!doctype>
!doctype>
กะเทยกับการบรรลุธรรม
ผู้สนใจท่านหนึ่งได้ถามปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทางผู้ดำเนินการเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ท่านอื่นๆ ด้วย จึงขออนุญาตนำมาลงเอาไว้
ณ ที่นี้ ดังนี้
คำถาม
ขอความเห็นจากคุณธัมมโชติที่มีต่อเพื่อนร่วมโลกที่เป็นเกย์ ในพระไตรปิฎกมีที่ไหนที่กล่าวถึงเรื่องนี้ไว้บ้าง
คุณธัมมโชตติคิดว่าโอกาสที่เขาจะบรรลุธรรมมีน้อยกว่าคนอื่นหรือไม่
สงสัย
ตอบ
เรียน คุณสงสัย
ขอบคุณครับที่ให้ความสนใจเว็บไซต์ ธัมมโชติ
สำหรับคำถามที่ถามมานั้น ผมขอตอบดังนี้ครับ
- ในพระไตรปิฎกมีกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้แต่เพียงว่า
การเกิดเป็นกะเทยนั้นเป็นผลของกรรม คือ การคบชู้ภรรยาผู้อื่น
เป็นที่น่าสังเกตว่า ทุกวันนี้มีการผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร
(การประพฤติผิดทางกาม) กันมากขึ้น ในขณะเดียวกันคนที่เป็นกะเทย รวมทั้งคนที่มีความผิดปรกติทางเพศอื่นๆ
ก็มีปรากฏให้เห็นกันมากขึ้นเช่นกัน
- ในส่วนของอรรถกถา
(การอธิบายขยายความพระไตรปิฎก โดยอาจารย์สมัยหลังพุทธกาล เช่น พระพุทธโฆสะ ผู้รจนาคัมภีร์วิสุทธิมรรค
เมื่อ พ.ศ. 900 กว่า เป็นต้น) มีกล่าวเอาไว้ว่า
ผู้ที่เป็นกะเทยนั้นปฏิสนธิด้วยอุเบกขาสันติรณจิต (อเหตุกมโนวิญญาณธาตุ ที่เป็นกุศลวิปากจิต)
เช่นเดียวกับคนที่เป็นบ้า เป็นใบ้ ตาบอด หูหนวก แต่กำเนิด ซึ่งปฏิสนธิจิตประเภทนี้เป็นประเภทที่แย่ที่สุดที่เกิดเป็นคนได้
(ประเภทที่แย่กว่านี้จะเป็นอกุศลวิปากจิต ทำให้เกิดในอบายภูมิ คือ นรก เปรต อสุรกาย
และสัตว์เดรัจฉาน)
คนที่ปฏิสนธิด้วยจิตประเภทนี้ ถ้าทำสมาธิก็จะไม่ได้ถึงขั้นฌาน ถ้าทำวิปัสสนาก็จะไม่ถึงขั้นบรรลุมรรคผล
คือจะได้เพียงแค่สมาธิ หรือวิปัสสนาปัญญาขั้นต้นๆ เท่านั้น (แต่ก็จะเป็นเหตุปัจจัยที่ดีให้มีปฏิสนธิจิตที่ดีขึ้น
ในชาติต่อๆ ไป)
- สำหรับความเห็นส่วนตัวนั้น
ผมคิดว่าคนประเภทนี้จะมีความกดดันในใจสูง อันเนื่องมาจากความขัดแย้งภายในใจเพราะร่างกายและจิตใจไม่เหมาะสมกัน
และความกดดันที่มาจากสังคมรอบข้าง
ความกดดันต่างๆ นี้ จะทำให้จิตใจไม่ปลอดโปร่ง ประณีต เบาสบายอย่างที่ควรจะเป็น
ซึ่งจะเป็นอุปสรรคอย่างมากต่อการทำสมาธิ และเจริญวิปัสสนา เพราะสมาธิและวิปัสสนาปัญญาขั้นสูงจะเกิดขึ้นได้เมื่อจิตใจมีความปลอดโปร่ง
ประณีต เบาสบายตามสมควร
แต่ถ้านำเอาความทุกข์ ความกดดันเหล่านี้ รวมทั้งสภาวะต่างๆ ที่เป็นอยู่ มาเป็นข้อมูลในการพิจารณาประกอบการเจริญวิปัสสนา
เพื่อให้เห็นทุกข์ เห็นโทษภัยของการเกิด เห็นความไม่อยู่ในอำนาจ ไม่เป็นไปตามใจปรารถนาของสิ่งต่างๆ
ก็จะเป็นประโยชน์แก่วิปัสสนาปัญญาได้เช่นกัน
- ผมคิดว่าเราไม่ควรจะให้ความสำคัญ
กับเรื่องความยากง่ายในการบรรลุธรรม ของแต่ละคนให้มากนัก แต่ทุกคนควรจะทำความเพียรให้เต็มที่มากกว่า
เพราะไม่ว่ากับคนประเภทไหน ถ้ามีความเพียรที่ถูกทางแล้ว ความเพียรนั้นย่อมจะไม่สูญเปล่าอย่างแน่นอน
ถึงแม้คนที่ไม่สามารถบรรลุมรรคผลได้ในชาตินี้ ก็จะเป็นเหตุปัจจัยให้บรรลุได้ง่ายขึ้นในชาติต่อๆ
ไป และยังส่งผลให้เป็นผู้มีปัญญามากขึ้นทั้งในชาติปัจจุบัน และชาติต่อๆ ไปอีกด้วย
และอย่างน้อยความปลอดโปร่ง ประณีต เบาสบายของจิต การมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น
หน้าตาที่ผ่องใส อันเป็นผลมาจากความเพียรนั้น ก็จะเป็นอานิสงส์ที่เห็นได้ในปัจจุบันอยู่แล้ว
แต่ถ้ามัวแต่ท้อถอย หรือมัวแต่ประมาทอยู่ ชาตินี้ก็ไม่ได้รับอานิสงส์จากความเพียรใดๆ
และชาติต่อๆ ไป ก็อาจจะแย่ลงไปกว่าชาตินี้ก็เป็นได้
ธัมมโชติ
5 พฤษภาคม 2545
ขอเชิญทุกๆ ท่าน ร่วมลงนามเยี่ยม
และวิจารณ์เว็บไซต์ของเราใน สมุดเยี่ยม ด้วยนะครับ