!doctype>
!doctype>
เจ้ากรรมนายเวรและการแผ่เมตตา
ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้
ณ ที่นี้ ดังนี้
คำถาม
หากการที่ไม่ได้เป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาก่อน มีโอกาสจะสร้างของใหม่ เบียดเบียนกันให้ได้รับความเดือดเนื้อร้อนใจได้ไหมคะ
ถ้าอย่างนี้เราเอง ก็ต้องมีของที่ต้องชดใช้อยู่สิคะ ถึงจะไม่ใช้กับเจ้านี้ก็ตาม
กรณีแบบนี้แผ่เมตตาให้เขาจะลดความรุนแรง หรือความเป็นอุปสรรคใดๆ ลงได้บ้างไหมคะ
หรือถ้าเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันมาแต่เก่าก่อน ทำอย่างไร จะลดลงได้บ้าง แผ่เมตตาก็แล้ว
นั่งสมาธิก็แล้ว อธิฐานจิตขอผ่อนปรนออกไปบ้างก็แล้ว ก็ยังหนักอยู่ เป็นอุปสรรคทางการเรียนและการงานล้วนๆ
มีอะไรต่อเนื่องตลอด
ตอบ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ
-
เรื่องเจ้ากรรมนายเวรนั้นก็สามารถเกิดขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ หละครับ ตราบใดที่ยังมีกิเลสกันอยู่
เจ้ากรรมนายเวรเก่าๆ นั้น ก็เริ่มจากที่ไม่เคยมีเวรกันมาก่อนทั้งนั้น เพราะแรกสุดเลยเมื่อชีวิตอุบัติขึ้นมาใหม่ๆ
ก็ไม่มีใครเคยมีเวรกับใครมาก่อนทั้งนั้น (ตามหลักความจริงนะครับ) แล้วความกระทบกระทั่งก็ค่อยๆ
เริ่มขึ้นทีละน้อย จนใหญ่โตในที่สุด
การแผ่เมตตานั้นช่วยได้แน่นอนครับ ถ้าเมตตามีกำลังไม่มากพออย่างน้อยก็ทำให้จิตเราเย็นขึ้นบ้าง
แต่ถ้าเมตตาจิตนั้นมีกำลังมากๆ แม้แต่สัตว์เดรัจฉานที่ดุร้ายยังอ่อนให้เลยครับ
-
เรื่องอุปสรรคต่างๆ นั้นเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตครับ คิดดูว่าอย่างพระพุทธเจ้าซึ่งทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นมาตลอด
ยังเจออุปสรรคเลยครับ ถูกลอบปลงพระชนม์ก็หลายครั้ง แต่ด้วยพระบารมีเลยปลอดภัยทุกครั้ง
โลกธรรม 8 อย่างนี้เป็นของคู่โลก คือ ได้ลาภ เสื่อมลาภ ได้ยศ เสื่อมยศ ได้รับการสรรเสริญ
ถูกนินทา เป็นสุข เป็นทุกข์ เพราะฉะนั้นเมื่อมีชีวิตอยู่ก็ต้องยอมรับสภาพความจริงอันนี้
รักษาจิตไว้ให้มั่นคงที่สุด จะได้เป็นทุกข์น้อยที่สุด แล้วก็ค่อยๆ แก้ปัญหากันไปตามสภาพ
-
แต่ละคนก็มีปัญหาแตกต่างกันไป จะว่าใหญ่หรือเล็กก็ขึ้นกับมุมมองของแต่ละคน และที่สำคัญก็ขึ้นกับกำลังใจของคนที่เผชิญปัญหานั้นด้วย
เพราะฉะนั้นก็คงยากที่จะตัดสินว่าปัญหาของใครใหญ่หรือเล็กกว่ากันนะครับ
แต่ถ้าทำใจรับสภาพความจริงของโลกได้ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรที่จะเรียกว่าใหญ่จนเกินไปนะครับ
อย่างมากก็แค่ตายเท่านั้นเอง (ไม่ได้มีเจตนาจะไม่สุภาพ และไม่ได้หมายถึงว่าให้ไปฆ่าตัวตายนะครับ
แต่หมายถึงว่าไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โต มากมายอย่างที่เราวิตกกังวลกันไป) ซึ่งทุกคนก็หนีไม่พ้นความตายอยู่แล้ว
ใครที่รักษาจิตได้ดีอย่างสม่ำเสมอ ก็คงไม่ต้องกลัวความตายหรอกนะครับ เพราะโอกาสจะตกไปสู่ที่ต่ำนั้นก็จะน้อยลงไปตามขั้น
ปัญหาที่กำลังเจออยู่คงไม่หนักถึงขั้นนั้นใช่มั้ยครับ เพราะฉะนั้นก็สบายใจได้
:) ใจเย็นๆ ค่อยๆ แก้ไปนะครับ กลางคืนผ่านไปกลางวันก็เข้ามาแทนที่ ฝนตกหนักไม่นานฟ้าก็ใส
ปัญหาต่างๆ ก็มีวันสิ้นสุดเช่นกันครับ
ธัมมโชติ
9 พฤศจิกายน 2545
ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ