ค้นว่าอยู่เล่มใด แล้วกด [ctrl]+f หรือใช้คำสั่งของเครื่องหาตำแหน่งในเล่มอีกทีนะครับ


สัมภเวสี และโอปปาติกะ

ผู้สนใจท่านหนึ่งได้เมล์มาถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้ ณ ที่นี้ ดังนี้


คำถาม

Sent: Tuesday, May 07, 2002 1:51 PM
Subject: Thamma Question

เรียน คุณธัมมโชติ

สวัสดีครับ

ขอเรียนถามปัญหาดังนี้นะครับ

1. กรุณาอธิบายความหมายของ สัมภเวสี และ โอปปาติกะ ให้ทราบด้วยครับ
2. และทั้ง สัมภเวสี และ โอปปาติกะ จัดอยู่ในภพภูมิใดของ 31 ภพภูมินี้ครับ

ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ


ตอบ

เรียน คุณ .....

ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ

ขอตอบปัญหาดังนี้ครับ

  1. สัมภเวสี คือ สัตว์ผู้ยังแสวงหาที่เกิด ซึ่งได้แก่ปุถุชนและพระเสขะ (อริยบุคคลที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์) ในทุกภพภูมิ ซึ่งเป็นผู้ที่ยังแสวงหาภพที่เกิดอีก สรุปง่ายๆ คือ ทุกชีวิตที่ยังต้องเกิดอีกนั่นเองครับ แต่คนไทยมักใช้ในความหมายว่าเป็นพวกเปรตซะมากกว่า

    โอปปาติกะ คือ ผู้ที่ผุดเกิด คือเกิดแล้วโตทันที ไม่ต้องเป็นไข่ หรือเป็นตัวอ่อนก่อน ไม่ต้องมีพ่อมีแม่ให้กำเนิด (เพียงแต่มีตัณหาในภพ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดเท่านั้น) เมื่อเกิดก็ปรากฏเป็นร่างกายขึ้นมาเลย เมื่อตายก็ไม่มีซากเหลืออยู่ เช่น สัตว์นรก เปรตบางจำพวก อสุรกายบางจำพวก เทวดาบางจำพวกโดยเฉพาะเทวดาชั้นสูงๆ ทั้งหลาย รูปภูมิ อรูปภูมิ แต่คนไทยมักใช้เรียกพวกที่เป็นกายทิพย์ทั้งหมด ทั้งที่กายทิพย์บางพวกมีกำเนิดชนิดอื่น เช่น อัณฑชะ ชลาพุชะ เป็นต้น

    (พวกกายทิพย์ในทุกกำเนิดมีชื่อเรียกรวมๆ ว่าอทิสสมานกาย คือเป็นกายละเอียด คนทั่วไปมองไม่เห็น)

    กำเนิดมี 4 ชนิด คือ
  2. ภาพจากวัดทิเบต พุทธคยา

  3. สัมภเวสี อยู่ในแทบทุกภูมิ ที่อาจจะยกเว้นก็คือ อกนิฏฐาภูมิ ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของสุทธาวาสภูมิ 5 (สุทธาวาส เป็นภูมิที่อนาคามีบุคคลไปเกิด) ซึ่งผู้ที่เกิดในอกนิฏฐาภูมิแล้วจะบรรลุเป็นพระอรหันต์และปรินิพพานในชาตินั้น ดังนั้น ผู้ที่เกิดในภูมินี้ทุกคนจึงมีชีวิตเป็นชาติสุดท้าย

    ผู้ที่เกิดในภูมินี้แล้วแต่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ คือยังเป็นอนาคามีบุคคลอยู่ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินี้แน่ๆ นั้น ผมไม่ทราบว่าจะเรียกว่าเป็นสัมภเวสีด้วยหรือไม่

    ผู้ที่เกิดในสุทธาวาสภูมิที่ 1 - 4 นั้น อาจจะบรรลุเป็นพระอรหันต์ในชาตินั้นหรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่บรรลุก็จะไม่เกิดซ้ำภูมิเดิม และไม่เกิดในภูมิที่ต่ำลงไป แต่จะเกิดในภูมิที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงอกนิฏฐาภูมิ ดังนั้น อนาคามีบุคคลจึงเกิดอีกไม่เกิน 5 ชาติ เท่ากับจำนวนของชั้นสุทธาวาส (ดูรายละเอียดในเรื่องภพภูมิในพระพุทธศาสนา ในหมวดธรรมทั่วไป ประกอบ)

    โอปปาติกะ มีกระจายอยู่หลายภูมิ เช่น นรก เปรตบางพวก อสุรกายบางพวก เดรัจฉานที่เป็นกายทิพย์บางพวก ว่ากันว่ามนุษย์ยุคต้นๆ ก็เป็นโอปปาติกะ เทวดาชั้นต่ำบางจำพวก เทวดาชั้นสูงทั้งหมด รูปภูมิ อรูปภูมิ

ถ้ายังไม่กระจ่าง หรือมีข้อสงสัยอะไรอีก ก็เชิญถามมาได้ใหม่นะครับ ไม่ต้องเกรงใจ

ธัมมโชติ
12 พฤษภาคม 2545

ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ




eXTReMe Tracker