จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข การบาดเจ็บที่ศรีษะเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญที่สุดของผู้ป่วยบาดเจ็บอุบัติเหตุทุกประเภท
และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ความหมาย การบาดเจ็บที่ศรีษะ หมายถึง
การบาดเจ็บที่เกิดจากแรงที่เข้ามากระทบต่อศรีษะและร่างกาย
แล้วก่อให้เกิดการบาดเจ็บต่อหนังศรีษะ กะโหลกศรีษะ เส้นประสาทสมอง และสมอง
ระดับความรุนแรง ในทางการแพทย์นั้นได้แบ่งระดับความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะ โดยดูจากระดับความรู้สึกตัว และการตอบสนองทางระบบประสาท
ออกได้เป็น 3 ระดับ คือ การบาดเจ็บที่ศรีษะในระดับเล็กน้อย, ระดับปานกลาง และระดับรุนแรง
การบาดเจ็บที่ศรีษะในระดับเล็กน้อยนั้น
แพทย์จะใช้วิธีการสังเกตอาการประมาณ 24 ชั่วโมง
ซึ่งอาจเป็นการสังเกตอาการในโรงพยาบาลหรืออาจให้ญาติกลับไปสังเกตอาการของผู้ป่วยก็ได้
ถ้าอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลนัก
ส่วนการบาดเจ็บที่ศรีษะในระดับปานกลาง
และระดับรุนแรงนั้น
แพทย์มักรับตัวผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาลและส่งตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ สมอง (CT scan) เพื่อการวินิจฉัยที่แน่นอนว่ามีภาวะที่ต้องรักษาโดยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศรีษะหรือไม่ (เช่น เลือดออกใต้กะโหลกศรีษะ,เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง, เลือดออกในเนื้อสมอง)
ถ้าจำเป็นก็จะทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศรีษะ
ถ้าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดก็จะให้การรักษาทางยาต่อไป
การสังเกตอาการคืออะไร ? ในผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะในระดับเล็กน้อยแต่อาการทางสมอง, อาการชัก, กะโหลกศรีษะแตก, หมดสติตอนได้รับบาดเจ็บนานกว่า 10 นาที หรือผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัวเต็มที่
แพทย์ใช้วิธีสังเกตอาการในโรงพยาบาลประมาณ 24
ชั่วโมง ในระหว่าง 24 ชั่วโมงนี้จะมีการตรวจและประเมินอาการของผู้ป่วยเป็นระยะอย่างใกล้ชิด
เป็นการเฝ้าดูว่าเกิดภาวะที่เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยแล้วหรือไม่
เพื่อจะได้ตรวจและรักษาต่อไปได้อย่างทันท่วงที
ถ้าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นก็จะให้กลับบ้านได้ แต่ถ้าผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นภายใน 24
ชั่วโมง หรือมีอาการเลวลง แพทย์ก็จะตรวจและรักษาตามหลักเกณฑ์ทางการแพทย์ต่อไป
จำเป็นต้องส่งทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์หรือไม่ ? เอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)ของสมอง
จะเห็นภาพของเนื้อสมองได้ชัดเจนกว่าเอ็กซเรย์ธรรมดา(ซึ่งจะเห็นแต่เงาของกะโหลกศรีษะเท่านั้น) แต่เอ็กซเรย์นั้นมีราคาแพงกว่ามาก
ในบางครั้งญาติจะมารบเร้าให้แพทย์ส่งเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์โดยไม่จำเป็นและไม่มีข้อบ่งชี้ที่แน่นอน
นอกจากจะเสียเงินโดยไม่จำเป็น อาจแพ้สารทึบแสงที่ฉีดเข้าไปในเส้นเลือด
ระหว่างการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ได้
นอกจากนี้การทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ที่เร็วเกินไปอาจทำให้วินิจฉัยผิดพลาดได้
ดังนั้นจึงควรให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าสมควรส่งตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์หรือไม่ โดยทั่วๆไปมีหลักเกณฑ์ในการส่งตรวจคือผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศรีาะในระดับปานกลางและรุนแรง, ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะเล็กน้อย
แต่มีอาการทางสมองที่แย่ลงระหว่างการสังเกตอาการ, กะโหลกศรีษะแตกยุบ ทะลุกะโหลกศรีษะ
(เช่น ถูกยิง ถูกแทงเข้าสมอง)
การรักษา โดยทั่วๆไป
การรักษาแบ่งออกเป็น 2 วิธีใหญ่ๆได้แก่การรักษาโดยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศรีษะและการรักษาทางยา โดยไม่ผ่าตัด
โดยทั่วไปข้อบ่งชี้ในการผ่าตัดคือก้อนเลือดออกภายในกะโหลกศรีษะ และก้อนเลือดนั้นทำให้ผู้ป่วยมีอาการที่แย่ลง, กะโหลกศรีษะแตก ยุบ, กะโหลกศรีษะแตกแบบมีแผลเปิด, การบาดเจ็บที่ศรีษะแบบทะลุกะโหลกศรีษะ, ฯลฯ
นอกจากนี้ข้อบ่งชี้ด้งที่ได้กล่าวมาแล้ว
การตัดสินใจในการทำผ่าตัดยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ซึ่งแพทย์จะพูดคุยกับญาติเพื่อให้ญาติมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทำผ่าตัดด้วย
(จากหนังสือ สาระน่ารู้ทางศัลยกรรม 50ปี รพ.ภูมิพลดุลยเดช พ.ศ.2542)