุทธโคดม) อ่านในเรื่องที่เขียนเล่ากันมา
ไม่แน่ใจว่าไปอ่านจากที่ไหนนะคะ สองจิตนี่ผูกเวรผูกกรรมกันมานานเป็นหลายกัปหลายกัลป์
ใครผูกใคร เพราะในชาติภพหลังๆ ที่จิตดวงที่เป็นของพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้อาฆาตจองเวร
และได้บำเพ็ญเพียรทำแต่ความดีมาตลอด ทำไมยังสามารถถูกจิตของมารตามรังควานได้ตลอดมาหล่ะคะ
สงสัยว่า ถึงแม้ไม่ใช่ผู้กระทำ แถมเป็นผู้ถูกกระทำอีกต่างหาก ขนาดอโหสิกรรมต่อกันด้วยจิตที่บริสุทธิ์
ทำไมยังหนีกันไม่พ้น แถมในบางกรณีที่ถูกรังควานหนักๆ ก็ได้รับทุกขเวทนาไปในรูปแบบต่างๆ
กัน (ถึงแม้ในที่สุดจะรอดก็ตาม)
ตามหลักของเวรกรรม พระพุทธองค์ไม่ควรที่จะได้รับทุกขเวทนา (เลย) เพราะพระองค์ไม่ได้ทำเลวทำชั่วต้องมาชดใช้ขนาดนั้นนี่คะ
ขอบคุณค่ะ
ตอบ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ
เรื่องพระเทวทัตกับพระพุทธเจ้านั้น เท่าที่ผมสังเกตดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นในชาติต่างๆ
นั้น คิดว่าไม่ใช่ลักษณะของการจองเวรเท่าไหร่นะครับ คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นลักษณะจิตโดยปรกติของพระเทวทัตเอง
คือพื้นฐานจิตใจของพระเทวทัตเป็นเช่นนั้น คือ มีความมักใหญ่ใฝ่สูง เจ้าเล่ห์เพทุบาย
ขี้โกง เอาเปรียบ ไม่ซื่อสัตย์ ฯลฯ เมื่อใครเข้าใกล้ หรือไปเกี่ยวข้องด้วย ก็ย่อมจะต้องเดือดร้อน
ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ เหมือนไฟที่ใครเข้าใกล้ก็ย่อมจะต้องรู้สึกร้อนเป็นธรรมดา
สังเกตได้จากที่หลายชาติพระเทวทัตไม่ได้เป็นภัยเฉพาะกับพระโพธิสัตว์เท่านั้น หรือไม่ได้ตั้งใจเจาะจงพระโพธิสัตว์
แต่พระโพธิสัตว์ไปทำให้พระเทวทัตไม่พอใจ หรือเสียประโยชน์ไป ก็เลยถูกปองร้าย
แม้ในสมัยพุทธกาลเอง การปองร้ายก็เริ่มต้นจากการที่พระเทวทัตติดในลาภสักการะ แล้วจึงเกิดความมักใหญ่ใฝ่สูง
จนถึงขั้นคิดอยากจะเป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง ในที่สุดจึงถึงขั้นปองร้ายพระพุทธเจ้า
คือไม่ใช่ปองร้ายตั้งแต่แรก
และอีกอย่างก็คือ วัฏสงสารอันยืดยาวนับชาติไม่ถ้วนนี้ ที่มีกล่าวเอาไว้ในคัมภีร์ต่างๆ
ที่เกี่ยวกับเรื่องพระเทวทัตกับพระโพธิสัตว์นั้น ก็มีอยู่ไม่กี่เรื่องเท่านั้น
(อาจจะดูมากแต่ก็น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนชาติที่ไม่เจอกัน) คือไม่ใช่ตามจองเวรไปทุกภพทุกชาติ
เรื่องที่พระพุทธเจ้าได้รับความเดือดร้อนเพราะพระเทวทัตนั้น ก็เป็นเพราะกรรมเก่าของพระองค์เองด้วยนะครับ
อย่างเช่นที่ถูกกลิ้งหินเข้าใส่จนห้อเลือดขึ้นมานั้น พระองค์ก็ตรัสว่าเป็นผลของกรรมเก่าของพระองค์เอง
มีกล่าวถึงในพระไตรปิฎกด้วยครับ (ดูเรื่องบุพกรรมของพระพุทธเจ้า
ในหมวดธรรมทั่วไป ประกอบ)
กฎแห่งกรรมเป็นกฎที่เป็นธรรมที่สุดอยู่แล้วครับ ถ้าเราไม่เคยทำกรรมที่ไม่ดีเอาไว้
ก็ไม่มีใครทำร้ายเราได้ แต่วัฏฏะอันยืดยาวนี้ ก็ย่อมจะต้องเคยผิดพลาดกันมาบ้างไม่มากก็น้อยอยู่แล้วนะครับ
ก็เลยต้องใช้กรรมกันต่อไป
ถ้ายังไม่กระจ่าง หรือมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็เชิญถามมาได้ใหม่นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ
ธัมมโชติ
25 มกราคม 2546
ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ