|
ปัญหาสังคมไทย
ผู้สนใจท่านหนึ่งได้ถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้
ณ ที่นี้ ดังนี้
คำถาม
อยากขอเสนอให้ท่านพิจารณาวิเคราะห์ปัญหาสังคมไทยที่เกิดขึ้นให้ฟังหน่อย ว่าปัจจุบันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมถึงได้มีปัญหามากมายขนาดนี้ เช่น
-- ประเด็นในเรื่องของการทุจริต คอร์รัปชั่นของคน(นักการเมือง)
-- ประเด็นในเรื่องยาเสพติด การมั่วสุ่มของวัยรุ่นเพื่อทำพฤติกรรมที่ไม่ดี ฯลฯ
เขียนเมื่อวันที่: 24 มิถุนายน 2545 เวลา: 15:48
ตอบ
สวัสดีครับ
ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ
ขอวิเคราะห์ดังนี้ครับ
เนื่องจากเหตุผลต่างๆ เหล่านี้คือ
จากเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ความเจริญทางวัตถุก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทางด้านจิตใจนั้นกลับถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับวัตถุมาก จนแทบจะเรียกได้ว่าไม่สนใจเรื่องของจิตใจเลย
ไม่สนใจเรื่องของศีลธรรมแม้กระทั่งศีลธรรมขั้นพื้นฐาน ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วัตถุมามากที่สุด
แม้ว่าจะทำให้คนอื่นๆ และสังคม รวมถึงประเทศชาติต้องเสียหายอย่างไรก็ตาม (ซึ่งเป็นสาเหตุที่สำคัญของการทุจริต
คอร์รัปชั่นของคนในทุกวงการ) ปัญหาทางสังคมต่างๆ จึงตามมาอย่างมากมาย และทับถม
สับสนปนเปกันจนยากที่จะแก้ไข
แต่เนื่องจากความสุขจากความเจริญทางวัตถุนั้นเป็นความสุขที่ฉาบฉวย มีความสุขเพียงเล็กน้อยเป็นเครื่องล่อ
แต่กลับมีความทุกข์ติดตามมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทุกข์จากการแสวงหา การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น
การฟาดฟันคู่แข่ง ความกังวลความกลัวการทำร้ายของคู่แข่ง ความไม่มั่นคงของระบบเศรษฐกิจ
ความผิดหวัง ความล้มเหลว ฯลฯ นอกจากนี้เมื่อได้ทรัพย์ต่างๆ มาครอบครองแล้ว ยังต้องกังวล
เป็นห่วงเป็นใย กลัวว่าจะถูกแย่งชิงไปด้วยกลวิธีต่างๆ อีกด้วย และเมื่อต้องสูญเสียไปจริงๆ
ก็ต้องเป็นทุกข์ขึ้นมาอีก
ดังนั้น เมื่อวัตถุเจริญมากขึ้นแทนที่ความสุขจะมากขึ้น กลับเป็นตรงกันข้าม แม้ร่างกายจะมีความสุขก็จริง
แต่จิตใจนั้นกลับเต็มไปด้วยความทุกข์สารพัดรูปแบบ ทั้งความกลัว กังวล ว้าเหว่เพราะขาดคนที่จะคบด้วยอย่างจริงใจ
เหงา ร้อนรุ่มด้วยไฟราคะ โทสะ โมหะ (ความโลภ โกรธ หลง) ฯลฯ
คนทั้งหลายจึงพยายามหาทางแก้ทุกข์กันสารพัดวิธี ซึ่งวิธีที่ง่ายและสะดวกสบาย เห็นผลได้รวดเร็ว
ก็เช่น การหันหน้าเข้าหาอบายมุขชนิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเหล้า บุหรี่ ยาเสพติดชนิดต่างๆ
ฯลฯ น้อยคนนักที่จะหันหน้าเข้าสู่ทางที่จะพ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง
คือการแก้ที่จิตใจโดยตรงด้วยการปฏิบัติธรรม
จากการที่คนจำนวนมากตั้งหน้าตั้งตาแสวงหาวัตถุจนไม่มีเวลาให้กับครอบครัว ทำให้ต้องเลี้ยงดูครอบครัวด้วยเงิน
แทนที่จะเป็นความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น กำลังใจ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ดังนั้น ปัญหาในครอบครัวจึงตามมา ถ้าหนักมากก็ถึงขั้นหย่าร้าง หรือฆ่ากันตายก็มี
เบาลงมาหน่อยก็มีปัญหากับลูกๆ
เมื่อเด็กขาดความอบอุ่นจากพ่อแม่ จึงต้องหาความอบอุ่นจากที่อื่นมาทดแทน ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นเพื่อนๆ
และถ้าโชคร้ายคบเพื่อนที่ไม่ดี ก็มักจะชักจูงกันไปหาความสุขที่ฉาบฉวย หาได้ง่าย
ก็คือเหล้า บุหรี่ และยาเสพติดต่างๆ นั่นเอง
นอกจากนี้ก็ยังมีการหาความสุขอย่างอื่นเช่น การแต่งตัวตามแฟชั่นเพื่ออวดกัน การแข่งรถ
ฯลฯ อันเป็นความสุขเล็กๆ ที่พอหาได้ และเมื่อวัยรุ่นมารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่มากขึ้น
ความรู้สึกว่ากลุ่มของตนเขื่องก็ตามมา จึงเป็นสาเหตุของการยกพวกเข้าทำร้ายกัน ดังที่เป็นข่าวอยู่บ่อยๆ
และเนื่องจากการเจริญเติบโตมาอย่างขาดความอบอุ่นของเด็กจำนวนมากนี้เอง ทำให้เด็กพยายามหาที่พึ่งทางใจต่างๆ
เช่น การมีแฟน การเรียนให้ได้ผลการเรียนดีที่สุดเพื่อให้คนอื่นยอมรับ ฯลฯ และพยายามทุ่มเทให้กับสิ่งที่ตนคิดว่าเป็นที่พึ่งนั้นอย่างหมดตัวหมดหัวใจ
เมื่อผิดหวังจึงรู้สึกเหมือนโลกนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว การฆ่าตัวตายจึงตามมา
และเนื่องจากการชอบแสวงหาความสุขแบบฉาบฉวย ประกอบกับการทุ่มเทให้กับสิ่งที่คิดว่าเป็นที่พึ่งทางใจอย่างหมดตัวหมดหัวใจนี้เอง
การมีเพศสัมพันธ์ก่อนเวลาอันควรจึงตามมา ไม่ว่าจะด้วยความยินยอมพร้อมใจ หรือขัดอีกฝ่ายไม่ได้ก็ตาม
(รวมทั้งกรณีที่คนที่มีเงินน้อย แต่พยายามแสวงหาความสุขจากวัตถุให้ได้มากๆ จนถึงกับยอมเอาร่างกายแลกกับเงินด้วย)
ปัญหาการตั้งท้องโดยไม่พร้อม การทำแท้ง การคลอดลูกแล้วทิ้งอันทำให้เกิดปัญหาเด็กเร่ร่อน
ปัญหาเรื่องโรคเอดส์ ฯลฯ จึงเกิดขึ้นอย่างมากมาย
ปัญหาทางสังคมทั้งหลายจึงเกิดขึ้น พอกพูน ทับถม ซับซ้อน ยากที่จะแก้ไข ด้วยประการฉะนี้
ท่านคิดว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิตใจให้มากกว่าที่เป็นอยู่
(อย่างมากๆ) ???
ถ้ายังไม่กระจ่าง หรือมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็เชิญถามมาได้ใหม่นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ
ธัมมโชติ
30 มิถุนายน 2545
ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ