ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ


เจ้ากรรมนายเวร

ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้ ณ ที่นี้ ดังนี้


คำถาม

สวัสดีครับ

เรียนถามเรื่อง เจ้ากรรม นายเวรครับ เข้าใจว่าเป็นคติที่เกิดในภายหลัง

รวมทั้งเรื่องการขอขมา อโหสิ

ขอบคุณมากครับ


ตอบ

สวัสดีครับ

ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ

ผมไม่ค่อยเข้าใจคำถามนะครับว่าถามในแง่ไหน ขอตอบดังนี้ครับ

เรื่องการจองเวรนั้นเป็นธรรมดาของปุถุชนในทุกภพภูมิครับ ในโลกมนุษย์นี้ก็มีให้เห็นกันโดยทั่วไป ในพระไตรปิฎกที่กล่าวถึงเรื่องนี้ที่จำได้ก็มีในส่วนอรรถกถาของธรรมบท (ในเนื้อพระไตรปิฎกเองพระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้เป็นภาษิตสอนใจสั้นๆ แล้วอาจารย์รุ่นหลังก็ได้ขยายความ อธิบายที่มาและรายละเอียดของธรรมบท บทนั้นอีกทีหนึ่ง) ที่มีการจองเวรกันหลายภพหลายชาติ จนกระทั่งได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าถึงได้เลิกจองเวร แล้วหันมาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน

ผมขออธิบายตามความเข้าใจของผมดังนี้นะครับ

มนุษย์รวมทั้งสัตว์ทั้งหลายที่ยังหนาแน่นไปด้วยกิเลสนั้น เมื่อถูกใครทำให้ไม่พอใจอย่างรุนแรง ก็จะเป็นไปได้ที่จะผูกโกรธเอาไว้ จนกลายเป็นความอาฆาตพยาบาทอย่างรุนแรงฝังอยู่ในใจ เมื่อตายไปแล้วไม่ว่าจะไปเกิดใหม่ในภพภูมิใด ความอาฆาตในใจนั้นก็จะทำหน้าที่เหมือนเป็นแรงอธิษฐาน


ภาพจากวัดทิเบต พุทธคยา


(ผู้ที่อธิษฐานสิ่งใดเอาไว้ด้วยจิตที่มีกำลังแรง เมื่อเกิดในชาติต่อๆ ไป คำอธิษฐานนั้นก็ยังสามารถส่งผลต่อไปได้ เช่น ผู้ที่อธิษฐานเป็นพระพุทธเจ้าด้วยจิตที่แน่วแน่ มีกำลังแรง เมื่อเกิดชาติต่อๆ ไป ก็จะยังคงสร้างบารมี เพื่อให้ได้เป็นพระพุทธเจ้าต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะระลึกชาติไม่ได้ หรือจำไม่ได้ว่าเคยอธิษฐานเอาไว้ก็ตาม และเมื่อพยายามเจริญวิปัสสนาเพื่อให้บรรลุมรรคผลในชั้นสาวกภูมิ แรงอธิษฐานนั้นก็จะมาขัดขวางมรรคผลเอาไว้ นอกจากจะอธิษฐานจิตเลิกคำอธิษฐานเดิมเสียก่อน)

เรื่องแรงอาฆาตนั้นก็น่าจะส่งผลในลักษณะเดียวกัน คือจะส่งผลให้คอยจองเวรไปไม่รู้จบสิ้น จนกว่าจะเลิกรากันไปเอง ถึงแม้ในบางกรณีจะระลึกชาติไม่ได้ก็ตาม แต่เมื่อเจอกันแล้วก็จะรู้สึกไม่ชอบใจขึ้นมาได้โดยอัตโนมัติ

เรื่องการขอขมา อโหสินั้น จะสัมฤทธิ์ผลได้ก็เมื่อเจ้ากรรมนายเวรนั้นรับรู้ และยอมเลิกจองเวรด้วยใจจริงครับ ซึ่งถ้าเป็นคนด้วยกันก็คุยกันง่ายหน่อย มีปัญหาอะไรก็คุยกันอย่างเปิดเผย จริงใจ เรื่องก็จบลงได้ง่าย แต่ถ้าอยู่กันคนละภพภูมิก็คงลำบากหน่อยครับ นอกจากจะมีความสามารถพิเศษสามารถติดต่อพูดคุยกันได้

โดยทั่วไปแล้วเท่าที่ทำได้ก็คือ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ การแผ่เมตตาให้ เพื่อลดความเร่าร้อนในใจของทั้งสองฝ่ายลง แล้วอธิษฐานจิตทำความเข้าใจกัน และขอขมา ขออโหสิกันไป ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะเลิกจองเวร

และถ้าเรารู้สึกสำนึกผิดในสิ่งที่ทำไปแล้ว อย่างจริงใจ ทั้งสิ่งที่ตั้งใจ ไม่ตั้งใจ รู้ตัว ไม่รู้ตัว โอกาสที่อีกฝ่ายจะให้อภัยก็มากขึ้นครับ

ถ้ายังไม่กระจ่าง หรือมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็เชิญถามมาได้ใหม่นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ

ธัมมโชติ
17 สิงหาคม 2545

ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ




eXTReMe Tracker