ไส้ติ่งอักเสบ

น.พ.ชัยยา จันทร์ใส

อาการอย่างไรถึงจะเป็นไส้ติ่งอักเสบ?

ผู้ที่มีอาการปวดท้องโดยเริ่มแรกอาจจะปวดรอบๆ สะดือ ลักษณะ

ปวดตื้อๆ ต่อมาย้ายมาปวดมากขึ้นที่ท้องน้อยด้านขวา ให้นึกถึงโรคนี้ไว้

นะครับ นอกจากนี้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียนร่วมด้วย ซึ่ง

น่าบอกว่าเป็นอาการของโรคของระบบทางเดินอาหาร

เริ่มแรกผู้ป่วยจะไม่มีไข้ ต่อมาเมื่อมีอาการอักเสบ เป็นนานขึ้นก็

อาจจะมีไข้ขึ้นได้ ถ้าแพทย์ตรวจร่างกายก็จะพบมีอาการกดเจ็บที่หน้า

ท้องน้อยข้างขวาซึ่งเป็นอาการตรวจพบที่สำคัญ

ไส้ติ่งอักเสบเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

ไส้ติ่งในคนเราทั่วไปนั้นมีขนาดประมาณ 0.5 ซม.x5 ซม. ซึ่งขนาด

อาจจะแตกต่างกันไป เมื่อมีอะไรก็ตามมาอุดด้านในไส้ติ่งก็จะทำให้เกิดอัก

เสบขึ้นได้ ส่วนใหญ่จะเป็นก้อนอุจจาระที่แข็งก้อนเล็กๆ

ผู้ป่วยจะปฏิบัติตัวอย่างไร ถ้าหากพบว่าญาติของท่านหรือตัวท่าน

เองมีอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนทีเดียว

นักก็อย่าได้วางใจ ควรจะมาพบแพทย์ เพื่อการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง

และการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ทางการแพทย์รักษาไส้ติ่งอักเสบอย่างไร ?

ปัจจุบันทางการแพทย์ยังคงใช้วิธีการผ่าตัด ซึ่งกระทำโดยศัลย-

แพทย์โดยจะผ่าตัดเป็นแผลเล็ก ๆ ขนาดยาว 2-3 ซม. และตัดเอาไส้ติ่ง

ออกมา ซึ่งในกรณีที่ไส้ติ่งอักเสบธรรมดาก็จะกระทำได้โดยง่าย และนอน

อยู่โรงพยาบาล 2 - 3 วัน ก็สามารถกลับบ้านได้ แต่ถ้าหากไส้ติ่งอักเสบ

มากจนเน่า ( GANGRENE) หรือแตกก็อาจจะนอนโรงพยาบาลนานขึ้น

เพื่อให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นเลือดต่อไป

ถ้าไม่ผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบได้หรือไม่ ?

ถ้าหากผู้ป่วยเป็นไส้ติ่งอักเสบจริงไม่ใช่โรคอื่น ถ้าหากไม่ได้รับการ

รักษาด้วยวิธีการผ่าตัดก็อาจจะมีภาวะแทรกซ้อนของไส้ติ่งอักเสบได้ เช่น

เกิดเป็นฝีในท้อง ( ABSCESS ) ช่องท้องอักเสบ ( PERITONITIS) หรือ

การติดเชื้อในกระแสเลือด ( SEPSIS ) ได้ ซึ่งอัตราการตายจะสูงมากขึ้น

ถ้าปวดท้องน้อยด้านขวาแล้วเป็นโรคอื่นได้อีกหรือไม่ ?

อาการปวดท้องน้อยด้านขวา นอกจากจะเกิดจากไส้ติ่งอักเสบแล้วยัง

อาจเกิดจากโรคอื่นๆ ได้อีกเช่น นิ่วในท่อปัสสาวะ, การติดเชื้อในทางเดิน

ปัสสาวะ,โรคของผู้หญิง เช่น ซีสต์รังไข่แตก หรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก,

การติดเชื้อของอุ้งเชิงกราน ซึ่งจะเห็นว่ามีหลายโรคทีเดียว ดังนั้น ถ้ามี

อาการปวดท้องน้อยด้านขวาควรจะรีบมาพบแพทย์ เพื่อการรักษาที่ถูก

ต้องต่อไป

การผ่าตัดไส้ติ่งอักเสบมีโอกาสตายหรือไม่ ?

มีโอกาสได้น้อยมาก ประมาณ 0.0001%

(จากหนังสือ “สาระน่ารู้ทางศัลยกรรม” 50ปี รพ.ภูมิพลดุลยเดช พ.ศ.2542)